“โคเปนเฮเกน” เป็นเมืองที่น่าอยู่และน่าเที่ยว ติดท๊อปโลก!
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้เห็น/ได้ยิน
ชื่อเมืองนี้มาบ้าง เพราะกระแสมาแรงไม่มีตกเลยค่ะ : )
ปิงเองก็เพิ่งไปได้ไปเมือง “โคเปนเฮเกน” มาเมื่อ
เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บอกเลยว่า ตกหลุมรักเมืองนี้!
และอยากหาโอกาสกลับไปอีกมากๆ ด้วยความที่
ประเทศเขาพัฒนาแบบสุดๆ ทำให้การเดินทาง
ไปไหนมาไหน สะดวกมาก ถนน ทางเดินก็สะอาดค่ะ
ทริปนี้ ปิงไปมาทั้งหมด 5 วัน แต่วันสุดท้ายจะ
เที่ยวไม่เต็มวันนะ เพราะปิงบินไปเที่ยวต่อที่เมือง
“อัมสเตอร์ดัม” ประเทศเนเธอร์แลนด์ ค่ะ
รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปฮันนีมูนของปิง
ซึ่งเป็นการไปเที่ยวยุโรปยาวๆ 5 เมือง 3 สัปดาห์
ฝากทุกคนติดตามอ่านรีวิวอีก 4 เมืองด้วยนะ : )
(อัมสเตอร์ดัม, เวนิส, เวียนนา, ซานโตรินี)
ก่อนจะไปเริ่มรีวิว ปิงขอแจกแจง ค่าใช้จ่าย
ของทริปนี้ให้ดูกันก่อนนะคะ โดยใช้อัตรา
แลกเปลี่ยน 1 DKK (Danish Krone) = 5.20 บาท
นี่คือค่าใช้จ่ายสำหรับ 2 คนนะ
เดี๋ยวตอนท้ายจะสรุปและหารให้อีกทีค่ะ
1) ค่ากิน 5,593.73 DKK = 29,087.396 บาท
2) ค่าฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม 40 DKK = 208 บาท
3) City card 2,379 DKK = 6,185.4 บาท
4) โรงแรม 4 คืน 4,460 DKK = 23,192 บาท
ค่าใช้จ่ายไม่รวมตั๋วเครื่องบิน อยู่ที่ 58,672.796 บาท
หารสอง เหลือคนละ 29,336.398 บาท
ขออธิบายเพิ่มเติม ว่าค่ากิน เรากินทั้งคาเฟ่
ร้านหรู ร้านไทย แมคโดนัล ปนๆกันนะคะ
ส่วน City card จะใช้เดินทางได้หมดเลย
ทั้งรถไฟ รถบัส รถราง ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม และก็รวม
ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ในรีวิวนี้ไม่มีที่ไหน
ที่เราต้องจ่ายค่าเข้าชมเพิ่มเลยค่ะ รวมอยู่ใน
City card หมดแล้ว : D และค่าใช้จ่ายที่เอามาคำนวณ
ไม่รวมค่าช้อปปิ้ง/ของฝากนะคะ อันนี้แล้วแต่คนเลย
ส่วนค่าเครื่องบิน อย่างที่บอกว่าปิงมีบินไปเมืองอื่นต่อ
เลยบอกได้แค่ตั๋วขาไปนะคะ จากกทม.ไปโคเปนเฮเกน
ปิงบินกับการบินไทย คนละประมาณ 18,000 บ. ค่ะ
ถ้าใครโชคดี ได้ตั๋วโปร ก็อาจจะถูกลงนะ !
สุดท้าย ที่นี่ใช้เงินสกุล Danish Krone นะคะ
ไม่ใช่ทุกที่ที่รับเงินยูโร ดังนั้นแลกเงิน DKK มาด้วยค่ะ
หรือถ้าใครใช้ Travel Card / Credit Card
ก็อย่าลืมคำนวณด้วยอัตรา DKK – THB นะคะ ^^
ก่อนจะไปเที่ยว ปิงแนะนำให้โหลดแอพ
“Copenhagen Card City Guide”
ซื้อ City Card และ Activate ไว้เลย
ไปถึงจะได้ใช้ได้เลยค่ะ เขาจะมีให้เลือกตั้งแต่
24 – 120 ชั่วโมงนะ เข้าไปดูรายละเอียดและซื้อได้ที่ลิงก์นี้
https://copenhagencard.com/
ที่จริงเวลาเราขึ้นรถไฟ รถบัส ไม่มีที่ให้เราแตะบัตรนะคะ
เขาใช้ระบบเชื่อใจล้วนๆ5555555 แต่ก็แนะนำให้ทุกคนซื้อ
เพราะจะมีการสุ่มตรวจค่ะ อย่างตอนที่ปิงไปก็เจอสุ่มตรวจ
ครั้งหนึ่งที่สถานีรถไฟ ถ้าเราไม่มีบัตรอยู่บนแอพ
เราต้องเสียค่าปรับนะ ดังนั้นซื้อไปเถอะ จะได้หมดกังวล!
