ทริปเก่า เก็บ ได้เวลาเปิดกุ มาเขียนรีวิว ทริปนี้ เป็นทริปชิว ย้ำว่าชิว 555 เพราะความที่ตามจ้องจองตั๋วโปร ของสายการบิน หางแดง ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยว ประเทศเวียดนาม ครับ ไม่ได้ไปกินหมานะ ไปเที่ยวจริงๆ ว่าด้วยราคาค่าตั๋วที่ได้ ไป-กลับ ลงโฮจิมินห์ City ราคาดี 2,xxx บาท แถมได้ช่วงเดินทางในเดินดีๆ คือมกราคม อากาศคงไม่ร้อนมาก ทริปนี้นักจ้องเที่ยวแบบผม วางโปรแกรมไป 5 วัน 4 คืนเที่ยว 3 เมืองเด็ด โฮจิมินห์-ดาลัด-มุยเน่ ที่ไป 3 เมืองนี้ ก็ไม่ได้เพราะอะไร ก็อ่านพันทิพย์นี้แหละ ว่าเขาไปกันก็อยากไปบ้าง 555 เหตุผลง่ายๆ ที่ไม่ต้องคิดไรกันมากครับ
....แต่ สำหรับนักจ้องเที่ยวแบบผม จะเหมือนคนอื่นๆ ไหมไว้มาดูกัน บอกเลยว่า รูปต้องปัง งานต้องดี แต่งบต้องเบา ตามคอนเซป เพราะทุกวันคือ Runway กินอยู่อย่างไพร่ ถ่ายรูปมาปังๆ แต่ราคาเป็นกันเอง 5555
ตารางการเดินทางของพวกเรา 5 วัน 4 คืน ค่ำไหน นอนนั้น
Day 1: Bkk - Saigon -Sleep Bus -Dalat
Day 2: DaLat - Dinh Bao Dai - Roller Coaster - Cable Car - Dalat Market - Tulip Hotel
Day 3: Dalat - Mui Ne - Brawn Sand - White Sand - Thao Ha Hotel
Day 4: Mui Ne - Saigon - Ben Thanh Market - Kim Khoi Hotel
Day 5: Saigon - Ho Chi Minh City - Bkk
ไปครับ เตรียมลาพักร้อน ไปเที่ยวกัน......................
สามารถไปดูรูปเพิ่มเติมและทริปอื่นๆได้ใน เพจ: นักจ้องเที่ยว(เพราะทุกวันคือRunWay)
⁃ Facebook : https://web.facebook.com/AreYouCrazyThailand/
⁃ Hashtag : #นักจ้องเที่ยว #เพราะทุกวันคือRunway #KamaKung
รีวิวนี้ เหมาะกับคนชอบเที่ยว ด้วยงบเบาๆ หามุมถ่ายรูปปัง หาสาระไรไม่ได้ 555 แล้วมาดูกันว่าทริปผมมันขนาดไหน ปล.ค่าเสียหายในทริปนี้ สรุปรวมแล้วประมาณ ....... เท่าไรนั้น ติดตามจนจบ นะครับ 5555
ก่อนเดินทางผมได้เมล์คุยกับทาง VeitSea สำหรับโปรแกรมการเดินทางที่อยากไปให้ทางนั้นช่วยดำเนินการเรื่อง รถ โรงแรม และ city ทัวร์ตามเมืองต่างให้เรา พร้อมกับส่ง Flight การเดินทางให้เขาดูเรื่องเวลาให้ครับ ไม่ได้อวยที่นี้นะ แต่ก็ประทับใจครับกับที่นี้ บริการดี ตอบเมลล์ไว ไปถึงดึก ก็รอเรา แถมมีคนมาส่งขึ้นรถ รอจนรถออกด้วย เป็นไงดีมะละ เดี๋ยวรายละเอียดเมลล์ที่ส่งไป Confirm กับทาง VeitSea มาดูตอนสรุปค่าใช้จ่ายนะ อิอิ
ทริปนี้เราไปกับ AirAsia และ Flight การเดินทางคือ
ขาไป
FD2798 : Bangkok (DMK)Don Mueang International Airport ( 7:35PM)
: Ho Chi Minh (SGN) Tan Son Nhat International Airport ( 9:05PM)
ขากลับ
FD2799 : Ho Chi Minh (SGN) Tan Son Nhat International Airport ( 9:35PM)
: Bangkok (DMK) Don Mueang International Airport ( 11:05PM)
ไปครับเตรียมหนังสือเดินทางต้องพร้อมแล้ว เงินในกระเป๋าก็ต้องพร้อมด้วย ว่าด้วยค่าเงินเวียดนาม สกุลเป็น ดงเวียดนาม (VND) ทริปนี่ผมแลกไปไม่มากครับเพราะค่าโรงแรมค่ารถ จ่ายไปหมดแล้ว ผมแลกเงิน VND ไว้ไปซื้อของ ทานอาหาร และก็ แลก US ไปอีกนิดหน่อย เผื่อว่าเงิน VND หมด 5555 แต่บอกเลย ไปประเทศนี้ รู้สึกโคตรรวยเลยย พกไปเกือบ ล้าน VND อิอิ
มาเริ่มต้นวันแรกของเรา Let go to Saigon ...
