"โฮมสเตย์" ช่วงกำลังเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักธรรมชาติ และอยากใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชุมชน
เป็นการท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้สัมผัสกับ บรรยากาศบ้านๆ โดยที่เราจะได้ไปพัก ไปกิน ไปเที่ยวในแบบดั้งเดิม
เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ ได้พัฒนาชุมชนและหมู่บ้านให้ยั่งยืน
และเป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติครับ
โฮมสเตย์ บ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
เป็นอีก 1 โฮมสเตย์ตัวอย่าง ที่ผมอยากจะหยิบมาเล่าให้เพื่อนๆได้ชมได้ฟังกัน
โดยที่นี่เค้ามีรางวัลการันตีคุณภาพกันด้วยนะครับ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ทั้งระดับประเทศและระดับเอเชีย
ฟังแค่นี้ก็น่าสนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้ายังงั้นเราอย่ารอช้า ตามผมไปเที่ยวกันเลยดีกว่า...
การเดินทางไปสุโขทัยนั้น มีให้เลือกด้วยกันหลายช่องทาง
- รถยนต์ส่วนตัว
จาก กทม. ใช้ทางหลวงสายเอเชีย (32) ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค
มุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 ผ่านพิจิตร พิษณุโลก มุ่งหน้าสุโขทัย
ผ่านอำเภอกงไกรลาศสู่ทางหลวงหมายเลข 102 (อุตรดิตถ์ - ศรีสัชนาลัย)
ผ่านอำเภอศรีสัชนาลัย เลี้ยวซ้ายแยกบ้านตึก เข้าบ้านนาต้นจั่น รวมระยะทางประมาณ 500 กม.
- รถโดยสารประจำทาง
สามารถขึ้นรถที่หมอชิต เพื่อไปลงที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย แล้วให้ทางที่พักมารับได้
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายลองคุยกับทางที่พักอีกทีนะครับ
- เครื่องบินโดยสาร
สามารถนั่งสายการบิน
บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) (มีให้บริการเจ้าเดียว วันละ 3 เที่ยวบิน)
การเดินทาง ในครั้งนี้ผมเดินทางโดย สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ (Bangkok Airways) เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทาง
จากกรุงเทพฯ - สุโขทัย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
โดยก่อนเครื่องจะลงจอดนั้น เราสามารถมองเห็น ทุ่งทะเลหลวง
แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างงดงาม
ซึ่งเกิดจากแนวคิดโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม-แล้ง
มองจากด้านบนเครื่องบินแล้ว สวยมากๆ แนะนำว่าใครนั่งเครื่องขามาให้นั่งฝั่งซ้ายนะครับ
ทริปนี้เราได้น้องที่รู้จักอาสาพาเราเที่ยว สบายเราแหล่ะ ไม่มีหลงแน่นอนทริปนี้ 555+
มาถึงเช้าๆแบบนี้ ท้องกะลังหิว ก็เลยขอแวะหาอะไรทานรองท้องกันหน่อย
แต่เดี๋ยวนะ ได้ข่าวว่าพึ่งทานมาจากบนเครื่อง อิอิ :p
เราแวะทานกันที่ร้าน "ครัวสุโข" ขับออกมาจากสนามบินก็เจอร้านเลย
โดยร้านนี้จะเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ผักออร์แกนนิก ไม่มีสารพิษแน่นอน
เพราะที่นี่เค้าปลูกเอง เก็บเกี่ยวเอง ในโครงการเกษตรอินทรีย์ของสนามบินสุโขทัย
ราคาไม่แพง อาหารหน้าตาน่าทาน มีเมนูแปลกๆน่าสนใจหลายอย่างเลย
จัดชุดอาหารเช้ามาเบาๆ พร้อมกับน้ำยอดข้าว อร่อยและแปลกดีนะ
บ้านนาต้นจั่น ช่วงแรกนั้นที่นี่จะมีเพียงผ้าหมักโคลนที่มีชื่อเสียง เพียงอย่างเดียว
แต่ต่อมาชาวบ้านได้มีการรวมกลุ่มและจัดตั้งเป็น
โฮมสเตย์ สำหรับผู้ที่สนใจมาท่องเที่ยวได้เข้าพักกันครับ
ภายใต้การดูแลของ ป้าเสงี่ยม ที่เป็นประธานกลุ่มฯ ที่รวมตัวกันกับชาวบ้านในท้องถิ่นจัดตั้งขึ้น
บ้านนาต้นจั่น ถูกโอบล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ ซึ่งทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติ และบรรยากาศที่บริสุทธิ์
ที่จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นที่ได้มาพักผ่อน และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ให้เราทำระหว่างเข้าพัก
เรามาเริ่มดูกันจากที่พักก่อนครับ โดยที่ โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น มีบ้านพักทั้งหมด 18 หลังด้วยกัน
แต่ละหลังก็แตกต่างกันออกไป เราจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิต การกิน การอยู่อาศัย ในแบบที่ชาวบ้านเค้าทำกัน
และเมื่อมาที่นี่ ไม่ควรพลาดทาน "ข้าวเปิ๊บ" ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ต้นกำเนิดอาหารสุดพิเศษ หาทานได้ที่นี่เท่านั้น!!
ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตลาด 3 แคร่ ลักษณะจะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยว แต่ผัก วุ้นเส้น ไข่ เค้าจะนำไปนึ่ง ห่อด้วยแป้ง
แล้วราดน้ำซุปตาม รสชาติอร่อยใช้ได้เลยครับ แนะนำว่าต้องทาน เครื่องแน่นมาก...
และในบริเวณพื้นที่เดียวกันนั้น จะมีการทำผ้าหมักโคลน และศูนย์จัดจำหน่ายสินค้า OTOP ของชุมชน
ที่ขึ้นชื่อของ บ้านนาต้นจั่นกัน ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมือกันต่อได้เลย
ยานพาหนะที่ใช้ส่วนใหญ่สำหรับผู้ที่เข้าพักที่นี่คือ ปั่นจักรยาน ที่จะใช้ท่องเที่ยว ตามสถานที่ต่างๆครับ
เราลองมาดูกันต่อดีกว่า ว่ามาที่นี่แล้วจะสามารถไปเที่ยวที่ไหน มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ถ้าพร้อมกันแล้ว ลุ้ยยยย!!!
ปั่นจักรยานไป ชิมผลไม้สดๆจากต้น ตามฤดูกาล แล้วแวะไปชมธรรมชาติ วิวอ่างเก็บน้ำ
ชมการทอผ้า ของบ้านนาต้นจั่น และแวะไปชมภูมิปัญญาชาวบ้านอีก 1 อย่างของที่นี่ คือ "ตุ๊กตาบาร์โหน"
ที่เป็นการประดิษของเล่นจาก "ตาวงศ์" ซึ่งเราสามารถซื้อมาฝาก และเป็นของเล่นไว้สำหรับบริหารนิ้วมือได้อีกด้วย
ปั่นจักรยานกันมาเหนื่อยๆ ที่นี่เค้าก็มี "สปาบ้านทุ่ง" ไว้ให้บริการกันด้วย สบายและงานนี้ นอนนวดกันยาวๆ
นวดเสร็จหายเหนื่อยกันแล้ว ช่วงเย็นที่นี่ก็มีกิจกรรมปั่นจักรยานไป ดูพระอาทิตย์ตกกลางทุ่ง ด้วยฮะ
บอกเลยวิวและบรรยากาศเลิศมาก แนะนำว่าถ้ามาแล้ว ควรมาถ่ายรูป เก็บบรรยากาศกลางทุ่งแบบนี้
ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจมากขึ้น กับบรรยากาศโดยรอบ
สำหรับคนที่มาพักที่นี่ เค้ามีอาหารขันโตกพื้นบ้านไว้สำหรับทานมื้อเย็นกันด้วยครับ
ชมพระอาทิตย์ตกก็กลับบ้านนอนชิลกันต่อ ชมนกชมไม้ ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเย็น
และรอรับประทานอาหารกันอย่างใจจดใจจ่อ ทำไมนะเหรอ!! ก็ปั่นกันมาทั้งวันแล้วไง หิวมากกกก... 555
เช้าวันต่อมา ทางหมู่บ้านก็จะมีกิจกรรมอีก 1 อย่าง ที่ไม่ควรพลาด!!!
คือการขึ้นไปยัง "จุดชมวิวห้วยต้นไฮ" เพื่อชมทะเลหมอกยามเช้า พร้อมกับชมพระอาทิตย์ขึ้น
โดยเราจะต้องตื่นและออกเดินทางกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อนั่งรถและเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว
เดินขึ้นเขาประมาณ 800 เมตร ใช้เวลา 45 นาที อันนี้สำหรับคนที่ไม่ใช่สายเดินอย่างผม เหนื่อยเอาการเลยครับ
แนะนำว่าเตรียมตัว เตรียมชุดมาให้พร้อม เพราะทางเดินไกลพอสมควร และยุงค่อนข้างเยอะ
วันที่เราขึ้นไปเสียดายที่ไม่ได้เจอทะเลหมอก แต่ก็ถือว่าได้เห็นวิวเขาสวยๆ พร้อมหมอกจางๆ ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทาง
ความฟินยังไม่หมดเท่านี้ครับ เมื่อเราไปถึงจุดชมวิว เราจะได้จิบ ชา กาแฟ เครื่องดื่มร้อนๆ
ในแบบภูมิปัญญาชาวบ้านของที่นี่ ในแก้วกระบอกไม้ไผ่ รับรองได้ฟิลลิ่งมาบ้านนาต้นจั่นแน่นอน
อย่าว่าแต่คนเลยครับ หมายังต้องโดน!!!
