ดอยหลวงเชียงดาว 2 คืน 3 วัน ทริปมันส์ๆของนักเดินทางสายฮา รวมคนบ้ามาเจอกัน
ไปกับแจ๊คทริปนี้ ไม่สบายเหมือนเดินห้างแต่มีคนเดินข้างๆมันโอเค
บันทึกนักเดินทาง 3-5 ธันวาคม 2559
แจ๊คมีความตั้งใจไว้ว่า จบทริปนี้จะต้องมีรีวิวดีๆ ข้อมูลแน่นๆ มาฝากเพื่อนๆ สัก1 เรื่อง
อยากทักทาย พูดคุย ขอคำแนะนำ ได้หมดค่ะ
ที่นี่นะ เพจท่องเที่ยว ถ่ายภาพของแจ๊คค่ะ นักเดินทางตัวน้อย
https://web.facebook.com/journ...
โอเค สบายใจได้โฆษณาเพจ รีวิวต่อได้จ้ะ
ขอบคุณภาพแถวบนจาก พี่โอ๊ต พุฒ นะโม
>>>ดอยหลวงเชียงดาว บทที่ 1มึนๆงงๆ รู้ตัวอีกที อ้าว เราจัดทริปเหรอ
ดอยหลวงเชียงดาว เป็นยอดเขาที่สูง 2225 เมตร จากระดับน้ำทะเล เราเคยได้ยินชื่อ ได้เห็นภาพ แต่เอาจริงๆเลยนะ
เรายังไม่มีแพลนว่าจะขึ้นไป แต่ด้วยอะไรมาดลใจก็ไม่รู้นะ เกิดอยากไปขึ้นมา หาข้อมูลราคาทริป จากคนที่เค้าจัดทริปกัน
ที่นี่ราคาสูงกว่าที่อื่นๆอยู่นะ เลยเลือกหาข้อมูล แบบเดินทางโดยรถทัวร์แล้วเดินทางไปเอง จองเอง แบบนี้ประหยัดกว่า
แต่ค่ารถเมื่อไปถึงเชียงใหม่แล้วมันก็ต่อหลายต่อ ราคาเหมา โอเค เราควรมีเพื่อนไปด้วย ช่วยๆกันหาร
ก่อนหน้านี้ได้รู้จักกับพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตเคยไปแล้ว แจ๊คได้ข้อสรุปว่า คืนเดียวไม่พอ งั้นต้องเป็นทริป 3 วัน 2 คืน
เฮ้ยยยยย ธันวาคม เรามีวันหยุดยาว เลือกวันพ่อละกัน พี่โอ๊ตบอก ควรเอารถตู้ไป เพราะต้องขนของเยอะ
โอเค งั้นจัดทริปแม่มเลยค่ะ โอ้ยยยย ตื่นเต้น เพจนักเดินทางตัวน้อยจะมีทริปครั้งแรก
มีคำถามในใจขึ้นมาข้อแรกเลย จะมีใครไปกับเรามั้ยวะ ที่แน่ๆ มีพี่โอ๊ตนี่แหระ ไปแน่ๆ 5555
คือทริปนี้ต้องขอบคุณพี่โอ๊ตมากๆเลยที่ให้คำแนะนำ หลายๆอย่าง
สุดท้ายเราก็ได้สมาชิกครบ 10 คน หลากหลายที่มา แต่เรามีจุดหมายเดียวกัน สบายใจละมีเพื่อนร่วมทาง
หาข้อมูลต่ออีก จากพี่พี ที่เคยไปมาแล้วล่าสุด พี่พีบอกว่า การจอง แค่โทรไปจอง บอกวันที่จะไปและจำนวนคน
เราก็มามีคำถามที่ 2 อีก เราจะจองทันมั้ยล่ะ วันหยุดยาวนะ คือเค้าจำกัดคนขึ้นไง 150 คน/วัน
>>>ดอยหลวงเชียงดาว บทที่ 2 อะไร ยังไง?