++++Day 1: Bkk - Saigon -Sleep Bus -Dalat++++
ไม่มีอะไรมากครับ เราออกเดินทางออกจากสนามบินดอนเมือง ทุ่มกว่าๆ ครับ และ ถึง สนามบิน Saigon ประมาณ สามทุ่มครับ
สนามบินสะอาด มีความเป็นภาษาเวียดนามในทุกป้ายบอกทาง
พอเราถึงเราก็รีบไปขึ้น Taxi เพื่อไปที่ Vietsea แต่ว่าด้วย Taxi อันนี้ไม่ได้คิดเองนะ เขาบอกว่า มาเวียดนามนี้ ต้องระวังเรื่องของการโกง ไม่ว่าจะร้านค้า ซื้อของ นี้ต้องถามราคา ต่อกันให้ถึงที่สุด และที่สำคัญก็คือ Taxi เราเลยหาข้อมูลว่า Taxi ของบริษัทไหนที่ไว้ใจได้
บริษัทแท็กซี่ที่พอจะเชื่อถือได้ที่เวียดนามจะมี 2 เจ้า คือ Vinasun กับ Mailinh ถ้าในโฮจิมินห์ Vinasun จะหาได้ง่ายที่สุด Vinasun รถจะขาวๆคาด แดง เขียว ครับ ไม่อยากให้อารมณ์เสียในการไปเที่ยว เพราะถ้าโดน Taxi พาอ้อมและโกงราคา นี้จะหมดสนุกไปอีก
แนะนำอีกอย่างคือ เรื่องบอกที่อยู่ ถามทาง ควรปริ้นข้อมูลเป็นภาษาเวียดนามติดไปด้วย เพราะ Taxi ที่นี้ก็ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ครับจะได้ไม่หลงทางกัน สำหรับผม ผมบอกไปว่า I want to go Pham Ngu Lao. แล้วก็ส่งที่อยู่นี้ให้ Taxi ไป 555
Add: 181 Pham Ngu Lao St, Dist.1, Ho Chi Minh city (ĐC: 181 đường Phạm Ngũ Lão, Quận 1, Tp. Hồ Chí Minh)
Tel: (+84) 8 3920 9393
แล้วก็นั่งลุ้นไป ว่าจะพาตรูหลง แล้วโกงมิเตอร์ตรูไหม 5555 ถามว่า ทริปนี้ผมโดนไกงไหม ผมจ่ายไปเกือบ 300 บาท เพราะเขาบอกว่าต้องเสียค่าเข้าสนามบิน 50,000 VND และถามขอติปอีกด้วย พอขับมาประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็ถึงครับ มีพนักงานที่เวียดซี รอตอนรับ 1 คนพร้อมให้ Voucher ต่างๆ ของห้องพัก และ ทริปในแต่ละวัน พอคุยเสร็จเราก็ฝากกระเป๋าไว้แล้วมาเดินเล่นถนนฟามงูลาว รอขึ้นรถบัส
ว่าด้วย Pham Ngu Lao ผมว่ามันก็คล้ายๆ ถนนข้าวสารบ้านเรานะ มีผับ บาร์ ร้านเยอะกาแฟ ร้านนวด บริษัทัวร์ โรงแรม เยอะไปหมด และก็เป็นจุดขึ้นรถโดยสาร เพื่อไปในเมืองต่างๆอีกด้วย
เราเดินเล่นกันได้สักพักพอได้เวลาก็ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วมารอขึ้นรถครับ อย่างที่บอกมีเจ้าหน้าที่ของเวียดซี มารอส่งถึงรถออกเลย รถบัสที่เราเลือกไปดาลัดรอบสุดท้ายประมาณ 23.00 ครับ เป็น Sleep Bus ที่นอนยาวหลับไปเลยเพราะเรา Plan ว่าเราจะนอนบนรถ แล้วไปถึงดาลัดเช้าพอดี ประหยัดค่าที่พักไป 1 คืน ไปครับนอนยาวไปเลยยยย
พอนั่งรถมาได้สักพัก ...ก็หลับสิ 5555 ดีนะว่านอนชั้นล่าง ไม่รู้สึกมันโคงเคง เหมือนรถจะขับนิ่มนะ แต่ความจริงคือมันช้าที่เวียดนามมีการกำหนดความเร็วครับรู้สึกว่าจะขับได้ไม่เกิน 60 กม./ชม. มั่งหลับกันต่อไป พอสักประมาณ ตี 2 กว่าๆ ก็ถึงจุดแวะพัก เขาจะให้เราแวะทานข้าว เข้าห้องน้ำ ประมาณ 30 นาที ได้ ครับ จะบอกว่าอากาศเริ่มเย็นละนะ สงสัยจะใกล้ถึงดาลัดแล้ว มโนไปอีก
จะบอกว่าลงไปก็ไม่ได้ทานไร จะบ้าไงวะ จะมากินไรตอนตี 3 ง่วงมากได้เวลาขึ้นรถแล้วนอนต่อพอหลับไปสักพัก ตื่นมาด้วยความหนาว
เฮ้ยยย พอดูหน้าต่าง เริ่มเห็นทิวสน กับภูเขา เย้ๆ ต้องถึงดาลัดแล้วแน่ๆ ถึงสะที
Good Morning Dalat..
