ถ้าหากให้เลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการออกเดินทางไปเที่ยว

สำหรับเราแล้ว เราคงตอบไปว่า ... ช่วงหลังสอบ ช่วงปิดเทอม คือช่วงที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เป็นนักศึกษาอย่างเรา

เพราะหลังจากที่เหนื่อยกับการสอบ ก็อยากที่จะพาตัวเองไปพบเจอกับอะไรใหม่ๆ

แล้วเราจะออกเดินทางไปที่ไหนดีล่ะ ?

การที่จะตอบคำถามนี้ได้ เราก็ต้องถามตัวเองก่อนว่า ...

เราอยากจะไปเดินบนเม็ดทรายขาวๆ ขึ้นเรือลัดเลาะเกาะแก่ง นอนอาบแสงริมหาด ดูปะการังใต้ทะเล ...

ชลบุรี ตราด ระยอง น่าจะเป็นจังหวัดที่น่าลองไปสัมผัสที่สุด

เราอยากจะไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สูทอากาศใส นํ้าเย็นสบายที่ไหลลงมาจากหน้าผา ฟังเสียงร้องของสัตว์ตัวน้อยๆ

หนึ่งในจังหวัดที่น่าสนใจมากมาก จังหวัดที่ไม่ไกลไปจากกรุงเทพ ก็คงไม่พ้นจังหวัดกาญจนบุรี

เหตุผลต่างๆ ทำให้ทริปนี้เราเลือกกาญจนบุรี

แล้วถ้าหากคุณเลือกที่จะไปกาญจนบุรีเหมือนกับเรา เราอยากแนะนำให้คุณไปกับรถไฟ

และคุณต้องมาแวะ มาพัก มาเล่นนํ้า ที่นํ้าตกเอราวัณอย่างน้อย 1 คืน

คุณอาจจะสงสัยจนมีคำถามว่า ... ทำไมต้องไปกับรถไฟ ? ทำไมต้องไปนํ้าตกเอวัณ ?

เรื่องราว 2 วัน 1 คืนกับรูปภาพ 80 กว่ารูปที่บันทึกการเดินทางของเรา จะสลายความสงสัยของคุณได้ ...

บันทึกการเดินทางระหว่าง นครปฐม ( ศาลายา ) - กาญจนบุรี ( สะพานแคว / สายมรณะ / สถานีนํ้าตก / นํ้าตกเอราวัณ )

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พร้อมแล้วววววว /// พวกเราตั้งใจจะไปรอบขบวน 257 ซึ่งออกจากสถานีศาลายา เวลา 8.21 น.


ลงมารอแท็กซี่ข้างล่าง เพื่อไปสถานีรถไฟ ปุ๊น ปุ๊น


โบกแท็กซี่คนแรก เขาไม่จอดรับ รอนานมากจนกว่าแท็กซี่คันที่ 2 จะมา

ในใจนี่กลัวโดนรถไฟทิ้ง แต่ลืมไปว่ารถไฟไทยมัก (ไม่ค่อย ) ตรงต่อเวลา อื้มมม


ถึงแล้วสถานีรถไฟศาลายา /// ค่าแท็กซี่ 40 บาท ตกคนละ 10 บาท


ไปดูตรงตารางเวลาเดินรถก่อนเลย ซึ่งการที่จะไปสุดสถานีน้ำตกนั้น มี 2 ขบวนด้วยกัน ก็คือ

ขบวน 257 ออกจากสถานีศาลายา เวลา 8.21 น. และ ขบวน 259 ออกจากสถานีศาลายา เวลา 12.25 น.


ได้มาแล้ว ตั๋ว ศาลายา – น้ำตก ก็รีบไปถ่ายรูปเก็บไว้ แล้วนั่งรอ

วันนั้นรถไฟไม่เสียเวลามาก สักพักก็มาแล้ว คือกราบขอบพระคุณมาก


ออกจากศาลายา พร้อมไปสะพานแคว ถ้ำกระแซ (สายมรณะ) และไปสุดปลายทางที่น้ำตก /// Let's go เลย


ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง รถไฟก็พาเราไปถึงสะพานแคว


บางคนตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกของเขาที่ได้มาเจอของจริง /// Ahhh Realy ?


