บันทึกนักเดินทาง 16-18 กันยายน 2559
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ แจ๊คมาอีกแล้ว หลังจากเกริ่นไปในรีวิวกระบี่ว่าจะขึ้นเขาหลวง รีวิวมาแล้วค่ะ อะไรยังไง ตามมา เดี๋ยวเล่าให้ฟัง
บอกก่อนเลยว่าทริปนี้วิวได้ใจมากควรค่ากับการเดินจริงๆ หลังจากโพสรูปไป มีคนถามว่าสุโขทัยมีแบบนี้ด้วยเหรอ มีดิ่
หลายๆคนอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องไปลำบาก นอนอยู่บ้านสบายๆก็ดีอยู่แล้ว
นี่เป็นครั้งที่สองของการเดินป่า แจ๊คชอบนะ มันมีความมหัศจรรย์หลายๆอย่างให้เราพบเจอ
ธรรมชาติ ป่าเขา สัตว์ น้อยใหญ่ ที่สำคัญคือเพื่อนร่วมทาง ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดี
ความลับของธรรมชาติข้างบน มันคือสิ่งที่เราไม่มีทางได้พบเจอจากพื้นราบแน่นอน
เดี๋ยววววลืมๆๆๆ ต้องขายของก่อน ตามสเต็ป
ขายของแป๊ปปปป เรามีเพจนะคะ เพจเราชื่อ นักเดินทางตัวน้อย มีทั้งเดินทางคนเดียว ทริปเดินป่า
ยังไงก็ ฝากกดไลค์ ติดตามการเดินทางกันด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/journeymemories
โอเค สบายใจได้โฆษณาเพจ รีวิวต่อได้
แจ๊คจะให้ข้อมูลคร่าวๆ แบบสายย่อละกันนะ
****เขาหลวงสุโขทัย หรืออุทยานแห่งชาติรามคำแหง จ.สุโขทัย
เปิดให้เที่ยวตลอดปี หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติม ที่เบอร์นี้ค่ะ 087-3137897 และเบอร์ 081-6746131
ข้อมูลเบื้องต้นนะ ตรงที่ทำการ มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหาร (อร่อยมาก ไม่แพงด้วย) มีลูกหาบ มีเต๊นท์ เบาะรองนอน ถุงนอน ให้เช่า โดยติดต่อที่ด้านล่าง
และไปรับของที่ด้านบน และด้านบนมีห้องน้ำ อาบน้ำ มีร้านค้าขายพวกเครืองดื่ม มาม่า อาหารกระป๋อง
ราคาบวกเพิ่มตามความลำบากของการขนส่งค่ะ เช่น โค๊กกระป๋อง ราคา 35 บาท
ไม่มีอาหารตามสั่ง และมีปลั๊กไฟไว้บริการ AISสัญญาณโทรศัพท์มีเป็นพักๆ แต่อย่าคาดหวัง
ไม่มีก็ไม่ต้องใช้เนอะ ชมวิว ชมฟ้าป่า เขาสบายใจดีออกนะ
เส้นทางเดิน จากที่ทำการ อช. ระยะทาง 3.7 กิโลเมตร ดูเหมือนไกล้ๆ แต่ไม่ใช่กล้วยๆนะ เดินเองได้ ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
เส้นทางมีความชันไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆค่ะ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร
ตามทางเดินจะมีจุดเติมน้ำเรื่อยๆ ตอนพวกเราไประบบส่งน้ำมีปัญหานิดหน่อย น้ำจะมีให้เติม เหนือจุดชมวิวขึ้นไป
