8 สถานีรถไฟใต้ดิน ที่สวยที่สุดใน Moscow, Russia



สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกท่านวันนี้ผมจะรีวิว สถานีรถไฟใต้ดินของเมืองมอสโค ประเทศรัสเซียกัน หลายคนคงสงสัย แค่สถานีรถไฟใต้ดิน บ้านเราก็มี มันจะแปลกใหม่ตรงไหนกัน และมันคุ้มค่าที่จะเสียเวลาไปดูด้วยหรอ คนก็เยอะ แออัดวุ่นวาย ไปเดินเล่น เรด สแควร์ ( Red Square )กับ พระราชวังเครมลิน ( Grand Kremlin Palace ) cและเดินช้อปปิ้ง ที่ห้าง GUM ดีกว่ามั้ย ก่อนที่จะตั้งคำถามกันต่างๆนาๆกัน ผมจะรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันดีกว่าครับ



ก่อนไปชมเพื่อน ๆ สามารถแวะไปทักทายหรือดูรีวิวสถานที่อื่นๆของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ



https://www.facebook.com/TwinTraveller

http://twintravellerblog.com

ก่อนจะมารัสเซีย เราได้ศึกษาหาข้อมูลท่องเที่ยวเดินทางในเมืองมอสโค ตามสถานที่ต่างๆเรียบร้อยแล้ว พบว่า นอกจากพระราชวังเครมลิน หรือจะเป็น จตุรัสแดง และมหาวิหารเซนต์บาซิลที่เด่นๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปต่างไปชมเมื่อมามอสโคแล้ว ยังมีที่น่าสนใจอีกอย่างนึงคือ รถไฟฟ้าใต้ดินนั้นเอง รถไฟฟ้าใต้ดินในมอสโกนั้นสวยงามมากๆ ในปัจจุบันมอสโกมีรถไฟใต้ดินมากถึง 12 สาย รวม 194 สถานี แต่ละสถานีจะมีความสวยงามแตกต่างกันไป แต่ผมจะยกมาแค่ 8 สถานี จาก 12 สถานีที่ผมได้ไปมา และคิดว่าสวยที่สุดในสายตาผม หากใครชอบศิลปะ และสถาปัตยกรรมแล้ว ไม่ควรพลาดเลย ควรจะสละเวลาสัก 1 วันเที่ยวเล่น เดินชม ความงาม ในสถานีรถไฟใต้ดิน แต่ความงาม กลับมีความมิดซ่อนอยู่ ซึ่งในรีวิวนี้ จะอธิบายความหมาย ความเป็นมา ของสถานีต่างๆ อย่างละเอียด วิธีขึ้นรถไฟ วิธีการชื้อบัตรโดยสารต่างๆ เส้นทางที่ยังไปสถานีสวยๆ เผืออยากตามรอยไปกัน ข้อควรรู้และควรระวัง ในการเที่ยวในสถานทีรถไฟใต้ดินกันครับMetro Map in Moscow.



ในปัจจุบันมอสโกมีรถไฟใต้ดินมากถึง 12 สาย รวม 194 สถานี มองแบบนี้แล้วตาลายเลยทีเดียว แทบไปไม่ถูก แต่สำหรับคนที่เคยไปประเทศญี่ปุ่นแล้ว ในเมืองใหญ่หลักๆ อย่างโตเกียว โอซาก้า จะมีความซับซ้อนพอๆ กัน คือมีหลายสายเป็นสีๆ หลายสถานียิบย่อยมากๆ แต่ถ้าเดินทางโดยรถไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นเป็นแล้ว ที่นี้มอสโคก็คงจะไม่ยากเท่าไหร่ครับ

" Metropolitan "


ก่อนอื่นผมจะแนะนำ Application ที่ผมใช้ตอนเดินทางรถไฟใต้ดินในมอสโคดีกว่าครับ แอฟนี้ใช้ง่ายมาก ออกแบบสะอาดตาดีครับ ทำความเข้าใจกับเมนูต่างๆ ได้เข้าใจง่าย และสะดวกดีครับ เราสามารถ บุ๊คมาร์ค ( Bookmark ) สถานีที่เราต้องการจะเดินทางได้ ดีสำหรับคนที่ชอบวางแผนล่วงหน้าครับ เพราะเวลาเราไปไหน เราจะได้ไม่ต้องไปค้นดูชื่อ ไล่ดูอีกที กดปุ้บ มาปั้บ เลย และเราก็สามารถรู้ได้ว่าเราอยู่สถานีไหน เพราะแอฟนี่ มีโลเคชั่นติดมาด้วย เราอยู่สถานีไหน ก็จะมีวงกลมสีน้ำเงิน วงสถานี เตือนเราอีกที ไม่ต้องกลัวหลง หรือ เลยสถานีเลยTickets And SmartCards