ใครที่ไม่ได้ซื้อ City Card มาถึงสนามบินก็ต้อง
มาซื้อเป็นบัตรโดยสาร (ไม่รวมค่าเข้าสถานที่ต่างๆ)
ตามในรูปนี้เลย ออกจากจุดรับกระเป๋ามาก็เจอเลยค่ะ ^^
WAKE UP COPENHAGEN (Borgergade)
เป็นโรงแรมไลฟ์สไตล์ ราคาสบายกระเป๋า
ถ้าให้ให้ดาว ปิงว่าอยู่ที่ประมาณ 3 ดาวค่ะ
เพราะโรงแรมไม่ใหญ่มาก ห้องพักค่อนข้างเล็ก
มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ สะอาดสะอ้าน
แต่ไม่ได้มีบริการอะไรพิเศษ ไม่มีฟิตเนส/สระว่ายน้ำ
และค่าห้องคืนละประมาณ 5,XXX บาท ยังไม่รวมอาหารเช้าค่ะ
หากต้องการอาหารเช้า จะต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
ราคานี้ถือว่าถูก เมื่อเทียบกับโรงแรมอื่นๆในบริเวณเดียวกัน
โรงแรมนี้ใกล้สถานี Kongens Nytorv
ใกล้ย่านช้อปปิ้ง และ สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ค่ะ
เราพักห้อง standard double ค่ะ
จะเห็นว่าเตียงเข้ามุม และไม่เหลือที่ให้เดิน
ไปอีกด้านของเตียงแล้ว555555555
ยังดีที่ใต้เตียงมีลิ้นชักให้เก็บของได้บ้างค่ะ
ในห้องสะอาด มีของครบ แต่แคบไปนิดนึงค่ะ
ส่วนห้องน้ำก็จะเป็นฟีลแคปซูล
มีกั้นโซนเปียก-แห้ง มีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ
เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ https://www.wakeupcopenhagen.com/the-hotels/copenhagen/borgergade#/
ด้วยความที่เราบินออกจากกทม.ไฟล์ทตีหนึ่ง
เลยมาถึงโคเปนเฮเกนช่วงเช้าค่ะ
จริงๆตอนเราไปถึงยังเช็คอินไม่ได้
เลยเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ locker ของโรงแรม
ซึ่งมีค่าฝาก 40 DKK หรือ 208 บาทค่ะ
พอเที่ยวเสร็จเราค่อยกลับมาเอากระเป๋าและเข้าห้องพัก : )
COFFEE FACTORY
ทริปของเราจะเริ่มต้นขึ้นไม่ได้ค่ะ ถ้าเรายังไม่ได้กินกาแฟ555555
เราลองเสิร์ชหาร้านใกล้ๆโรงแรม แล้วก็มาเจอร้านนี้
เป็นร้านเล็กๆ บรรยากาศโฮมมี่ๆ มีที่นั่งทั้งด้านใน
และนอกร้าน ที่จริงช่วงที่เราไปเป็นช่วงซัมเมอร์แล้ว
แต่อากาศที่นี่ค่อนข้างแปรปรวนค่ะ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว
เดี๋ยวฝน ใครจะไปเที่ยวช่วงก.ค. แนะนำให้เอา
เสื้อกันหนาวและเสื้อกันฝนไปด้วยนะ 🙂
IG ร้าน : coffeefactorycph
https://www.instagram.com/coffeefactorycph/?hl=en
เราสั่ง Matcha Latte และ Mocha เย็นไปค่ะ
ราคาแก้วละ 52 DKK = 270 บาท! *O*
ตอนนั้นช๊อคมาก55555555 แบบ เอาแล้วสินะ
เรามาถึงเมืองโคเปนเฮเกนแล้วสินะ : D
มัทฉะรสชาติเฉยๆค่ะ นี่ว่ามันจางๆไปหน่อย
ส่วนมอคค่าอร่อยค่ะ มีแรงเที่ยวละ! : )
BOTANICAL GARDEN
จาก COFFEE FACTORY เราเดินไป
BOTANICAL GARDEN ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
ระหว่างที่เดินมาฝนก็ลงเม็ดเลย! หน้าร้อนแบบใด! >//<
พอมาถึงก็เปิด City card ในแอพ CPH Card
ให้พนักงานดู แล้วก็เข้าชมได้เลยค่ะ : )
ที่นี่รวบรวมพันธุ์ไม้หายากจากทั่วโลก
และยังจัดเป็นสัดส่วนได้สวยงามสุดๆค่ะ
แต่โซนที่ห้ามพลาดเลย คือ Palm House
กับ Butterfly House เป็นมุมที่
Content Creator ฝรั่งทั้งหลายชอบมาทำคอนเทนต์กัน
วันและเวลาเปิด-ปิดของแต่ละโซนไม่เหมือนกันนะ
เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ค่ะ https://snm.dk/en/opening-hours
แค่เห็นก็สดชื่น มีมุมน่ารักๆเยอะมาก
ไหนจะต้นไม้ดอกไม้สี/ลายแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็น *O*
และนี่คือมุม Iconic ใน Palm House ค่ะ <3
ขึ้นไปเดิน/โพสต์ท่าตรงบันไดได้เลย แต่ระวังด้วยนะ มันสูง!
ที่ชอบสุดคือ Butterfly House ค่ะ
เข้าไปปุ๊ปจะมีน้องผีเสือเยอะม๊ากกกกก >//<
หลายสี หลายลายเลย และในห้องเขาจะวาง
ผลไม้ที่ปลอกแล้วไว้บนถาด เพื่อให้น้องผีเสื้อ
มาดูดน้ำหวานไปได้ เราจะได้เห็นน้องแบบใกล้สุดๆ
ในรูปนี้บรรยายไม่หมดอ่ะ ต้องไปดูในวิดีโอที่ปิงลงไว้
บน IG ส่วนตัวนะ : pingpitchayaa
https://www.instagram.com/pingpitchayaa/
NATURAL HISTORY MUSEUM OF DENMARK
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ
ธรรมชาติค่ะ อยู่ในบริเวณเดียวกับ BOTANICAL GARDEN
ใครดูผีเสื้อเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะมาพิพิธภัณฑ์นี้นะ
ด้านในมีจัดแสดงประวัติเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ
ที่พบได้ในประเทศเดนมาร์ก และยังมีจัดแสดงรูปถ่าย
สัตว์ป่าที่ได้รางวัลระดับโลกด้วยค่ะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้เลย https://snm.dk/en
อย่างแร่ธาตุที่พบในเดนมาร์กเขาก็มีตัวอย่างมาให้ดู
ด้านในพิพิธภัณฑ์มีคาเฟ่ด้วยนะคะ ถ้าใคร
เดินรอบสวน รอบพิพิธภัณฑ์แล้วหิว ก็จัดที่นี่ได้เลย
ส่วนเรา ขอไปหาอะไรทานข้างนอกค่ะ อยากรับแสงแดด : D
THE UNION KITCHEN (Østerbro)
จาก NATURAL HISTORY MUSEUM
เราหาร้านทานมื้อเที่ยงใกล้ๆค่ะ แล้วก็เจอร้านนี้
เดินมาประมาณ 10 นาทีค่ะ บอกก่อนว่าร้านนี้
มี 3 สาขานะคะ ใครจะเดินไปจากพิพิธภัณฑ์เหมือนปิง
ระวังไปผิดสาขานะ! สาขาที่ปิงไปร้านอยู่ริมถนนค่ะ
มีโต๊ะวางหน้าร้านค่อนข้างเยอะ ที่นั่งด้านในก็มีค่ะ
แต่ร้านเขาเป็นแบบ open air ตกแต่งง่ายๆ แต่ดูดี
IG ร้าน : theunionkitchen
https://www.instagram.com/theunionkitchen/?hl=en
เราสั่ง chicken waffle ไป
เป็นไก่ทอด มีโรยผงรสเผ็ดๆ กับราดซอสมาโยค่ะ
รสชาติใช้ได้ เสิร์ฟมาพร้อมแตงโตค่ะ
ส่วนอีกจานเป็น Ham & cheese Toastie
มีมันฝรั่งทอดมาให้ด้วย ซึ่งมันฝรั่งทอดนี้อร่อยสุดเลย!