ที่นี่ไม่มีทากค่ะ มียุงเยอะ เตรียมยาไปให้พร้อมนะคะ ที่สำคัญอย่าลืมน้ำ เป็นพวกเกลือแร่ด้วยเพราะเราสียเหงื่อมาก
เมื่อไปถึงข้างบนจากลานกางเต๊นท์ เราต้องเดินต่อเพื่อไปจุดชมวิวจุดต่างๆอีก ทางเป็นวงกลม
มีป้ายบอกชัดเจนค่ะ เดินขึ้นไปก็เหนื่อยอยู่ค่ะ
ถ้าจะดูพระอาทิตย์ตกดินให้ไปที่เขาพระแม่ย่า ถ้าชมพระอาทิตย์ขึ้นก็ผานารายณ์
ทริปนี้ไม่ได้ไปคนเดียวนะ ไม่โดนเทด้วย 5555 คือพรานโก๋ หนีเราไปก่อน วันที่10-11แต่เราไม่ว่างไง เลยงอแงขึ้นสเตตัสในเฟชบุ๊ค
ว่าอยากไปเขาหลวง พอดีเลย คุณบอยเพื่อนในเฟชบุ๊ค 1 ในแอดมินเพจ เที่ยวสิวะ อยู่ทำห่าอะไร
เค้าจัดทริปชวนๆกันไปแบบหารเฉลี่ย 17-18 เฮ้ยยยยไปดิ่ เพจนี้เค้าจัดทริปกันเกือบจะทุกสัปดาห์ค่ะ
งบอยู่ประมาณ 1,000 บาท ทางคนจัดอยากให้ใส่เสื้อเพจเหมือนๆกัน เลยรวมค่าเสื้อในราคาทุนอยู่ในงบด้วย
รวมค่ารถตู้ ค่าเข้าอุทยาน ค่าเต๊นท์ ค่ากินดูแลตัวเอง เราไปกัน 11 คน
DAY 1 เมื่อเราออกเดินทาง
นัดขึ้นรถตู้วันศุกร์ที่ 16 เวลา 3 ทุ่มครึ่ง ที่BTS หมอชิต
เราไปแบบไม่รู้จักใครเลย ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน แต่ทุกคนน่ารักมาก คุยกันได้หมด เราไปแวะรับพี่น้ำตาลสมาชิกอีก1คน
ที่กำแพงเพชร แต่มีสมาชิกอีกคน คือแอม ล่วงหน้าไปก่อนไปรอที่อช.
เดี๋ยวแจ๊คจะมาเล่าให้ฟังว่าแอมเดินทางยังไง เดินทางแบบนี้ค่ะ
**แอมนั่งรถไฟจากชลบุรีไปลงหัวลำโพง>รถไฟหัวลำโพงลงพิษณุโลก>วินไปบขส.พิษณุโลก
>รถทัวร์ไปลงสุโขทัย 60.- >นั่งวินมอไซค์มาอุทยาน 250.- (จริงๆนั่งรถไปอ.คีรีมาศ >นั่งวินไปอช.ประมาณก็ได้ 150.-)
พวกเราไปถึงสุโขทัยเช้ามืดแวะซื้อเสบียงที่ตลาด เราไม่ได้ทำกับข้าวกินกัน เสบียงก็เลยเป็นข้าวเหนียว เก็บไว้ได้นาน
เสบียงพร้อมคนพร้อม ก็เดินทางต่อค่ะ
เราไปถึงอุทยานกันประมาณ 7 โมงเช้า เปลี่ยนเสื้อ ล้างหน้าแปรงฟัน เติมพลัง
น้องเสือแอบถ่าย ชอบอ่ะ
วันนี้ท้องฟ้าสวยค่ะ
รอที่ทำการเปิด เพื่อติดต่อเรื่องเต๊นท์ และอุปกรณ์การนอน ประทับตราอุทยาน พร้อมแล้วค่ะ
เราขำอะไรกัน
ถ่ายภาพร่วมกันก่อน ตอนนี้สภาพยังดีอยู่ 55555
เอาล่ะเราจะลุยกันแล้วนะ
พี่เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ และย้ำว่า
เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า
และเราจะไม่เก็บอะไรกลับไปนอกจากภาพถ่ายและความทรงจำ