การ์ดที่ใช้การเดินทางในสถานีรถไฟใต้ดิน มีหลายแบบมากๆ เลือกตามที่เราอยากใช้เลย จำนวนเที่ยวกี่รอบคำนวนแล้ว ก็ชื้อเลย และที่สำคัญหากเรามากัน 4 คน เราสามารถชื้อใบเดียวได้ และใช้ร่วมกัน เวลาไปถึงเครื่องแปะบัตรก็ แตะไป 4 ครั้ง คนละ ครั้ง ครับ ประหยัดดี บัตรสามารถเก็บได้ตลอด ไม่มีวันหมดอายุการใช้งาน



*บัตรใบนี้ใช้ได้แค่ที่ Moscow เท่านั้นนะครับ ไป St.Peter ก็ต้องชื้อใหม่อีกใบนึง

ข้อมูลเพิ่มเติม ( http://troika.mos.ru/en/ )เอาละครับ หลังจากที่อธิบายคร่าวๆ เรื่องแผนที่สถานีรถไฟต่างๆ และบัตรโดยสาร เรียบร้อยแล้ว



เราจะย้อนกลับไปสู่ยุคสหภาพโซเวียดกันครับ กลับไปชมความรุ่งเรือนที่สุดของการปกครองในแบบคอมมิวนิคของรัสเซีย โดยการลงไปยังสถานนีรถไฟใต้ดินมอสโคกัน!!



เมื่อเราเดินเข้าสถานีรถไฟแล้ว เราจะพบเจอกับ ที่ขายตั๋ว เปิดเป็นช่องๆ ให้เราเดินไปคุย บางสถานีมีตู้ขายอัตโนมัติ ยังไม่ทันลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินด้านล่างเลย แค่ทางเข้าก็สวยอลังกาลงานสร้างแล้ว ตื่นเต้นๆ



หลังจากที่นำบัตรที่ชื้อจากช่องขายบัตร จากพนักงานเรียบร้อยแล้ว ก็เดินลงบันไดเลือนเลยครับ ไปดูด้วยกันว่าข้างล่างนั้น จะเป็นอย่างไรกัน

ซึ่งที่นี้เป็นอีกที่นึงที่สามารถศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามของรัสเซียได้อย่างดีเลยก็ว่าได้ เพราะสถานีรถไฟแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสงครามตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพื่อให้ประชาชนใช้เลย จุดเริ่มต้นคือในยุคของประธานาธิบดี สตาลิน ได้เริ่มก่อสร้างรถไฟแห่งนี้เพื่อใช้ในการขนส่งทหาร และ อาหารไปยังหัวเมืองต่างๆของสหภาพโซเวียตในยามที่เกิดสงคราม ยิ่งช่วงฤดูหนาวยิ่งสำคัญที่สุด และยังใช้สถานนีรถไฟแห่งนี้เป็นที่ลี้ภัยแก่ประชาชนอีกด้วย เพราะด้วยความลึกที่จุดเจาะลงไป ถ้าเราได้มาใช้แลัว จะรู้เลยว่าลึกมากกก ลึกกว่าของบ้านเราหลายเท่าเลยครับ อาจจะเทียบได้ว่าลึกซะ 4 หรือ 5 ชั้นของอาคารเลยก็ว่าได้ จึงรับรู้เลยว่าจะระเบิดแรงแค่ไหน ปลอดภัยแน่นอน