มื้อนี้ราคา 358 DKK หรือประมาณ 1,800 บาท
ที่งงมากคือ เราขอเป็นน้ำเปล่า แบบ tap (เพราะน้ำประปาที่นี่สะอาด)
เขาก็ยังคิดเงินค่ะ คนละ 25 DKK หรือ 130 บาท!
ใครอยากตามรอยทริปนี้ ต้องทำใจ ว่าค่าครองชีพเขาสูงกว่าบ้านเรามาก…
หลังจากมื้อเที่ยง เราก็มาต่อกันที่ Strøget
ย่านช้อปปิ้งสุดปังของโคเปนเฮเกน!
เรานั่งรถไฟจากสถานี Østerport มาลงที่
Gammel Strand แล้วเดินต่อค่ะ
ทุกคนตาม Google Map ได้เลยนะ
ถ้าเห็นรูปปั้นสีฟ้านี่คือใช่ละ : D
ในย่านนี้มีทั้งร้านเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ แบรนด์เนม
ไปจนถึงร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ร้านเครื่องเขียน ฯลฯ
แต่ร้านอาหาร/บาร์ในย่านนี้ ราคาจะแรงหน่อยนะคะ
ไม่ค่อยแนะนำ ^^ มาช้อปแล้วไปกินที่อื่นดีกว่าค่ะ…
HAY HOUSE
ใครเป็นสายแฟชั่น/ไลฟ์สไตล์ ชอบแต่งบ้าน
เชื่อว่าต้องรู้จักแบรนด์ HAY แน่นอนนน! : D
แบรนด์ไลฟ์สไตล์และของแต่งบ้านจากเดนมาร์ก
ที่ตอนนี้ก็มาเปิดสาขาที่ไทยแล้ว!
แต่เรามาถึงย่านช้อปปิ้งของโคเปนเฮเกนทั้งที
จะไม่แวะร้านนี้ก็ไม่ได้ค่ะ! นี่คือทางเข้าของร้าน
เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 – 3 แล้วช้อปได้เลยยยย!
IG : haydesign https://www.instagram.com/haydesign/?hl=en
Website : https://www.hay.dk/
ด้านในตกแต่งสวยมาก ไม่ต้องซื้ออะไร
แค่เข้ามาเดินดู ก็ดีต่อใจแล้วค่ะ :”)
มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ
ไปจน หมอน แจกัน และ ของใช้ในบ้านอื่นๆ
อย่างผ้าขนหนู ชุดนอน ตะกร้าใส่ของ ฯลฯ
ดีไซน์และสีสันเป็นเอกลักษณ์มากๆ <3
มุมนี้ มองออกไปเห็นถนนเส้นที่คนช้อปปิ้งกัน vibe ดี!
STUDIO ARHOJ
ถ้าใครชอบร้าน HAY รับประกันเลยว่า จะชอบร้านนี้ด้วย! <3
มันคือสตูดิโอเซรามิคและงานออกแบบภายใน (interior)
ที่ผสมผสานศิลปะแบบญี่ปุ่นและ Scandinavian
ไว้ด้วยกันอย่างลงตัวมาก Studio Arhoj จัดตั้งโดย
คุณ Anders Arhoj ตั้งแต่ปี 2006 และตอนนี้ก็
ขยับขยายไปในหลายๆประเทศทั่วโลกแล้ว เช่น ออสเตรเลีย
อเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส ฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ
IG : studioarhoj https://www.instagram.com/studioarhoj/?hl=en
Website : https://arhoj.com/
ใครชอบสะสมแก้วเซรามิค อดใจไม่ไหวชัวร์! >//<
เพราะปิงก็จัดมาแล้วค่ะ ที่จริงราคาก็แอบแรงกว่า
ไปซื้อตลาดบ้านเรา แต่เรามองเป็นงาน art
เพราะแต่ละสี แต่ละลายมันไม่ได้หาได้ง่ายๆค่ะ
นอกจากนั้นก็มีตุ๊กตาตั้งโต๊ะ ทั้งแบบแก้วและเซรามิค
มีแจกัน ของโชว์ จาน ชาม ช้อน ส้อม ไปจนถึงโปสการ์ด!
POKE & SONS
ปิดท้ายวันแรกด้วยมื้อเย็นที่ Poke & Sons
พิกัดที่ 7 ของวันนี้!! ลืมบอกไปค่ะ ใครอยาก
ตามรอยทริปนี้ ต้องออกกำลังกายก่อนมาเที่ยวนะคะ
เพราะเดินเยอะม๊ากกกกกก ปิงเน้นเที่ยวเอาคุ้ม >//<
จนเจ้าตัวเองก็จะไม่ไหวเอาค่ะ เดินเฉลี่ย 13,000 – 17,000 ก้าว ทุกวัน คุณแม๊!!
กลับมาต่อที่ร้านนี้… เป็นร้านขาย Poke Bowl ค่ะ
มีความเอเชี่ยนฟิวชั่น และ ก็ดีต่อสุขภาพค่ะ
เพราะเขาใช้ของสด และได้ผักเยอะมาก!
IG ร้าน : pokeandsons
https://www.instagram.com/pokeandsons/
เราลองเมนู Salmon Miso กับ
Hoisin Duck ค่ะ ชามละ 129 DKK
แต่พอรวมค่าน้ำ ค่าซุป ก็เป็น 486 DKK ค่ะ
ค่าอาหารแต่ละมื้อ จะร้องงงงงงง T_T
รสชาติพอใช้ได้ค่ะ ปิงเคยทานที่ซิดนีย์
ออสเตรเลีย แบรนด์ Fish Bowl อร่อยกว่านี้มาก
เลยมีตัวเปรียบเทียบ แต่ร้านนี้ก็ไม่แย่ค่ะ และให้เยอะอยู่
DARCY’S KAFFE (Rantzausgade)
เช้าวันที่สอง เราไปเริ่มกันที่คาเฟ่สไตล์โฮมมี่ๆค่ะ
ปิงเห็นร้านนี้จากรีวิวของ blogger ฝรั่ง
บน Instagram 3 คน บอกว่าต้องมา!
ด้านนอกเป็นอิฐทาสีน้ำเงิน น่าถ่ายรูปสุดๆ
ส่วนข้างในก็มีที่นั่งหลายมุม ตกแต่งด้วย
เฟอร์นิเจอร์ไม้ และของจุ๊กจิ๊ก น่ารักมากค่ะ
ร้านนี้ไม่มีอาหารนะ มีเครื่องดื่มกับเบเกอรี่ค่ะ
เรานั่งรถไฟจาก Kongens Nytorv ไปลง
สถานี Forum แล้วเดินต่อ 7 นาทีค่ะ
IG ร้าน : darcyskaffe
https://www.instagram.com/darcyskaffe/?hl=en
ชอบ mood & tone ของร้านนี้มาก เอาไป 10 เต็ม!