เริ่มเดินกันเลยค่ะ บอกก่อนที่นี่ภูกระดึงเรียกพี่ ทางช่วงแรกก็ยังมีทางราบอยู่นะ ถึงร้อยเมตรรึป่าวก็ไม่รู้
เจอต้นไม้ใหญ่ ต้องขอทำเท่แอ็คท่าถ่ายภาพกันหน่อย
เดินกันต่อค่ะ ทางชันเริ่มขึ้นแล้ว
จะมีป้ายบอกระยะทางและมีแคร่ให้นั่งพักอยู่เป็นระยะๆ แรกๆสมาชิกก็ยังพร้อมหน้ากันอยู่
เดินๆไปสมาชิกเริ่ม เดินกันตามสภาพร่างกายละ กลุ่มแจ๊ครั้งท้ายเลย พักบ่อยมาก
จะมี บอย พี่น้ำตาล เดินด้วย เจอต้นกับแอมเป็นระยะ
เดินๆไปตะคริวกินเท้าค่ะ
เดี่ยวๆๆๆๆ ที่ตะคริวกิน คือแจ๊คค่ะ ที่นอนนั้นคือเหนื่อย ไม่ได้ตะคริวกินแต่อย่างใด
พอนวดเท้าจนไปได้ แต่ไปไม่ไกล เราแวะกันอีกรอบ พี่น้ำตาลเกิดอาการค่ะ แวะนวดเท้ากันอีกรอบ
แล้วเราก็เดินกันต่อ ต้นไม้จำนวนมากที่เราเดินผ่าน ส่วนใหญ่จะต้นใหญ่มากค่ะ ดูป่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ดีจัง
ทางก็ชันขึ้นเรื่อย อีกไกลมั้ยเนี่ย สู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกนี่เหนื่อยจัง
แต่เราเน้นพักบ่อยๆ แนะนำว่าอย่าพักนานเกิน ถ้าพักนาน ขาจะเริ่มไม่อยากเดิน
ผ่านจากจุดนี้ไปเราจะเจอจุดชมวิว ถึงจุดชมวิวแล้วหมายถึงเราเดินกันมา 1.6 กม.แล้ว
ขึ้นมาเหนื่อยๆ เจอวิวแบบนี้ก็หายเหนื่อยเลยดิ่
ตรงจุดนี้จริงๆเป็นจุดเติมน้ำด้วย แต่อย่างที่บอกไป
ระบบท่อส่งน้ำมีปัญหา น้ำเลยส่งมาไม่ถึงตรงนี้
พักกันจนหายเหนื่อย ก็ไปต่อค่ะ
ทางเหรอ ก็ชันอีกนั่นแหระ
จากจุดชมวิวมาจะมีท่อส่งน้ำค่ะ สมาชิกเราท่าทางจะร้อนมากนะ
กางเกงแจ๊คที่ขาด มันขาดอยู่แล้วนะ ทางชันอย่างเดียวค่ะไม่มีหนามเกี่ยว55555
ตอนขาลงเจอคนที่เดินสวนขึ้นแซวตลอด ว่าเดินจนกางเกงขาด
คิดถูกที่เอากระเป๋ากันน้ำไป ตอนเดินเราเจอฝนเบาๆเป็นช่วงๆค่ะ รูปนี้ จริงๆคืออวดพวงกุญแจ
ว๊าวววววเจอทางเรียบ แต่อย่าดีใจไป มันก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆแค่นั้นแหระ
เดินไปพักกินอาหารกลางวันกันที่ จุดน้ำดิบผามะหาดค่ะ จุดนี้ระยะทาง 2.3 กม. เดินกันหลายชั่วโมงเลย
เติมพลังกันแล้วก็ไปต่อค่ะ เราแวะเก็บภาพกันตลอดทาง มุมนู้น มุมนี้ ไปเรื่อยๆ
เรามาถึงจุดนี้ค่ะแล้วก็แวะถ่ายรูปกัน
บอยบอกว่าตรงนี้น่าจะเป็นไทรงามแต่ก็ไม่แน่ใจนะ แจ๊คก็ไม่รู้หรอก ไม่เคยดูรูป
แต่ก็ถ่ายรูปกันนะ อย่างเท่อ่ะ คือถ่ายรูปกันตรงนี้นานมาก สมาชิกล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
ตรงนี้คือต้นไผ่มันล้มค่ะ มีทางเดินนะ แต่แมร่งไม่เดิน เข้าในกอไผ่ ถ่ายรูปได้ฟิวความลำบาก555