++++Day 2: DaLat - Dinh Bao Dai - Roller Coaster - Cable Car - Dalat Market - Tulip Hotel++++
และแล้วรถบัส ก็จอด พอจอดเสร็จ ก็มีความวุ่นวายทันที เมื่อลงจากรถ
เพราะจะมี Taxi มาถามว่าไปไหน ราคาเท่านี้ไปไหม...อยากบอกทุกคนนะครับว่า ไม่ต้องไปขึ้น เพราะเราต้องหารถฟรีไปโรงแรมครับ ก่อนมาศึกษามาแล้วว่าเมืองนี้รัฐบาลเขาสนับสนุน ในเรื่องการท่องเที่ยว จะมีรถบัสไปส่งฟรีที่โรงแรม ไม่ได้โง่นะเฟ้ยยย ไม่ได้กินตรูหรอก ผมก็ยืนงงๆ โง่ๆ สักพักใครมาถามก็บอกไปว่า Tulip Hotel แล้วก็บอกว่า Free ?? แล้วเขาก็บอกมาขึ้นคันนี้จบ!! ขึ้นรถสิครับรออะไร นั่งรถชมเมืองยามเช้า
นั่งรถมาสักพักเราก็เห็นหอไอเฟล 555 สงสัยประเทศนี้จะเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส
สงสัยจะใกล้ถึงแล้ว เพราะจำได้ว่า โรงแรมเราอยู่ไม่ไกลจาก วงเวียนเมืองดาลัด
พอสักพักรถก็จอดหน้าโรงแรมครับ เราถึงโรงแรมประมาณ 6 โมงเช้านิดๆ
ไปครับเข้าโรงแรม กัน มี Welcome Drinks ด้วยชาอุ่นๆ
เราล้างหน้าล้างตาเก็บเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมเที่ยวต่อ เรายังไม่สามารถ Check in ได้นะครับ แต่ถ้าโรงแรมจะมีชั้นล่างให้เราอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ฝากของเพื่อออกไปเที่ยวก่อนได้ครับ
เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อย พร้อมออกเดินทาง แต่กองทัพ ต้องเดินด้วยท้อง เช้าแล้วก็หิว เรายังพอมีเวลาเพราะ One day trip ที่เราจองไว้สำหรับเที่ยวดาลัด จะมารับเราที่โรงแรมประมาณ 8.15 ครับ งั่นไปหาไรกินก่อนดีกว่า ว่าแต่ไปตรงไหนดีวะ 5555
มองไปตรงข้ามโรงแรม ย้ำนะครับตรงข้ามเลย เป็นร้านอาหารหน้าร้านดูดี คนเยอะพอสมควร งั่นร้านนี้แหละหิวแล้ววว มาดูเมนูกันว่ามีอะไรให้นักจ้องเที่ยวผู้หิวโหยทานบ้าง
มาถึงเวียดนามทั้งที มันต้องจัด เฟ้อ สินะ มาดูหน้าตา ออริจิกัน ผมก็จัดเฟ้อ มาพร้อม ปาโก๋ ยัก ว่าด้วยรสชาติ ผ่านมากๆ อร่อยมากนะ ไม่รู้ว่าเพราะหิวปล่าว ก็ไม่แน่ใจ แต่น้ำซุปหวาน ต้มกระดูกมาก 555
ทานเสร็จก็จ่ายตัง โอ้ยยยย มีความรวยอะไรเบลอ นั้นนนน... อิ่มนี้จ่ายไปขำๆ 65,000 VND วันนี้คงหมดหลายแสนแน่เลยตรู 555
พอทานอาหารเช้าเสร็จก็เดินเข้ามารอ ที่ Lobby โรงแรม รอไกด์ มารับ ช่วงระหว่างรอก็ศึกษาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองดาลัดว่ามีที่ไหนบ้างไว้ เป็นข้อมูลในการคุยกะไกด์
พอสักพัก 8.20 ก็มีคนมาเรียกชื่อแล้วก็ออกเดินทางครับ คนมารับเป็นไกด์สาวท้องถิ่น ชื่อ Yin ถ้าจำไม่ผิด พูดภาษาอังกฤษไฟแล่บมากกก
และสถานที่แรก ที่เราไปคือ พระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได๋ เป็นวังของจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งเวียดนาม ได้รับการออกแบบและปลูกสร้างอยู่ใต้ร่มเงาของทิวสนใหญ่ ทางเข้าร่มรื่นมากจริงๆครับ
วิวรอบๆ จากทางเข้า พระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได๋ แหล่มมะ
สักพักเราก็เดินมาถึงตัวของพระราชวังเบ๋าได๋ เออทรงไม่เหมือนวังเลยเนออ ...งั่นเรามาดูความเป็นมาของวังนี้บ้าง พระราชวังแห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 5 ปี โดยเริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2476 ซึ่งภายในตัวตึกมีห้องภาพของพระเจ้าเบ๋าได่ พระมเหสี พระโอรส ธิดา และมีห้องสำหรับทรงงานซึ่งมีโทรศัพท์วางอยู่สองเครื่องด้วยกัน อีกเครื่องคาดว่าน่าจะเป็นของเหวียนวันเทียว อดีตประธานาธิบดีของเวียดนามใต้ หลังจากปี พ.ศ.1975 พระเจ้าเบ๋าได่ เสด็จออกจากประเทศเวียดนาม ไปพำนักยังประเทศฝรั่งเศส พระราชวังแห่งนี้จึงกลายเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์
