!I"สวัสดี ดาวลอยยย ไม่ใช่ๆ สวัสดีทุกคน รีวิวนี้เราจะพาทุกคนเดินทางจากอีสาน มุกดาหารบ้านฉัน สู่อีกฝากฝั่งของภาคเหนือ อุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งใช้ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 16 ชั่วโมง แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว ><
หยอกๆ แค่คิดก็สนุกแล้วววววว. มาเริ่มเล่าทริปนี้กันเลยดีกว่าาาาา
ทริปได้ใช้ระยะเวลาแพลนนานมาก มากๆ มากๆ น่าจะเกือบปีได้ 555 โดยเริ่มจากมีแชทลึกลับ
เพื่อนเราเองแหละ ชวนไปเดินดอยหลงเชียงดาว คุยกันไว้ตั้งแต่เดินจากภูสอยดาวเสร็จ ว่าจะไปเดินป่าด้วยกันปีละครั้ง แต่ปีนีเราตั้งใจอยากไปเปรโต๊ะลอซู เพราะดูจากรีวิวแล้ว น่าจะสนุกมากๆ เพื่อนแท้ไม่เคยขัด. จัดไปเลยครับ เราตั้งกรุ๊ปไลน์ ขายทริปให้กับเพื่อนๆ ในกลุ่มประมาณ 10 กว่าท่าน. ฉันนึกว่าตัวเองเป็น Agency ท่านหนึ่ง ขายเก่งมาก จนสุดท้ายได้คนที่ร่วมเดินทางกับเรา 8 คน จากขอนแก่นสู่อุ้มผาง
ทริปนี้เราจอยทริปกับสวนหลังบ้าน @สวนหลังบ้าน ราคา 3,690 ราคานี้รวมค่ารถไปกลับ ขอนแก่น-บ้านกุยเลอตอ ค่าอาหาร 6 มื้อ ประกันชีวิต ค่าไกด์ รายละเอียดสามารถดูที่เพจสวนหลังบ้านได้เลยจ้า
12/09/2567
14.30 เตรียตัวออกเดินทาง จาก อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร สู่ บขส. 3 ขอนแก่นนนนน
กำหนดการเดินทางวันนี้คือ 18.30 (ฟ้าวกะฟ้าวแท้ๆ รถตู้มารับ 20.00 จะเครซี่ ว่าจะหลับหน้าศาลละ ><)
20.00 น เนื่องจากเราวางยาตัวเองฉะนั้น ขึ้นรถแล้ว หลับได้ ตื่นมาอีกที ตี 2 อยู่อำเภอเมืองตาก แล้ว คุณพี่ก็ขับรถจ๊วดมากค่ะ หัวใจสิวาย ตื่นมาแต่ละที ลุ้นจนกัดฟัน
ต่อจากนี้การเดินทางจะเดินทางสู่อุ้มผาง จังหวัด ตาก พิชิต 1219 โค้ง ลุยกันเลยจ้าา
แน่นอนว่าการเดินทางทำให้เรามองเห็นผู้คนในมุมต่างๆมากขึ้น ในช่วงเช้าของวันเราได้เดินทางผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียน สวมชุดเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ มองดูบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ดูไร่ข้าวโพด มองดูทิวเขาที่หยอกล้อกับหมอกในยามเช้า มองไปทางไหนก็ดูสดชื่นไปหมด มองดูโทรศัพท์ อ้าว ไม่มีสัญณาน >< แง๊