ชอบที่มีหน้าต่างกระจกรอบทิศ ทำให้แสงเข้ามาในร้าน ถ่ายรูปสวยค่ะ ^^
เราสั่งลาเต้เย็น คาปูชิโน่ร้อน และแซนวิชอีกคนละชิ้นค่ะ
กาแฟรสชาติกลมกล่อม ส่วนแซนวิชเฉยๆค่ะ
และเขาไม่อุ่นให้ด้วย เพราะไม่มีที่อุ่น T_T
Nyhavn / ท่าเรือนูฮาวน์
เช็คอินแลนด์มาร์คแล้วหนึ่ง!!
โคเปนเฮเกนเป็นเมืองท่าเก่าแก่ของเดนมาร์กและยุโรปค่ะ
ใครที่สนใจ Canal tour นั่งเรือเที่ยวดูทัศนียภาพรอบๆ
ส่วนใหญ่ก็จะต้องมาขึ้นเรือที่ท่านี้ แต่ถ้าใครไม่ได้ซื้อทัวร์
มาเดินเล่น ถ่ายรูป แวะเข้าร้านต่างๆแถวนี้ ก็ได้ค่ะ
ปิงก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้ซื้อทัวร์ แค่เดินถ่ายรูปกับตึกสีๆก็ฟินแล้ว : )
เสียดายวันที่ปิงไป ฟ้าหม่น ฝนปรอย ไม่งั้นรูปสวยกว่านี้อีก!
จาก Darcy’s Kaffe นั่งรถไฟกลับมาที่ Kongens Nytorv แล้วเดินต่อเพียง 6 นาที ก็ถึงท่าเรือค่ะ
ขอแอดมินแชะสักหนึ่งรูป! >//<
รักกัน ชอบกัน อย่าลืมติดตาม 𝐁𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐎𝐮𝐭 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞
ให้ครบทุกช่องทางด้วยน้า : )
FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/
IG : https://www.instagram.com/blissoutthere/
TikTok : https://www.tiktok.com/@blissoutthere
YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere
Website : https://blissoutthere.com/
ร้านบนถนนเส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ค่ะ มีร้านของที่ระลึกบ้าง…
ด้วยความที่มื้อเช้าของเราช่างน้อยนิด
เราเลยเลี้ยวเข้าร้านนี้เลย : D
เขาขายไอศกรีมโฮมเมดกับ churro ค่ะ
(แป้งทอดโรยน้ำตาล มีลักษณะยาวเป็นแท่งๆ)
เราจัดไอศกรีมรสมิ้นท์ + chocolate chips
หวาน อร่อย สดชื่นมากกกก ส่วน Churro
ก็กรอบนอก นุ่มใน ไม่หวานเกิน ทานคู่กันคืออร่อย ลงตัว : P
Torvehallerne KBH
การกินยังไม่จบแค่นั้น55555555
เรามาต่อกันที่ Food Market ชื่อดัง
อย่าง Torvehallerne KBH มีขายตั้งแต่
ของสด อย่าง เนื้อวัว ซีฟู้ด ผัก ผลไม้ ไปจนถึง
อาหารพร้อมทาน ทั้งเบเกอรี่ แซนวิช เบอร์เกอร์
Fish&chips ซูชิ ฯลฯ ที่ชอบมากคือ มีของ
ให้ช้อป/ซื้อเป็นของที่ระลึก ทั้งไวน์คุณภาพดี
ชาผง ชาซอง ช็อกโกแลต ฯลฯ ย้ำว่า ต้องมา!
เพราะคุณจะได้เห็น culture / vibe
ของคนพื้นที่ จากการมาตลาดนี่แหละ : )
นั่งรถไฟจากสถานี Kongens Nytorv ไปลง
Nørreport และเดินต่อแค่ 1 นาทีค่ะ
เวลาเปิด-ปิด แต่ละโซนไม่เหมือนกันนะ
เข้าไปดูได้ที่เว็บนี้ค่ะ https://torvehallernekbh.dk/stader/
ไม่มีประเทศไหน เมืองไหนที่ปิงไป แล้วไม่ไปตลาด!55555 ชอบมาก มันดูเพลิน ^^
เราลองชาจากร้านหนึ่งในตลาดไปคนละแก้ว
ของเราเป็นชาพีชเย็น หวานน้อย หอมพีชมาก
อีกแก้วเป็นชาขาวร้อน ดีงามไม่แพ้กัน <3
ราคารวม 60 DKK = 312 บาท
เราทานมื้อเที่ยงที่ตลาดค่ะ (ทานอีกแล้ว ก็คนมันเดินเยอะอ่ะ55555)
จำชื่อร้านไม่ได้ อันนึงเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ อร่อย!
อีกจานคือ สเต๊กปลาแซลมอน และ ปลาหมึกวงทอด
(ไม่ได้ถ่ายรูปลาหมึกไว้) แซลมอนแอบเค็มไปนิดนึงค่ะ
มื้อนี้ราคารวม 219 + 275 = 494 DKK หรือ 2,568.8 บาท…
ที่ต่อไป คือ Danish Architecture Centre ค่ะ
จากตลาด เรานั่งรถไฟกลับไปที่ Kongens Nytorv
แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที แต่ก่อนจะถึง
Danish Architecture Centre เราจะผ่านแลนด์มาร์ค
อีกแห่ง ชื่อว่า Black Diamond ค่ะ ที่นี่เป็นห้องสมุดแห่งชาติ
(Royal Danish Library) มีทั้งหมด 7 ชั้น
ด้านในมีทั้งห้องสมุด โซนอ่านหนังสือ/ทำงาน
คอนเสิร์ตฮอลล์ ห้องจัดแสดงนิทรรศการ ร้านอาหาร คาเฟ่
รอบนี้เราไม่ได้เข้าไปข้างใน ใครสนใจก็อย่าลืมเช็ควัน
และเวลาที่เขาเปิดทำการ ก่อนไปนะคะ : )
https://copenhagencard.com/attractions/the-black-diamond
วันนี้เดินเยอะมากอีกแล้ว ขอนั่งพักริมน้ำแป๊ปนึงค่ะ ^^
Danish Architecture Centre
แล้วเราก็มาถึง Danish Architecture Centre!
หรือ ศูนย์สถาปัตยกรรมเดนมาร์ก ด้วยความที่
สถาปัตยกรรมของเดนมาร์กนั้นโดดเด่นและล้ำหน้ามากๆ
เมื่อเทียบกับหลายๆประเทศ และในโคเปนเฮเกนเอง
ก็มีตึก อาคารสวยๆ เยอะมากกกก เรามาถึงเมืองนี้ทั้งที
จะไม่มาย้อนดูประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของเขา ไม่ได้ค่ะ!