มาดูกันค่ะว่าการจะไปเดินดอยหลวงเชียงดาวแบบจัดทริปกันไปเอง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
ขอให้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนนะ บนดอยหลวงเชียงดาว ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแหล่งน้ำ มีส้วมหลุม แน่นอนว่าคุณจะไม่ได้อาบน้ำ
เตรียมทิชชู่เปียกไปด้วยนะคะ
ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว มีร้านขายน้ำ ขายกาแฟ ห้องน้ำมี 2 ห้อง ลงมาจากดอยแล้วจะอาบน้ำ
ถ้าขี้เกียจรอคิวนาน เราสามารถไปใช้บริการอาบน้ำที่ค่ายเยาวชนเชียงดาวได้ค่ะ ห้องน้ำสะดวกสบาย ราคา 30 บาทต่อคน
- การเดินขึ้นดอยมีจุดสตาร์ตเดิน 2 ทาง คือ เด่นหญ้าขัดระยะทาง 8.5 กม เดินสบายๆ
และ จุดที่ 2 ปางวัวระยะทาง 6.5 กม.ชันและลื่น (กลุ่มแจ๊คขึ้นทางนี้ แต่น้องใช้แอ็ปวัดได้ 7.5 กม. )
การไปจุดสตาร์ททั้ง 2 จุด ไม่อนุญาติให้นำรถขึ้นไปเองนะคะ รถที่เราเอาไป ไม่ว่าจะเป็นรถอะไรก็แล้วแต่
ต้องไปจอดแค่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว แล้วนั่งรถกะบะขึ้นไป
ค่าบริการรถกะบะ ไปเด่นหญ้าขัด ขาละ 1200 บาท เพราะมันไกลค่ะกว่าจะไปถึงจุดสตาร์ท
ไปปางวัว ขาละ 600 บาท ใกล้ ทางราดยาง แต่โค้งและชัน
กลุ่มเรา10 คน ลูกหาบอีก 2 ต้องใช้ 2 คัน ตอนแรกก็งอแงนะ คือแอบคิดว่าเค้าอยากหารายได้รึป่าว เลยให้เราจอง 2 คัน
ไปถึงหน้างานจริงๆ แจ๊คยืนยันค่ะว่ามันคือเรื่องจริง เพราะแค่สัมภาระก็เต็มคันนึงละ 5555 ของเราเยอะมาก
สรุปว่า พี่เจ้าหน้าที่แนะนำอะไรเชื่อเถอะค่ะ
โดยทั่วไปคนจะเดินขึ้นทางเด่นหญ้าขัดและลงทางปางวัว แต่กลุ่มแจ๊ค ชิลๆ ขึ้นปางวัว ลงปางวัว
โอ้วววววววสายแข็ง (จริงป่าววววว #ไผเขาจะไปจุ๊กันล่ะหนู อะไรวะ 5555) พอๆๆๆเริ่มไร้สาระ มาดูข้อมูลกันต่อดีกว่า
- ลูกหาบ ค่าบริการ 450 บาท/คน/วัน แบกน้ำหนักได้คนละ 20 กิโลเท่านั้น ถ้าเราจ้างลูกหาบ ก็ไม่ต้องจ้างเจ้าหน้าที่นำทางค่ะ
****ลูกหาบของกลุ่มเราบอกว่า ความจริงเขาต้องมาดูแลเราด้วย แต่เห็นกลุ่มเรามีคนเคยมาแล้ว รู้เส้นทาง เลยไม่ค่อยได้มาดูแล5555
พวกเราก็สบายๆอยู่แล้ว เรื่องอาหารการกินก็สบาย มีเชฟโก๋ กับเชฟพี่โอ๊ต สบายยย
- น้ำดื่มน้ำใช้บนดอย สามารถสั่งที่ลูกหาบได้ น้ำจะไปเป็นแกลลอน แกลลอนละ 20ลิตร ราคา 500 บาท
หมายความว่า ถ้าจะสั่งน้ำ จ่าย 500 บาท/แกลลอน คือจบ ไม่มีการเอามาช่างน้ำหนักอีก
โดยน้ำจะถูกแบกขึ้นไปไว้บนดอยก่อนวันที่เราจะไปแล้วค่ะ
- ค่าธรรมเนียม 20 บาท/คน ค่ากางเต๊นท์หลังละ 30 บาท/คืน ค่ารถกะบะผ่านด่านไปจุดสตาร์ทเดิน คันละ 50 บาท
-ที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาวมีเต๊นท์ให้เช่าค่ะ 150 บาท/หลัง/คืน ถุงนอน 100 บาท/คืน แต่ทุกอย่างต้องแบบกขึ้นเองนะ
-ค่ามัดจำขยะ ปกติก็ หลักร้อยนะ แต่ตอนแจ๊คไปกัน พี่เค้าบอกคนเยอะ เลยเก็บ 1000 จะมีการเช็คแก๊สกระป๋อง ขวดต่างๆ พอลงมาจะได้เงินคืนค่ะ
มีข้อมูลอยู่ในมือแล้วถึงก็ขั้นตอนต่อไป
>>>ดอยหลวงเชียงดาว บทที่ 3 ระทึกใจกว่าเดินขึ้นปางวัว ก็คงเป็นตอนโทรจองนี่แหระ