จุดต่อไปที่รถไฟเส้นทางนี้ผ่านและหยุดก็คือช่วง สะพานมรณะ – ถ้ำกระแซ


สายมรณะเป็นเส้นทางรถไฟที่สวยมากเส้นหนึ่ง เป็นเส้นทางรถไฟที่เก่า และมีเอกลักษณ์มาก ฝั่งหนึ่งจะเป็นแม่น้ำ ยังมีร้านอาหารบนแพ ที่พักมากมาย และอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นถ้ำ ถ้าใครยังไม่เคยไป อยากให้ไปสักครั้ง บอกได้เลยว่ามันดีจริง ๆ


และแล้วรถไฟสายนี้ก็พาเรามาสุดปลายทางแล้ว ก็คือสถานีน้ำตก

ทุกคนก็รีบลง แล้วไปหารถเพื่อตั้งใจจะต่อไปยังน้ำตกเอราวัณ แต่มันไม่มีรถสองแถว ก็เลยลองไปถามแม่ค้า เพราะเขามีรถบริการเหมา แต่มันแพงมาก 500 บาท จากสถานีน้ำตกไปน้ำตกเอราวัณ เพราะมันอยู่คนละเส้นทาง เราทั้ง 4 คนเลย >>> Say no และรีบซื้อตั๋ว น้ำตก – ศาลายา ถือเป็นรอบย้อนกลับ เพื่อไปลงสถานีกาญฯ ลืมบอกเลยว่าจากสถานีน้ำตกนี้ 20 กิโลเมตร ก็จะเป็นน้ำตกไทรโยคน้อย


แล้วเราก็นั่งรถไฟอีกครั้ง เก๋ เก๋ มาก เกือบทั้งวันนี่คืออยู่แต่บนรถไฟ

ผ่านสะพานมรณะ ผ่านสะพานแคว แล้วก็พาเราไปถึงสถานีกาญฯ


รีบต่อรถสองแถว คนละ 20 บาท ไปสถานีขนส่งกาญฯ เพื่อต่อรถประจำทางไปยังน้ำตกเอราวัณ


ถึงแล้ววววววววววววว


รีบไปซื้อตั๋วเป็นอันดับแรกเลย


ได้มาแล้ว สถานีขนส่งกาญฯ – น้ำตกเอราวัณ คนละ 50 บาท


สิ่งต่อไปที่นึกถึงก็คือข้าว กินแต่ข้าวเช้าก่อนออกจากหอ ตั้งแต่ขึ้นรถไฟเวลาเกือบ 9 โมง จนถึงเวลาที่มาถึงสถานีขนส่ง 4 โมงกว่า ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย สตรองงงงงงงง นี่ก็เลยหาร้านแถวสถานี รีบกิน เพราะมีเวลาครึ่งชั่วโมงก่อนรถออก


เรากำลังเดินกันไปไหนต่อ ?


หลังจากนั้นที่นึกถึงอีกก็คือเซเว่น เพื่อไปหาซื้อของประทังชีวิต ช่วงที่อยู่น้ำตก

ใคร ๆ ก็รู้ว่าของที่ขายที่สถานที่ท่องเที่ยว มันต้องแพง !


ถึงเวลารถออกแล้ว พร้อมไปน้ำตก /// Ready to go to Waterfall มากมาก


อยากจะสัมผัสเส้นทางแบบนี้มานานแล้ว เส้นทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ มันดีจริง ๆ


เขื่อนนี้ก็สวยน่ะ ถือเป็นทางผ่านที่คุ้มมากๆ กับการเดินทาง


นี่เห็นป้ายว่าระวังช้างเยอะน่ะ นี่ก็ขอให้เจอช้างสักตัว แต่ก็ไม่เจอสักตัว /// Why not ?


ก่อนถึงสะพานนี้ก็จะเห็นป้าย " อุทยานแห่งชาติเอราวัณ "

ถ้าไปข้างหน้าอีกก็จะเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์


เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงน้ำตกเอราวัณ


ต้องซื้อตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณด้วยน่ะ คนละ 50 บาท /// ซื้อตรงด่านระหว่างเข้าถึงตัวอุทยาน


รถก็มาจอดส่งเราหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลย /// คือดี


รีบเดินไปติดต่อเรื่องที่พัก ซึ่งเราก็ไม่ได้จองล่วงหน้า รีสอร์ทอะไรเต็มไปหมด ตัวเลือกสุดท้ายก็คือเต้นท์

โอเคนอนในเต้นท์ 555 ประหยัดดี


ทำเรื่องที่พักอะไรเสร็จ ก็รีบเดินไปจุดกางเต้นท์ ไกลพอสมควรจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


