สวัสดีผู้อ่านทุกท่านคะ รีวิวอันนี้เป็นอันแรกในชีวิตเลยนะคะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ เอาหละเข้าเรื่องกันเลย มันมีอยู่ว่าพวกเรา 2 3 4 5 คน อยากกลับไปเยือนญี่ปุ่นอีกครั้งหลังจากที่ปี 2014 ไปเทรนโครงการ Jica กันมา วันหลังจะมาเล่าประสบการณ์ Jica เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่สนใจ มีโอกาสไปเที่ยว ไปเรียนรู้ความเป็นญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นถึง 18 วัน สนุกมาก พวกเรารู้จักกันในโครงการฯ กิน นอน ทำงานร่วมกัน 18 วัน แต่จะเป็นเพื่อนกันไปอีกเกิน 18 ปีแน่นอน ก็อยากไปโตเกียวเพราะตอนไปเทรนไปโอซาก้า ในทริป 5 คน พวกเราเตรียมการดีมาก ถึงมากที่สุด จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า 1 ปี air Asia ตอนปล่อยโปรฯ รวมซื้อน้ำหนักกระเป๋า อาหาร แล้ว ตกคนละ 9,613 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต้องบอกว่าแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับศักยภาพการช้อปนั่นเอง ถ้าไปจริงๆ 2 หมื่นเอาอยู่คะ
ทริปนี้ไปกัน 5 วัน 4 คืน (23 – 27 ม.ค. 2016) แต่ไม่ขอพูดถึงส่วนโตเกียวนะคะ รีวิวเยอะแล้ว ไปคาวาฯ กันดีกว่า เริ่มจากวันแรกเราบินถึง 19 .35 น. กว่าจะเรียบร้อยถึงที่พัก 22.30 น. เพราะหลงทาง ใช่คะ หลงทางหาที่พักไม่เจอ เราเก่งคะจอง Airbnb เป็นอพาร์ตเม้นของคนญี่ปุ่น มีทั้งข้อมูลตัวอักษร แผนที่ โทรคุยกะเค้า ก็ยังหลงที่สำคัญอากาศหนาวมากระยะทางจากสถานีรถใต้ดินไปถึงที่พัก 1 กิโลเมตร มันเหมือน 20 กิโลกว่าจะถึงเพราะหนาว ข้อแนะนำคือ อากาศสำคัญมาก เพราะเราอาจจะทนหนาวไม่ไหว!
เช้าวันที่ 24 ตกลงกันว่าจะออกแต่เช้าแต่..มีแต่อีกแล้วเสื้อผ้าเราอุ่นไม่พอ คือพวก lining ข้างในน่าจะอุ่นไม่พอคาวาฯ เราต้องไปขึ้นรถบัสที่ชินจุกุก็เลยรอเวลา ยูนิโคล่เปิดแล้วจะไปซื้อของเพิ่มเพราะสภาพอากาศจากเวปภาษาญี่ปุ่นบอกว่า คืนที่เราไปน่าจะ – 15 สรุปได้ขึ้นรถเที่ยว 10.30 น. เข้าไปแล้ว ช้อปเพลินที่ไม่ต้องการก็ซื้อมา 55 จำตารางบัสที่แน่นอนไม่ได้นะคะเพราะไปแบบสะดวกเน้นสบายๆ สบายมากบอกตรงๆ ยังเที่ยวไม่ครบเลย ไปถึงคาวาฯ บ่ายๆ ตลอดทางพอเริ่มออกจากโตเกียวก็ชนบทจะเริ่มเห็นสีขาวๆ พอเริ่มเห็น ฟูจิซัง คือ ฟรุ้งฟริ้งมาก
*ภาพนี้ถ่ายจากบัส เราโชคดีมาก ฟูจิไม่ขี้อายเลย
พอไปถึงสถานีคาวาฯ จะมีเหมือน visitor center ก็ไปแจ้งเค้าว่าเราพักที่ไหน ถ้าที่พักมีบริการรับส่งเค้าจะมีจุดรอรถข้างๆ ศูนย์บริการเลย เราพัก K'S house mount Fuji ที่พักยอดนิยมตลอดกาลของคนไทย จะบอกว่าตอนนี้บ่ายกว่านี่คือ – 10 แล้วนะคะ ลงจากบัสหนาววูบ..
