คู่รักตะลอนทัวร์มาแล้วจ้าวันนี้จะพาลงใต้อีกแล้วเป็นการไปเที่ยวกระบี่รอบสองของเหลี่ยม ทริปนี้ได้รับการสนับสนุนที่พักสวยๆริมอ่าวนางจาก Krabi La Playa Resort และ The Small Resort หน้าฝนแบบนี้ดูสิจะเป็นยังไงแต่แน่นอนทริปนี้ไม่ได้มีแค่ทะเล กระบี่เขามีทีเด็ดหลายอย่าง เต็มอิ่มแน่นอนกับ3วัน2คืน รับรองว่าธรรมชาตินี่ไม่แน่นอนจริงๆแต่ทริปนี้ต้องบอกว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆยังไงเดี๋ยวไปดู รูปเยอะยาวมากจุใจ


ทริปนี้เดินทางวันที่ 27-29/8/ 2559

โปรแกรมทริปนี้

เดินทางกลางคืนมาถึงเช้า27ที่ จุดชมวิวเสม็ดนางชี-ท่าปอมคลองสองน้ำ -ที่พัก Krabi La Playa Resort

วันที่ 28 เที่ยวลานปูดำ-ดำน้ำทัวร์4เกาะ-พัก The Small Resort -กินข้าวร้านเรือนไม้-โรตีบางนรา ณ กระบี่

วันที่29 พิชิตบันได1237 ขั้น ขึ่้นไปดูทะเลหมอกวัดถ้ำเสื่อ-แวะสวนชุมพรบ้านพี่นัด-กทม.

พูดคุยกันได้ต่อที่ เหลี่ยมพาเที่ยว ครับ

ก่อนชมแวะดูคลิปก่อนได้จ้า รูปทั้งหมดถ่ายจาก Nikon D5300 18-140 และ Gopro hero4 silver ครับ


ออกเดินทางกันตั้งแต่ 3ทุ่มวันศุกร์ที่26 ไปเรื่อยๆรอบนนี้เน้นประหยัดขับไม่เกิน120 เพราะมา2คนไม่มีคนช่วยหาร 555 จุดหมายแรกของทริปนี้คือจุดชมวิวเสม็ดนางชีเดินทางมาไร้ฝน มาเจอฝนตอนจะเข้าพังงาช่วงตีสีจนถึงจุดหมายแต่ไม่แรงอะไรมาได้สบายๆ แล้วก็มาถึงราวตี 5.15 น่าเสียดายเพราะว่ามา 2 คนมันมืดไปหมดไม่เห็นมีใครเลย แฟนก็กลัว เลยไม่ได้เดินขึ้นไปจุดชมวิว อดถ่ายดาวเลยเห็นมีดาวเยอะอยู่ก็เลยถือโอกาศนอนสักงีบ ตื่นมาตอน6.00 เริ่มมีแสงสว่าง เลยเริ่มเดินขึ้นมาที่จุดชมวิว ทางเดินไม่ไกลประมาณ 300 เมตร เดินกันพอเหนื่อยก็ถึงแล้ว

ตอนรับกันด้วยแสงแรกสวยๆ

ฟ้าระเบิดดด

สวยงามมาก วันนี้ไม่มีใครมากางเต็นเลย แต่มีคนที่ขับเข้ามาตอนเช้าขึ้นมาแบบผมอยู่ 2 คัน


สว่างแล้วแต่ยังไม่เห็นพระอาทิตย์โผล่มาเลย

จริงๆที่นี้ก็มีแค่ไม่กี่มุมให้ถ่ายนะครับแต่กลางคืนน่าจะเหมาะแก่การล่าดาวเพราะเป็นที่โล่งกว้างมากๆๆ น่าถ่ายดาวจริงๆ

เต็มอิ่มครับเช้าแรกได้เห็นธรรมชาติสวยๆก็สดชื่นหหายง่วงแล้ว ลุยต่อหาอะไรกินในเมืองกัน ระหว่างทางมีหมอกเต็มไปหมดครับ น่าฝนมันสดชื่นแบบนี้แหละ