นี่สวนกับบางคนขับมอไซต์มา นี่แบบ ... พวกเราขอซ้อนด้วยได้ไหม /// แต่ก็เดินต่อไป go on


ความรู้สึกแรกเลยที่เห็นจุดกางเต้นท์คือแบบ ชอบ บรรยากาศดีมาก

มันดีต่อใจมากมากอยากนิยามให้ตรงนี้ว่า ... ที่พักหลัก 10 วิวหลักล้านนนนน


ข้างหลังก็มีเต้นท์เหมือนกัน เรียงยาวกันไปเลยยย


เต้นท์ของพวกเรา 4 คน ซึ่งใครจะปิ้งย่างอะไรก็ได้น่ะ แต่ต้องเตรียมมาเอง แล้วอย่าลืมรักษาความสะอาดด้วย

แล้วแต่ละคนก็ไปทำภารกิจส่วนตัว ก็รีบนอนเก็บแรง เพราะพรุ่งนี้เช้า จะเป็นการผจญภัยเดินขึ้นน้ำตกทั้ง 7 ชั้น

คือถ้ามาตรงนี้ ไม่ขึ้นน้ำตก หรือขึ้นไม่ครบทั้ง 7 ชั้นนี้ ... ถือว่ามาไม่ถึงนาจร้า

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยากาศตอนเช้ามันดีมากจริง ๆ

ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ มันดีจริง ๆ


ทุกคนตื่นนอนกันแล้ว พร้อมจะเดินขึ้นน้ำตกกันแล้ว /// Let's go


เอาหน่อย กับป้ายน้ำตก และต่อไปสังเกตชื่อของน้ำตกชั้น 7 ชั้นให้ดีน่ะ มีความหรู มีความสละสลวยมาก 555


ชั้นที่ 1 >>> ไหลคืนรัง


มีความไหลคืนรังไหม นิยามหน่อย 555 แต่ที่แน่ ๆ คือปลามีความเยอะมาก


ชั้นที่ 2 >>> วังมัจฉา


ตรงช่องนั้นหรือปล่าว ? ที่นิยามว่าวัง อยากเข้าไปอยู่ตรงนั้น 555


ชั้นที่ 3 >>> ผาน้ำตก /// น้องจับพุงพี่ทำไมครับ 555


นี่ชอบชั้นนี้ ตรงที่ไปยืนและนั่งบนก้อนหินตรงกลางนั้น และนั่งตรงนั้น แล้วมีน้ำตกลงมาจากหัวไหลสู่ข้างล่าง รู้สึกดี 555


ชั้นที่ 4 >>> อกนางผีเสื้อ


มีใครสามารถนิยามความเป็นอกจากก้อนหิน ตรงนั้นบ้าง 555


ระว่างทางจากชั้นที่ 4 เพื่อไปชั้นที่ 5 นั้น ก็จะมีจุดชมวิว ให้แวะพักความเหนื่อยกันด้วย


ซึ่งเราพวกเรา 4 คนนั้น ก็ต้องแวะพัก เพราะมีความเหนื่อยกันจริง ๆ ในการเดินขึ้นแต่ละชั้น


ชั้นที่ 5 >>> เบื่อไม่ลง /// ทำไมชื่อนี้ไม่ค่อยสละสลวยเท่าไหร่ 555


จุดที่น่าสนใจที่สุดของชั้นนี้ก็คือ การเดินบนกิ่งไม้นั้นไปยืนอยู่กลาง แล้วถ่ายรูป คิดว่ารูปมันจะมาสวยแน่แน่ ฮิฮิ


ชั้นที่ 6 >>> ดงพฤกษา


ชั้นนี้แหล่ะที่รู้สึกไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดเท่าไหร่ /// ต่างกับชื่อเลยที่ดูดียิ่งนัก ...


ชั้นสุดท้ายสักที /// ชั้นที่ 7 >>> ภูผาเอราวัณ /// ในส่วนของชื่อก็หรูที่สุดแล้ว ชนะเลิศ ! มีความภูผา มีความเอราวัณ


เอกลักษณ์ของชั้นนี้เลยแหล่ะ


อยากถามพวกเธอว่า ไม่มีผู้ชายลงไปเล่นสักคนเหงาไหม ให้พวกเราลงไปเล่นเป็นเพื่อนก็ได้น่ะ


ข้าคือผู้พิชิต /// ในส่วนของเพื่อนตรงกลางนั้น อยากจะถามว่า ยังโอเคไช่ไหม ?


