ทริป 12 ชั่วโมงในไทเป การเที่ยวให้คุ้มค่ากับเวลาอันจำกัด
12 Hours in Taipei: Making the Most of Limited Time
การมีเวลาเที่ยวแค่ 12 ชั่วโมงในไทเปอาจฟังดูเหมือนท้าทาย แต่ผมก็เลือกที่จะใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุด โดยการเลือกไปยังสถานที่สำคัญและไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด อย่าง วัดหลงซาน, ตึกไทเป 101, จิ่วเฟิ่น และซีเหมินติง ถึงแม้จะไม่มีการวางแผนล่วงหน้า แต่ทุกอย่างก็ดูลงตัวได้อย่างน่าประหลาดใจ
Having only 12 hours to explore Taipei might sound like a challenge, but I decided to make the most of it by visiting key attractions and highlights that are not to be missed, such as Longshan Temple, Taipei 101, Jiufen, and Ximending. Even without much planning, everything surprisingly fell into place.
เริ่มต้นตอนเช้า ไหว้พระขอพรที่วัดหลงซาน
Morning: Starting at Longshan Temple
ผมเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ วัดหลงซาน (艋舺龍山寺) วัดเก่าแก่และสวยงามที่ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของไทเป บรรยากาศที่นี่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวไต้หวันที่มาสักการะและขอพร เพื่อความโชคดีในชีวิตและการเดินทาง
I began my day at Longshan Temple (艋舺龍山寺), a historic and beautiful temple that is one of Taipei’s iconic landmarks. The atmosphere was vibrant, filled with both tourists and locals coming to pray for good fortune in life and travel.
ในขณะที่ผมยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนที่ตั้งใจขอพร ผมก็ไม่พลาดที่จะอธิษฐานให้ทริปนี้เต็มไปด้วยความโชคดีเช่นกัน และแน่นอนว่าผมไม่พลาดที่จะซื้อของที่ระลึกจากวัดเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง
Standing amidst the crowd, I made my own wish for a lucky and fulfilling trip. Of course, I didn’t miss the chance to buy some temple souvenirs for a touch of good luck.
หลังจากนั้น ผมเดินไปยังร้าน โจวจี๋โหย่วโจวเตี้ยน (周記肉粥店) คนไทยรู้จักในชื่อ “ร้านข้าวต้มหมูกรอบ”
Afterward, I walked to Zhouji Rouzhou Dian (周記肉粥店), known among Thai travelers as the “crispy pork congee restaurant.”
เป็นร้านอาหารชื่อดังไม่ไกลจากวัดหลงซาน บรรยากาศหน้าร้านคึกคักเต็มไปด้วยคนท้องถิ่นที่มาลิ้มรสอาหารเช้า รสชาติอาหารที่นี่กลมกล่อมและอร่อยสมกับได้รับความนิยมในหมู่ชาวไต้หวันและนักท่องเที่ยว
Located not far from the temple, this popular breakfast spot was bustling with locals. The food was flavorful and well-deserving of its reputation among Taiwanese and tourists alike.
ตรงข้ามร้านเป็นย่านเมืองเก่าปั่วผีเหลียว (剝皮寮) เป็นย่านที่มีอาคารและร้านค้าเก่าแก่แบบดั้งเดิม ย้อนไปตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิงไปจนถึงอาคารและร้านค้าที่สร้างในยุคที่ไต้หวันตกอยู่ภายในอาณานิคมของจักรวรรดิญี่ปุ่น
Opposite the restaurant is Bopiliao Historical Block (剝皮寮), a neighborhood filled with traditional buildings and shops that date back to the Qing Dynasty and extend to structures built during Taiwan's period under Japanese colonial rule.
ความผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมทำให้ย่านนี้มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบมรดกทางวัฒนธรรมและลยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
The blend of historical significance and architectural styles gives this area a unique charm. It's a perfect spot for heritage enthusiasts and also serves as a picturesque location for photography.