เราเดินทางผ่านมาแล้วกี่โค้งก็ไม่รู้ ประมาณ แปดโมงนิดๆ เรามาถึงร้าน อาโม-อาโป มีบริการห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แวะทานข้าวเช้าและเข้า 7-11 สุดท้ายของการเดินทางไปยังหมู่บ้านกุยเลอตอ
จากนั้นเราขึ้นรถเดินทางไปที่หมู่บ้านใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ระยะทางปะมาณ 67 กม. ถนนคดเคี้ยวทำให้ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง
เมื่อถึงแล้วจะมีลูกหาบมารอชั่งของ เราก็อยากจ้างนะแต่งบน้อยขึ้นเป้ไปเลยจ้า 12 กก. จิ๊บๆ มั้ง555 ก่อนการเดินทาง ต้องซื้อตั๋วเข้าสถานที่คนละ 70 บาท เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชน จะมีแต่ชาวบ้านที่ดูแลกันเอง จากนั้นเราก็เดินทางได้ ทางเดินไปแคมป์สำหรับเราค่อนข้างง่ายเลย ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคนอกจากโคลน แต่ถ้าผ่านช่วงโคลนไปได้ด็ถือว่าสบายแล้ว จากนั้นก็เดินผ่านทุ่งข้างโพด ผ่านลำธาร ผ่านร้านค้าชุมชนประมาณ 2 ร้าน และเดินขึ้นเขาอีกหน่อยก็ถึงแคมป์ที่กางเต็นท์แล้ว
ภาพระหว่างการเดินทางไปจุดตั้งแคมป์
เราเช่าเต็นท์กับทางเพจสวนหลังบ้าน พอถึงที่พักเต็นท์ก็กางเรียบร้อย ระยะเวลาเดินถือว่าไม่นานมากประมาณ 2-3 ชม. เพราะเราน่าจะเริ่มเดินประมาณ 10 โมงกว่าๆ ถึงแคมป์ประมาณ บ่ายๆ
โปรแกรมวันนี้คือ เดินไปดูน้ำตกรูปหัวใจ หรือที่รียกกันว่า หัวใจแห่งขุนเขา เปรโต๊ะลอซู
เส้นทางการเดินก็เหนื่อยเอาเรื่องอยู่ ฟิตร่างกายสักหน่อยจะดีมาก
มันก็สวยนะ แต่เรารู้สึกว่าเรามองมันผ่านแค่เลนส์กล้องไม่ได้สัมผัสมันด้วยจิตใจและสายตาจริงๆ ทำให้เราซึบซับบรรยากาศ ออกมาบรรยายได้น้อยมากๆ
ต่อคิวถ่ายรูปเสร็จแล้ว. จากนั้นกลับแคมป์ เพื่อ อาบน้ำพักผ่อน รอทานข้าว.
อาหารก็คือเยอะไม่ไหว กินดีกว่าตอนอยู่บ้านอีก555
ทีเด็ดของที่นี้ก็คือดาวลอย
**ดาวลอย=เป็นเหล้าต้มพื้นเมือง ซึ่งผสมสมุนไพรต่างๆ เช่น ตระไคร้ ข่า ทำให้เวลาทานแล้วเราจะรู้สึกเร้าร้อน 😆
หลังจากที่ทำความรู้จักันแล้วก็แยกย้ายกันไปนอนจ้าาา
14/09/2567
โปรแกรมวันนี้คือเดินทางไปพิชิตยอดดอยมะม่วงสามหมื่น ระยะทางไป - กลับ ประมาณ 14 กม.
