ถ้าพูดถึงนครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองนคร" นั้น แน่นอนว่าต้องนึกถึงอาหารปักษ์ใต้ วิถีชีวิตชาวเล และวัฒนธรรมไทยที่หลากหลายเชื้อชาติ เพราะมีทั้งคนไทย คนมุสลิม และคนจีน อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

ทริปนี้เราเดินทางโดยเครื่องบินของสายการบิน Thai Lion air ณ วันที่ 28-31ตุลาคม 2559 4วัน3คืนค่ะ ไปกับเพื่อนรัก 2คน อิอิ

และแล้วก็มาถึงที่หมาย

ที่สนามบินไม่มีรถเมล์เข้าเมืองนะคะ เรานั่งแท็กซี่ไป 350บาท ให้พี่แท็กไปส่งที่โรงแรมในเมือง เอากระเป๋าไปเก็บ แล้วเราก็ออกมาตะลุยเที่ยวกันเลย

-วันแรก เราเข้าวัดก่อนเลยค่ะ ชื่อวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันว่า"วัดพระธาตุ" มีพระบรมธาตุเจดีย์ องค์ใหญ่สีขาวตั้งเด่นสง่าอยู่กลางเมือง เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองนคร

ไหว้พระเสร็จ ก็แวะทานข้าวที่ร้านข้าวมันไก่หน้าวัดพระธาตุ มีติ่มซำอร่อยและถูกด้วย ถ้วยละ 15บาทเอง

ต่อด้วยร้านกาแฟโกปี๊ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก (นี่มาเที่ยวหรือมากิน 55555) ร้านโกปี๊เป็นร้านดังและเก่าแก่มาตั้งแต่ปี 2500 ที่นี่มีกาแฟโบราณ อาหารจีนหลากหลายเมนู และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ เมนูบักกุดเต๋ (คล้ายๆกับผักต้มตุ๋นยาจีน) เสริฟพร้อมกับติ่มซำ(ไม้ละ 35บาท) และข้าวขาหมู(จานละ 50บาท)

ทานกาแฟเสร็จ เราก็นั่งวินกลับโรงแรมไปว่ายน้ำต่อ วันแรกพอแค่นี้ก่อน เหนื่อยแล้ว 555

-วันที่สอง เช้านี้เราตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า เพื่อไปหมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา แต่งตัวนานไปหน่อยออกมาสายเลยเกือบเที่ยง ฝนตกด้วย อิอิ เราขึ้นสองแถวจากในเมืองไปถีงคีรีวง ค่ารถ 25บาท คีรีวงได้รับฉายาว่าเป็นหมู่บ้านชนบทที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย อากาศตอนเช้าๆนี่มีทะเลหมอกเยอะมาก ตื่นตาตื่นใจมากเลย ไม่เคยเห็นอากาศแบบนี้ 5555

ถ่ายรูปเล่นนานไปหน่อย หมอกเริ่มจางหาย 5555

ตอนบ่ายเราแวะร้านกาแฟ และก่อนกลับก็ซื้อไก่ทอดอิสลาม รสชาติอร่อยดีนะแต่น้ำจิ้มแปลกๆใช้ซอสดำปรุง อยากจะบอกว่าทุเรียนที่นี่ถูกมากๆๆๆ 50บาท ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเราขายก็ประมานสอง สามร้อยอ่ะ อยากจะซื้อกลับมาสักหนึ่งเข่ง แต่ก็เอาขึ้นเครื่องไม่ได้ 55555 เสียใจ

สองแถวที่นี่รอบสุดท้ายหมด 15.30นะคะ หมดเร็วมาก สองสามทุ่มก็ปิดบ้านนอนกันหมดแล้ว เมืองจะเงียบ ไม่เหมือน กทม.นะคะ คึกครื้นทั้งคืน 5555

เที่ยวคีรีวงเสร็จ ก็แวะทานข้าวเย็นในเมืองค่ะ ชื่อร้านอาหารชาวเรือ เป็นร้านเด่นประจำเมืองนคร เป็นอาหารปักษ์ใต้ดั้งเดิมแท้ๆ รสชาติกลมกล่อม เราทานเมนูสะตอครั้งแรกคือแบบอร่อยมาก

สะตอผั่ดกะปิกุ้ง ยำผัดกูด และไก่บ้านต้มขมิ้น ทาน 2คนไม่หมด ต้องห่อกลับโรงแรม 5555 ราคาก็โอเคอยู่นะ อย่างละ 150บาทประมานนี้

-วันที่สาม ฝนตกทุกวันเลย แต่ฤดูฝนก็ดีนะเพราะมีทะเลหมอกเยอะมาก เรามาเที่ยวผิดช่วง อดไปทะเลเลย 555 วันนี้เราจะไปอำเภอปากพนังแทน ไปเดินชิลล์ถ่ายรูปที่ตลาดร้อยปี ส่วนการเดินทางเราขึ้นรถตู้จากบขส. ค่ารถ 36บาท ที่หัวรถจะเขียนว่านคร-ปากพนัง นั่งไปประมาน 40นาที พอถึงปากพนังแล้ว เราก็ขึ้นเรือข้ามฟากไปตลาด เรือรอบละบาทจ้า ราคาน่ารักมาก อิอิ

เมืองปากพนังเป็นเมืองที่แสนจะวินเทจ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบชาวเล และเป็นเมืองท่าสำคัญในการขนส่งถ่ายสินค้าโดยเรือสำเภาจากเมืองจีน สิงคโปร์ ฯลฯ

นอกจากจะมีอาหารทะเลสดแล้ว ยังมีคอนโดนก นางแอ่น เป็นแหล่งรังนกแท้ๆ ซึ่งสร้างรายได้ให้ชาวบ้านที่นี่อีกด้วย

-รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้รีวิวเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

สุดท้ายนี้... ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมรีวิวนี้ด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/bell.diiz.39


Tara

 วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 18.19 น.

ความคิดเห็น