ไปครับได้เวลาเข้าไปชมด้านในของพระราชวัง แต่ก่อนเข้า เจ้าหน้าที่จะแจก ถุงใส่รองเท้านะครับ ไม่ต้องถอดนะ ใส่สวมไปเลย
ที่นี้รักษาความสะอาดมากๆนะครับ
มาดูด้านในกันบ้างนะครับ นี้คงเป็น รูปของจักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งเวียดนาม
ภายในก็จะมีในส่วนของเครื่องใช้ โต๊ะ เตียง สิ่งของที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ เหมือนแต่เก่าก่อน ผมว่าวังเจ้าบ้านเราอลังกว่ามากนะ
ในส่วนของห้องนอนเราสามารถเดินชมห้องต่างๆได้ แต่ไม่สามารถเขาไปจับต้องหรือนั่งได้นะครับ
หน้าจะเป็นโต๊ะทานข้าวนะ 555
อันนี้คงเป็นที่ว่าราชการ มโนเอง
มาถึงห้องนี้ น่าจะเป็นห้อง พีคสุดของที่นี้ เพราะเราสามารถเช่าชุด แต่งการอย่างจักรพรรดิ์ได้ในห้องนี้ครับ แต่สำหรับผม ขอแค่ Selfie พอละ
ข้างในวังพอละ ไปเดินเล่นถ่ายรูปวิวสวนนอกวังดีกว่า
อากาศก็ดี ไปเดินเล่นข้างนอกกัน มีม้าด้วย
มีรถโบราณให้นั่งท่องเที่ยวแต่นั่งถ่ายรูป แต่....ไม่ฟรีนะ555
สวนสวยๆข้างวัง
พักในส่วนของพระราชวังฤดูร้อนเบ๋าได๋ ไว้เท่านี้ ขอไปนอนต่อ เดี๋ยวจะพาเที่ยวเมืองดาลัดต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ ฝันดี
จุดต่อไป จะพาไปเที่ยวโบสถ์ไก่ครับ
โบสถ์คริสต์ (Dalat Cathedral) หรือโบสถ์ไก่
จุดเด่นมีไก่อยู่บนยอดสุด สร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศส เมื่อปี 1931-1942 ขณะนั้นฝรั่งเศสเริ่มเข้ามาบทบาทกับเวียดนามก่อนจะเป็นเมืองขึ้นเต็มรูปแบบ เป็นโบสถ์ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ใจกลางเมืองดาลัดเป็นศูนย์รวมของชาวคริสต์
พระเยซูคริสต์
กระจกสีสัน สไตล์ วาติกัน
ขอให้โลกสงบสุข 555
ขอเวลาสักพัก คืออยากนั่งพัก เดินเหนื่อย 555
ขอ Selfie ก่อน Bye Bye โบสถ์ไก่ เตรียมเดินทางกันต่อ
ได้เวลานั่ง Cable Car ชมเมืองดาลัดแล้ววว
วิวจากจุดรอขึ้นกระเช้าครับ
เดินขึ้นมารอขึ้นกระเช้าละ
ไปครับ ไปชมวิวดาลัด มุมสูงกัน
เริ่มออกเดินทาง
แอบเสียวเบาๆ 555 สูงเอาเรื่องอยู่นะครับ
จะเห็นดาลัด ที่เป็นเมืองในหุบเขาสวยงามมาก
ขอนั่งชมวิว ทำ MV แพ๊พพ
แต่ก็แพ๊พเดี๋ยวจริงๆครับ รีบขึ้นรีบถ่ายรูปนะ แพ๊พเดียวลงละ 55
พอลงกระเช้ามาก็จะมีร้านขายของ และ อาหารครับ
ลงจาก Cable Car เตรียมมุ่งหน้าไปเที่ยวกันต่อครับ
++++ วัดตั๊กลัม (Thien Vien Truc Lam) ++++
พอลงจาก Cable Car เราก็จะไปเที่ยววัดตั๊กลัม กันต่อครับ
วัดตั๊กลัม(Truc Lam) สร้างขึ้นโดยเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1993 และเสร็จในปี ค.ศ. 1994 ในการเดินทางมาเที่ยววัดนั้น ผมใช้วิธีนั่งรถกระเช้าไฟฟ้าจากด้านล่าง ราคา 50,000 ดอง หรืออาจขึ้นมาตามถนนที่คดเคี้ยวขึ้นเขาไปวัด หอระฆังของวัดนี้จะมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล หลังคากระเบื้องของเจดีย์ยังเป็นที่โดดเด่นตัดกันกับป่าสนที่ล้อมรอบ เป็นภาพสวยงามมาก
ทางเดินลงจากวัด มีทิวสนตลอดทางเลย Bye Bye วัดตั๊กลัม
++++ Dalat Waterfall Roller Coaster ++++
ถึงแล้วววววว Dalat Waterfall
• น้ำตกดาตันลา (Datanla Waterfall) อยู่ห่างจากตัวเมืองดาลัดไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกไม่ใหญ่มากแต่มีความสวยงดงามและมีหลายชั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมต่างๆ
ที่เกื้อหนุนและมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่างกันทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ไกด์เรากำลังอธิบายสถานที่แห่งนี้อยู่ครับ
เราสามารถนั่งรถราง(Roller Coaster)ลงไปชมตัวน้ำตก
ไปครับ ไปนั่ง Roller Coaster กัน
บอกเลย มันมากกกกกกกกกกกกก...
ฺฺBye Bye Dalat Waterfall
มาว่าด้วยการกินบ้าง กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พักกินข้าวเที่ยงกันแพ๊พพพ.