รวบรวมสมาชิกได้แล้วก็โทรจองค่ะ เบอร์โทร 053 456 623 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ต้องจองล่วงหน้าก่อนประมาณ 15 วันนะคะ
โทรไปที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว ได้ความว่าช่วงวันที่เราจะไปกัน(3-5 ธค.) ให้โทรจองวันที่15 พย. งั้นเราก็ยังมีหวังสิ่
ถ้าวันที่15 เราโทรติด ก็ได้ไป ตอนแจ๊คโทรไปเจ้าหน้าที่ชื่อพี่ไก่ ให้คำแนะนำและให้ข้อมูลทุกอย่างดีมาก
แล้วก็รอวันเวลาที่จะโทรไปจอง ขณะนั้นก็หาข้อมูลอีก เพราะยังมีข้อสงสัย ตกลงคือโทรจองอย่างเดียวแล้วจบ หรือต้องทำหนังสือ
ตัดสินใจโทรหาพี่ไก่อีกครั้ง โอเค แค่โทรจองอย่างเดียว จบ
ในระหว่างนั้นก็มีคุยกับสมาชิกบ้างเรื่องเตรียม อาหาร นู่น นี่ นั่น ประหนึ่งว่าจองได้แล้ว55555 โอ้ยยยย ลืมตัว ต้องช่วยๆกันเบรค
พอถึงวันที่15 ในเวลาทำการ เหมือนว่าทุกคนส่งใจมาช่วย แต่โทรเท่าไรก็ไม่ติดจ้าาาา เลยโทรเข้ามือถือพี่ไก่
พี่บอกว่า พี่ไปเข้าแถวก่อน จนท.เค้าต้องเข้าแถวตอนเช้า ให้โทร 8.30 แจ๊คก็รอๆๆๆ
สมาชิกก็รออ่านสเตตัสข่าวดีจากแจ๊คใน facebook
ณ.เวลา 8.30 ได้เวลาก็กระหน่ำโทรเลย หลายสิบสายปลายทางก็ยังบอกว่า ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆถี่ๆ สายไม่ว่างเลยจ้าาาาา
โอ้ยยยยย ใจคอไม่ดี โทรอยู่เป็นชั่วโมง
สุดท้าย เฮ้ยยยยยย โทรติดแล้วววว (จุดพลุๆๆๆๆ) แจ้งชื่อและจำนวนคน รายละเอียดต่างๆ ขึ้นวันไหน ลงวันไหน
แล้วเราก็รอพี่เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาช่วงบ่าย คุยเรื่องลูกหาบและรถกะบะ
สบายใจ สบายตัวละ แต่ๆๆๆเย็นแล้วไม่มีใครโทรมา แจ๊คก็งงดิ่ แต่คือเราจองได้แล้วใช่มั้ย หรือยังไงวะ
หรือต้องรอคอนเฟิร์ม เลยโทรหาพี่ไก่อีกรอบ
พี่คะคือแจ๊คจองได้แล้วใช่มั้ยอ่า เหลือแค่คุยนัดแนะลูกหาบ พี่ไก่บอกใช่ จองได้แล้ว 5555555555 ขำตัวเอง โถ่วววววก็คนไม่เคยจองอ่ะ
ต้องขอบคุณพี่ไก่มากๆค่ะ แจ๊ครบกวนพี่แกบ่อยมาก แต่พี่ไก่ยินดีตอบคำถามทุกครั้ง กราบบบบบเลยค่ะพี่ เสียดายวันที่แจ๊คขึ้นไป ไม่เจอกัน
โอเคเมื่อทุกอย่างพร้อม สมาชิกมีเปลี่ยนบ้าง มีคนรอต่อคิวหลายคน ถ้าใครยกเลิกก็มีคนเสียบเลย
1 สัปดาห์ ก่อนเดินทาง พี่นงเยาว์ จนท.โทรมาคอนเฟิร์มทุกๆอย่าง อีก1รอบ เราสั่งน้ำกัน 2 แกลลอน 40 ลิตร
>>>ดอยหลวงเชียงดาว บทที่ 4 ปางวัว โหดแค่ไหนถามใจเธอดู
มาที่วันเดินทางกันเลยค่ะ รีบๆๆๆๆ กลัวรีวิวยาวเกินไป 5555
เรานัดกัน ทุ่มกว่าๆที่บิ้กซีสะพานควาย รถออก 2 ทุ่ม ซื้อน้ำแบบขวดไปเพิ่ม ขวดใหญ่ 1โหล ขวด500 ML อีก 2โหล
สมาชิกครบ รถตู้ที่เราจองไว้ก็มาแล้ว ขึ้นรถกันเลยค่ะ พร้อมออกเดินทางสู่จ.เชียงใหม่ รถติดมาก กว่าจะพ้นกทม.
ระหว่างทางแวะปั้ม รถเยอะทุกปั้ม แถมเจอคนรู้จักด้วย อยู่กรุงเทพไม่เคยเจอกัน 555 คนอื่นเค้าก็ออกทริปเหมือนกลุ่มเราค่ะ แต่ไปดอยอื่น
ภาพตัดมาที่ เชียงใหม่ แวะซื้อของสดและกินข้าวที่ตลาดแม่มาลัย 9-10โมง จริงๆมันต้องเป็นเวลาเริ่มเดิน