การเดินช่วงแรกๆอาจจะไม่ยากเท่าไหร่ แต่จะยากช่วงใกล้ถึงยอดดอยหมื่นสอง แล้วไปยากอีกทีตอนใกล้ถึง ยหมื่นห้า แล้วก็ไปยากอีกที ตอนยอดดอยสามหมื่น5555 ฟังๆดูแล้วยากทุกช่วงของการเดิน🤣
เพราะส่วนมากเป็นการปีนภูเขาหลายๆลูก มีทางราบค่อยข้างน้อย เลยทำให้เหนื่อยง่าย แต่ถ้าตัดสินใจไปแล้วก็ต้องทำให้ได้แค่นั้น ไปชมภาพประกอบ
ระหว่างทางไปยอด 12,000
สู้ๆ อีกนิดจะถึงยอดหมื่นสองแล้ว
พอถึงแล้วความรู้สึกเหนื่อยมันหายไปเลย สวยมากๆ ฟ้าปิด5555 แรก คือ ขาวโพลน
ถ่ายรูปสักหน่อย
นั่งเหงาๆรอฟ้าเปิด
สักพักใหญ่ๆกลุ่มหมอกนั้นก็ค่อยๆหายไป
มันเป็นเปรโต๊ะลอซูที่ตรงปกมาก หลังจากหายเหนื่อยแล้วก็ไปกันต่อที่ ยอดหมื่นห้า ยอดหมื่อนห้านี้จะมีเสาสัญญาณ สามารถโทรศัพท์อัพเดทสถานะได้นะ ทางเดินค่อนข้างที่จะชันเลยเป็นการปีนเขาไปทีละนิดๆชันขึ้นๆ แต่ข้างบนใช้คำว่าสวยได้เปลืองมาก
หลังจากนี้ไปเป็นสถานที่ที่สวยงามมากๆที่หนึ่งที่เราเคยไปสัมผัส เราชอบมาก ชอบทุกช่วงเวลาที่ไดเดินอยู่บนนี้ มองดูวิวทิวเขา ดูหมอก ดูขุนเขา น้ำตก ที่อยู่รอบๆตัว มันดีไปหมด มองไปทางไหนก็สวย นั่งมองไปเพลินๆเลย เดินก็หยุดถ่ายรูปบ่อยๆ มันสวยมากจริงๆนะ เรามีความสุขมาก
ซึบซับบรรยากาศ
เพราะบางทีความสุขมันก็เรียบง่ายแบบนี้. แค่นั่งอยู่ตรงนี้
หลังจากที่ชื่นชมธรรมชาติระหว่างทาง มองดูเวลาก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว เรารีบเดินขึ้นยอดดอยมะม่วงสามหมื่นกันดีกว่า เพราะเพื่อนๆของเรถึงกันหมดแล้ว🤣
พอใกล้ถึงก็ยิ่งทวีคูณความเหนื่อย 5555 แต่ถึงแล้วก็ สวยๆดี ถ่ายรูปวิ่งเล่นบนหุบเขา ได้บรรยากาศมาก มีเสียงกระดิ่ง กระทบกับสายลม กรุ่งกริ๊งๆ สักพักลมพัดหมอกลอยมาปิดภูเขาเขียวขจีทั้งลูก ขาวโพลนไปหมด
เดินป่าไม่มีเหงา ผู้ร่วมชะตากรรมในครั้งนี้
เวลาประมาณ 14.00 น เพื่อนๆเริ่มทยอยลงจากยอด เราก็เช่นกัน นักพักก่อนถึงเป็นคนสุดท้าย555 ระหว่างทางเดินกลับก็มีเรื่องราวมากมากกว่าจะเดินถึงแคมป์ ทั้งฝนตกระหว่างทาง เจอรุ้งกินน้ำ เจอทะเลหมอก เจอหินที่ทำให้ลื่น เจอขนมหนึ่งชิ้นในกระเป๋า (โอ้ยหิว >< ) การเดินทางครั้งนี้ก็ยังคงความสวยงามของธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ ที่เรายังไม่เคยเห็น
ถึงแคมป์แล้ว เหนื่อยต้องขับเคลื่อนด้วย
กิจกรรมวันนี้ทานข้าวเสร็จก็เก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้
15 /09/67
เดินทางกลับกัน เลทโก.... ถ่ายรูปกับป้ายก่อนเดี๋ยวเขาว่ามาไม่ถึง "น้ำตกปิตุ๊โกล"
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะอาดมาก
โดนเด็กหลอกจูงมือไปซื้อขนม 555
รักนะเปรโต๊ะ บ๊ายๆ คิดว่ามาครั้งเดียวนี้แหละ 5555 สู้โค้งไม่ไหว เท่านี้ก็รู้สึกว่าเราเก่งมากๆแล้ว ที่ได้มาชมธรรมชาติกลางป่าใหญ่ขนาดนี้ เจอกันใหม่ทริปหน้านะ
นานนานเที่ยวที
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12.27 น.