ส่วนการสร้างสถานนีรถไฟแห่งนี้นั้นบอกเลยว่าไม่ธรรมดาครับ เค้าไม่ใช้ช่างก่อสร้างนะครับ พี่สตาลินแกใช้เป็นแรงงาน ทหาร และยุวชนทหารมาสร้างเองเลย ใช้กำลังคนประมาณ 13000 คนได้ ลักษณะการสร้างนั้นเน้นเรื่องความทนทานเป็นพิเศษ และศิลปะงานสถาปัตยกรรมนั้นจะเน้นไปที่งาน Monumental Art คือถ้าเรียกง่ายๆคือสร้างเพื่อระลึกถึงคุณความดีของวีรบุรุในยุคนั้น ให้คนรุ่นต่อไปเห็นแลัวรู้สึกมีความรักชาติ รักในชาตินิยม สังคมนิยม โดยสื่อจากงานปั้น งานหล่อ งานสลักนูนต่ำ ภาพวาดประดับลวดลาย และ งานโมเสกต่างๆคือมีเท่าไหร่พี่แกจัดเต็มมาก ไอ้เราเดินดูไปหลายๆสถานีก็อินแทนคนประเทศเค้ามากกก ถ้าใครมาเที่ยวมอสโค ประเทศรัสเซีย แนะนำว่าเผื่อไว้ซะ วันนึงไปเลย ลงมาสถานนีรถไฟใต้ดินเพื่อชมความสวยงามอันเก่าแก่และประวัติศาสัตร์ของประเทศนี้กันครับ คัดเน้นๆมีถึง 8 สถานนี ผมว่า สนุก ผมนี่เดินดูเพลินเลยถึงเวลาที่เราจะมาดูสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 8 สถานีที่สวยที่สุด ในสายตาของผม จากทั้งหมดที่ได้ไปมากันครับ



1. สถานี Komsomolskaya (Комсомольская) สายสีน้ำตาล



มีความลึก 37 เมตร เชื่อมต่อกับสถานีชื่อเดียวกันแต่เป็นสายสีแดง ออกแบบโดย Aleksey Shchusev และได้ร้บรางวัล New York World's Fair ที่โถงกลางประดับด้วยโคมไฟขนาดใหญ่ บนเพดานเรียงร้อยเรื่องราวด้วยการนำหินสีต่างๆ มาประดับอย่างสวยงาม เป็นสถานีที่ไกด์มักจะพาลูกทัวร์มาเยี่ยมชม โดยเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟถึง 3 แห่ง คือ Leningradsky Rail Terminal, Yaroslavsky Rail Terminal และ Kazansky Rail Terminal จึงทำให้สถานีนี้เป็นสถานีที่มีคนใช้บริการมากที่สุดสถานีหนึ่ง โดยสถาปนิกสถานีนี้ А.Shchusev และ P.Korin ได้รับรางวัล State Prize of the USSR ในปี 19512. สถานี Elektrozavodskaya (Электрозаводская)



สถานี Elektrozavodskaya (Электрозаводская) เปิดใช้เมื่อ 15-05-1944 มีความลึก 31.5 เมตร ตั้งชื่อนี้เนื่องจากมีโรงงานหลอดไฟฟ้าอยู่ใกล้ๆ จึงทำให้สถาปนิกได้ไอเดียในการออกแบบเพดานโดยการใส่โคมไฟวงกลมเป็นหกแถว (มีทั้งหมด 318 โคม) ประกอบกับหินอ่อนบนเสาสี่เหลี่ยม ส่วนด้านนอกบริเวณชานชาลา จะเป็นลูกกรงทองตกแต่งด้วยรูปค้อนและเคียว3. สถานี Arbatskaya (Арба́тская)



สถานี Arbatskaya (Арба́тская) สถานีนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นบังเกอร์หลบภัย เปิดใช้เมื่อ 05-04-1953 เป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของมอสโก มีชานชาลายาว 250 เมตร ลึก 41 เมตร โดดเด่นด้วยลายปูนปั้นและโคมไฟ เป็นสถานีใหญ่ผู้คนคับคั่งตลอด เนื่องจากมีการเชื่อมต่อเมโทรถึง 4 สาย หลังจากสตาลินเสียชีวิตลง 1 เดือน ก็ได้รับการเชิดชูให้เป็นสถานีที่มีเอกลักษณ์การออกแบบในสไตล์ Stalinist Baroque ที่สมบูรณ์แบบ4. สถานี Ploschad Revolyutsii (Пло́щадь Револю́ции) Line3-DarkBlue



สถานี Ploschad Revolyutsii (Пло́щадь Револю́ции) Line3-DarkBlue เปิดใช้เมื่อ 13-03-1938 โดยการออกแบบของ Dushkin สถานีนี้ตกแต่งด้วยรูปปั้นหินอ่อนอาร์เมเนียจำนวน 76 ชิ้นที่ประดับตลอดแนวทางเดินที่ชานชาลา บางชิ้นจะมีคนมาลูบจนมันวับโดยเชื่อว่าจะทำให้โชคดี5. สถานี Park Pobedy (Парк Победы)