พวกเราไปสายแล้ว พี่นงเยาว์จนท.โทรตาม บอกว่าลูกหาบรอแล้วเนี่ย มามั้ยๆ โถ่วพี่ ไปดิ่ ไม่ไปได้ไงกว่าหนูจะจองได้นะ 555
ไปถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ก็ไปติดต่อ ทุกสิ่งอย่าง แปลงร่าง
ถ่ายภาพ ก่อนหมดสภาพ ง่อววววววว เท่กันจัง
แล้วก็โดดขึ้นรถกะบะไปจุดสตาร์ต
สรุปเริ่มเดิน เที่ยงตรง
ขอบคุณภาพนี้จากนะโม
พร้อมแล้วก็เริ่มเดินกันเลยค่ะ เดี๋ยวจะมืดค่ำซะก่อน
เส้นทางเป็นทางเล็กๆ
ทางแบบนี้ถ้าฝนตกนี่บันเทิงแน่ๆค่ะ
เส้นทางปางวัวมีความชันและลื่น ควรมีไม่ท้าว จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ
แจ๊คใส่คอนเวิร์สค่ะไม่ค่อยเกาะพื้น แต่มีไม่ท้าวช่วยทรงตัวได้ดีเลย
เดินๆไปเราเริ่มแยกเป็นกลุ่มเล็กๆ แจ๊คอยู่ท้าย เหนื่อยค่ะค่อยๆเดิน มีพี่โอ๊ตปิดท้ายอีกที
และคอยดูแลน้องมีนผู้สัมผัสธรรมชาติ สภาพพื้นดินทุกตารางเมตร
นี่แหระ #นักธรณีวิทยา ตัวจริง แต่นับถือน้ำใจน้องเลย ใจสู้จริงๆค่ะ ใจเย็นๆนะมีนเดินไปพักไป เดี๋ยวก็ถึงเนอะ
ไม่รู้มาเดินป่าโหดๆครั้งนี้จะเข็ดหรือจะติดใจนะ
เมื่อเดินสูงขึ้นเราจะสามารถมองเห็นวิวด้านล่าง วันนี้ฟ้าใสเชียว
เส้นปางวัวมันไม่ทำให้แจ๊คตื่นเต้นเลย อาจเพราะเคยเจอชันๆแบบนี้มาแล้ว
แต่อย่างที่บอกถ้าฝนตก ตื่นเต้นแน่ๆ เพราะมันจะลื่นมาก นี่ขนาดฝนไม่ตกนะ
มองขึ้นไปข้างบนยอดเขา ใจคอไม่ค่อยดีเลย สูงจัง เราต้องเดินขึ้นไปถึงบนนั้นมั้ยอ่ะ 5555
โอ้ยยยยยย แสบตา
หลบหน่อยลูกหาบมา เฮ้ยยยยยนั่นพรานโก๋เพื่อนเรา ทรงได้ค่ะ
เดินไปเก็บภาพไปเรื่อยๆ เพื่อนๆที่อ่านรีวิวจะได้เห็นเส้นทางค่ะ อยากให้รู้สึกเหมือนเดินมาด้วยกัน
กลุ่มแรกรอเราอยู่ที่ป่าไผ่ข้างหน้า ได้ยินเสียงตะโกนเรียกมาละ
ก่อนถึงป่าไผ่ เราก็สอดส่ายสายตาจนเจอเทียนนกแก้ว ดอกไม้น่ารักๆ ชอบมาก
พวกมาถึงก่อนไม่เห็นจ้าาาา เดินผ่านกันเฉยเลย มาๆๆๆถ่ายภาพกัน มันน่ารักมากนะ
แล้วเรากินข้าวกลางวันพร้อมกัน ตอนบ่ายสอง เป็นข้าวเหนียว ไก่ทอด หมูทอดที่ซื้อมาจากตลาด
น้องมีน#นักธรณีวิทยาของพี่ สู้ๆนะ
อิ่มแล้วเราเริ่มเดินกันต่อค่ะ ผ่านก้อนหินใหญ่ ดงกล้วย
เส้นทางไม่ง่ายเลย
แล้วก็ทิ้งช่วงห่างกันอีก จนถึงสามแยก สามแยกนี้จะเป็นเส้นทางที่มาบรรจบกันระหว่างเส้นเด่นหญ้าขัดและเส้นปางวัว
แจ๊คพักแป๊ปนึงแล้วล่วงหน้าไปก่อน เพราะคิดว่าเดี๋ยวสมาชิกก็ตามมาทัน แจ๊คเดินช้าไง
เส้นทางมีแต่ป่า ทุ่งหญ้า มองเห็นยอดเขา
เจอป้ายนี้แล้ววววว เหมือนใก้ลนะ แต่อีกยาวค่ะ
เพลงนี้ลอยขึ้นมา จะกลับดีไหม ถ้าเดินต่อไปยากเย็นขนาดนั้น 55555
ได้เจอเที่ยนนกแก้วอีกแล้วค่ะ น่าร๊ากกกกกกก
เดินไปสักพัก ได้ยินเสียงกลุ่มหลังมาแล้ววววเย้ๆๆๆๆๆ หันไปเจอวิวแบบนี้ เก็บภาพสิคะ รออะไร
เจอวิวสวยๆแบบนี้ พี่โอ๊ตแวะเก็บภาพนานแน่ๆ แจ๊คก็เดินไปเก็บภาพไปเหมือนกัน
ค่อยๆเดินไป คิดว่าเดี๋ยวสมาชิกคงตามมา
เดินก็ช้าอยู่ละ ยังจะเก็บภาพนานอีก 55555
แจ๊คเดินเรื่อยๆ กลุ่มหลัง ตามมาไม่ทัน ตั้งแต่สามแยกถึงจุดกางเต๊นท์ หนูเดินคนเดียวจ้า มันจะมีช่วงที่เป็นป่าทึบ
ช่วงนั้นโคตรหลอน เดินอยู่คนเดียว ใส่เกียร์หมาเลยจ้ะ