และยิ่งได้มานั่งทานข้าวในกระบอกไม้ไผ่พร้อมชมวิวเขาไปด้วย บอกเลย เป็นมื้อเช้าที่ ฟินไปอีกกกกก...
ได้เจอบรรยากาศแบบนี้แล้วไม่อยากลงเลยครับ...
บรรยากาศดี เหรอ???
เปล่า!! ทางลงไกลมาก เดินเหนื่อย 5555....
(พูดเล่นครับ จริงๆ วิวสวยจริงๆ ยิ่งถ้าวันไหนมีทะเลหมอกนะ สุดๆ)
ลงมาแล้ว เราก็มาแวะที่บ้านสวนป้าเสงี่ยมกันหน่อยครับ ผมว่าบ้านหลังนี้วิวเด็ดมาก
ที่แวดล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้ ได้นอนพัก นอนเปลอ่านหนังสือ คงชิลมาก ได้พักสมองแล้วอยู่กับธรรมชาติ
และนี่ถือเป็นอีกหนึ่ง โฮมสเตย์ในดวงใจ ที่ผมอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆได้ลองมาสัมผัสกันครับ
โดยที่นี่มีการบริหารงาน และสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น ได้มีรายได้ มีงานทำ
ตั้งแต่เด็กเล็กๆ จนกระทั่งผู้สูงอายุ จึงทำให้เป็นตัวอย่างที่อยากให้ในหลายพื้นที่ได้นำไปปรับใช้กัน
เพื่อจะได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กับผู้คนที่สนใจและต้องการอยากพักผ่อนในรูปแบบนี้ได้เข้าไปสัมผัส
ในความคิดเห็นส่วนตัวผมแล้ว ผมว่าหากใครอยากหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง ผมแนะนำให้มาที่นี่เถอะ
เพราะที่นี่คุณจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในสภาพแวดล้อมที่ดี ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ และภูเขาสลับซับซ้อน
แถมยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ให้เราได้ทำระหว่างเข้าพัก ในราคาที่ไม่แพง แต่เราจะได้ความสุข และความสนุกกลับไป
คนในชุมชนน่ารักและเป็นมิตร ผมเองยังคงต้องหาโอกาสกลับไปอีกครั้ง เพื่อที่จะสัมผัสกับทะเลหมอกของที่นี่ให้ได้
อย่าพึ่งเชื่อในสิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมด ลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเองดีกว่าครับ แล้วจะรู้ว่า
เมืองไทยของเรา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่รอการสัมผัสจากพวกเราอยู่
สรุปข้อมูลสำหรับการท่องเที่ยว โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
• ค่าใช้จ่ายสำหรับมา 2 ท่าน เริ่มต้นที่ 600 บาท/คน/คืน รวมอาหาร 2 มื้อ (เย็นและเช้า) พร้อมนำเที่ยว
หากมา 3 คนขึ้นไป คนละ 500 บาท ชาวต่างชาติ คนละ 700 บาท
• ค่าเช่าจักรยานคันละ 30 บาท/วัน
• ค่าไกด์ขึ้นดอย 250 บาท/บ้าน1หลัง
• ค่ารถไปกลับจุดชมวิว 200 บาท/บ้าน1หลัง
• จุดชมวิวห้วยต้นไฮ สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ ต้องลองติดต่อกับที่พักอีกทีครับ
ข้อมูลการติดต่อที่พัก :
• คุณแหม่ม ผู้จัดการโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น 088-495-7738 / 089-885-1639
• ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านนาต้นจั่น 055-677-209
• ททท. สำนักงานสุโขทัย (สุโขทัย กำแพงเพชร) 055-616-228 ถึง 9
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ
- ททท. สำนักงานสุโขทัย (สุโขทัย กำแพงเพชร) ที่สนับสนุนการเดินทาง
- น้องแอ๊นท์ผู้น่ารัก ที่พาเราไปลำบาก เห้ย!! ไปเที่ยวสนุกๆ 555+
- เพื่อนๆทุกท่านที่ติดตามชมรีวิวนี้และเดินทางไปด้วยกัน
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่ http://www.facebook.com/9aooddy.travel
ขอบคุณและสวัสดีครับ
กินเพลิน เดินเที่ยว
กินเพลิน เดินเที่ยว
วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 15.18 น.