เปิดใช้เมื่อ 06-05-2003 เป็นสถานีที่ลึกที่สุดคือลึก 73.6 เมตร และมีบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดของรถไฟใต้ดินในกรุงมอสโก คือ 126 เมตร สถานีนี้มีการตกแต่งด้วยโมเสกเกี่ยวกับประวัติสงคราม Patriotic War ตัวโถงใหญ่มีเสาและผนังที่ประดับด้วยหินอ่อนสีขาวและสีน้ำตาล6. สถานี Novoslobodskaya (Новослободская)



เปิดใช้เมื่อ 30-01-1952 มีความลึก 40 เมตร โดดเด่นด้วยงานสเตนกราส (กระจกสี) ที่สวยงามของศิลปินชาวลัตเวีย จำนวน 32 บาน แต่ละบานจะล้อมกรอบด้วยทองเหลือง ที่สุดชานชาลามีหินอ่อนอูรัลสีชมพูและขลิบปั้นทองเหลือง โมเสกเหล่านี้ทำโดย Pavel Korin ในชื่อว่า "Peace Throughout the World" ได้มีการทำความสะอาดและบูรณะแผงกระจกสี โมเสก โคมระย้า ครั้งใหญ่ในปี 20037. สถานี Mayakovskaya (Russian: Маяко́вская)



ถือเป็นหนึ่งในสถานีที่สวยที่สุดในโลก เคยได้รับรางวัน The Grand prize winner at the 1938 World's Fair ใน New York มาแล้ว บนเพดานจะประดับด้วยภาพโมเสค ที่สือถึงอนาคตที่สดใสของสหภาพโซเวียด เป็นฝืมือของ Alexander Deyneka8. สถานี Slavyansky Bulvar Station( 1 of 15 The Most Beautiful Metro Stations In The World)



สถานีนี่เป็นสถานีนึงที่เราชอบมากๆ เพราะออกแบบเหมือนเราหลุดอยู่ในโลกของอนาคตอะไรแบบนั้น สถานีกว้างใหญ่ สถานที่แห่งนี้ออกแบบโดย สถาปนิก S.Volovich ภายในผนังจะเป็นหินสีเขียวซึ่งเป็นหินอ่อนจากคิวบา "เวิร์ดกัวเตมาลา" และมีหินอ่อน ซึ่งเมื่อกระทบกับแสงไฟแล้ว จะมีแสงสว่างที่สะท้อนกลับมา สวยงามมากครับ



ขอบคุณข้อมูลบางส่วนของเว็ป ( http://www.oknation.net/blog/mena/2014/10/21/entry-1)

ข้อที่ควรรู้ และ ระวังในการเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน



เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงๆ เลยอยากจะมาเล่าให้เพื่อนได้รู้และทราบกันด้วยครับ จะได้เที่ยวกันอย่างมีสติ และจะได้ไม่เสียท่าให้กับพวกโจร



เหตุการณนี้เกิดขึ้นในสถานีรถไฟใต้ดินครับ จุดเริ่มต้นน่าจะตอนเข้าสถานีเลย โดยพวกมันเดินตามเข้าสถานีรถไฟ เดินตามพวกเรามาติดๆ และรอเข้ารถไฟด้วยกัน พอเข้ามาเรียบร้อยแล้ว รอรถใกล้ออก จะมีเสียงเตือนประตูบิน ก่อนประตูปิด มันจะรีบเดินออกจากรถ แล้วกระแทกเป้าหมายแรงๆ แล้วเอามือมาจับไหล่ด้วย แล้วให้อีกคนที่มาด้วยแอบล้วงหยิบกระเป๋าเงินจากกระเป๋ากางเกง ของเหยือ แล้วเดินออกรถไฟไปเลย พวกเราต่างมึนงง เพราะเวลานั้น คนในรถไฟก้ไม่ได้ได้เยอะเลย ที่ต้องยืนเบียดกัน คนทำน่าจะมาเป็นแก๊ง ประมาณ 3 คน หากใครมาโปรดระวังด้วยนะครับเมือเกิดปัญหาโดนล้วงกระเป๋าแล้วควรทำอย่างไร??