เดินจนเจอป้ายนี้ค่ะเย้ๆๆๆๆๆๆๆ
มีแผนที่เส้นทางการเดินให้ดูด้วยค่ะ
แจ๊คถึงจุดกางเต๊นท์ 6 โมงเย็น ไปยืนเอ๋ออยู่พักนึง กลุ่มเรากางเต๊นท์ตรงไหนว๊าาา แต่สักพักลูกหาบก็มาตามค่ะ
มาดูความชันของเส้นทางที่เราเดินมากันมาค่ะ
ภาพจากพุฒ #ช่างภาพแถวหน้า
ถึงซะที เหนื่อยมาก
วันนี้ฟ้าสวยมาก เสียดายที่ใช้เวลาเดินเยอะ เลยขึ้นยอดดอยไม่ทัน
เราได้แต่เก็บภาพท้องฟ้ายามเย็นกันที่เต๊นท์
ฟากฟ้ายามเย็น เห็นแสงรำไร อาทิตย์จะลับโลกไป พระจันทร์จะโผล่ขึ้นมา
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า อากาศเริ่มเย็น ที่นี่เห็นดาวชัดมาก ท้องฟ้าเคลียร์ แจ๊คกับนะโม ออกมาถ่ายดาวกัน
คือเห็นทางช้างเผือกชัดมาก แต่เลนส์แจ๊คแคบเก็บได้นิดเดียว ไม่มีระยะอินฟินนิตี้บอก โฟกัสไม่เข้าอีก 5555
แจ๊คก็ได้ภาพง่อยๆมา
แต่ถ่ายภาพได้ไม่นาน ลมพัดหมอกลอยมา เป็นอันจบกัน กินข้าว เข้าเต๊นท์ นอนค่ะ
พวกเรานัดกันตี 4 เพื่อเดินขึ้นยอดกิ่วลม ไปชมหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น
ก่อนจะตัดภาพไปตอนเช้าขอเล่าถึงที่นอนของพวกเรา คือพื้นที่กางเต๊นท์ของพวกเราค่อนข้างลาดเอียง นอนแล้วมันก็ไหลๆๆๆ
พอรู้ตัวก็ต้องขยับขึ้น แลัวมันก็ไหลตลอด ก่อนนอนก็หาวิธีที่นอนแล้วไม่ให้ไหลนะ แต่ไม่มี 555
#หลับไหล กันเลยทีเดียว
DAY 2 >>>ดอยหลวงเชียงดาว บทที่ 5 เช้าวันหนึ่งของความพยายาม
ตื่นตี3ครึ่งค่ะ ออกมายื่นสั่นๆๆๆๆอยู่หน้าเต๊นท์ สมาชิกพร้อมกันแล้วก็เริ่มเดินค่ะ
เราออกเดินทางตี4 เช้าวันหนึ่งที่แสนพิเศษ 4-12-2016
เราไม่รู้เลยว่าเส้นทางที่เราต้องเดิน เป็นยังไง พวกเราเดินไปโดยที่ไม่รู้ว่าระยะทางกี่กิโลเมตรด้วยซ้ำ สัมผัสได้ว่ามันโคตรชัน และมีหิน
และเดินไกลมากจากแค้มป์ ทางเริ่มชัน แจ๊คนี่อยากจะถอดอุปกรณ์กันหนาวเหวี่ยงทิ้งเลย เหนื่อย เหงื่อออก จากหนาวๆมาร้อนเลยค่ะ
เมื่อถึงจุดที่เราคิดว่าน่าจะได้เห็นวิวที่สวย เราไม่รอเวลา หาก้อนหินที่มั่นคงสามารถตั้งขาตั้งกล้องได้ เก็บวิวที่อยู่ตรงหน้า
สมาชิกแยกย้ายหามุมของตัวเอง ตอนนั้นมันมืดมาก ใครไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ แจ๊คก็ติดสอยห้อยตามพี่โอ๊ต คนอื่นน่าจะอยู่บริเวณไกล้ๆ
หมอกเริ่มมาเรื่อยๆ
ตรงจุดนี้เราเก็บภาพทุกฉากที่ผ่านเข้ามาแต่ละนาที
แสงก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เราไม่สามารถละสายตาออกจากวิวตรงหน้าได้เลย เพราะมันอาจจะทำให้เราพลาดช็อตสวยๆไป
ขณะรอพระอาทิตย์ขึ้น เก็บแสงยามเช้าค่ะ
ช่วงเวลาที่เรารอคอยมาถึงแล้วววววววว
เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆพ้นขอบฟ้า ความมืดหายไป บ่งบอกว่าเป็นสัญญาณของการเริ่มวันใหม่
พระอาทิตย์ขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น และถูกบดบังด้วยกลุ่มเมฆ
ฟ้ามีแต่เมฆเทาๆ แต่ไม่แย่นะ มีแสงอาทิตย์สาดส่องมาที่ทะเลหมอก มองเห็นเป็นสีทอง
หันไปที่เขาอีกฝั่ง
เก็บวิวแล้ว ขอเก็บภาพคนรัวๆๆๆ
ชอบมากๆ ขอบคุณภาพจากพี่โอ๊ต