แวะไหว้หลวงพ่อทวด

ขับเข้าเมื่องมาเรื่อยๆรานอาหารเช้ามีไม่กี่ร้านครับเจอร้านนี้แถวๆ4แยกเลยจัดต้มเลือดหมู ปลาท่องโก๋จั๊กหน่อย แต่แปลกที่ร้านเขาเรียกว่าเกาเหลาแต่เท่าที่ผมดูมันเหมือนต้มเลือดหมูที่ กทม นะครับ อาจจะเป็นชื่อเรียกของที่นี้นะครับ


ออกจากร้านเดินทางต่อไปกระบี่สองขางทางเป็นภูเขาหินปูนแบบนี้เยอะแยะสวยๆทั้งนั้นครับ

มาถึงแล้วสวนปาล์ม แฮร่ไม่ได้จะมาเข้าสวนแต่มันอยู่ตรงที่จอดรถท่าปอมพอดี

จอดรถเสียค่าจอด20บาท แล้ว เดินมานิดเดียวก็ถึงทางเข้าแล้ว

เสียค่าเข้า คนละ 20 บาท

ด้านในเป็นสะพานไม้ทอดยาวคล้ายๆเส้นทางศึกษาธรรมาติตลอดสองข้างทาง ความยาว7-800 เมตร

ไม่แน่ใจว่าน้ำจะน้อยแบบนี้ตลอดหรือแค่ช่วงนี้ แต่ดูแล้วมีทางลงเหมือนน้ำจะมีแค่นนี้ตลอดเลย



น้ำใสมากก อากาศดีไม่ร้อนครับ ไปดูรอบๆกันเลยครับ




ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ รากไม้ที่อยู่เหนือน้ำครับ

ร่มรื่นสุดๆ




เป็นอะไรที่แปลกตามากๆครับกับรากไม้เหนือน้ำ ใช้เวลาไม่เกิน ชม ครับในนี้เดินกันเรื่อยๆ ถือเป็นอีกที่ที่ควรมาเลยครับถ้ามากระบี่



ออกมาเจอน้องหมาน่ารักๆ

เดินทางกันต่ออีกไม่กี่โลก็ถึงอ่าวนาวแล้วครับ วิวสวยสองข้างทางสลับกับสายฝนตกๆหยุดๆ

มาถึงอ่าวนางประมาณเที่ยงๆ ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินห้องเลยแวะหาไรกินแถวๆริมหาด ได้เป็นส้มตำไก่ย่างข้าวเหนียวร้านรถเข็น กินลมเย็นๆสบายๆครับ

รูปเรียงตามลำดับเวลาเลยครับแต่ไม่ต้องสงสัยเอาเสื้อมาเยอะเปลี่ยนไปมาทั้งวัน 555

วันนี้ฟ้าใสคลื่นลมแรง

ไม่นานนักก็ได้เวลาเราก็เดินทางมาถึงที่พักของเราคืนนี้นั้นก็คือ Krabi La Playa Resort

ที่นี้ตั้งอยู่ในถนนคลองแห้งติดกับถนนใหญ่อ่าวนางเลยครับ เดินไม่ถึง5 นาทีก็ถึงทะเลแล้วใกล้แหล่งสดวกซื้อต่างๆสดวกสบายมาก


ก่อนเข้าห้องเดี๋ยวพาไปดูรอบๆก่อน

ที่นี้สถานที่กว้างใหญ่ครับมีสระว่ายน้ำ2ฝั่งด้วย

มีบาร์ด้วยครับ



โซนสปาก็มีนะครับ

ด้านนี้จะเป็นร้านอาหาร เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะมากินมื้อเย็นนี้ที่นี้ครับ

เขาห้องคืนนี้กัน ห้องใหญ่กว้างสอาดและใหม่มากด้วยครับ


ห้องอาบน้ำก็มีแบ่งโซนแห้งโซนเปียกอุปกรณ์ครบครันครับ

เดินออกมามีระเบียงเห็นสระว่ายน้ำอีกฝั่งสีเขียวเฮลบลูบอยเลย ไปเล่นน้ำกันเถอะ

สระตรงนี้จะเล็กครับแต่คนจะไม่เยอะเพราะคนจะไปเล่นฝั่งสระใหญ่เยอะ

ได้ใช้ห่วงยางเสียทีทริปก่อนซื้อไปที่น้ำตกไม่ได้ใช้เลย555


หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็สลบสิครับพึ่งได้นอนมาเมื่อตี5แปบเดียว งีบไปจน6โมงได้เลยเดินมาดูพระอาทิตย์ตกที่อ่าวนางซะหน่อย 5 นาทีก็ถึงแล้ว