ช่วงสาย หอรำลึกเจียงไคเช็ค
Late Morning: Chiang Kai-shek Memorial Hall
หลังจากเที่ยววัดหลงซานในช่วงเช้าและอิ่มอร่อยกับอาหารเช้าสไตล์ไต้หวันที่ร้านข้าวต้มหมูกรอบ ผมใช้เวลาเดินเล่นย่านเมืองเก่าปั่วผีเหลียว ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสวยๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก (中正紀念堂) ในช่วงสายของวัน
After visiting Lungshan Temple in the morning and enjoying a delicious Taiwanese breakfast at the pork porridge restaurant, I spent some time strolling through the old streets of Bopiliao Historic Block, capturing the charming atmosphere. By late morning, I made my way to the Chiang Kai-shek Memorial Hall (中正紀念堂), another must-visit landmark in Taipei.
การเดินทางไปที่นี่สะดวกมาก ผมนั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีแดงและลงที่สถานี Chiang Kai-shek Memorial Hall ซึ่งตัวอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ในบริเวณที่กว้างใหญ่และโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์จีนคลาสสิก เมื่อเดินเข้าสู่ลานกว้าง ผมรู้สึกทึ่งกับความอลังการของพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญทั้งสามแห่ง ได้แก่ ประตูเสรีภาพ โรงละครแห่งชาติ และหอแสดงดนตรีแห่งชาติ ที่เรียงรายอย่างสง่างาม
Getting there was incredibly convenient. I took the MRT Red Line and got off at Chiang Kai-shek Memorial Hall Station. The memorial is situated in a vast open area, surrounded by grand structures like the Liberty Square Arch, the National Theater, and the National Concert Hall, all arranged in an impressive layout.
ผมเดินขึ้นไปยังตัวอาคารหลัก ซึ่งมีบันไดขนาดใหญ่กว่า 89 ขั้น สื่อถึงอายุของเจียงไคเช็ก เมื่อมองลงมาจากจุดนี้ จะได้เห็นวิวลานเสรีภาพที่สวยงาม ภายในอนุสรณ์สถานมีรูปปั้นขนาดใหญ่ของเจียงไคเช็ก และนิทรรศการที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตและการทำงานของเขา เป็นการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ทำให้ผมได้เรียนรู้มุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับไต้หวัน
Walking up the 89 steps of the main hall, representing Chiang Kai-shek’s age, I was struck by the panoramic view of Liberty Square below. Inside, the hall features a massive statue of Chiang Kai-shek and exhibitions detailing his life and legacy. The combination of historical significance and architectural beauty offered a unique insight into Taiwan’s cultural heritage.
หลังจากเยี่ยมชมเสร็จ ผมเดินเล่นในสวนรอบๆ ที่ร่มรื่นและสงบมาก จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปในทริปของผม นั่นก็คือ ตึกไทเป 101 ซึ่งผมตั้งใจจะถ่ายรูปจากมุมถ่ายภาพยอดนิยม ที่ผสมผสานเสน่ห์ของความทันสมัยและบรรยากาศเก่าแก่ของไทเปได้อย่างลงตัว
After exploring the memorial, I took a leisurely stroll through the serene gardens surrounding the area. Then, I headed to my next destination: Taipei 101. There, I planned to capture photos from one of Taipei’s most iconic photography spots—a perfect blend of modern and nostalgic Taipei.
ตอนบ่าย มุมเด็ดถ่ายรูปตึกไทเป 101
Afternoon: The Perfect Photo Spot for Taipei 101
จากหอรำลึกเจียงไคเช็ค ผมมุ่งหน้าไปยัง ตึกไทเป 101 ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงไทเป หนึ่งในมุมเด็ดที่ไม่ควรพลาดในการถ่ายรูปตึกไทเป 101 คือ ถนน Lane 253 พิกัดร้าน Takemura Izakaya ร้านตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ที่ไม่กว้างมาก
From Chiang Kai-shek Memorial Hall, I headed towards Taipei 101, the iconic landmark of Taipei. One of the must-see photo spots for capturing Taipei 101 is Lane 253, the location of Takemura Izakaya. The restaurant is situated in a narrow alley that’s not very wide.