เราคิดว่าน่าจะครบละสำหรับวิวตรงนี้ ทันใดนั้น เราได้รับโบนัสพิเศษจากธรรมชาติ แสงอาทิตย์สาดส่องลอดกลุ่มเมฆเป็นริ้วๆๆๆ
แสงสะท้อนหมอก หยอดลงไหล่เขา
โอ้ยยยยยย แพ้หมอกค่ะเห็นแล้วใจฉันจะละลาย
เป็นภาพที่สะกดเราไว้ แทบจะไม่อยากลงจากยอดกิ่วลม
ถ่ายภาพ และชื่นชมธรรมชาติกันอย่างเมามัน 5555
ไม่อยากจะลงจากเขาเลย
มีหลายจังหวะที่แจ๊คกับพี่โอ๊ตชวนกัน ป่ะลงเถอะ แล้วหันไปมองวิวข้างหน้า เฮ้ยยย ขออีกแป๊ปปป
อยู่ได้ทั้งวันนะ ถ้ามีเขา มีหมอก มีแสงสวยๆให้นั่งมอง
สายมากละเราลงกัน ประมาณ 8 โมงกว่าๆได้
ไปถึงแค้มป์สมาชิกกำลังทำกับข้าวกันอยู่เลย
กว่าเราจะได้กินข้าวกันก็ 10 โมง นั่งกินกันเรื่อยๆ พ่อครัวทำเสร็จส่งไปข้างหลัง เหมือนกับว่าคนทำ ทำไม่ทันคนกิน5555
ช่วงเวลาของการล้อมวงกินข้าวในทุกมื้อ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายสำหรับพวกเรา
ไม่ใช่แค่รสชาติของอาหาร แต่มันคือรสชาติของบทสนทนา แจ๊คจำไม่ได้ละว่าเราคุยอะไรกันบ้าง
แต่จำความรู้สึกได้ เรามีความสุขกันมาก มีมุขฮาๆ ที่ฝืดๆ เรื่องขำๆ กัดจิก เหน็บแนมแบบเอ็นดู 5555
พวกเราดูจะสนิทกันไวมาก แจ๊คแอบดีใจนะ ที่เห็นทุกคนมีความสุข และเข้ากันได้ดี
วันนี้เราใช้เวลานานมากกับมื้อเช้า ภาพประกอบนี่จากหลายๆมื้อรวมกันนะคะ
ขอบคุณภาพจาก พุฒ #ช่างภาพแถวหน้า
ตอนแรกวางแผนจะเดินขึ้นกิ่วลมเหนือกิ่วลมใต้ แต่ล้มเลิกค่ะ
เก็บแรงไว้เดินขึ้นยอดดอยหลวงตอนเย็นดีกว่า เหนื่อยและง่วงด้วยค่ะ
สรุปวันนี้ แยกย้ายกันไปหลับไหล มีนัดมาทำมื้อกลางวัน เที่ยงกว่าๆ โหวววววเพิ่งจะกินมื้อเช้ากันนะ
บ่าย2 เรานัดกันขึ้นยอดดอยหลวง
เมื่อทุกคนตื่นจากหลับไหล เรามากินมื้อกลางวันกัน และถ่ายรูปเล่นกัน
เก็บภาพส้วมหลุมมาฝากด้วยค่ะ 5555 กลิ่นสุดจะบรรยาย
ได้เวลาก็ออกเดินทางขึ้นสู่ยอดดอยหลวงกันค่ะ คืนนี้พวกเราเตรียมเทียนมาจุด ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ระยะทางใกล้นะ แต่ชัน และโหด เดินไปถ่ายภาพไปตามสไตล์พวกเราค่ะ
ทางโหดค่ะ หินเยอะด้วย
ขอบคุณภาพจาก นะโม พุฒ #ช่างภาพแถวหน้า
ระหว่างทาง ไกล้ถึงแล้วค่ะ อีกนิดเดียว เก็บภาพเท่ๆกันก่อน
เมื่อสมาชิกขึ้นไปถึงกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เราก็ถ่ายภาพหมู่กันค่ะ
เปลี่ยนมุมหน่อย
#ไผเขาจะไปจุ๊กันล่ะหนู
ขอบคุณภาพจาก นะโม #ช่างภาพแถวหน้า
ขอบคุณภาพจาก พี่โอ๊ต #ช่างภาพไฟล์รอ
กิจกรรมบนยอดดอย ระหว่างที่พวกเรารอชมพระอาทิตย์ตกดิน ก็จะมี ถ่ายภาพ จิปกาแฟ หามุมรับสัญญาณโทรศัพท์
มีทั้งช่างภาพ ทั้งนายแบบ นางแบบ 555
คงจะเบื่อหน้าเราแล้ว มาดูวิวกันบ้างค่ะ เบื้องหน้าของพวกเราคือดอยสามพี่น้อง
ภาพเปลี่ยนไปตลอดเวลา เพราะมีเมฆหมอกบังยอดเขาอยู่เป็นระยะๆ
แจ๊คนี่นอนรอเลย
แสงเริ่มเปลี่ยนแล้วค่ะ
สีทองเริ่มมาแล้วค่ะ
พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้วค่ะ
ขอบคุณภาพจาก พุฒ #ช่างภาพแถวหน้า แฉกสวย
มาดูภาพเราบ้าง ถ่ายภาพเซ็ทนี้เห็นชัดมาก ว่ากล้องมีฝุ่น
หลังพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ยังมีแสงสวยๆให้เราได้มอง