นอกจากประวัติศาสตร์แล้ว เขายังจัดแสดง ให้ข้อมูล
เกี่ยวกับอาคารที่มีชื่อเสียงเรื่องการออกแบบ / ได้รับ
รางวัลระดับโลกด้วย และมีนิทรรศการหมุนเวียนสวยๆ
ให้เราได้ถ่ายรูปกันด้วย ชั้นล่างมีร้านขายของที่ระลึก
ที่สายอาร์ต สายออกแบบ ต้องชอบค่ะ : D
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้ https://dac.dk/en/
เราไม่ได้เรียน/ทำงานด้านนี้ ดูแล้วยังว้าวเลย *O* ต้องไปจริงๆ!
ชั้นบนสุดของ Danish Architecture Centre
มีคาเฟ่ และ ระเบียงให้ชมวิวด้วยค่ะ วิวสวยมากกกก <3
DISTRICT TONKIN
มื้อเย็นวันที่สอง เรามาที่ร้านอาหารเวียดนาม
ใกล้กับโรงแรมที่เราพักค่ะ (แค่ 2 วันก็อดคิดถึงอาหารเอเชียไม่ได้ ^^)
บรรยากาศร้านเก๋มาก ชอบโลโก้ ชอบเมนู ทุกอย่าง
แต่รสชาติอาหาร ค่อนข้างผิดหวังค่ะ T_T
เราชอบกินอาหารเวียดนามมากๆ และกินมาเยอะมากๆ
ร้านนี้คืออร่อยน้อยที่สุดที่เคยทานมา รสชาติไม่ authentic
เหมือนทำให้ฝรั่งกิน… เราพยายามมองเข้าไปในครัว
ว่าฝรั่งทำหรอ เพราะพนักงานเสิร์ฟเป็นฝรั่งหมด
แต่ในครัว เป็นเอเชี่ยนล้วน เลยงงหนักเลยค่ะ…
ถามว่า กินได้มั้ย ก็กินได้ค่ะ มันพอแก้ขัดได้…
IG ร้าน : districttonkin
https://www.instagram.com/districttonkin/?hl=en
เราสั่งเฝอเนื้อ เนื้อค่อนข้างหนา และ เหนียว
น้ำซุปก็ค่อนข้างจืดค่ะ อีกจานคือข้าวกับหมูหวาน
หมูหวานสมชื่อค่ะ แต่หวานโดด มันไม่กลมกล่อม แง๊!
LILLE BAKERY
เข้าสู่วันที่สามมมม!
เชื่อมั้ย 2 วัน เราไปกันมา 12 ที่แล้ว!! >//<
วันนี้เรามาทานมื้อเช้าที่ร้านเบเกอรี่ชื่อดังค่ะ
ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2018 แต่เราเพิ่งมาเห็นรีวิว
เมื่อไม่นานมานี้ และเห็นถี่มาก จนรู้สึกว่าต้องมา!
ซึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้เรามาก็คือ มุมที่ถ่ายจากชั้นบนของร้าน
ลงมาที่ชั้นล่าง เห็นบรรยากาศร้านอบอุ่น น่ารักมาก
และเพิ่งมารู้ที่หลัง ว่าร้านเขาทำ story ดีด้วย
อย่างบน IG และเว็บไซต์ของร้าน ก็มีการเล่าถึง
ที่มาของวัตถุดิบอยู่ตลอด แถมร้านเขายังสนับสนุน
ชาวไร่ ชาวนา ชาวประมง ที่เป็นคน local
เรียนกว่าเป็นการ “support community” ค่ะ
IG ร้าน : lillebakery
https://www.instagram.com/lillebakery/?hl=en
Website : https://www.lillegrocery.com/
จากโรงแรมเรา นั่งรถไฟไปสถานี Christianshavn
แล้วไปต่อรถบัสสาย 2A ลงป้าย Refshaleøen (Refshalevej) ค่ะ
ร้านไม่ใหญ่มากนะคะ เป็นร้าน 1 ชั้นครึ่ง
ข้างในมีที่นั่งไม่เยอะ แต่ก็มีที่นั่งข้างนอกด้วยค่ะ
วันไหนอากาศดีๆ มานั่งรับแดดอุ่นๆตอนเช้าคือเลิศ!
เรานั่งข้างบน แอบร้อนนิดนึง อากาศไม่ถ่ายเท และทางร้านไม่เปิดแอร์/พัดลมค่ะ
เครื่องดื่มที่นี่มีทั้งชา กาแฟ น้ำผลไม้ และ
Kombucha (ชาหมักที่มีจุลินทรีย์ชนิดดีต่อลำไส้)
เราสั่งอเมริกาโน่ กับ Kombucha ที่เป็นเมนูพิเศษ
ของวันนั้นค่ะ มีรสเบอร์รี่ ผสมองุ่น สดชื่นดีค่ะ
ส่วนเมนูเบเกอรี่ จานซ้ายคือ Mushroom roll
กับ sausage roll รสชาติกลางๆ จะอร่อยขึ้น
ถ้าเขาอุ่นร้อนให้ค่ะ : ) ส่วนจานขวา เป็น ไข่คน
แต่เขาทอด/สับมันละเอียดมากๆ เสิร์ฟบน
Sourdough ค่ะ จานนี้รสชาติเฝื่อนๆ ค่อนข้างจืด
ความเห็นส่วนตัว คือ ไม่ได้อร่อยเว่อร์
เหมือนที่คนชมกันบน IG ค่ะ ปิงว่าคาเฟ่ในเมืองไทย
หรือซิดนีย์(ที่ปิงเคยอยู่) อร่อยกว่านี้มากเลย :”)
ทั้งนี้ความอร่อย/ไม่อร่อย ขึ้นกับความชอบของแต่ละคนค่ะ
รบกวนอย่าดราม่านะ _/|\_
Copenhagen Contemporary
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยของโคเปนเฮเกนค่ะ
จาก Lille Bakery เดินมาแค่ 7 นาทีก็ถึงแล้ว
ด้านในจัดแสดงงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ
มีทั้งภาพวาด ภาพถ่าย งานปั้น หรือ ศิลปะแบบ
Installation และ interactive
เรียกได้ว่าครบรส ดีต่อใจ และ สนุกมากค่ะ : )
ตอนเราไปมีผลงานของ Basel Abbas &
Ruanne Abou-Rahme ที่ใช้ห้องห้องนึงเลย
เป็นการวางจอหลายๆขนาดไว้รอบห้อง แสดงทั้งภาพ ไฟ เสียง
ย้ำว่าสายอาร์ตต้องไป และไม่ต้องเสียค่าเข้าค่ะ
ร่วมอยู่ใน City card เรียบร้อยแล้ว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้เลย
https://copenhagencontemporary.org/en/
ชอบที่หลายๆจุด มีให้คนที่มาเยี่ยมชมร่วมทำอะไรด้วย
อย่างในรูปสุดท้ายคือ ให้เราช่วยกันเอาพู่กัน แต้มสีลงไป
บนผ้าใบ และยังมีโซน art therapy ให้เราเขียน
หรือวาด สิ่งที่มีความหมายในชีวิตของเราด้วย : )
แอบไปดูค่าเข้ามา ผู้ใหญ่ 140 DKK หรือ 728 บาทเลย
แนะนำให้ซื้อ City card ค่ะ คุ้มกว่ามากกก ใบเดียวอยู่!