เดินๆกันไป เราก็ไปทันสมาชิก พี่น้ำตาลตะโกนบอก ไทรงามอยู่ตรงนี้ 5555 พี๊คไปอีกจ้ะ
แล้วที่ถ่ายรูปกันอยู่นานมาก คืออะไร
นี่ไงไทรงามของจริง สวยมากๆค่ะ เมื่อมาถึงตรงนี้หมายความว่าเราได้เดินมา 3 กิโลเมตร โอ้วววววมันช่างยาวนาน
ไม่รอช้า แอ็คอาร์ตถ่ายภาพกันอีกพักใหญ่
มุมด้านข้างก็สวยเช่นกัน
ถ่ายรูปเสร็จก็รีบไปค่ะ ฝนมาอีกรอบ เก็บกล้องใส่กระเป๋า เลยไม่ได้ถ่ายภาพเส้นทางมาค่ะ ทางหลังจากนี้ก็มีแต่ทางชัน
แล้วก็ไปทันสมาชิกตรง 200 เมตรสุดท้าย กรี้สเลย เฮ้ยยยยยยจะถึงแล้วววววว โคตรดีใจ
เย้ๆๆๆๆๆๆพวกเราถึงแล้ววววววว ผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายของทริป ใช้เวลา 5 ชั่วโมงได้ค่ะ
วิ่งขึ้นไปที่ป้าย เหวี่ยงกระเป๋า ล้มตัวลงนอน โดยมิได้นัดหมาย สภาพ ตายสนิทค่ะ
ภาพนี้จากน้องเสือค่ะ
เพื่อนร่วมทริปคนอื่นๆขึ้นไปนั่งรออย่างสบายใจเป็นชั่วโมงละ 55555
โอเค เดี๋ยวเราจะพักให้หายเหนื่อยก่อน แล้วจะเดินไปต่อยังยอดเขาต่างๆ ที่แรกที่เราจะไปคือ ยอดเขาเจดีย์ เก็บของเข้าเต๊นท์ ล้างแขน ที่นอนลงไปเมื่อกี้ ลุกขึ้นมาแขนแจ๊คมีแต่หญ้าติด คันมาก55555
แล้วฝนก็ตกลงมาอีก นั่งรอเวลาฝนหยุด อยู่ในเต๊นท์ นายบอยร้อยแอ็ค ผู้ไม่เกรงกลัวฝน เดินมาหน้าเต๊นท์ มาทำอะไร
มากระโดด แอ็คท่าให้ถ่ายรูป จัดปายยยค่ะ
เฮ้ยยยยยเบาหน่อยนั่นร่มแจ๊ค เดี๋ยวพัง555
ฝนเริ่มเบาลง เราก็เริ่มเดิน ต้องถ่ายภาพกันก่อน
ภาพจากกล้องน้องเสือ ขอบคุณหนุ่มหล่อน่ารักคนนั้นที่มาถ่ายให้
แผนที่ของยอดเขา
เราจะเริ่มเดินจากทางเดินฝั่งห้องน้ำ
ตามต้นไปรับรองไม่หลง
ถึงแล้วค่ะ ไวเหมือนโกหก 555เสียเหงื่ออยู่เหมือนกัน
วิวตรงยอดเขาเจดีย์ ฟ้าสวยได้ใจ
เหมาะกับการไปแอ็คท่าเท่ๆถ่ายภาพ
ต่อจากนี้เราก็จะเดินไปรอพระอาทิตย์ตกดินที่เขาพระแม่ย่า ระหว่างทางก็แวะถ่ายภาพกันไป
สวยมาก เห็นเขาข้างหน้านั้นมั้ย นั่นแหระเดี๋ยวเราจะเดินไป ดูมันไกลนะเราต้องขึ้นไปจริงๆใช่มั้ย
ต้นขอเป็นคนเหงา
พี่เอขอเท่ๆสักช็อท
นัทสายย่อขอแอบหล่ออยู่หลังกล้อง
ไม่มีใครสู้คนนี้ได้ นายแบบของแจ๊ค
พี่บอยร้อยแอ็ค
เราพบว่าทริปนี้รูปคนเยอะมาก รูปเราเองด้วย รูปที่กล้องคนอื่นแอบถ่ายด้วย หวังว่าเพื่อนๆคงไม่เบื่อนะ
รูปสวย เพราะเดี๋ยวเราจะหันหลัง เน้นวิว 5555
หลังจากเก็บภาพจนหนำใจแล้ว สมาชิกก็ทยอยเดินไปที่ยอดเขาพระแม่ย่า
ทางเดินค่ะ