วันนี้คลื่นลมแรงมาก มีเรือล่มด้วยตอนจะเข้าฝั่งแต่ไม่ได้ร้ายแรงไม่มีใครเป็นอะไร รอลุ้นกันว่าพรุ่งนี้จะได้ออกเกาะไหม

เดินกลับมามีไฟทางเข้าสวยขอควงไฟเล่นหน่อยสงสัยไฟฉายเล็กไปวงไม่ชัดเจน

ดูแสงไฟตอนค่ำคืนมั้ง



มื้อเย็นวันนี้เราฝากท้องที่ รีสอร์ทนี้แหละ

กับข้าวเป็นสามอย่าง แกงเขียวหวานไก่ ต้มยำทะเล ผัดเปรี้ยวหวาน รสชาติดีเลยครับอร่อย กลมกล่อม


จบคืนแรกนอนหลับอย่างสบาย เตียงนุ่มมากมาย พรุ่งนี้เตรียมตื่นแต่ตี5เหมือนเดิมไปขึ้นวัดถ้ำเสือ


เช้ามาแหกขี้ตาตื่นตี5 รีบบึ่งไปวัดถ้ำเสือจากอ่าวนางประมาณ 20 กว่าโล ไม่เกิน30 นาทีก็มาถึง ตอนแรกจะขึ้นวันนี้แหละ ฟ้าใสไร้ฝนอากาศสบายๆตอนแรกไม่ได้ศึกษามาเยอะ ถามป้าๆว่าเดินใช่เวลาเท่าไหร่ป้าบอกขึ้น 1237 ขั้น ประมาณ2-3 ชม. หึ้ยย จะบ้าน่านานขนาดนั้นเลยรึ พอเดินไปอีกหน่อยเจอแม่ชีแม่ชีบอก ครึ่ง ชม. ก็ถึง ทำไมเวลามันห่างกันจัง ก็เลยตัดสินใจว่าเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ดีกว่ามีเวลา วันนี้เดี๋ยวจะไปออกทริปไม่ทัน ไม่มั่นใจร่างกายตัวเองว่าจะฟิตแค่ไหน 555 แต่บอกว่าเลย โชคดีมากที่ไม่ได้ขึ้นวันนี้เพราะวันนี้ไม่มีทะเลหมอกแน่นอนฟ้าใส แต่พรุ่งนี้สิ เดี๋ยวเล่าไปตามเหตุการณ์ละกัน จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร

เลยเปลี่ยนจุดหมายเข้านี้มาเดินเล่นถ่ายรูปที่ลานปูดำครับ ริมน้ำบรรยากาศดีๆ

บรรยากาศดีมากครับ

ปูดำใหญ่ยักษ์

มีพี่ๆหรือลุงๆป้าๆมาออกกำลังกายกัน ดูคล้ายๆรำไทเก็กหรือป่าวไม่แน่ใจ

รำบ้าง

แดดมาแล้ว

นี่คือนกออก พึ่งรู้นะครับว่าหน้าตาเป็นแบบนี้ ในประวัติตัวเล็กๆๆ เขาบอกว่าที่สร้างนกออกนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงถึงวิสัยทัศน์ของความรอบรู้ กว้างไกล มีความพอเพียง ไม่รังแกผู้อื่นและรับผิดชอบตนเอง นั้นละฮะท่านผู้ชม

กลับมาที่พัก 7โมงกว่าๆ กินอาหารเช้ากัน มีให้ทานหลายอย่างเลย

อาหารที่นี้จะค่อนข้างหนักไปทางของชาวต่างชาติมากกว่าคนไทยนะครับ แต่ก็นั้นละครับมีชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะครับคนไทยไม่ค่อยมี

แต่ก็รสชาติอร่อยครับโอเคเลย

หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จยังมีเวลาดูการ์ตูนช่องเก้ากันได้ก่อนไปดำน้ำวันนี้ฟ้าใสแดดแรงอย่างที่บอกครับ

ประมาณ 9 โมงนิดๆ ก็มีรถตู้มารับเราครับแล้วก็ไปรวมกับที่จัดทัวร์รอบนี้ได้ไปกับทัวร์ของบาราคูดัสอีกแล้ว