เปิดด้วยสลัดผัก
งานกุ้งก็มา
อันนี้ซุปอะไร สักอย่าง ไกด์บอกอันนี้อร่อยมาก แนะนำ แต่บอกเลยนะ ไม่ถูกปากผมเลย 555 แหลกไม่ได้
ค่าเสียหาย ในมื้อนี้ เลอไปอีก กินทีเป็นแสนๆ 5555
++++ ชมสวนดอกไม้เมืองดาลัด ++++
ไปครับไปเที่ยวกันต่อ เมืองนี้ อากาศดี ทำให้มี ดอกไม้เมืองหนาวให้ชมมากมาย ใครชอบสายถ่ายสวนดอกไม้ คงชอบ
นี้มันบานชื้นบ้านเรานิหน่าาา
สวนนี้ อารมณ์ สวนคู่รักมากก
ขนาดทางเดินยังเป็นหัวใจ 555
งาน Lock กุญแจ คู่รักก็มี
เดินเล่นชมสวนเรื่อยเปื่อย
สวนกว้างพอสมควรครับ อากาศดี วิวดีมาก
เดินลงมาด้านล่างเป็นทะเลสาบ มองแล้วสบายตา ดูชิวมากกกครับ
พักสวนดอกไม้ไว้เท่านี้ ไกด์ก็พาไป ที่แสดงดอกไม้เมืองหนาว และเป็นร้านขายของฝากครับ...
ร้านนี้เป็นร้านแสดงดอกไม้ พันธุ๋ไม้ต่างๆ
ตึกสีชมพู น่ารักดี
เหมาะมากกับคู่รัก ที่จะแต่งงาน
ดอกไม้ด้านหลังที่เห็น นี้ของจริงนะครับ สามารถซื้อกลับเป็นของฝากได้
พักที่เที่ยวเมืองดาลัดไว้เท่านี้ เดี๋ยวจะพาไปชิว ยาวค่ำคืนของเมืองดาลัด ว่าจะชิวขนาดไหน อิอิ
มาถึง จุด พีคของทริปดาลัด สำหรับผมนะ ผมตั้งใจมาเห็นบรรยากาศตลาดดาลัด เพราะก่อนมาผมหาข้อมูล อ่านรีวิวต่างๆ เฮ้ยยย ชิวอะ อยากมานั่งจิบเบีย ดูผู้คน กินลม ชมวิถีชีวิตว่าจะเป็นอย่างที่คิดไหม มาดูกัน
++++ Dalat Night Market ++++
เรากลับโรงแรมที่พัก อาบน้ำเปลี่ยนซื้อผ้า พร้อมออกมาเดินชิว รับลม รอตลาดยามค่ำคืน
นั่งกิน ปาโก๋ กาแฟดำ รอเวลา ชิวๆ
นั่งชิวสักพักก็เดินเล่น หาอะไรแปลกๆ ริมทาง ทานกันต่อ
สตรีเบอรอ เฮ้ยย สตอเบอรี่ น่าทานมาก แล้วบอกเลยว่าถูกมาก เห็นเป็นกองๆ นั้นกองละ 40 บาทเองงง
พอเดินเล่นสักพักก็ลืมมืด อาหาร รถเข็น เริ่มมากันละ เห็นแบบนี้ หมูหอใบพลู อร่อยมากก ไม้ละ 10 บาทเอง โอ้ยยฟิน
มาถึงอาหารในค่ำคืนนี้ของเรา สดๆ ทำกัน กลางตลาดเลยย
ยกทะเล กันมาเลยทีเดียว
ขอฟิน กับอาหารทะเล และอาหารเวียดนาม ในบรรยากาศเย็นๆ ของตลาดดาลัด ทำให้นักจ้องเที่ยวอย่างผม ฟินมากก
และขอปิดท้ายด้วย เบียร์เวียดนามชิวๆ สักป๋องงงง ฟินไปอีกกก เรานั่งเล่นสักพักก็ไปพักผ่อน พรุ่งนี้เตรียมไปตะลุยทะเลทรายกันต่อ
ขอลาเมืองดาลัดกับตลาดยามเช้าด้วยภาพนี้
Day 3: Dalat - Mui Ne - White Sand - Brawn Sand - Thao Ha Hotel
เราออกเดินทางแต่เช้าครับ รถมารับประมาณ 8.30 ได้ เห็นรถแบบนี้ บอกเลยว่าในรถนี้ แน่นมาก 555 ทั้งคนทั้งของ ผักสด กระสอบ กระเป๋า โอ้ยย นี้สินะ เสน่ของการเดินทาง 555 แต่ก็เป็นรถแอร์คับไม่ได้ลำบากอะไรมาก
เราเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงได้ เราถึงโรงแรมประมาณบ่ายโมงครึ่ง ครับ เราเขาพักที่ Thao Ha Hotel เริ่มถ่ายรูปไว้ แต่โรงแรมต้องเดินย้อนกลับมาจากท่ารถที่จอดประมาณ 500 เมตรนะครับ และ อย่างที่บอกการเดินทางในเวียดนามเขากำหนดเรื่องความเร็วนะครับ ยังไงเผื่อเวลากันดีๆ เราซื้อทริปไป เที่ยวทะเลทรายช่วงบ่ายครับ รถจะมารับเราบ่าย 2 ได้ สักพักรถก็มารับที่โรงแรม
นี้คือรถลุยทะเลทรายของเราในทริปนี้
จุดแรกที่เราไปคือ หมู่บ้านชาวประมงครับ เป็นอีกจุดที่ได้เห็นเรือประมงเต็มเลย ใครมามุยเน่ ก็จะมาถ่ายภาพที่จุดนี้
เรือหาปลาของชาวเวียดนาม แปลกดีนะ 555
ถ่ายรูปได้นิดหน่อยเพราะร้อนมากกกกก แล้วก็ไปกันต่อครับ จุดต่อไปคือ ทะเลทรายขาว ไปดูกันว่าจะสวยงามขนาดไหน
โหหหห เวียดนามมีทะเลทรายจริงๆด้วยได้เห็นกะตา
+++ Welcome to White Sand +++