มาถึงที่พักก็นั่งพัก ฝากกระเป๋าแล้วก็ออกเดินคะ เดินไปเรื่อยๆ รอบๆทะเลสาบเพราะเราลืมซื้อ R coupon ไว้นั่ง retro bus จากสถานีคาวาฯ คะ ขี้เกียจย้อนไปเลยตัดสินใจเดิน..เดินไปจนถึงทางขึ้นกระเช้า Kachi Kachi แต่คิวยาว 3 กิโลฯ กว่าจะได้ขึ้นถึงเวลาปิดพอดี คนญี่ปุ่นนี่ตรงเวลานะ เดินไปเจอร้านชีสเค้ก อร่อยมาก ลืมถ่าย คือจะบอกว่ารอบทะเลสาปนี่มีดาวน์ทาวน์แค่จุดเดียวนะคะ มินิมาร์ท ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อยู่ตรงบัสสต๊อปเลขที่ 10
* ป้ายรถเมล์ จะมีเลขที่ของบัสสต๊อปต่างๆ ให้ และเวลาที่รถจะมาถึงป้ายคะ แต่ละช่วงไม่เหมือนกันนะคะ แล้วแต่สภาพอากาศ และกิจกรรม
หลังจากเดินจนหนาว ไม่เหนื่อยหรอกเพราะมันดื่มด่ำ มันมีเสน่ห์สวยจริงๆ ก็เริ่มมืดและหิวมากเราเดินย้อนมาทางเดิมกะว่าจะหากินตามทางที่ผ่านมา แต่ ! แต่! ร้านปิดหมดเลยคะ มันคือวันอาทิตย์ ตัดสินใจว่าถ้ายังไงๆ ก็ยังมีโรงแรมหรูๆ ระหว่างทาง จะกี่เยนไม่เกี่ยงแต่อดไม่เอานะ ก็มาเจอสวรรค์คะ ร้านอาหารจีนเล็กๆ แคบๆ แต่อุ่นและที่สำคัญอาหารอร่อยขั้นเทพมากเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นร้านดังในตำนานร้านมังกรแดง โชคดีตลอด
อร่อยจริงๆ ยังอยากกลับไปกินอีก หลังจากอิ่มท้องพอกลับถึงที่พักได้รับโชคชั้นที่ 2 สตาฟที่ที่พักบอกว่าคืนนี้อย่าลืมออกไปดูพลุที่ริมทะเลสาปนะ เป็นกิจกรรมช่วงฤดูหนาวจะมีพลุเฉพาะเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดยาว ภูมิใจมากไปดูพลุเจแปนมาแล้ว สวยมากๆเลยคะ มีลวดลายเทคนิคใหม่ๆ มีลายมิคกี้ และคาแรคเตอร์อื่นๆเยอะแยะไปหมดเลย
บรรยากาศตอนนั้นคือที่สุดแห่งความโรแมนติคคะ คิดถึงแฟนเลย คู่รัก ครอบครัวเหมาะมากสวยจนลืมหนาวไปเลย จะบอกว่าตอนดูพลุอุณหภุมิไม่มากไม่มาย - 20 องศาเท่านั้นเอง เฮ้ย!! นี่มันช่องฟรีซชัดๆ แต่เราก็ผ่านมันมาได้ คืนนั้นนอนฝันดีมาก ฮีตเตอร์ที่ที่พักอุ่นมากหลับสบาย ตื่นเช้าเอาอาหารที่ตุนมาจากมินิมาร์ทไปอุ่นในครัวของที่พัก อิ่มท้องแบกกระเป๋าไปเดินเที่ยว อยากหาคาเฟ่เก่ๆ จิบกาแฟกันแต่ยังไม่เปิดซักที่เลยเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆกันดีกว่า สวยๆแบบนี้
ฟ้าใสได้อีก ! คือรูปเยอะมากคะเช้านี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นรูปคนขอผ่านดีกว่านะคะเดี๋ยวทำลายบรรยากาศสวยๆไปหมด อิอิ จนเริ่มเหนื่อยก็ปรึกษากันว่ามีคนบอกไว้ว่าจุดชมวิวที่บัสสต๊อบ 21 สวยงามที่สุดใน 8 โลก รออะไรโบกรถเมล์แล้วไปกันเลย นั่งรถนานพอควรประมาณ 30 นาทีจากบัสสต๊อบที่ 6 ในรถอุ่นจนร้อนพอถึงที่หมาย ก้าวขาลงมา คือ เฮ้ย ไหนหละวิวที่ว่าดีงามพระรามแปด ไหน ไหน ไหน เลยวัดดวงเดินไปทางขวา คือเดินไปหาบัสสต๊อบที่ 22 เราอาจจะจำกันผิดก็ได้ แต่แค่ไม่กี่ก้าวเราก็เจอสิ่งที่ตามหา..คาเฟ่กับกาแฟอุ่นๆ ตอนนั้นดีใจแค่นี้จริงๆ เดินเข้าไปสั่งของยังไม่สนใจอะไรคะ อยู่ดีๆมีเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวน้อยในกลุ่ม ว้าย..สวยๆๆๆ อภิมหางานสวย วิ่งกันไป เท่านั้นหละคะ ภาพๆนี้ ก็ปรากฎตรงหน้า...
นี่ไงจุดชมวิวที่เราถวิลหา หน้าหนาวเค้าปิดไว้ไม่ให้ลงไปเดินเล่น แต่คุณสามารถหาวิวนี้ได้จากร้านนี้คะ Lake bake แถมลานด้านนอกยังไม่หนาวอีกด้วย สวยจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้น นั่งมองโดยที่ไม่พูดอะไรกันเป็นชั่วโมง ถึงเวลาต้องอำลาฟูจิซังนั่งรถบัสไปลงสถานีคาวากูจิโกะ และต่อบัสเจ้าเดิมกลับสู่ชินจูกุอันวุ่นวาย
ซักครั้งในชีวิตแนะนำเลยคะทะเลสาปคาวากูจิโกะ และประเทศที่สวยทุกฤดู..ญี่ปุ่น
Amm Dethkongkaew
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.18 น.