บรรยากาศในซอยเต็มไปด้วยอาคารเก่าที่มีเสน่ห์และความคลาสสิก เมื่อมองไปข้างหน้า จะพบกับตึกไทเป 101 ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ท่ามกลางมุมกลางซอยที่ประกอบด้วยอาคารเก่าๆ สองข้าง ความลงตัวระหว่างตัวตึกที่ทันสมัยกับบรรยากาศของซอยเก่าทำให้การถ่ายรูปในมุมนี้เป็นอะไรที่พิเศษ เป็นมุมที่นักท่องเที่ยวและช่างภาพไม่ควรพลาดในการมาที่ไทเป
The atmosphere is filled with charming, classic old buildings. As you look ahead, you’ll see Taipei 101 towering magnificently in the middle of the alley, flanked by old buildings on both sides. The blend of modern architecture and the old-world charm of the alley makes this spot perfect for photography. It's a place that tourists and photographers should not miss when visiting Taipei.
อันนี้มุมแถมครับ พิกัดร้านแฟมิลี่มาร์ท สี่แยกถนน Songran ตัดถนน Lane 275 แต่ถ่ายรูปได้ตอนข้ามถนนเท่านั้นนะ เพราะฉะนันระมัดระวังรถและไม่รบกวนคนขับรถบนท้องถนนด้วยนะค่าบ
Here’s an extra spot for you: The location of a Family Mart at the intersection of Songran Road and Lane 275. You can take a photo of it only when you cross the street, so please be cautious of traffic and avoid disturbing drivers on the road.
ผมตั้งใจจะทานอาหารที่ร้าน Takemura Izakaya ที่ตั้งอยู่ในซอยนี้ แต่โชคไม่ดีที่ร้านปิด จึงตัดสินใจไปทานมื้อเที่ยงที่ ซั่งผิ่นเค่อเจียเสี่ยวก่วน (上品客家小館) ร้านอาหารเล็กๆ ที่คุณภาพดีมาก รสชาติอาหารที่นี่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุ้มค่ากับการมาลิ้มลอง
I initially planned to have lunch at Takemura Izakaya, located in this area, but unfortunately, the restaurant was closed. Instead, I chose Shang Pin Kejia Xiao Guan (上品客家小館), a small yet highly-rated Hakka restaurant. The food was delightful, making it a worthy alternative and a memorable dining experience.
ช่วงเย็น เดินเล่นย่านโบราณจิ่วเฟิ่น
Evening: Strolling Through Jiufen
หลังจากทานอาหารเสร็จ ผมตัดสินใจไปยัง จิ่วเฟิ่น (九份) ซึ่งเดินทางง่ายมากจากไทเปใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถบัส
After finishing my meal, I decided to head to Jiufen (九份), which is very easy to reach from Taipei, taking about an hour by bus.
จิ่วเฟิ่นเป็นย่านที่มีบรรยากาศย้อนยุค เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆที่คราครั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่นี่เหมือนเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทุกเชื้อชาติที่ต้องมาเยี่ยมเยียน
Jiufen is a nostalgic area, full of narrow alleys lined with small shops and bustling with tourists. It feels like a must-visit destination for travelers from all over the world.
การเดินชมบรรยากาศและลิ้มรสขนมหวานท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้รู้สึกว่าทริปนี้น่าจะยาวนานกว่านี้นะ
Walking around to soak in the atmosphere and sampling the unique local sweets made me feel like this trip could have lasted much longer.
ตกดึก เดินเล่นที่ซีเหมินติง
Night: Wrapping Up at Ximending
ปิดท้ายวันด้วยการเดินเล่นในย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ซีเหมินติง (西門町) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ฮาราจูกุแห่งไทเป” ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสไตล์แฟชั่นวัยรุ่นที่สะดุดตา ย่านนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ช้อปปิ้ง แต่ยังถือเป็นแหล่งรวมอาหาร สตรีทฟู้ด และวัฒนธรรมป๊อปของไต้หวันที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยแสงไฟนีออนและป้ายโฆษณาแบบสีสันสดใส ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน
I ended my day with a stroll through the vibrant shopping district of Ximending (西門町), often called the "Harajuku of Taipei." This bustling area is known for its energetic vibe and trendy youth fashion. It’s not just a shopping paradise but also a hub for street food and pop culture, brimming with charm and life. The neon lights and colorful billboards lining the streets create an atmosphere that feels like stepping into a whole new world full of excitement.