มีป้ายบอกทาง ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปยอดภูคา แต่เราตรงไปค่ะ ขอไปนั่งชิลรอพระอาทิตย์ตกดินที่เขาพระแม่ย่า
เดินเรื่อยๆ เหนื่อยเหมือนกันนะ
มองย้อนกลับไป อ้าว นั่นเขาที่เราอยู่เมื่อกี้
สมาชิกไปรออยู่บนยอดเขาละ แจ๊คกับพี่น้ำตาลพักอยู่ครึ่งเขา
หิวมาก พี่น้ำตาลพกข้าวเหนียวไปด้วย โอ้วววววววว แจ๊ครอดตายแล้ว ขอบคุณมากๆค่ะ
หลังจากอิ่มแล้วก็เดินกันต่อ
ขอบคุณ ภาพนี้จากฝ้าย เท่มาก ไม่เห็นหน้า อิอิ
ไปบนยอดเขา ช่วงเวลานี้ เป็นเวลา แดดร่มลมตก ไม่ร้อน ลมเย็น
สิ่งที่เราพบคือ วิวสวยมาก ใจจะละลาย กรี้สเลย
เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ เห็นวิวสวยๆแล้วร้องอร๊ายยยยยทุกที
แล้วถ้าย้อนกลับไปมองไปข้างล่าง ฝั่งเขาเจดีย์ ณ ขณะนี้ หมอกกำลังคลอเคลียยอดเขา
หืมมม บรรยากาศดี ชมวิวได้ 360 องศาเลย
แล้วเราก็เดินไปบนยอดสุงสุดเป็นจุดที่มีหินก้อนใหญ่ ให้นั่งเล่น
หรือจะนอนเล่น รอชมอาทิตย์อัสดงก็ฟินไปอีก
ขอบคุณ ภาพนี้จากฝ้าย
ลมเย็น แดดไม่ร้อน น่านอนมากค่ะ
มองไปทางไหนก็มีแต่วิวสวยๆ
แสงเริ่มเปลี่ยน
ย้ายไปถ่ายอีกฝั่ง
หมอกด้านล่างก็ยังก่อตัวอยุ่
วันนี้เราจะไม่ได้เห็นไข่แดง เราจะได้เห็นแสงที่ลอดผ่านกลุ่มเมฆ
แสงสวย ถ่ายคนกันบ้าง
ตอนนี้มีหลายกลุ่มค่ะ ไม่ได้มีแค่พวกเรา ภาพจากบอย
กลับไปถ่ายวิวต่อดีกว่า
อย่าเพิ่งเบื่อเรานะ เราจะไม่หันหน้ามา รับรองสวย เน้นวิวค่ะ
อันนี้ตั้งใจถ่าย ขอบคุณภาพจากน้องเสือ
อันนี้แอบถ่าย
CR.บอยร้อยแอ็ค
รูปนี้จากน้องเสือขอบคุณมาก โคตรชอบ
หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พวกเราก็เริ่มเดินกลับกันค่ะ แต่ไม่กี่วินาที หันไปเจอภาพนี้
โอ้ยยยยยยย วิ่งกลับไปเก็บภาพ รีบแทบจะสะดุดยอดหญ้าล้ม (เว่อไป๊ 555)
แล้วก็เริ่มมืดลง
แสงสวยยยยย อร๊ายยยยยยย
คนอื่นเดินไปละ แต่ๆๆๆๆ เราไม่ยอมไปง่ายๆ ขอดูดาวบนดิน(แสงไฟจากเมืองด้านล่าง) สวยมากๆ
และขอแอ็คท่าถ่ายภาพกันก่อน
เมื่อพี่บอยร้อยแอ็ค มาเจอกับแจ๊คร้อยท่า
เอาเส่ะ ถ่ายกันจนแสงหมด 55555
ได้เวลาอันสมควร กลับกันค่ะ พี่น้ำตาลล่วงหน้าไปรออยู่ ตอนเดินกลับ ทางลื่นมากค่ะ
แจ๊คนี่ลื่นตลอดทางขอบคุณบอยที่ช่วยพาเราเดิน
กลับมาสมทบกับสมาชิก เติมพลังกันด้วยมาม่า ข้าวเหนียว หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน อาบบน้ำค่ะ
คือจะบอกว่าน้ำเย็นเหมือนแช่ตู้เย็น แต่ไม่อาบก็ไม่ได้ ตัวเปียกเหงื่อมาทั้งวัน อาบแล้วสบายตัวมาก
คืนนี้ไม่เห็นดาวบนฟ้า แต่เอาดาวบนดินมาฝาก (ภาพง่อยมาก)
