รีวิวการเดินทางกับเมืองเล็กๆที่เงียบสงบทางภาคเหนือของประเทศไทย อย่าง จังหวัดน่าน ที่ที่หลายคนได้ยินชื่อแล้วนึกอ่อถึงความงดงามของธรรมชาติ วัดวาอารามและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองฝาแฝดกับเมืองหลวงพระบางถ้าคุณรู้จักเมืองน่ารักๆแบบนี้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนเมือง เมืองนี้

เหนื่อยกับการเดินทางแต่เมื่อมาเจอบรรยากาศแบบนี้ก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยว่าไหมละ

การเดินทางของผมในทริปทริปนี้กินเวลาประมาณ4วัน บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ที่ยังอุดมสมบูรณ์ รวมถึงวิถีชาวบ้านท้องถิ่นที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ให้รุ่นหลังได้เห็นเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ที่มีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนให้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง วิถีชีวิตแบบ Slow Life การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นการเดินทางจาก กรุงเทพ ไปยังจังหวัดน่านใช้เวลาในการเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ8ชั่วโมง

เขาว่ากันว่าการเดินทางก็คือชีวิต แต่บรรทัดสุดท้ายก็คงอยู่ที่ว่า ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ สนุกหรือเหนื่อย เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง หลายคนพยายามให้คำจัดกัดความของการเดินทาง

แต่สำหรับทริปนี้ สำหรับผมมันเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย

....จากป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ ....มาเป็นภูเขาหัวโล้นไกลสุดลูกหูลูกตา

จากเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย....มาเจอความสงบเงียบในเมืองเล็กๆ..มาใช้ชีวิตช่าๆเพื่อเรียนรู้ตัวเอง



หลายสิ่งหลายอย่างที่เราได้รับจากเมืองๆนี้ แต่มีอย่างนึงที่ไม่ว่าใครมาเยือนจะต้องได้รับกลับไป ก็คือ ความสุข อย่างแน่นอน

A: ไปเมืองน่านเป็นไงบ้าง?
B: เห้ยมันสุดยอดเลยนะ
A:แล้วจะไปอีกไหม
B:ไปดิ
A:งั้นพาเราไปด้วย
B:@#!!++&%$%

ติดตามข่าวสาร อัพเดตกับการท่องเที่ยว และเรื่องราวของสองข้างทางที่ได้พบเจอ มาพูดคุยแบ่งปันเรื่องราวกันนะครับ ที่ Facebook Fan-page
Link: https://www.facebook.com/onthejourneythai

แผนการเดินทาง
การเดินทางครั้งนี้ของผมเริ่มต้นการเดินทางจาก กรุงเทพ ไป ยังจังหวัดน่านต่อไปยังอ.บ่อเกลือ ต่อไปยังอ.ปัวและปิดท้ายด้วยการย้อนกลับมาที่ อ.เมือง จ.น่าน

Episode 1 :การเดินทางอันแสนยาวนานที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
ออกเดินทางจาก กรุงเทพแต่เช้าตรู่เดินทางยาวตลอด 8 ชั่วโมงไปยังจังหวัดน่าน ผมเดินทางมาถึง อ.เมือง จ.น่าน ราวๆ 16.30 น. อากาศในจ.น่นวันที่ผมเดินทางมาถึง ค่อนข้างขมุกขมัว ไม่ค่อยสดใสมีฝนตกปลอยๆ แต่อากาศเย็นสบายไม่ร้อนจนเกินไป วันแรกที่เดินทางมาถึง ผมเดินเที่ยวชมเมือง ด้วยความที่ตัวเมืองมีขนาดไม่ใหญ่มากทำให้สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบายๆ

…..เมืองน่านยามเย็นน่านในบรรยากาศนี้ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ทำให้ประทับใจ แสงตะวันที่คอยสาดส่องเมืองนี้ก็ค่อยๆหายไป กลายเป็นแสงจากดวงไฟที่ฉายไปบนอาคารบ้านเรือนและ วัดวาอาราม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย สิ่งเหล่านี้มันจึงกลายเป็นการผ่อนคลายจากการเดินทางมาอย่างหนักทั้งวัน