วันนี้เป็นวันเกิดของพรานโก๋ (แจ๊คเองรู้ว่าเป็นวันเกิดเพื่อน กะว่าจะเซอไพร์แอบเอาเค๊กขึ้นไปจุดเทียนให้บนเขา
แต่ก่อนวันที่พวกเราจะเดินทาง โก๋บอกจะเอาเค๊กขึ้นไปเป่าบนเขา ฮ้าวววววววว โอเค ไม่ต้องเซอไพร์ละ 55555)
พวกเราร่วมกันร้องเพลง และอวยพรวันเกิดให้โก๋ วันเกิดปีนี้คงพิเศษมากๆเลยนะ ไม่มีภาพให้ดูนะ เหมือนจะไม่มีใครถ่ายไว้
กิจกรรมตอนนี้ของพวกเราคือ นั่งคุยกัน พิจารณาก้อนเมฆ มันมีรูปร่างเหมือนสัตว์ชนิดต่างๆ และมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ พวกเราได้หัวเราะ กับบทสนทนาในทุกตอน ต้องขออภัยด้วย ที่วันนั้นกลุ่มเราเสียงดังกันมาก
แต่ก็มีพี่กลุ่มข้างๆ หัวเราะไปกับพวกเราด้วย คงคิดว่า พวกนี้แมร่งบ้า
อีกสักภาพ
ช่วงเวลาต่อไปพวกเราขึ้นไปยืนที่ป้าย จุดเทียน ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ท่ามกลางความหนาวเย็น ลมพัดแรง มีความลำบากสำหรับการจุดเทียน อุปกรณ์ที่ช่วยบังลมได้ในตอนนั้นก็มีเพียงขวดน้ำ
จุดแล้วก็ดับอยุ่หลายรอบ แต่พวกเราก็ทำจนสำเร็จ รองเพลงจบ คนแถวนั้นพูดว่า ทำไมผมคิดไม่ได้
วันนี้ภารกิจที่ตั้งใจได้สำเร็จทุกอย่าง เราขอเก็บภาพกันต่ออีกนิด
มาตั้งนานเพิ่งจะถ่ายป้าย อิอิ
ได้เวลาอันสมควร หมอกเริ่มมา พวกเรารีบลงจากดอย กลัวว่าหมอกลงจัดแล้วจะมองไม่เห็นทาง
ขาลงนี่ลงไวมาก 5555
เก็บภาพกันต่อทุ่งหญ้าหลังเต๊นท์
concept เจไดกับไฟส่องกบ ขอบคุณภาพเท่ๆ จากนะโม #ช่างภาพแถวหน้า
ขอจบค่ำคืนนี้ไว้เท่านี้นะคะ พรุ่งนี้ตี 4 เราจะขึ้นยอดดอยหลวงกันอีกรอบเพื่อเก็บแสงยามเช้า
พวกเราคงต้อง หลับไหลกันอีกคืน หนาวก็หนาว ไหลก็ไหล
DAY 3 >>>ดอยหลวงเชียงดาว บทที่ 6 เช้าสุดท้ายของทริปกับยอดดอยหลวงเชียงดาว
ตามเสต็ปค่ะ ออกมายืนสั่นหน้าเต๊นท์ ตี 4 ก็พากันเดินขึ้นยอดดอยหลวง
พวกเราขึ้นไปเป็นกลุ่มแรกๆ เก็บดาว เก็บแสงเช้า
จิปกาแฟท่ามกลางหมู่ดาว
เช้านี้เราก็ยังได้เห็นทะเลหมอกกันอีก
ขอแบบไม่เห็นหน้า 5555
ได้เวลาพระอาทิตย์ก็มาตอกบัตรทำงาน
มุมไหนก็สวย หมอกกับภูเขา เข้ากันได้ดี
พระอาทิตย์มา บ่งบอกว่าเวลาของพวกเรามีไม่มาก เราต้องลงจากดอยกันเร็วหน่อย เพราะวันนี้ต้องกลับแล้ว
พระอาทิตย์หายไปในเมฆ แล้วก็ส่งของขวัญมาให้พวกเราอีกรอบ แสงเป็นริ้วๆ สาดส่องลงมาที่ทะเลหมอก
หลายครั้งที่พวกเราจะตัดใจเก็บกล้องแล้วเดินลงเขา เพราะเราต่างรู้กันดีว่า วันนี้ต้องกลับกันเร็ว ไม่งั้นเราจะถึงกทม.ตีอะไรก็ไม่รู้
แต่วิวตรงหน้านี่สิ่ มันดึงพวกเราไว้ ไม่ให้ไปไหน 55555 แสงเปลี่ยนไปทุกขณะ
เก็บวิวครบถ้วนแล้ว มาดูภาพเท่ๆของพวกเรากันดีกว่า เท่รึป่าวไม่รู้นะ อิอิ
ขอบคุณภาพนี้จาก พุฒ #ช่างภาพแถวหน้า
ขอบคุณภาพนี้จากน้องใหญ่
โอ้ยยยยยย เท่
อย่าเพิ่งเบื่อหน้าพวกเรานะ
มาๆๆๆๆ ถ่ายภาพหมู เอ้ยยยย ภาพหมู่ส่งท้าย
มีอีก
ภาพสุดท้ายค่ะ
ขอบคุณภาพจาก นะโม พี่โอ๊ต โก๋
ได้เวลาอันสมควร ลงจากยอดเขากันเถอะพวกเรา
ลงมากินข้าว เก็บของ ลูกหาบมายืนรอ ช่วยเก็บเต๊นท์ เก็บขยะ