SONNY (Rådhusstræde)
มื้อเที่ยงเรากลับเข้าเมือง มาที่ร้าน Sonny ค่ะ
เป็นอีกร้านที่ปิงเห็น blogger ฝรั่งรีวิวกันเยอะ!
ร้านนี้เขา position ตัวเองเป็นร้านที่เสิร์ฟ
อาหารอร่อยด้วย และ ดีต่อสุขภาพด้วย
ส่วนเครื่องดื่มอย่างกาแฟ ชา มัทฉะ kombucha
เขาก็ใช้ของคุณภาพดีมาเสิร์ฟเท่านั้นค่ะ
ร้านมี 2 ชั้น แต่ไม่ใหญ่นะ ที่นั่งไม่เยอะ
ไม่เหมาะจะมาเป็นกลุ่มใหญ่ค่ะ
ในร้านตกแต่งทแบบเรียบง่าย แต่ดูดีมากค่ะ
IG ร้าน : sonny.cph
https://www.instagram.com/sonny.cph/
เราลองเมนู Sonny Pomodoro
เป็นขนมปังไรย์ (Rye Bread) มีสีน้ำตาลเข้ม
รสชาติเข้มข้นกว่าขนมปังทั่วไป มีใยอาหารเยอะ
และมีกลูเตนต่ำมาก ท๊อปด้วยผักหลายชนิก ไข่ต้ม
จานหน้าคือ Smørrebrød Chicken
(Smørrebrød = แซนวิชแบบเปิดหน้า สไตล์เดนมาร์ก)
เนื้อไก่ถูกบดไปกับ dressing apple ซึ่ง
เข้ากันได้อย่างประหลาด : D เสิร์ฟบนขนมปังไรย์
และท๊อปด้วยสาหร่ายกรอบ + แอปเปิ้ลบางๆ
มื้อนี้ 387.73 DKK ค่ะ ถือว่าอร่อยที่สุด
ตั้งแต่เริ่มทริปโคเปนเฮเกนเลย <3
MUSEUM OF ILLUSIONS
แปลตรงตัว ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ภาพลวงตาค่ะ!
สารภาพว่า ที่นี่ไม่ได้อยู่ในแพลนของเราตอนแรก
แต่มันไม่ไกลจาก Sonny และที่พักของเรา
บวกกับ มันรวมอยู่ใน City card พวกเราเลย
ขอเข้าไปดูซะหน่อย ^^ ไปถึงก็ต้องติดต่อพนักงานก่อน
เพราะเขาจะเปิดให้คนเข้าเป็นรอบๆค่ะ
เพื่อไม่ให้คนเข้าชมพร้อมกันเยอะเกินไป
ด้านในจะเป็น interactive installation
ให้เราได้หยิบ จับ ถ่ายรูป มากมาย ที่ชอบคือ
แต่ละจุดเขาจะมีป้ายอธิบายด้วย ว่าทำไม
เราถึงเห็นชิ้นงานนั้นเป็นแบบนี้ ทั้งที่จริงๆมันเป็นอีกแบบ
อธิบายหลักการมองเห็น การเกิดภาพซ้อนหรือภาพลวง ฯลฯ
รวมๆคือ สนุกมากค่ะ แนะนำให้มา >//<
Website : https://moicopenhagen.com/en/
Sticks’n’Sushi Borgergade
วันนี้พวกเราเที่ยวเสร็จค่อนข้างเร็วค่ะ เลยกลับมาพัก
ที่โรงแรม และทานมื้อเย็น ร้านที่อยู่ติดกับโรงแรมเลย
ร้านนี้เป็นเครือซูชิที่มีทั้งในเดนมาร์ก เยอรมัน และอังกฤษ
เราเห็นตามห้างหรือย่านช้อปปิ้งรอบเมืองโคเปนเฮเกนเลย
สาขานี้ค่อนข้างใหญ่ และตกแต่งได้ดูแพงมาก : D
อาหารก็หลากหลายค่ะ มีทั้งซาชิมิ ซูชิ ของทานเล่น
และเมนูอิซากายะ อย่าง หมู/เนื้อเสียบไม้ย่าง ฯลฯ
เราสั่ง Beef Tataki (เนื้อดิบในซอส เห็ดชิตาเกะ + truffle ponzu)
กับ Hiramasa Kataifi (ปลาฮิรามาสะ/king fish ใน truffle oil + ponzu)
เราชอบสองจานนี้มากกกก มันเค็ม หวาน เปรี้ยว ลงตัว
กินกันจนซอสหยดสุดท้ายค่ะ55555555
ส่วนอีกจานเราเลือกเมนูเสียบไม้มา 6 อย่าง ผสมๆกันค่ะ
มื้อนี้อร่อยสุด แต่ก็แพงสุดเลย 1,041 DKK หรือ
ประมาณ 5,400 บาท… T___T ทริปนี้เราไปฮันนีมูนค่ะ
เลยปล่อยตัวปล่อยใจนิดนึง ใครไปตามรอยทริปนี้ อยากประหยัด ก็จัดร้านอื่นได้ค่ะ
Website : https://sticksnsushi.com/en/restaurants/copenhagen/borgergade
APRIL COFFEE (Store & Showroom)
หลังจากที่เมื่อวานกินแพงกันไปแล้ว เช้าวันที่สี่
เราทานมื้อเช้าที่ McDonalds ใกล้โรงแรมค่ะ55555555
และมาต่อกันที่ร้านกาแฟชื่อดังอย่าง APRIL
จากแถวโรงแรมเรา เดินมาร้านนี้ไม่ถึง 10 นาทีเลย
ร้านเล็กๆ มีที่นั่งไม่เยอะ จะไม่เหมือนคาเฟ่บ้านเราค่ะ
เขาเหมือนให้คนมาดื่มกาแฟ เสร็จแล้วก็ไปเลย : D
เขาเปิดมาตั้งแต่ปี 2016 ค่ะ เป็น roastery ที่
ส่งกาแฟให้กับร้านอาหาร โรงแรม มากมายในเดนมาร์ก
บนเมนูมีให้เลือกเพียง 4 อย่างค่ะ คือ Filter,
Espresso, Milk Espresso, Limited
ส่วนรายละเอียดก็สอบถามพนักงานได้เลย : )
ในร้านมีทั้งแคปซูล และ อุปกรณ์ทำกาแฟให้เรา
ซื้อกลับไปทำเอง/เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกด้วยค่ะ
IG ร้าน : aprilcoffeecph
https://www.instagram.com/aprilcoffeecph/?hl=en
Website : https://www.aprilcoffeeroasters.com/pages/the-april-store-pilestraede
ร้านเล็กๆ แต่ตกแต่งได้น่ารักมาก
ใช้สีส้ม ชมพู ฟ้า เหลือง มาตกแต่ง
ให้ร้านดูมีสัสันขึ้น กับบาร์เปิด ให้เราได้เห็น
วิธีทำกาแฟของเขาค่ะ ^^
วันนี้อากาศค่อนข้างเย็น เราเลยสั่ง
Milk Espresso ร้อน ทั้งคู่เลย ^^
และต้องบอกว่า นี่คือกาแฟที่ดีที่สุด
เมื่อเทียบกับทุกร้านที่เราไปมาในโคเปนเฮเกน!