ขอจบวันแรกแบบดื้อๆละกัน ไปละค่ะ
DAY 2 ผานารายณ์ สวัสดีเช้านี้มีหมอก ขอบคุณรางวัลของคนตื่นเช้า
เช้านี้เรามีนัดกันที่ผานารายณ์ ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และแอบลุ้นหมอกด้วย
แจ๊คนี่ตื่นตี 4 ครึ่ง แบบไม่งอแง ไม่งัวเงีย แหม ตอนไปทำงานไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย
ล้างหน้าแปรงฟัน เรานัดกัน ตี 5 ยังมืดอยู่เลย สมาชิกพร้อมเราก็เริ่มเดินกัน
ทางลื่นเช่นเคยค่อยๆเดินกันไปค่ะ ไม่นานเราก็ถึง ผานารายณ์ ไปนั่งรอพระอาทิตย์กันอย่างสบายใจ
พวกเราไปกลุ่มแรกอีกแล้ว อร๊ายยยยยย มีหมอกด้วย มันเริ่มก่อตัวกลุ่มเล็กๆ อย่างน้อยก็ได้หมอกแหระนะวันนี้
หันมาๆหน่อย
ลงไปถ่ายข้างล่างกัน
หมอกเริ่มเยอะ
หมอกเริ่มฟุ่งเราไปถ่ายภาพกันบนก้อนหินนี้ค่ะ ตกลงมันคือน้องหมา หรือโลมา ก็ยังเถียงกันอยู่555
แล้วฝนก็เริ่มมาเบาๆ กลับกันค่ะ ประมาณ 6.40 น. โชคดีที่เราตื่นกันเช้า นี่ไงรางวัลของคนตื่นเช้า
ตื่นเช้าๆ ไปนั่งรอชิลๆ อิอิ
ฝนตกกลับเต๊นท์ค่ะ นายแบบคนเดิม มาละ
มื้อเช้า
ลานกางเต๊นท์
เก็บของเตรียมเดินทางกลับกันค่ะ เราลงกันประมาณ 8 โมงครึ่ง ขาลงเดินลำบากเหมือนกันนะ ฝนตก ทางลื่นมาก
เดินถอยหลังช่วยได้นะ
ถ่ายด้านบน ก่อนถึง จุดชมวิว มีหมอกด้วย
พอลงไปถึงจุดชมวิว หมอกเริ่มฟุ้งละ
พักตรงจุดชมวิว แล้วเดินต่อ เราเจอกับเด็กลุ่มนี้ ลูกหาบเด็ก วิ่งลงเขากัน เก่งมากลูก
เดินเรื่อยๆ นานเหมือนกันนะ แล้วเราก็ถึงที่ทำการอช. ตอนนั้น ถ้ามีสระน้ำ หรือน้ำตก
แจ๊คนี่จะกระโดดลงเลย เหนื่อยและร้อนมาก
อาบน้ำ สระผมเปลี่ยนชุด สบายตัวขึ้นเยอะเลย ในขณะที่รอสมาชิกที่ยังลงมาไม่ถึง
พวกเราไปฝากท้องไว้กับร้านอาหารในอช. เราพบว่ามันอร่อยมาก
อิ่มแล้วสบายใจ รอแค่สมาชิกพร้อมหน้าก็ออกเดินทางกลับ
จบแล้วค่ะ เรื่องเล่าจากเขาหลวงสุโขทัย
ไม่ต้องรอหยุดยาว เที่ยวแมร่งวันหยุดธรรมดานี่แหระ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทางสำหรับมิตรภาพ ทุกคนน่ารักมาก
และขอบคุณผู้จัดทริป พี่บอย นัท แอม ต้น 4 หนุ่ม
แอดมินเพจ เที่ยวสิวะอยู่ทำห่าอะไร
ไว้มีโอกาสขอไปลุยป่าด้วยกันอีกนะ
ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ต้องเดินทาง
นักเดินทางตัวน้อย
https://www.facebook.com/journeymemories
นักเดินทางตัวน้อย
วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 09.30 น.