" Warning in St.Peterburg !! "


โพสนี้ว่าจะมาเล่าประสบการณ์ และ วิธีการรับมือแก้ปัญหา กับ เหตุการณ์เรื่องคนในกลุ่มโดนล้วงกระเป๋าที่ St.Peterburg นะครับ ซึ่งคนในกลุ่มโดนล้วงกระเป๋าในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเดินกันมากมายตลอดเวลา โดยใช้วิธีมีตัวล่ออย่างคนถือป้ายทัวร์เดินมาคุยกับเรา เราบอกปัดไปและเดินต่อไปเพื่อจะไปยังสถานีรถไฟ มันก็ตามมาอีก โดยการพูดไม่หยุด ใช้ท่าทางยั่วยุ ดึงดูดความสนใจสุดๆ จนคนในกลุ่มเราคนนึงไม่รู้เลยว่ากระเป๋ากำลังจะถูกล้วงกระเป๋าจากคนในทีมคนถือป้ายทัวร์อีกคนนึง จนเดินไปหยุดตรงทางม้าลาย ผมว่าจังหวะนั้นแหละ ล้วงง่ายที่สุด สุดท้ายเราก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้พวกมันซะแลัว โดยมีของหายไปจำนวนนึง ตอนนั้นพวกเราก็ตกใจกันใหญ่ วิ่งหาตำรวจให้ทั่ว พอเจอตำรวจของสถานีรถไฟแถวนั่น เราก็อธิบายและพาไปดูที่เกิดเหตุ มีรูปให้ดูพร้อม และชี้ให้เห็นถึงกล้อง cctv ว่ากล้องจำนวนนึงน่าจะสามารถเห็นคนร้ายได้ แต่สุดท้ายตำรวจก็ไล่ให้ไปแจ้งที่สถานีตำรวจที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ พอรู้สึกเรื่องมาถึงตรงนี้แลัว ก็เริ่มคิดว่าเริ่มยากขึ้นแลัว เพราะนี้มันประเทศรัสเซีย !! ที่เป็นประเทศที่คนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากกกก ถ้าไม่ใช่คนทำงานบริการ หรือท่องเที่ยว นี่ยากมาก ตำรวจก็กว่าจะพยายามพูดพอเข้าใจก็เหมือนเจ้าตัวก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน สุดท้ายเราก็เอาว่ะ หาสถานีตำรวจให้เจอ โชดดีที่กดแปปๆ พี่ Google Map ก็เข้าใจคำว่า Polis(ต่างประเทศเรียกประมาณนี่กัน) กดปุ๊ปมาปั้บเลย สถานีตำรวจก็ไม่ไกลมาก