หลังจากเดินสำรวจย่านนี้อยู่พักใหญ่ ผมไม่พลาดที่จะลิ้มลองของอร่อยประจำถิ่น เริ่มจากร้านดัง บะหมี่อาจง (阿宗麵線) ซึ่งเป็นร้านเส้นหมี่สไตล์ไต้หวันที่มีเอกลักษณ์ น้ำซุปที่กลมกล่อมและมีเนื้อสัมผัสเหนียวเล็กน้อยคล้ายกระเพาะปลาบ้านเรา แต่แตกต่างด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัว ผมสังเกตว่าคนต่อแถวยาวมาก แต่ทุกคนก็ดูเต็มใจที่จะรอ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อได้ลองชิมคำแรกก็เข้าใจเลยว่าทำไมร้านนี้ถึงดังขนาดนี้
After wandering through the lively streets for a while, I couldn’t resist trying some of the local culinary highlights. My first stop was the famous Ay-Chung Flour Rice Noodle (阿宗麵線). This iconic noodle shop serves a savory, slightly thick soup that reminded me of fish maw soup back home, but with a unique twist. The queue outside the shop was long, but everyone seemed happy to wait. One taste of the warm, flavorful noodles explained why this place has become such a must-visit spot.
ไม่หยุดแค่นั้น ผมยังเดินไปที่ร้านชานมไข่มุกยอดฮิต ชิงฝู่ถัง (幸福堂) ที่มีกลิ่นหอมของน้ำตาลทรายแดงคาราเมลแบบสดใหม่ ผสมผสานกับความนุ่มหนึบของไข่มุกและนมสดรสชาติเข้มข้น แก้วแรกที่ลองชิมทำให้ผมตัดสินใจซื้อแก้วที่สองติดมือกลับไปทันที ความหวานที่พอดีและกลิ่นหอมของไข่มุกคาราเมลทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่อยากให้จบลง
Not stopping there, I made my way to the renowned Xing Fu Tang (幸福堂), a bubble tea shop famous for its freshly made brown sugar caramel bubble. The rich aroma of caramelized sugar filled the air as I watched the staff prepare each drink with meticulous care. One sip of the creamy, sweet bubble tea was enough to convince me to grab a second cup. The perfect balance of sweetness and the chewy texture of the bubble made it an unforgettable treat.
ซีเหมินติงไม่ได้มีแค่ของกินอร่อยๆ เท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยร้านขายของฝากและของที่ระลึกหลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่นไปจนถึงสินค้าประจำถิ่น ผมใช้เวลาเดินเล่นและเลือกซื้อของฝากติดไม้ติดมือเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะจบวันไปพร้อมกับบรรยากาศที่คึกคักของย่านนี้ ความสนุกและสีสันของซีเหมินติงทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นการปิดท้ายวันในไทเปที่สมบูรณ์แบบที่สุด
Ximending isn’t just about food; it’s also a great place for shopping and finding unique souvenirs. From trendy clothing to local goods, there’s something for everyone. I spent some time browsing through the shops, picking up a few small souvenirs to take home. As I walked back, soaking in the lively atmosphere and colorful surroundings, I felt like this was the perfect way to end my day in Taipei. The energy and charm of Ximending left a lasting impression and made my final hours in the city truly memorable.
เพียงแค่ 12 ชั่วโมง แต่มันเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งวัฒนธรรม อาหาร และบรรยากาศของเมืองที่ทำให้ผมประทับใจไม่รู้ลืม จากวัดหลงซานจนถึงตลาดกลางคืนซีเหมินติง ทุกจุดที่เยี่ยมชมทำให้ทริปนี้คุ้มค่ากับเวลาที่มี แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจคือ ถ้าผมได้มาไทเปอีกครั้ง ผมจะต้องมีเวลามากกว่า 12 ชั่วโมงอย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้มีอะไรให้ค้นหาและหลงรักอีกมากมายกว่าที่จะเก็บได้หมดในวันเดียว!
Though it was just 12 hours, the day was packed with diverse experiences—from cultural landmarks to culinary delights and vibrant cityscapes. From Longshan Temple to Ximending Night Market, every stop made the trip worthwhile. One thing is certain: if I return to Taipei, I’ll make sure to spend more than 12 hours here, as this city has so much more to explore and fall in love with than can fit into a single day!
ติดตาม / Follow
Go See Write เล่าเรื่องเที่ยว
ผู้เขียน / Author
Facebook
TikTok
go see write เล่าเรื่องเที่ยว
วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.37 น.