หลังจากจุดรวมพลก็รับสติ้กเกาะโปรแกรมทัวร์แต่ละสีแล้วนั้งรถ6ล้อ อีกรอบไปลงที่หาดนพรัตน์ ธาราพื่อขึ้นเรือที่นั้นครับ

เป็นเรือไม้ลำขนาดกลาง ผูโดยสารประมาณ 70 กว่าคน ถ้าให้นับคนไทยนี่ก็ไม่เกิน10 คนครับ มาหมด จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง แขก

ทัวร์ของเราวันนี้คือทัวร์ 4 เกาะทะเลแหวก เกาะไก่ เกาะปอดะ และถ้ำพระนางครับ

จุดแรกที่เราแวะคือถ้ำพระนาง ตอนแรกคิดว่าหน้าฝนคนจะน้อย แต่ไม่น้อยเลย ชาวต่างชาติมาเพียบคงเพราะหน้านี้ราคาจะถูกกว่าช่วงไฮซีซั่น

เขาตั้งตระหง่ากลางน้ำเลย

แน่นอนต้องทำตามเขาบางดันๆๆ แต่แหมทำไม่เป็น ดูๆแล้วจะออกแนวเซิ้งกระติ๊บข้าวเหนียวมากกว่า

หันขวาหน่อยย

กลับมาอ้าา มีความสุขจัง

ฟ้าสวยสดงดงามมาก


มีผ้ามีอะไรก็เอาออกมาโยนโบกสะบัดเป้นพร้อบถ่ายรูปได้

ใครหิวน้ำหิวท่าที่นี้ก้มี เซเว่นอีเลเว่นโบ็ท ถึงที่ เลือกสรรหาเอาได้ตามกำลังทรัพย์เลยจ้า

เดินมาไหว้ศาลถ้ำพระนางได้ครับ


ใครมีเวลาอยากจะลองปีนหน้าผาก็ไม่เลวแต่ถ้ามากับทัวร์วันเดย์ทริปไม่ได้ปีนแน่ๆ

บอกลาถ้ำพระนาง ไปกันต่อ


มาถึงจุดที่ 2 เกาะไก่ ที่นี้จะให้ถ่ายรูปแล้วดำน้ำรอบเกาะไก่


ฟ้ายังสวยและสดใส


แล้วก็ลงปดำน้ำกัน ปลาไม่เยอะมากครับใต้น้ำไม่ค่อยสวยเท่าไหร่จุดนี้

หลังจากดำได้ไม่ถึง 10 นาที เฮ้ยฟางนั้นมันอะไรวะ

เมฆฝนมาแล้วจ้าดำทะมึนมาแต่ไกล อะไรฟร่ะเมื่อกี้ยังฟ้าใสแดดแรงอยู่เลย แปบเดียวเท่านั้นเมฆฝนที่เคลื่นที่ด้วยความเร็วสูงก็เคลื่อนตัวมาอยู่บนหัวเราแล้ว

โหดร้ายยจริงๆทำไม่ถึงหยิง ผยองง เจอหน้าน้องไม่พูดจาา (เพลงเก่าไปหน่อยหลายคนคงรู้จัก อิอิ) มาแบบเงียบๆไม่มีอะไรบอกเลยนะฝนจ๋า อยู่ดีๆก็ตก แรงเสียด้วย แต่ก็ยังดีมีคนฝนไม่มีลมหรือฟ้าผ่า

สายไฟเป็นเม็ดๆ มามืดเลยวุ้ยย

ไปต่อๆลุยฝนไปเลยลูกพี่

ไม่ถึง5นาทีก็มาถึงทะเลแหวก ไปดูทั้งๆฝนตกมันนี้แหละ

ลมแรงมากๆตอนนี้ น่าเสียดายตอนนี้แหวกแค่เกาะเดียวปกติมันจะแหวก3ทางเลยที่เห็น ไรๆ ซ้ายขวาด้านหลังนั้นแหละ แต่ตอนนี้น้ำมันขึ้นครับเลยไม่แหวก