Episode 2: ท่องดินแดนในสายฝัน-ตามหาภาพรักบรรลือโลก

บรรยากาศน่านยามเช้า ผู้คนออกมาใส่บาตร เสียงระฆังที่ดังออกมาจากวัดที่ไม่ห่างจากที่พักผมนัก เสียงไก่ขัน เป็นเหมือนนาฬิกาปลุก ธรรมชาติในยามเช้า " ตื่นได้แล้ว!! วันนี้ยังคงต้องเดินทางอีกไกล " ถ้าพวกนี้มีชีวิตมันคงมาปลุกผมด้วยเสียงเรียกแบบนี้แล้วว่าไหม

จริงๆแล้วภายในเมืองน่านมีที่เที่ยวที่เยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามรวมทั้งโบราณสถานต่างๆ

การเดินทางท่องเที่ยวในตัวเมือง จ.น่านนั้นเดินทางไม่ยากมาก ถ้าหากมีกำลังพอก็สามารถเดินเที่ยวในตัวเมืองได้อย่างสบายแม้ว่าตัวเมืองน่านจะไม่ใหญ่มากนักแต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง

ที่แรกที่ผมเดินทางไป เป็นสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ทีใครๆที่รู้จักจังหวัดน่านต้องรู้จักเป็นแน่นอนภาพที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นั้นก็คือวัดภูมินทร์ วัดภูมินทร์ความสวยงามแปลกตาของวัดภูมินทร์ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยก็คือ เป็นพระอุโบสถทรงจตุรมุข จะเดินขึ้นบันไดทิศไหนก็จะพบพระพักตร์ของพระพุทธรูปทุกด้านภายในพระอุโบสถ จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยสดงดงามนั้นคือ ภาพจิตรกรรม ปู่ม่าน ย่าม่าน(ภาพกระซิบรัก บรรลือโลก)

' มีโอกาสมากมาย

ที่จะเจอคนที่ "เรารัก"

แต่คงไม่มีโอกาสมากนัก

ที่จะเจอคนที่ "รักเรา"

ก็คนมันโสดเลยไม่มีสิทธิ.. ก็คงต้องเดินเหงาๆต่อไปละกัน เดินมาไม่ไกลมากเพียงแค่ข้ามถนนก็เจอกับพระอารามหลวงของจังหวัดน่าน

วัดช้างค้ำวรวิหาร พระวิหารหลวงที่วัดนี่มีขนาด ใหญ่รูปทรงสร้างตามสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือ ลักษณะภายในโอ่โถง ด้านหน้ามีสิงห์คู่ยืนตรงเชิงบันใดด้านละตัว ภายในวัดยังประดิษฐาน เจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุโขทัยรอบเจดีย์มีรูปปั้นช้างปูนปั้นครึ่งตัว ประดับอยู่โดยรอบ

ขับมอเตอร์ไซด์เที่ยวก็สบายๆไปอีกแบบ

เดินข้ามฝากถนนอีกนิดเดียวก็จะเจอพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เหมาะกับเป็นที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองน่าน ภายในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน มี ซุ้มต้นลีลาวดีที่ขึ้นเป็นแถวเรียงรายยาวนานไปกับตัวอาคารเติบโต กลายเป็นอุโมงค์ต้นไม้ยิ่งใหญ่สวยงามคนที่ได้มาท่องเที่ยวเมืองน่านนิยมมาถ่ายรูปเพราะเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองน่าน

ลักษณะตัวอาคารโอ่โถงงดงามก่ออิฐถือปูนแข็งแรง แต่ตกแต่งให้อ่อนช้อยสวยงามด้วยลายลูกไม้ นับเป็นด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์เจ้า สุริยพงษ์ผริตเดช ผู้เป็นเจ้าของหอคำ

หลง(รัก)....เมืองนี้เข้าแล้ว

มองจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านเราก็เห็นวัดหัวข่วงตั้งเด่นอยู่ทางด้านซ้ายกับตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ วัดหัวข่วงมีลักษณะศิลปกรรมแบบท้องถิ่นล้านนาที่โดดเด่น

จากนั้นผมขับรถออกจากตัวเมืองน่านไม่ไกลมากนักเราก็มาถึงที่หออัตลักษณ์นครน่าน สถานที่แห่งนี้คือที่ๆไว้เล่าขานความเป็นมาของเมืองน่านไว้อย่างละเอียดเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

