ใกล้สิ้นปีแล้ว..ปีที่ผ่านมาแต่ละคนคงผ่านอะไรในชีวิตมามากมาย ไม่ว่าจะสุข เศร้า สมหวัง ทั้งเรื่องงาน หรือเรื่องความรัก

ไม่ว่าในวันที่ผ่านมาเพื่อนๆจะเจอกับอะไรมาบ้าง อย่าลืมหาเวลาให้ตัวเอง..ได้พักกาย..ได้พักใจ

และในวันผมจะมาเสนออีกหนึ่งทางเลือก ที่เหมาะกับการพักกายพักใจ..

นั่นก็คือเมืองน่าน เมืองที่เหมือนเวลามันจะผ่านไปอย่างช้าๆ ทำให้เราได้พักผ่อน...ทั้งกายและใจอย่างแท้จริง

ในรีวิวนี้มีทั้งแผนที่การเดินทาง และภาพแบบ 360 องศาให้ชมด้วยนะครับ...


เราออกเดินทางจากกรุงเทพมาตั้งแต่สามทุ่ม มาถึงที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถานประมาณตีห้า

เพื่อมารับแสงแรกแห่งเมือง น่านก่อนครับ

แผนที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน... https://goo.gl/maps/kvsNAoNycUz


วันนี้หมอกไม่ได้เยอะนักแต่ก็ถือว่าไม่ผิดหวัง

ที่จอดรถเต็มจนต้องเดินขึ้นเขาชั้นๆไปอีกสามร้อยเมตร


เสร็จจากการดูหมอกบางๆแล้วเราออกเดินทางกันต่อไปยังตัวอำเภอเมือง น่าน

อาหารมื้อเช้าของเรา...ฝากท้องกันที่ ร้านวันดา

แผนที่ https://goo.gl/maps/kPYvi2usBuA2

ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ของเมือง น่าน หน้าตาก็ดูธรรมดาๆ

แต่อาหารอร่อยมาก และมีอาหารท้องถิ่นของเมือง น่านขายด้วย


ไก่ทอดมะแขว่น ซึ่งมะแขว่นคือเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมและรสเผ็ดปร่า

โดยเฉพาะมะแขว่นของจังหวัดน่านขึ้นชื่อว่าหอมมาก ใครได้กินเป็นติดใจกันทุกคน

ข้าวกั๋นจิ้น หรือข้าวเงี้ยว หรือจิ๊นส้มเงี้ยว เชื่อว่าเป็นอาหารของชาวไทใหญ่หรือเงี้ยว

ใช้ใบตองห่อเช่นเดียวกับแหนม บางสูตรไม่ใส่เนื้อสับ แต่ใส่เลือดคลุกเคล้ากับข้าวอย่างเดียว

ซึ่งของที่ร้านป้าวันดาใส่แต่เลือดอย่างเดียว

ข้าวซอย......ที่ร้านนี้น้ำซุปข้นและรสชาติเข้มมาก มีให้เลือกทั้งหมู..เนื้อ...ไก่

และเมนูสุดท้ายหมูสะเต๊ะครับ...


กินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้วครับ

คราวนี้เราได้พักที่ HugHerHim อ่านว่า ฮักเฮอฮิม

เพจ https://www.facebook.com/hugherhimnan

แผนที่ https://goo.gl/maps/N2NgKwoPu5R2


ที่พักหาไม่ยากอยู่ใกล้ๆ วัดภูมินทร์ และถนนคนเดิน

ชื่อ ฮักเฮอฮิม มาจากคำว่า ฮัก ที่แปลว่า รัก ในภาษาเหนือของไทย

และในขณะเดียวกัน ฮัก ยังแปลว่า กอด ในภาษาอังกฤษด้วย

จึงเป็นที่มาของชื่อบ้านของ ฮักเฮอฮิมน่าน "กอดกันด้วยรัก" ให้ความรู้สึกอบอุ่น


เจ้าของบ้านพักแห่งนี้แกชื่อ บอม เป็นนักดนตรีอิสระจากเพรชบุรี

แต่ก็มีความรอบรู้ในเมือง น่านอยู่มากครับ

ที่เที่ยวที่ไหนดี ร้านอาหารอะไรอร่อยๆ แกรู้หมดครับ

อย่างถ้าใครมาเมือง น่านแล้วไม่รู็จะไปกินอะไรก็มาถามแกก็ได้ครับ

ร้านวันดาที่ผมไปก็ได้รับคำแนะนำมาจากแกนั้นแหละ

ซึ่งถ้าหากพี่บอมแกมีเวลาแกก็จะพานำเที่ยวเมือง น่านด้วยตัวเองเลยครับ

อ้อ..และก็มีพี่ผู้ดูแลอีกคนชื่อแจ็คครับ....