คือพวกเราช้ามาก จนเกรงใจลูกหาบ 5555 ยืนมอง อารมณ์ประมาณว่า อะไรของพวกเอ็งเนี่ย
ขอบคุณภาพจากน้องเก้า
คือตั้งแต่ตอนขึ้นวันแรกละ เราก็ให้ลูกหาบรอ จนวันกลับก็ยังต้องรอกันต่อไป
รักษามาตรฐานได้ดีมากพวกเรา
สรุปว่าเริ่มเดินลงประมาณ 10 โมง ใช้เวลาลงประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ก็มีสมาชิกดิ๊ปลงเขามาก่อนละ
ขอบคุณภาพจากนะโม
กว่าจะรอสมาชิกมาพร้อมกันก็ประมาณบ่ายโมงนิดๆสมาชิกพร้อมแล้ว เราก็โดดขึ้นรถกะบะ กลับไปที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว
ขอบคุณภาพจากน้องเก้า
พอมาถึง เราจะเอาขยะไปแลกเงินมัดจำ พี่เจ้าหน้าที่จะชั่งกิโล เราเอาเอกสารไปยื่นแล้วก็รับเงินคืนค่ะ
จ่ายเงินค่ารถ ค่าน้ำ ค่าลูกหาบ นั่งรอรถมารับ พวกเราจะไปอาบน้ำกันที่ค่ายเยาวชนเชียงดาว
วิวจากค่ายเยาวชนเชียงดาว
ขอบคุณภาพจากน้องเก้า
อาบน้ำที่นี่มีค่าบริการ คนละ30บาท พวกเราอาบน้ำกันอย่างเมามัน โถ่ววววว ก็ไม่ได้อาบมาตั้ง 2 วันนะ
อาบน้ำเสร็จเราก็มุ่งหน้ากลับกทม.
ดูเหมือนว่าพวกเรามีพลังงานเยอะมาก คึกคักตลอดเส้นทาง มีมุข ฝืดๆ ควายๆๆ ที่ต้องแกล้งฮา กันตลอดทาง
รู้สึกเหมือนตัวเองเมากัญชา ไม่รู้จะจะถ่ายทอดออกมายังไงให้คนอ่านรับรู้ถึงความสุข สนุกสนานของกลุ่มเรา
ความพิเศษของทริปนี้เกิดขึ้นตลอดทาง ทุกๆอย่างเรามองว่ามันเป็นเรื่องสนุก วิวข้างบนมันสวยจนเกินบรรยาย ถ้ายังเดินไหว อยากให้ไป
แต่เพื่อนร่วมทริปเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด
จากใจเลย ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ทุกคนน่ารักมาก ต่างคน ต่างที่มา แต่พวกเราเข้ากันได้ดีมาก
เรียกว่าเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยก็ได้ และแจ๊คได้ข้อสรุปว่า ที่ความสูง 2225 เมตรจากระดับน้ำทะเล
มีผลทำให้สมองผิดปกติ 555555555
มีแฮชแท็กมาจากเรื่องฮาๆของพวกเราเยอะมาก จริงเยอะกว่านี้ นึกไม่ออก 555
#ไผเขาจะไปจุ๊กันล่ะหนู #ใครเอาไข่ดาวป้าไป #เก้าไปไหนวะ #นักธรณีวิทยา #นะโมถูกเสมอ
#น้องพุฒของพี่ #เชฟชั้นนำ #ช่างภาพแถวหน้า #ช่างภาพแถวหลัง #ช่างภาพไฟล์รอ #นักร้องแถวหน้า
#ลุงศักดิ์สาย8 #หลบหน่อยลูกหาบมา #แจ๊คๆจังหวัดอะไรน่ากลัวที่สุด #แพร่
#ก็โอนะ
อืมมม ความจริงทริปนี้ก็โอนะ
โอเคเหรอ
โอโห้แมร่ง นี่มันทริปตลกคาเฟ่ชัดๆ
****มีคำแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดค่ะ เพิ่งนึกได้
ควรเตรียมกระดาษห่อข้าวมันไก่ไปรองจานก่อนใส่อาหารค่ะ จะได้ไม่เปลืองน้ำ
อยู่ข้างบนเราต้องประหยัดน้ำค่ะ
ควรเตรียมฟอยไปห่อพวกอุปกรณ์ Electronics เพราะอากาศมันเย็นมากกกกกกก
ที่สำคัญแบตกล้องค่ะ เจออากาศเย็นแล้วหมดไวค่ะ
จบแล้วค่ะเรื่องเล่าของแจ๊ค
"ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ต้องเดินทาง"
แล้วพบกันใหม่เมื่อทริปเกิด ใครอยากไปเดินข้างๆแจ๊ค ไปคุยกันในเพจได้นะคะ
นักเดินทางตัวน้อย
https://web.facebook.com/journ...
นักเดินทางตัวน้อย
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.09 น.