มีป้ายเตือนครับอันตรายน้ำขึ้นห้ามเดินข้าม

ยกกล้องใหญ่มาได้2-3รูป ไม่ไหวฝนเม็ดใหญ่ ไปดีกว่า

ฝนก็ไม่ลดละจัดเต็มต่อไป

นั่งเรือต่อมาจุดสุดท้ายนั้นก็คือเกาะปอดะ ฝนเริ่มเบาลงแวะกินข้าวกลางวันตรงนี้

ใหญ่โตมโหราฬมาก


มีมุมเดียวเลยครับที่นี้กินข้าวนั้งเล่นจนถึงบ่าย14.45 ก็ขึ้นเรือกลับครับ

หลังจากขึ้นฝั่งระหว่างนั้งรถ 6 ล้อกลับที่พัก เราก็ต้องรู้สึกงงงวยอีกครั้ง เพราะในรถมีแต่ชาวต่างชาติหลังจากเขาดำน้ำแล้วเขามีการแลกเปลี่ยนคุยกันสนุกสนานว่ามาจากที่ไหนทำอะไรเฮฮามากๆ เราคนไทยดูเหมือนเรามาเที่ยวต่างประเทศเลย เขาคุยกันจ้อเลย ปล่อยให้คนไทยตาดำๆอย่างเรานั่งนิ่งๆไป 5555

กลับมาที่พักคืนนี้เปลี่ยนที่นอนเรามานอนที่ The Small Resort เป็นเครือเดี่ยวกับกระบี่ลา พลาญา อยู่ติดกันเลยครับแต่ที่นี้จะเล็กกว่าพื้นที่น้อยเข้าไปก็จะเป็นห้องพักเลย



ถึงที่พักจะดูเล็กๆแต่ห้องไม่เล็กนะครับ สวยงามใหญ่โต


อุ้ย ใครในกระจกวะ ตกใจตัวเอง

มาดูห้องน้ำบ้างไม่ใหญ่แต่มีอ่างให้แช่ดูทีวีได้ด้วย

ฟักบัวสวยงาม


ที่สำคัญรูดประตูแล้วกลิ้งลงสระหน้าห้องได้เลย

สระไม่ใหญ่ดีไซด์ตามรูปแบบพื้นที่ครับ ที่จริงมีสระที่ชั้นดาดฟ้าด้วยแต่ตอนที่ไปกำลังปรับปรุงอยู่ครับ

มีที่นั้งจิบได้ ฝนก็ยังตกไม่หยุดนะครับตอนนี้

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเย็นนี้จะไปกินมื้อเย็นที่ร้านเรือนไม้ครับ ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่อยู่กลางๆเดินทางแปบเดียวก็ถึง


ไฟทางเดินสดใสสวยงาม

ร้านไม่ใหญ่มากครับ ตกแต่งสวยงามเป็นสไตล์กระท่อมใหญ่ๆ

สั่งมาสามสี่อย่างครับ


มื้อนี้มีพี่ในกลุ่มวีออสที่กระบี่อยู่ที่นี้พอดีเลยขับรถมาหาทักทายกันครับ

ห้องน้ำที่นี้ก็เฟี้ยวฟ้าว มื้อนี้หมดไป 1050 บาท อาหาร 4 อย่าง มีปลาอีนทรีอีกอย่างไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ถือว่าไม่แพงเลยครับกับรสชาติและปริมาณกำลังดีเลย ของคาวแล้วต้องตบด้วยของหวาน


พี่เขาเลยแนะนำพามาเลยร้านนี้โรตีบางนรา ณ กระบี่ รสชาติดีครับ ใครผ่านมาลองดู

จบครบของคาวของหวาน กลับห้องนอนได้

กลับถึงที่พักให้ดูสียามมืดสักหน่อย ผมจอดรถที่กระบี่ลา พลาญา ครับเดินมาได้ใกล้กัน รอบนี้คอควงไฟอีกสักรอบ




นอนหลับฝันดีคืนนี้ เลขสวยย

ตื่นแต่เช้าแต่รอบนี้สายหน่อยใหมีแสงบ้างกลัวจะเดินลำบาก ตื่นมาฝนยังตกอยู่จ้า เอาวะคิดในใจตกๆแบบนี้แหละหยุดเมื่อไหร่ต้องมีหมอกแน่ๆ แล้วฝนก็ตกจนมาถึงวัดถ้ำเสือ เลยซื้อเสื้อกันฝน คนละตัวใส่เลย เริ่มสตาทตอน6.45 กับบันได 1237 ขั้นเปนไงไปดู