เข้าเรื่องที่พักกันต่อ ที่พักของ ฮักเฮอฮิมนั้นเป็นแบบโฮมสเตย์

ออกเเบบที่พักให้เป็นกันเอง และกลมกลืนกับชุมชนซึ่งมีวิถีชีวิตตามวัฒนธรรมภาคเหนือฝั่งตะวันออก

ที่พักมีทั้งแบบเป็นห้องนอนรวมกัน แยกห้องน้ำ กับห้องนอนส่วนตัวจะมีแอร์และมีห้องน้ำในตัวนะครับ

ถ้าเป็นห้องนอนรวมค่าที่พักจะอยู่ที่คนละ 300 บาท แต่ถ้าเป็นห้องส่วนตัวจะอยู่ที่ห้องละ 800 บาท

ด้านหลังบ้านเป็นแปลงผักสวนครัว,ผักเกษตรอินทรีย์ ไว้สำหรับปรุงอาหารของทุกท่าน แบบปลอดสารพิษ

ซึ่งผักเหล่านี้จะกลายเป็นอาหารมื้อเช้าสำหรับเราครับ


มาครั้งนี้เราได้พักในห้องที่ชื่อว่า ห้องชวนชม ซึ่งปรกติแล้ว ห้องนี้จะรับรองสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิง

แต่เนื่องจากเรามาเป็นกลุ่มสี่คนซึ่งเป็นจำนวนพอดีสำหรับห้องนี้พอดีจึงได้พักห้องนี้กันทั้งหมดครับ

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/gsTqaO

ห้องน้ำจะอยู่ใกล้ๆกับห้องนอนนะ


รูปด้านล่างคือบ้าน เสี้ยวขาวจะมีห้องพักเป็นแอร์ทั้งหมด

" เสี้ยวขาว"เป็นชื่อดอกไม้ประจำจังหวัดน่าน

ที่เลือกใช้ชื่อนี้เพื่อให้ได้ความรู้สึกถึงเมือง น่านโดยแท้จริง.


ห้องนี้ราคาคืนละ 800 ต่อห้อง มีห้องน้ำในตัวนะ


อีกห้องนึงที่อยู่ในบ้าน เสี้ยวขาว

มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน

นอกจากนี้ที่ ฮักเฮอฮิมยังมีจักรยานให้เราไปปั่นเล่นชมเมืองน่านแบบฟรีๆด้วยนะครับ

และก็มีบริการชากาแฟ ตลอดทั้งวัน มีชากุหลาบให้ชิมด้วยนะ

มุมเล็กๆภายในบ้าน....เดี๋ยวตอนค่ำๆจะถ่ายภาพรวมมาให้ดูนะครับ

ถ่ายรูปกันไปพอสมควร พอถึงมื้อบ่ายๆเวลาน้ำชาเราไปหาอะไรทานกันเล็กน้อยที่ ร้าน สุดกองดีครับ

แผนที่ครับ https://goo.gl/maps/hcFR6PZNADC2

ก็เป็นอีกร้านนึ้งที่บรรยากาศดี ครับร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่..

แต่ที่จอดรถยนต์ไม่เยอะนักอาจต้องจอดซอยข้างๆแล้วเดินมา


วันที่เราไปถึงก็เป็นวันเกิดร้าน...เมนูบางอย่างก็หมด

เมนูปั่นนี้รอเป็นชั่วโมงก็เลยสั่งกันไม่กี่เมนู....

ฮันนี้โทสซึ่งฮันนี่โทสที่นี้รสชาติดีครับโทสชุ่มเนย และราดด้วยน้ำผึ้งไม่ใช่เมเปิ้ลไซรับ

สปาร์คกิ้ง อเมริกาโน่ ซึ่งอันนี้...คือกาแฟสดใส่โซดา..รสชาติแปลกๆดี และก็มินต์ปั่นครับ

กินเสร็จกลับห้องไปนอนกันยาวๆเลยครับขับรถมาทั้งคืน ตื่นมาอีกก็ใกล้ค่ำละได้เวลาถ่ายรูปที่ ฮักเฮอฮิมครั้งนึงครับ