มันหอม นุ่ม ละมุนมากกกก ต้องมา!
Grundtvig’s Church
ที่นี่เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เป็นที่รู้จักที่สุดของเดนมาร์ก
ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสน ระหว่างรูปทรงเรขาคณิต
แบบเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ กับ เส้นสายแนวดิ่งแบบสถาปัตยกรรมโกธิค
ทำให้โบสถ์นี้สวยเป็นเอกลักษณ์ทั้งด้านนอกและด้านในค่ะ
ออกแบบโดย Peder Vilhelm Jensen-Klint
เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 1912 และสร้างเสร็จเมื่อปี 1940
ถึงตอนนี้โบสถ์ก็มีอายุกว่า 80 ปีแล้วค่ะ
ที่นี่ไม่มีค่าเข้าชมนะคะ ใครจะไปเยี่ยมชม ถ่ายรูป
ก็อย่าเสียงดังมากค่ะ ให้เกียรติสถานที่ด้วยนะ : )
Website : https://www.grundtvigskirke.dk/
จาก April Coffee เราเดินไปขึ้นรถบัสสาย 6A
ที่ป้าย Nørreport St. (Nørre Voldgade)
ไปลง Bispebjerg Torv (Tagensvej)
แล้วเดินต่อไม่ถึง 5 นาทีค่ะ ตาม map ไปโลดดด!
โถงทางเดินด้านในมีช่องให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาด้วย
ถ่ายรูปออกมาสวยมาก! ป.ล. แนะนำให้มาช่วงเช้านะคะ
ช่วงบ่ายอาจจะแสงน้อย + โบสถ์ปิด 16.00 น. ค่ะ
Pizzeria Luca
เสร็จจาก Grundtvig’s Church เรากลับเข้าเมือง
ไปทานมื้อเที่ยงค่ะ ซึ่งเราสุ่มร้านใกล้ๆสถานที่ที่เราจะ
ไปกันต่อ นั่นก็คือ Christiansborg Palace…
แล้วเพิ่งมารู้ที่หลังว่า ร้าน Luca เป็นร้านดัง! O
Luca มี 2 สาขาค่ะ เปิดมาเพียง 5 ปี แต่ติด Top 50
พิซซ่าที่ดีที่สุดในโลก! ร้านนี้ใช้เวลาเตรียมแป้ง 72 ชั่วโมง
ก่อนจะเอามาทำพิซซ่า ซึ่งก็ทำให้แป้งของเขา
กรอบนอก นุ่มฟูข้างใน มันดีงามมากจริงๆค่ะ!
พิซซ่าที่นี่จะมีให้เลือกทั้งหน้าที่เป็นที่รู้จัก และ
หน้าพิเศษที่เป็นสูตรของทางร้าน ส่วนเมนูอื่นๆ
ก็มีของทานเล่น สลัด ของหวาน และ ไวน์หลากหลายค่ะ
IG ร้าน : ilovelucadk
https://www.instagram.com/ilovelucadk/?hl=en
Website : https://iloveluca.dk/en/
เราสั่งพิซซ่า Polpetta e parmigiano
เป็นเนื้อ meatball ค่ะ เข้ากับซอสดี นัวมาก
แต่ชอบสุดคือแป้ง! มันนุ่ม หนึบ ดีมากกกก
อีกจานคือสลัด เพิ่มมะเขือเทศอบค่ะ ทั้งสองอย่าง
จานใหญ่มาก 2 คนกินกันจุกค่ะ5555555
มื้อนี้ 305 DKK หรือ 1,586 บาท !
Christiansborg Palace
จากร้าน Luca เดินไป Christiansborg Palace
แค่ 4 นาทีก็ถึงแล้ว! นี่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของ
โคเปนเฮเกน ที่ไม่แวะไม่ได้ค่ะ! โดยพระราชวังแห่งนี้เป็น
พระราชวังลำดับที่ 3 ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในพื้นที่เดียวกัน ตั้งแต่ปี 1907
ก่อนหน้านี้เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทหินโบราณ และถูกรื้อทำใหม่
2 ครั้ง จนปัจจุบันเป็นทั้งอาคารรัฐสภา และสถานพำนัก
ของนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศเดนมาร์ก
ด้านใน เราสามารถเยี่ยมชมได้ทั้งส่วนที่เป็น
Royal Reception Rooms หรือพื้นที่จัดพระราชพิธีต่างๆ
ของราชวงศ์เดนมาร์ก ซึ่งอลังการทุกห้องเลย! O
Royal kitchen ครัวที่เอาไว้ใช้รับรองจัดงานต่างๆ
และชั้นใต้ดิน หรือ ส่วนที่เป็นซากปรักหักพังของปราสาทหิน
Christiansborg Castle ที่อายุเกือบ 1,000 ปี ฯลฯ
บอกก่อนว่าที่นี่ใหญ่มาก และใช้เวลาดูเยอะ ถ้าอยากดูให้ครบ
ควรกันช่วงบ่าย/ช่วงเช้า ให้กับที่นี่ไปเลยค่ะ
ถ้ามี City card แล้วก็ไม่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่มนะ : )
Website : https://www.christiansborgslot.dk/
ห้องนี้ทำให้นึกถึงห้องสมุดในเรื่อง
Beauty and the Beast เลยค่ะ ^^
เป็นชั้นวางหนังสือรอบห้อง มีชั้นลอยด้วย
และตามขอบกระจก ตามราวต่างๆเป็นทองทั้งหมดเลย
ผนังด้านบนก็มีภาพวาด สวยงามม๊ากกกกก!