เราก็ตัดสินใจแยกกลุ่มกันไป โดยให้พี่ผู้หญิงเป็นคนเดินเรื่องเพราะภาษาดีกว่าเรามาก ส่วนเราก็เดินเป็นเพื่อน เปิดแผนที่ช่วยกันพาไปให้ถึงสถานีตำรวจ พอไปถึงคิดว่าบ่นๆให้มันฟังละจะทำเรื่องเครมอะไรให้ กลายเป็นว่าทั้งสถานีตำรวจพูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ได้ซะคน !! มีบางคนพอพูดได้บ้าง พยายามจะช่วย สุดท้ายถอดใจยอมแพ้ บอกให้ไปหาล่ามมาละกัน กรูไม่ไหวละ แต่ต้องเป็นล่ามที่มีใบรับรองด้วยนะ ไม่งั้นไม่คุยด้วย เราก็วุ่นสิ มีงี้ด้วย มีประเทศไหนที่ต้องใช้ล่ามจริงๆจังๆแบบนี้ด้วย คือต้องไปลากล่ามมาที่ สน. และจัดการเรื่องให้ ตอนออกมาเราก็คิดกันว่า เราไม่เชื่อ เราหาคนรัสเซียที่ฟังอังกฤษได้ก็พอ มันจะต่างอะไรกับล่ามว่ะ พี่ผู้หญิงก็บอก ลุงที่โฮเทลเค้าก็ได้ ฟัง พูด โอเคเลย เราก็เอาตามวิธีนี่ละกัน ง่ายดี ใช้ทำไมว่ะล่ามที่มีใบรับรอง เราก็ดิ่งกลับไปแถวที่พัก ลุงก็ใจดีพาขึ้นรถเพื่อไป สน. ครั้งที่ 2 พอลุงเข้าไปคุยเราก็มั่นใจว่ามันต้องได้ดิ แต่ไม่นานลุงแกก็ทำเสียงอ่อน เราก็รุ้เลยว่างานเข้าละ พอคุณลุงคุยเสร็จก็เดินมาบอกเรา มันต้องใช้ล่ามจริงๆ ไม่งั้นเค้าไม่คุย ไม่ทำเรื่องอะไรให้ทั้งนั้น เรากับพี่ผู้หญิงก็ขอบคุณแกยกใหญ่ เพราะแกใจดีมากๆ สุดท้ายคุณลุงแกช่วยเป็นธุระให้พาไปที่บริษัทล่าม ( Translation Agency ) บริษัทประเภทแบบนี้บอกเลยงงมาก ได้ยินตอนแรกก็งง มันคืออะไร ที่ไทยมีรึเปล่า พอไปถึงเลยเข้าใจว่า บริษัทมันออกแนว พวกร้านปริ้นที่ไทยอะครับ ที่มันรับแปลเอกสาร หรือ รับเป็นล่ามให้ตามสถานที่ท่องเที่ยว แต่ที่นี้ออกแนวสำหรับเกือบทุกเรื่อง อาจจะเป็นเอกสาร งาน ท่องเที่ยว จดหมายบุคคลอะไรก็ว่าไป เพราะคนรัสเซียส่วนใหญ่พูดและเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้ ดังนั้นบริษัทพวกนี้ก็จะจัดการให้ครับ โดยจัดคิวไปตามโต๊ะต่างๆจะมีพนักงานคนรัสเซียที่มีความรู้เรื่องภาษาอย่างดี มานั่งฟังเราพูดและพิมพ์ จากรัสเซีย ไปเป็นภาษาอังกฤษ และปริ้นเอกสารให้ ลูกค้าจะเอาไปส่งต่อหรือไปทำอะไรก็แลัวแต่เลย เห็นอย่างงี้แลัวแบบเป็นลู่ทางธุรกิจที่ดีมากๆในประเทศแบบนี้ ผมว่ารับเละอะ ค่าแปลเอกสารที่จะได้แต่ละชุด พอถึงตาเรา เราก็เล่าเหตุการณ์ตามที่เกิดขึ้น และ ขอล่ามให้ไปกับเราด้วยที่สถานีตำรวจ (มีค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแลัวคือ 3,500 รูเบิ้ล) เราก็พาล่ามไปเจอตำรวจ และเค้าก็คุยและทำเรื่องให้จริงๆ

ตอนหลังเราก็เข้าใจแหละว่าตามระเบียบของเค้า เราต้องยอมรับและทำตามอย่างเคร่งครัด เค้าก็คงต้องการคนรับรอง คนประสานงานอย่างจริงจัง คุยไปสักพักเราก็ได้ใบเครมประกัน ส่วนไอ้เรื่องจับคนร้าย เค้าว่ายาก(และคงจะไม่ไปล่าตัวมาให้) เพราะวันนึงนักท่องเที่ยวโดนกันเยอะมาก ตามจับยาก สิ่งนึงที่ทุกประเทศท่องเที่ยวสอนเราคือ ต้องระวังตัวเอง รับผิดชอบตัวเองให้มากดีที่สุด สติต้องมี เมื่ออยู่ต่างถิ่นอย่าไว้ใจคน ให้ทำตัวขี้สนสัย ระแวงตลอดเวลา เพราะมันน่าจะช่วยได้จริงๆนะ ผมว่าต่อให้เราเก็บของดีแลัว ระวังตัวดีในระดับนึง ผมว่าพวกมันต้องเก่งกว่าเราแน่นอน เพราะพวกโจรมันฝึกเป็นอาชีพเลย

ดังนั้นดีที่สุดคือทำตัวเราเองให้มีสติตลอดเวลา น่าจะดีที่สุดครับ ถ้าไปเป็นกลุ่มก็ช่วยๆกันดู เห็นอะไรที่ดีไม่ดีให้รีบเตือน ไม่งั้นอาจพลาดพวกโจรได้ และศึกษาเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในเมืองนั้นๆด้วยว่าอยู่ไหนบ้าง และระเบียบการต่างๆ จะได้ไม่เสียเวลาครับ



จบแล้วครับ กับการรีวิว 8 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในมอสโก ประเทศรัสเซียของผม ที่จริงมันมีอีก ที่สวยอีกหลายที่ แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเลย เลยเก็บมาได้เท่านี่ครับ ถ้าขาดตกบกพร่องไปก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามอ่านจนจบทุกท่านครับ

ความคิดเห็น