ในภาพคือจากประตูหน้าบ้านเข้าที่พักครับ

ทางขึ้นที่พักของเรา


โถงด้านล่างสำหรับพักผ่อน นั่งเล่น กินขนม ตั้งวงไพ่

รูปด้านล่างคือบ้านเสี้ยวขาวครับ

อยู่ข้างๆบ้านที่ผมพักนั่นแหละ


มื้อเย็น...รึค่ำ??? เราไปฝากท้องกันที่ บ้าน เมืองคานรอรักฮิมน่าน

เพจ https://www.facebook.com/baanmuangkhan?fref=ts

แผนที่ครับ https://goo.gl/maps/nHGam6uxb272

ที่ บ้านเมืองคานรอรักฮิมน่านนั้นเป็นทั้งที่พักแบบโฮมเสตย์และร้านอาหารครับ

ด้านบนจะเป็น โฮมสเตย์ ส่วนด้านล่างเป็นร้านอาหาร

จริงๆแล้ว ฮักเฮอฮิมกับบ้านเมืองคานรอรักฮิมน่านนั้นเป็นพี่น้องกันครับ

ถ้าเราพักที่ ฮักเฮอฮิมบางที่พี่บอมแกก็จะพามาฟังแกเล่นดนตรีที่ร้านนี้แหละครับ

ส่วนพี่แจ๊คก็จะกลายมาเป็นพอครัวที่ร้านนี้ด้วยเช่นกัน

เมนูมื้อเย็นที่เราได้มาทานในวันนี้คือหมูย่างบาร์บีคิวครับ

ซึ่งก็เป็นฝีมือของพี่บอมนะครับ แกหมักหมูหมักเครื่องเอง

ผักที่ได้ก็ไปเด็ดเอาจากหลังบ้านพักที่ ฮักเฮอฮิมนั้นแหละ

แต่ที่มาบ้าน เมืองคานรอรักฮิมน่านด้วยก็เพราะว่าจะได้ฟังพี่บอมแกร้องเพลงไง

มาถึงที่ บ้านเมืองคานรอรักฮิมน่าน ทั้งที่เราก็ไม่พลาดที่จะสั่งเมนูเครื่องดืมที่ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี้ครับ

แก้วแรกมีชื่อว่า รอรักริมน่าน คอกเทลสีฟ้าใส ที่อาจทำให้เราเมาไม่รู้ตัวครับ


รสชาติของเธอหอมหวานจริงๆ สามารถเลือกแบบไม่เอาแอลกอฮอลก็ได้นะครับ

แก้วนี้มีชื่อว่า บ้านเมืองคานshooter ชูตเตอร์จริงๆครับ ช็อตเดียวแทบหลับ


แก้วนี้หวานๆใสๆกับ blueberry soda บลูเบอร์รี่โซดาผสมชิ้นผลไม้

เหมาะกับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล


ทานเสร็จอิ่มหมีพลีหมันก็ได้เวลากลับที่พักไปนอนเอาแรงกันแล้วครับ

เช้าวันใหม่..พี่บอมแห่ง ฮักเฮอฮิมตอนรับยามเช้ากับเราด้วยโจ๊กหมูร้อนๆ

เอ้อ....ในส่วนของอาหารเช้านั้น เราต้องบอกพี่บอมก่อนนะครับ ว่าจะทานอะไร ในวันรุ่งขึ้น

เพราะอาหารบางอย่างพี่เค้าต้องเตรียมไว้ให้เราด้วยครับ




มีสลัดผักแบบปลอดสารพิษซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่น้ำสลัดสูตรเฉพาะอย่าง Siamese dressing

ซึ่งเป็นน้ำสลัดที่พี่บอมแกปรุงขึ้นเองมีกลิ่นหอมอ่อนๆของลิ้นจี้ซะด้วย




มีชากุหลาบให้ทานด้วยนะครับ


หลังจากอิ่มกับมื้อเช้าแล้วเราออกไปเที่ยวกันต่อที่ วัดภูมินทร์และวัดพระธาตุช้างค้ำ

ซึ่งจากที่ ฮักเฮอฮิม เราสามารถเดินไป...หริอขี่จักยานไปก็ได้ครับ ทางที่พักมีจักรยานไว้ให้เราขี่ฟรีๆเลย

วัดภูมินทร์ในยามเช้าครับ

แผนที่ https://goo.gl/maps/Grt4axaytcJ2


วัดภูมินทร์เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตัว

แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว


ตรงใจกลางพระอุโบสถจัตุรมุข ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์

หันพรพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศหันเบื้องปฤษฏาค์ชนกัน ประดับนั่งบนฐานซุกชี


ข้ามฝั่งไปอีกนิดเป็น วัดพระธาตุช้างค้ำ

แผนที่ https://goo.gl/maps/bAeF61tf4oP2


อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของเมือง น่านที่มีความเชื่อว่า ผู้ที่มาบูชาหรือสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดนี้