งานละเอียดมากๆ ทั้งโคมไฟ ทั้งผนัง
และเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ก็คือ เดินดูไป ตะลึงไป *O*
และนี่คือ The throne room ค่ะ
วอลเปเปอร์ทำจากผ้าไหมและแผ่นทองคำเปลว!
แกรรรร มันเว่อร์ได้อีกกกกก!!
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 กษัตริย์เฟรเดอริกที่ 10
ทรงรออยู่ในห้องนี้ ก่อนจะก้าวข้ามธรณีประตูไปยังระเบียง
ต่อหน้าผู้คนหลายแสน ในฐานะกษัตริย์องค์ใหม่ของเดนมาร์ก
โซนชั้นใต้ดินชื่อว่า the Ruin ค่ะ
ซึ่งรวบรวมซากปรักหักพังจากปราสาทเดิม
ที่เคยอยู่บนพื้นที่นี้เอาไว้ และเรื่องราวมากมาย
กว่าจะมาเป็น Christiansborg Palace
เป็นโซนที่ทำให้เราได้ดำดิ่งไปในประวัติศาสตร์ของเดนมาร์กอย่างแท้จริงค่ะ
จบด้วยการขึ้นไป The Christiansborg’s Tower
เพื่อชมวิวเมืองโคเปนเฮเกนแบบ 360 องศา
จากจุดที่สูงถึง 44 เมตร จากพื้นดิน!
วันที่เราไปฟ้าหม่น ฝนตก เลยได้รูปมาเท่านี้แหละ : D
ใครจะขึ้นไปชมวิว เผื่อเวลานิดนึงนะคะ เพราะคิวค่อนข้างยาว
SUPHAN THAI
ปิดท้ายวันที่สี่ ด้วยร้านสุพรรณไทย!
ในที่สุดเราก็ทนไม่ไหว คิดถึงอาหารไทยมาก555555
จัดไปเลย เพราะร้านอยู่ใกล้โรงแรมมากๆค่ะ
เป็นร้านเล็กๆ เน้น takeaway นะ มีที่นั่งนิดเดียว
เมนูมีตั้งแต่ทอด ผัด ต้ม รสชาติทำถึง เหมือนอยู่ไทย
กินเข้าไปฟินมาก เหมือนได้กลับไทยแล้ว >//<
Website: https://www.suphan.dk/
เราสั่งยำเนื้อ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ครบ!
และให้เนื้อมาเยอะมาก กินไม่หมดค่ะ5555
ต้มยำไก่ก็แซ่บมากกก ปิดท้ายด้วยผัดซีอิ๊ว
มื้อนี้ 299 DKK หรือประมาณ 1,500 บาทค่ะ
Rosenborg Castle
วันสุดท้ายในโคเปนเฮเกนนนน! จัดไปอีกหนึ่งที่
ก่อนจะบินไปอัมสเตอร์ดัมเย็นนี้ค่ะ >//<
มื้อเช้าเราจัด Mcdonalds แถวโรงแรมมาอีกแล้ว5555
จากนั้นเดินมาที่ Rosenborg Castle
ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
ปราสาทโรเซนบอร์ก เป็นปราสาทสไตล์ Dutch Renaissance
ที่สร้างในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 ปัจจุบันมีอายุกว่า 400 ปี ค่ะ
เขาตั้งใจสร้างให้เป็นพระราชวังฤดูร้อน แต่ปัจจุบัน
กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเป็นที่เรียบร้อยค่ะ
ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องเก็บสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์เดนมาร์ก
ส่วนชั้นใต้ดิน เป็นที่เก็บเครื่องเพชรของราชวงศ์เดนมาร์ก
รวมถึงมงกุฎทองประดับเพชรของกษัตริย์และพระราชินีด้วย
อลังการ ตระการตามากค่ะ O
ค่าเข้ารวมอยู่ใน city card แล้วเช่นเคยยย ^^
Website : https://www.kongernessamling.dk/en/rosenborg/
ทั้งภาพวาด รูปปั้น จาน ชาม ของสะสมทุกอย่าง มีครบ!
และแต่ละอย่างคืองานละเอียดมาก เว่อร์มากกก ต้องมาดูค่ะ!
ลืมบอกอีกอย่าง… ในขณะที่เราเดินอยู่ในปราสาท จะมีคนกลุ่มหนึ่ง
แต่งตัวย้อนยุค มาเดินปนกับพวกเราค่ะ ตอนแรกเราเข้าใจว่า
เราไปเช่าชุดมาใส่เดินถ่ายรูปได้ ที่จริงแล้ว คนพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดง
เขาจะเดินชมนกชมไม้ ไม่พูดคุยกับพวกเรา เหมือนอยู่คนละมิติกันค่ะ5555 แปลกดี!
ห้องโถงชั่นบนสุด สวยงาม อลังการมาก
ในรูปคือ ที่ตั้งของบัลลังค์กษัตริย์แห่งเดนมาร์ก…
ที่ Rosenborg Castle จะเล็กและเก่ากว่า
Christiansborg Palace ที่เราไปเมื่อวานนะคะ
จะได้อีกฟีลหนึ่ง เหมือนเราหลุดไปในอดีต : D
ชั้นใต้ดินคือ The Royal Collections
จัดแสดงทรัพย์สมบัติของราชวงศ์เดนมาร์ก
ที่มีไฮไลท์เป็น Crown Jewels หรือ มงกุฎทอง
ประดับเพชรของกษัตริย์และพระราชินี
งานละเอียดมากๆ ต้องมาเห็นกับตาจริงๆค่ะ : )
ป.ล. ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟลชนะ
จบทริปโคเปนเฮเกน 5 วัน 23 พิกัด!
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่มีแพลน
จะไปเที่ยวเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กนะคะ ^^
เมืองต่อไปคือ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ถ้าไม่อยากพลาดรีวิวปังๆแบบนี้ อย่าลืมติดตาม
𝐁𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐎𝐮𝐭 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞 ให้ครบทุกช่องทางด้วยน้า : )
FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/
IG : https://www.instagram.com/blissoutthere/
TikTok : https://www.tiktok.com/@blissoutthere
YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere
Website : https://blissoutthere.com/
แล้วเจอกันในรีวิวต่อไปปปป ขอบคุณค่ะ _/|\_
Bliss Out There
วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 17.19 น.