และแล้วเราก็ได้มาจนได้ ฟินนนน
บอกเลยนะครับว่า ตอนนี้คือประมาณ บ่ายสามโมง ถามว่าร้อนไหม เฮ้ยยย มันไม่ร้อนนะ เพราะมันมีลมเย็น และแรงมากกกก พัดมาตลอดเวลาแต่เชื่อว่าใครอยู่นาน ก็คงจะดำเพราะแดดแรง แปลกดีนะ แดดแรงแต่ลมเย็น ฟินไปอีก
ไปเดินชมทะเลทรายกัน
จากที่ถ่ายหลายสิบรูป คัดแล้วรูปนี้ แจ่มสุด ไม่ได้ไปตะวันออกกลางจริงๆ นะ นี้เวียดนามจริงๆๆๆ
เราถ่ายรูปที่นี้สักพัก เราก็มุ่งหน้ากันต่อครับ จุดต่อไปคือ แกรนแคนยอน ไม่ได้ใหญ่มากสำหรับจุดที่ผมไปเลยถ่ายรูปมานิดหน่อยครับ
อีกสักรูป
และอีกที่สำหรับทริป มุยเน่ ก็คือทะเลทรายแดงครับ เรามาถึงทะเลทรายแดงประมาณ 4 โมงเย็นได้ เฮ้ยยย มันต่างกะอันแรกจริงๆด้วย เจ๋งอะ มีทั้งขาวและแดง
+++ Welcome to Brawn Sand +++
แดดเริ่มร่ม อากาศดีมากก จุดนี้คงพีคสุดเพราะจะได้เล่นกระดานและดูตะวันตกดินที่นี้
เดี๋ยวพอเดินมาจะมีเด็กๆ เวียดนามมาชวนเล่นกระดานกะทรายนะครับ บอกเลยว่าต่อไปเยอะๆ เหลือประมาณ 20 บาทก็ยังได้
และน้องๆจะมาสอนวิธีการเล่นครับ แต่ไม่ใช่ภาษาไทยนะ ภาษามือ และ ภาษาคน 5555
พออธิบายกันเสร็จ ก็จัดเลยยย พร้อมละนะ
ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
แนะนำว่าเอาผ้าไปปากจมูกไปจะดีมาก ทรายจะได้ไม่เข้าปาก เข้าจมูกและเล่นท่ายากได้เยอะ แต่สำหรับผม กินทรายไปอิ่มท้อง 5555
เราเล่นกะทราย สักพัก แบบพักใหญ่ บอกเลยเหนื่อยมากกกกกกกกกก พักอาทิตย์เริ่มตกดิน อ้าววได้เวลาถ่ายรูปสิครับรอไร
ตะวันลับฟ้า เหมือนตอนเย็นๆ เพลงมาทันที 555
ขอปิดทริปทะเลทรายในเมืองมุยเน่ ด้วยภาพนี้
+++ Dinner SeaFood +++
เที่ยวตะลอนทั้งวัน ได้เวลาจัดหนักแล้วววว อ่านๆมาเขาบอกเมืองนี้ Seafood ถูกและสดมากครับ เราสามารถเดินหาร้านได้ตามใจเงินในกระเป๋าเลยครับ มีร้านริมทะเล มากมายให้เลือกครับ สำหรับนักจ้องเที่ยวแบบผมทริปนี้ตั้งใจเลยนะว่าต้อง ล็อบสเตอร์ เท่านั้น
เขาว่าถูกและดี หาได้ที่มุยเน่ สำหรับล็อบสเตอร์ ผมเดินถามราคาทุกร้าน ว่าอะไรกิโล เท่าไร แต่ผมต้องมาหยุดที่ร้านนี้ ป๊าดดด กุ้งมังกรโลละ 400 บาท ถูกอะไรเบอนั้นนนนน อยากกินตัวไหนจับชั่งบอกราคาได้เลย อ้าวหิวแล้ว ราคานี้คิดอะไรมาก จัดสิรอไรร เอาตัวนี้แหละ
และสักพัก สิ่งที่เรารอก็มา โอ้ยยยยยย ฟินนนนน
มื้อนี้เราสั่งมา 4 อย่าง คือ ล็อบสเตอร์ย่างเนย
ต้มยำทะเล
ทะเลเผา
สลัดกุ้ง
เมื้อนี้ค่าเสียหายบอกเลยยครับ ระดับนักจ้องเที่ยวแบบผม สองแสนกว่า 5555 คือดูรวมมากสินะ สรุปหารกันเป็นเงินไทยก็ตกคนละ 600 ครับ
คือฟินนะ จ่ายค่านี้ได้กิน ล็อบสเตอร์ด้วย แต่แนะนำว่าถ้าทุกคนอยากฟินกว่านี้ ต้องพก น้ำจิ่มซีฟู๊ด บ้านเราติดมานะครับ ที่นี้ น้ำจิ้มไม่ได้เรื่องงง ก็เสพรสชาติความสดของอาหารเท่านั้นจริงๆ พอทานกันเสร็จ ก็กลับไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางเข้า กรุงโฮจิมินกันต่อ
Day 4: Mui Ne - Saigon - Ben Thanh Market - Kim Khoi Hotel
แป๊บๆ สามวันผ่านไป เฮ้ยยย ไวไปนะ เวลามาเที่ยวเนี้ยย ตื่นมาทานอาหารเช้าประมาณแปดโมง และเตรียมออกเดินทางเข้า กรุงโฮจิมิน หรือเมือง Saigon ที่หลายๆคนเรียก รอบนี้รถที่มารับเป็นรถบัสคันใหญ่ครับ รอขึ้นที่โรงแรมเลยเดี๋ยวมีคนมาเรียกแต่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะรีบมารถมาก็ขึ้นรถเลย บนรถก็มีฝรั่ง และนักท่องเที่ยวมากมาย อย่างที่บอกประเทศนี้เขากำหนดความเร็ว ขึ้นแล้วหลับได้ครับ นั่งไปอีก 4-5 ชั่วโมงได้กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เรานั่งรถไปถึง โฮจิมินห์ ประมาณ บ่ายสามโมงเย็นได้ครับ รถจะจอดแถว ฟามงูเหลาเลยยย พอลงรถก็เดินมาที่เวียดซีได้เลย สาวๆเวียดนามมารอตอนรับ 5555 เราแวะเอา Voucher ห้องพักสำหรับค่ำคืนนี้