จะเกิดบารมีด้านชะตาชีวิต การมีความเป็นอยู่ที่ดี และมั่งคง


ข้ามกลับไปฝั่งพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัด น่าน ที่อยู่ตรงข้าม...แต่วันที่ไปเป็นวันจันทร์เค้าปิดครับ

เลยถ่ายรูปกับต้นลีลาวดีแห้งๆไปก่อน


เสร็จแล้วเราไปร่ำลาพี่บอมแห่ง ฮักเฮอฮิม แล้วเตรียมตัวขึ้นดอยเสมอดาวกันครับ

แต่ขอเลยไปไหว้ พระธาตุแช่แห้งก่อนเเป๊บนึง

แผนที่ https://goo.gl/maps/CVxCfpW6V5B2


พระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน มีอายุกว่า 600 ปี ตามพงศาวดาเมืองน่านกล่าวว่า

พญาการเมืองโปรดเกล้าให้ สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ที่ได้มาจากเมืองสุโขทัยระหว่างปี พ.ศ.1891-1901 สถาปัตยกรรมด้านโบสถ์ของวัดพระธาตุแช่แห้ง

ที่สำคัญและแสดงให้เห็นถึงแบบอย่างสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมสกุลช่างน่าน

ชาวเมืองล้านนามีความเชื่อกัน ว่าการ ได้เดินทางไปสักการบูชากราบไหว้นมัสการองค์พระธาตุแซ่แห้ง

จะทำได้รับ อานิสงค์อย่างแรงกล้า ทำให้ชีวิตอยู่ดี มีสุข ปราศจากโรคภัยต่างๆ มาเบียดเบียน หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า

จากนั้นเราเดินทางขึ้นไปที่ ดอยเสมอดาวกันต่อครับ

แผนที่ https://goo.gl/maps/71u7rZkkKYk

ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน

การเดินทางจากเมืองน่าน นั่งรถที่ข่นส่งน่านมาลงที่อำเภอเวียงสา

แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น

ลงที่สามแยกบ้านใหม่แล้วเหมารถสองแถว เข้าอุทยานฯได้เลยครับ แถวๆนั้นมีรถรับจ้างเต็มไปหมด

ดอยเสมอดาวนั้น แม้จะไม่ใช่ดอยที่สูงที่สุดแต่สามารถชมวิวทิวทัศน์ยอดเขาน้อยใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลย

มาถึงแล้วก็กางเต๊นท์กัน....


ถ้ามาในช่วงท่องเที่ยวอาจจะลำบากนิดนึงนะครับ

เพราะที่นี้สถานที่จอดรถค่อนข้างคับแคบ ใครมาช้าต้องจอดรถด้านล่าง

ไม่สามารถนำรถมาจอดด้านบนได้...จากการเดินทางมาทั้งวัน

กางเต๊นท์เสร็จเราก็พักผ่อนเตรียมตื่นเช้ามาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นกันครับ

ถ้าเราโชคดีที่ ดอยเสมอดาวแห่งนี้ในยามเช้าเราจะพบทะเลหมอกสุดสายตาเลยครับ


แม่น้ำกลางสายหมอกที่เราเห็นนั่นคือแม่น้ำน่านครับ



ด้านหลังที่เป็นฝั่งเมืองก็ยังมีสายหมอกให้เราเห็นนะครับ


การเดินทางในครั้งนี้ของเราไม่รีบร้อนครับ

รอตอนสายๆหมดสายหมอก ผู้คนลงไปหมดแล้วเราค่อยลงจาก ดอยเสมอดาว

เราแวะไปที่ คอกเสือครับ

แผนที่ https://goo.gl/maps/UEQYqaNvyTC2

ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/m92A8X และ https://goo.gl/XjpxTu

ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ เสาดินนาน้อยนั่นแหละ ทางเข้าห่างกันแค่ 500 เมตร

แต่ทางอาจจะลำบากกว่านิดนึง แต่ผมชอบลักษณะของชั้นดินที่นี้มากกว่า

ดูยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมากกว่า

เสร็จจากเที่ยวคอกเสือเราก็ขับรถกลับกรุงเทพ เป็นอันจบทริป เหนื่อยรัก...พักที่น่าน แต่เพียงเท่านี้ครับ

แล้วพบกันใหม่น๊าาา

Fanpage : https://www.facebook.com/wefoto/

Instagram : preuk13

Twitter : preuk13 /// https://twitter.com/preuk13

Phongthon Preuksrirat

Wefoto

 วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 07.45 น.

ความคิดเห็น