จบแล้วการพิชิตน้ำตกเอราวัณทั้ง 7 ชั้น แล้วก็ถึงเวลาเดินกลับโดยทางเดิมที่ใช้เดินมา

ระหว่างทางก็เจอกับกลุ่มชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่ง พวกเขาน่ารักมากมาก คุยไปคุยมาเลยรู้ว่า พวกเขากำลังเผยแพร่ศาสนา


แวะชาร์ตแบตให้กับโทรศัพท์ เพาเวอร์แบงค์แป๊ปหนึ่ง ที่นี่เขาบริการให้ด้วยน่ะ และแล้วก็เดินลงมาข้างล่างไปถึงเต้นท์ ประมาณบ่ายโมงกว่า แต่ละคนก็อาบน้ำ เก็บสัมภาระของตัวเอง เพื่อเดินทางกลับ /// De we have to go back ?


แบ่งกันถือเลยยยยย ถามว่าหนักไหม /// ก็ได้อยู่น่ะ


รายการตามนี้เลย /// ทั้งหมด 460 บาท ตกคนละ 115 บาท


ก็เดินออกจากจุดกางเต้นท์นั้นเดินขึ้น ไปหาอะไรกินตรงที่ลงจากรถตอนวันที่มาถึง


วันที่มาถึงนี่ไม่ได้ถ่ายกับป้ายอุทยานเลย เพราะเกือบจะมืดแล้ว นี่เลยขอแชะสักรูปเก็บไว้


ข้างบนนี้มีร้านอาหารเยอะแยะ แต่เลือกกินส้มตำกัน /// นี่ก็ งง


ตั๋วรถรอบกลับ น้ำตกเอราวัณ – สถานีขนส่งกาญฯ คนละ 50 บาทเช่นกัน


และนี่คือตารางเวลาบริการของรถโดยสารประจำทาง น้ำตกเอราวัณ – สถานีขนส่งกาญฯ


ต้องกลับแล้วววววว ค่อยมาใหม่น่ะ /// บนรถนี้คนเต็ม และคนไทยคือเราแค่ 4 คน นอกจากนั้นคือชาวต่าวชาติทั้งนั้นเลย


เข้าสู่เมืองกาญแล้ว ... ผ่านสุสานนี้ด้วย


อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของความเป็นเขตเมืองกาญจนบุรี


ถึงสถานีขนส่งกาญประมาณเวลาเกือบ 5 โมง


พอถึงสถานีก็รีบเดินไปตรงชานชาลาเลย เพื่อไปซื้อตั๋ว กาญจนบุรี – สายใต้


สังเกตตรงเสาน่ะ B4


ได้มาแล้ว ตั๋วรถโดยสารประจำทาง กาญจนบุรี – สายใต้ ตั๋วละ 100 บาท


แต่คือ งง ตรงที่รถไม่ได้จอดในสถานี เลยต้องเดินออกไปตรง 4 แยกข้างหน้า


Let's go back to real life 555

แล้วรถประจำทางสายนี้จะผ่านเซ็นทรัลพลาซ่าศาลายา เลยให้เขาจอดตรงหน้า ม. มหิดล

แล้วก็ต่อแท็กซี่กลับหอ 60 บาท ตกคนละ 15 บาท ถึงที่พักประมาณ 2 ทุ่มกว่า

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รวมค่าใช้จ่าย /// ค่าใช้จ่ายในตารางนี้ ไม่ได้รวมค่าอาหาร เพราะมันขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล


สิ้นสุดการเดินทาง /// หนึ่งคืนด้วยเงิน 410 บาท ณ กาญจนบุรี #KanjaburiTrip


Erawan National Park /// อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

>> หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250

>> อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ

ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ( สำหรับนักศึกษา ถ้ามีบัตรนักศึกษาจะได้ในราคา 50 บาท )

ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท

>> เว็บไซต์อุทยาน : http://park.dnp.go.th/visitor/nationparkshow.php?P


*** อย่าลืมไปลองค้นหา #KanjaburiTrip ใน Instagram ดูน่ะครับ มีรูปเยอะมาก

*** ถ้าหากคุณไปเที่ยวกาญฯ ละจะอัพรูปลงใน Instagram ก็อย่าลืมใส่ #KanjanabuTrip ด้วยน่ะครับ








GO WITH AUSZZ

 วันพฤหัสที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.21 น.

ความคิดเห็น