จะบอกว่าที่พักก็ไม่ได้ไกลจากเวียดซีครับเดินไปนิดเดียว 555 เราพักที่ Kim Khoi Hotel ย่านฟามงูเหลานี้แหละ
ห้องพักของเราในโฮจิมินห์
ห้องไม่แย่นะครับกว้างอยู่ มีตู้เย็นด้วย
เก็บของกันเสร็จก็ไปเดินเล่นกันต่อ เวลายังมีที่พักเราเดินไม่ไกลตลาด เลยคิดว่ารีบไปตลาดซื้อของฝากก่อน จะได้แพคของให้เรียบร้อย
พรุ่งนี้จะได้เก็บที่เที่ยวในกรุงโฮจิมินห์แบบจัดเต็มไปเลยย เดินมาสักพักเราก็เห็นวงเวียน อารมณ์เหมือน อนุสาวรีย์ชัยบ้านเรา 555
อีกมุมจะเห็นตึกสูงใหม่ ก็คงเสมือนใบหยกบ้านเรา 555
เราเดินไปสักพัก ก็ถึง ตลาดบินถั่น (Ben Thanh Market) อารมณ์ก็คลายๆ จตุจักรบ้านเรา 555 แต่บอกเลยนะว่าตลาดนี้ หน้าจะชื่อตลาดเปรียนผันมากกว่า เพราะราคา นี้ต่อกันได้อย่าง ฟ้ากะดิน บอกว่า 100 ไม่ซื้ออาจเหลือ 20 ประมาณนี้ ต่อรองกันเยอะๆนะครับ
แผนที่สำหรับสาย Shop
คนเยอะพอสมควร ของขายก็หลากหลาย
สำหรับผมก็ดูแค่พวกของที่ระลึกนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้สาย shop เท่าไหร่
หาซื้อของไปกินเล่นสักพักเราก็กลับไปพักผ่อนที่โรงแรม
Day 5: Saigon - Ho Chi Minh City - Bkk
และแล้วก็ถึงวันที่ 5 วันสุดท้ายของทริปนี้ วันนี้เราตื่นสายหน่อยเพราะเหนื่อย 555 เก็บของกันเสร็จเราก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ เวียดซี และเดินเที่ยวรอบๆ กรุงโฮจิมินห์ ย้ำนะครับว่าเดินจริงๆ ไม่ได้ซื้อ city ทัวร์ใดๆ หรือ นั่ง Taxi เที่ยวใดๆ เพราะกลัวโดนโกง 555 สายงก
Good Morning HCMC ไปครับไปเดินเที่ยว โฮจิมินห์ city กัน
Saigon Center ก็ไป
จุดหลักของเมืองนี้ที่ไม่ควรพลาด อนุสรณ์สถานลุงโฮ นั้นเอง
ด้านหลัง อนุสรณ์ลุงโฮ คือ ศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Ci Minh City Hall)
มหาวิหารนอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral)
ภาพถ่ายนี้แหละคือของที่ระลึก สำหรับนักจ้องเที่ยวแบบผม
อาคารไปรษณีย์กลาง (Saigon Post Office) ติดกับมหาวิหารนอร์เธอดามเลย
ด้านในของโปรษณ์กลาง
ซักภาพ
ด้านข้างๆ ไปรษณ์ ก็มีกำแพง ถ่ายรูปได้เหมือนกันนะครับ
เราถ่ายรูปบริเวณนี้สักพัก เราก็เดินไปทางกันต่อ
เรามุ่งหน้าไป ทำเนียบอิสรภาพ (Independence Palace)
แต่เราไม่ได้เข้าไป รู้สึกว่ากลัวเวลาไม่พอ
ระหว่างทางเราเจอวัดแขกด้วย ไม่น่าเชื่อว่า ในเวียดนามจะมีคนนับถือศาสนาฮินดู อยู่
จุดต่อไปเราไปที่ พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum)
ภายใน พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ก็จะมีเรื่องราว มากมายว่ากว่าเวียดนามจะรวมชาติได้ ผ่านอะไรมาบ้าง
เดินดูแล้ว รู้สึกเห็นใจประเทศนี้จริงๆ
การจัดแสดงอาวุธที่ใช้ในสมัยสงครามที่มีทั้งปืน กระสุน ระเบิด เครื่องจองจำ เครื่องทรมาน เครื่องประหาร และคุกจำลอง
แต่ไฮไลท์ของที่นี่คือภาพถ่ายแสดงเรื่องราวของสภาวะสงครามในสมัยนั้น ซึ่งแต่ละภาพล้วนสื่อให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงครามรวมไปถึงสะท้อนให้เห็นความโศกเศร้าทรมานและความหดหู่ของผู้รับเคราะห์ได้อย่างถึงอารมณ์ มีหลายๆ