200 ขั้นแรก สบายมากชิว ทางเป็นไดตลอดเดินง่าย ง่ายเกินไปเลยทำให้เราไม่อยากหยุดจั้มๆๆเอาๆๆ พอเลย200ขั้น เริ่มปวดตุ๊บๆที่หน้าขาเอาแล้วว

วิวระหว่างทาง พอฝนหยุดเบาๆก็ถอดเสื้อมันร้อนเหงือร่างกายเผาพลาญอย่างเต็มที่555

หลังจากนั้นก็พักกันเรื่อยๆ ที่นี้ดีมากมีเลขขั้นบันไดติดไว้เรื่อยๆทำให้มีกำลังใจผมจะใช้สูตรเดินจนหมดแรงแล้วฝืนอีกหน่อย แล้วค่อยพักทีนึง ประมาณ 50-60 ขั้นพักทีหยุดบ่อยๆไม่ไหวจะยิ่งล้า


เฮ้ยน้องเดินไวๆหน่อยพี่ลิ้นห้อยแล้วเนี้ยยย

ถึงขั้น 1000 ค่อยยังชั่วยิ้มได้ อีกแค่200 กว่าขั้นเอง

แล้วในที่สุดเราก็มาถึง กับรางวัลที่รอเราอยู่ หมอกๆๆๆ สรุปผมใช้เวลาไป 50 นาที โอ้ว ถือว่าทำเวลาได้ดีร่างกายใช้ได้เลยนะครับ อิอิ แอบอวยตัวเอง

พอขึ้นมาถึง ว่าจะกินช็อคโกแลตแก้เหนื่อยที่ซื้อมา แต่ก็โดนลิงดื้อมาขโมยไปมันเข้ามาดึงถุงไปเลย เราก็ไม่กล้าเห็นมันมีพวกเยอะ 555

ขึ้นมาได้แปบเดียวฝนตกอีกแล้วเลยต้องใส่เสื้อ เดี๋ยวไปดูรอบๆจากโกโปรก่อน

หลังจากลงไปที่ใต้ฐานด้านล่างก็จะพบ ฟรี Wi-fi บนวัดถ้ำเสือนี่เลยขอบอกวาแรงมากก ให้คุณได้อัพภาพระหว่างรอฝนหยุดก่อนได้สบายๆ


ไม่นานนักฝนก็สงบลงแล้วความงามก็เกิดขึ้นไปดูเลย

ทะเลหมอกเช้านี้เป็นของเรา 2 คน กับบรรดาลิงทั้งหลายเพราะไม่มีใครขึ้นมาเลย


ไม่ต้องเป็นทะหมอกจัดเต็มแบบนี้แหละก็สวยแซมๆตามเขาชอบมาก

หมอกพัดไปพัดมาเดี่ยวเปิดเดี่ยวปิด

ไม่รู้จะพิมพ์อะไรให้รูปบรรยายเอาละกัน







อิ่มหนำสำราญใจกับทะเลหมอกแล้ว เวลา9โมงนิดต้องรีบลงเพราะอาหารเช้ามีแค่ 10.00 ขาลงนี่มันส์มาก ใช้เวลาไป 17 นาที

ขาลงนี่พริ้วเลยนะไม่มีรอ

เอาบรรยากาศขาลงมาให้ดูลิงเยอะมากน่ากลัว จริงๆลิงข้างล่างนิสัยดีแต่เราเห็นความเถื่อนของลิงข้างบนเลยกลัวว่าข้างล่างมันจะทำ เลยผวามากไปหน่อย 555


กลับมาถึงที่พักเวลาพอดิบพอดี 9.55

อาหารมีหลายอย่างพอสมควรครับ



จัดเต็มเติมพลังให้เต็มที่เพราะต้องยิงยาวกลับ กทม ยาวๆๆ

ยังไงก็ฝากที่พักริมอ่าวนางไว้เป็นตัวเลือกทั้ง 2 นี้นะครับรับรองไม่ผิดหวังคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนจ้าและพิเศษช่วงนี้มีโปรโมชั่นที่พักทั้งสองที่มาฝากครับ