ภาพเป็นภาพในตำนานที่โด่งดังมีคนรู้จักไปทั่วโลก
รถถัง เครื่องบิน ที่อยู่ด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์สงคราม เราใช้เวลาอยู่ที่นี้พอสมควร เดินดูและศึกษาข้อมูลของประเทศเวียดนามกว่าจะรวมชาติได้ถึงวันนี้นับถือ ลุงโฮ จริงๆ
เราเดินออกมา แอบเห็นตึกเก่าๆ คล้ายๆ ตึกสมัยรัชกาลที่ 5 บ้านเรา แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เลยถ่ายแต่ด้านหน้ามาฝาก
เตรียมกลับไปที่เวียดซี เพื่อเอากระเป๋าเดินทางไปสนามบิน พร้อม Bye Bye HCMC แล้วไว้จะมาเที่ยวใหม่นะ เวียดนาม
ทริปนี้เป็นอีกทริปที่นักจ้องเที่ยวแบบผมประทับใจ 5 วัน 4 คืนในเวียดนาม ได้เรียนรู้ได้เห็นได้เข้าใจคนเวียดนามหลายๆอย่าง แต่ละเมืองมีเสน่ห์ และความหน้าสนใจที่แตกต่างกัน บอกเลยว่าทริปนี้ เที่ยวคุ้มค่ามาก ราคาก็ย่อมเยาว์ ผมว่าเที่ยวประเทศเวียดนามถูกกว่าเที่ยวทะเลใต้บ้านเราอีกนะ 555
....ว่ามาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ทุกคนรอ ว่าทริปนี้ 7,xxx จริงไหม เฮ้ยยย ถูกไปมะ 5 วันในต่างประเทศ มาดูกัน
ก่อนเดินทางผมได้เมลล์ไปทางเวียดซี พร้อมโอนเงินผ่าน Western Union ราคานี้ 2 คนนะครับ สามารถ copy ไปประกอบการเดินทางได้
Warmest greeting from VietSea Tourist!
We are pleased to give you some information, as below:
Day 1
At 23:00pm, Take the sleeping bus to Da Lat (12usd/person)
Day 2
At 8:30am, Visit Da Lat City 1 day (12usd/person)
Stay at Tulip Hot el - 25usd/DBL room, no breakfast
Day 3
At 7:30am, Take the bus to Mui Ne (9usd/person)
At 2:00pm, Visit Mui Ne 1/2 day (15usd/person)
Stay at Thao Ha Hotel (40usd/night/DBL, included breakfast)
Day 4
At 8:00am, Take the bus to Ho Chi Minh (6usd/person)
Stay in Ho Chi Minh City (25usd/night)
Total: 198usd/2persons
If you would like to make the reservation, please send to us the email confirm and transfer the money by Western Union for us.
ว่าด้วยราคาตั๋วเครื่องบินที่จองได้นะครับทริปนี้ บินไปกลับ airasia ราคา 2,200 บาท
ค่าใช้จ่ายค่าที่พักค่าเที่ยวทั้งทริป 7,009 บาท หาร 2 คน ตกคนละ 3,505 บาท
ค่ากินทุก ค่ารถTaxi ค่า Shopping ต่างๆ แลกเงิน VND ไป 2,000 บาท หมดไม่เหลือ 55555 เหลือกลับแต่ US
สรุป ทริปเวียดนามใต้ โฮจิมินห์-ดาลัด-มุยเน่ 5 วัน 4 คืนของนักจ้องเที่ยวแบบผม หมดไป 7,705 บาท เป็นไง ฟินไหมทุกคน...
ในส่วนรีวิวทริปเวียดนามใต้ โฮจิมินห์-ดาลัด-มุยเน่ 5 วัน 4 คืนของนักจ้องเที่ยว คงจบเพียงเท่านี้ครับ ผมหวังว่ารีวิวนี้จะทำให้ทุกคนได้แรงบันดาลใจออกไปเที่ยว พักผ่อน ถ่ายรูป จะชิก จะชิว จะจัดหนัก จัดเต็ม อะไรก็ว่ากันไปตามสไตล์และความสุขของแต่ละคน เพราะผมว่าการออกเดินทางไปไหนก็ได้เปิดมุมมองและเติมเต็มความสุขให้ตัวเองเองแล้วมาดูกันว่านักจ้องเที่ยวอย่างผมจะพาไปเที่ยว
ไปชิวกันที่ไหนอีก...เจอกันใหม่เพราะทุกวันคือ Runway ... Bye Bye อิอิ
ขอบคุณทุกการติดตาม ....
#นักจ้องเที่ยว #คมรด #เวียดนามใต้ #เพราะทุกวันคือRunway
ติดตาม ทริปต่างๆเพิ่มเติมได้ที่ เพจนี้นะครับ....
Cr: เพจตัวเองนิสส
https://web.facebook.com/AreYouCrazyThailand/
นักจ้องเที่ยว
วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.35 น.