ใครสดวกช่วงไหนเช็ควันแล้วจองกันได้เลยครับ อย่าลืมบอกว่ามาจากเหลี่ยมพาเที่ยวนะครับ ที่โรงแรมเขาจะงงๆว่าไอนี่มันคือใคร 5555 สำรองห้องพักได้ที่ 0-2234-9400, 0-2632-6677 ครับ

หลังจากออกจากที่พักก็ได้เวลาเดินทางกลับออกมาเที่ยงๆแบบนี้ต้องแวะหาไรกินก่อนพี่เจ้าถิ่นเขาก็แนะนำมาให้มาร้านนี้เลย โกโลบี่อยู่ตรงข้ามทางเข้าร้านเรือนไม้เลย คนเพียบ

ก๋วยเตี๋ยวน่องไก่ชิ้นใหญ่อร่อยครับ เต็มพลังได้อีกมื้อ

ตบด้วยไอติมของหวานพร้อมเดินทาง

บอกลากระบี่อย่างเป็นทางการ

อยากขึ่นเขาหงอนนาคแต่วันนี้ขาไม่ไหวแล้ว


ก่อนกลับสงสัยกลัวจะถึงบ้านไวไปมันไม่ชินมาถึงชุมพรประมาณ 4 โมงเลยแวะไปหาพี่ชายในกลุ่มอีกคน พี่เขากลับมาเปิดอู่และดูแลสวน กะจะมาทักทายแต่พี่เขาว่ามาแล้วต้องพาไปเข้าสวน เลยยาวเลย


หน้าทุเรียนมังคุดพอดีช่วงนี้


ไม้สอยมังคุดย้าวยาว


นี้สอยได้ด้วยสนุกดี555 พี่นัดบอกถ้ามาเมื่อวานนี้จะให้ขึ้นเก็บทั้งสวน เมื่อวานพึ่งเก็บไปหมดเลย

หลังจากนั้นออกจากสวนประมาณ จะ2ทุ่มละครับ กรุงเทพไม่ไกลอีก4-500 โลเอง มาพักหาไรกินอีกทีแม่กลอง เที่ยงคืนพอดี

ยิงยาวถึงบ้านตี 1 กว่าๆ เช้าไปทำงานต่อ8โมง สบายๆเลยครับทริปนี้ 555

ค่าใช้จ่าย

วิ่งไป 1800 กว่าโล ได้

ค่าน้ำมัน 870 เหลือ4ขีด

ค่าแก้ส 1400

ค่ากินมื้อเช้าพังงา 85

ค่าเข้าค่าจอดรถท่าปอม 60

มื้อกลางวันอ่าวนาง 120

ค่าเบียขนม 330

ค่าข้ามเกาะ80

ค่ากินเรือนไทย 600

โรตี 100

เสื้อกันฝน 60

โกโลบี 145

มื้อเย็น 80

ที่เหลือจิปาถะ

ส่วนค่าที่พักและทัวร์ดำน้ำไม่ได้ออก รวมๆแล้วหมดไปคนละ 2000 บาทครับทริปนี้

จบไปอีกทริปที่ครบรสมากๆที่บอกว่าถูกทีถูกเวลาคือเป๊ะจริงๆถ้าหากผมขึ้นวัดถ้ำเสือแต่วันแรกก็ไม่ได้เห็นทะเลหมอกสวยๆแบบนี้แน่นอน กลายเป็นทริปทะเลกระบี่แต่ที่ประทับใจจริงๆทริปนี้ไม่ใช่ทะเล นี่แหละธรรมชาติมักมีอะไรให้ตื่นเต้นเสมอ ผมถึงชอบการท่องเที่ยวธรรมชาติ มันทำให้เราตื่นเต้นตลอดเวลาเพราะสิ่งที่เราจะได้พบเจอมันจะไม่เหมือนที่เราดูมาแน่นอน มันอาจจะสวยกว่าหรือธรรมดา ก็เพราะมันคือ ธรรมชาติ ครับ แค่เพียง 1 วินาทีลมพัดทีเดียว ทุกอย่างก็เปลียนแปลงแล้วครับ

แล้วพบกันใหม่กับคู่รักตะลอนทัวร์ วันนี้สวัสดีครับ


เหลี่ยมพาเที่ยว

 วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 02.57 น.

ความคิดเห็น