ภายในมีห้องฉายวีดีทัศน์เกี่ยวกับเมืองน่าน,ห้องแสดงวิวัฒนาการสายสัมพันธ์เมืองน่านสู่รัตนโกสินทร์ ,สายสัมพันธ์ล้านนาตะวันออก เชียงราย แพร่ น่าน พระเยา ,กลุ่มชาติพันธุ์คนน่าน ม้ง เมี่ยน ก่อ ไทลื้อ ฯลฯ,,สถาปัตยกรรมเมืองน่าน,มรดกทางธรรมชาติ,อุทยานธรรมชาติต่างๆ และห้องจัดแสดงสินค้าและจำหน่ายของที่ระลึก ร้อยเรียงเรื่องเล่าขานด้วยเทคโนโลยีทันสมัย จึงจัดได้ว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าเข้าเยี่ยมชมมากๆ ใครที่อยากเรียนรู้ความเป็นมาของเมืองน่านไม่ควรพลาดที่มาเยี่ยมชมกัน

วกกลับเข้ามาในเมืองอีกรอบคราวนี้เรามาเติมพลังกับของหวานที่ร้านขนมหวานป้านิ่ม น่านเป็นอีกเมืองหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักกินก็ว่าได้

ร้านขนมหวานป้านิ่มมี ขนมหวานขายอยู่หลากหลาย และของหวานที่ขึ้นชื่อคือขนมบัวลอยได้ยินชื่อขนมที่ไรเพลง ดังขึ้นมาเลย "บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก ทำไมทำไมจากข้าเร็วเกินไป บัวลอยไปอยู่ที่ไหน เคยรู้บ้างไหม" เห้ย!! นั้นมันคนละบัวลอยแล้ว

จากนั้นผมเดินทางต่อไปยังวัดพระบรมธาตุแช่แห้งภายในมีวิหารหลวง และเจดีย์วัดพระธาตุแช่แห้งองค์กระธาตุแช่แห้ง มีสีเหลืองอร่าม เนื่องจากบุด้วยแผ่นทองเหลือง ลักษณะของเจดีย์ทรงระฆัง


เดินทางไปยังอำเภอบ่อเกลือ การเดินทางในช่วงนี้เป็นการเดินทางขึ้นเขาเป็นส่วนมาก แต่ถนนที่เดินทางขึ้นไปเป็นถนนที่พึ่งทำใหม่มีการขยายทางทำให้ขับขี่ได้สะดวกขึ้นบรรยากาศ2ข้างทางเป็นภูเขาหัวโล้นที่มีการทำไร่ข้าวโพดที่มองเห็นไกลสุดลูกหูลูกตา

ใช้เวลาเดินทางประมาณ2ชั่วโมงผมก็เดินทางมาถึงอ.บ่อเกลือ อ.บ่อเกลือตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขามีบรรยากาศที่สวยงาม บ่อเกลือภูเขาที่อ.บ่อเกลือประกอบด้วย2บ่อ ยังคงรักษาเอกลักษณ์การต้มเกลือแบบโบราณอยู่

การเดินทางมันอาจทำให้รู้ว่าความงดงามของจุดหมายอาจไม่ได้อยู่ที่ปลายทางเสมอไป แน่นอนว่าในทุกการเดินทางรวมทั้งการเดินทางของชีวิตการมีจุดหมายก็เหมือนกับการมี ความฝัน ที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ออกเดินทาง และสิ่งรอบข้างที่ได้รับระหว่างการเดินทาง ต่างกันที่ว่าท้ายที่สุดแล้วสิ่งล้ำค่าที่ได้จากการเดินทางอาจไม่ได้อยู่ที่การไปสถานที่แห่งใดแห่งนึงเท่านั้นแต่ยังอยู่ที่ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น

อาหารเย็นวันนี้ที่ร้านอาหารในบ่อเกลือวิวรีสอร์ทกับวิวแม่น้ำมางด้านล่างเป็นทั้งอาหารกายและอาหารใจได้อย่างดีทีเดียว


Episode 3: ความประทับใจที่ไม่มีวันลืม

วันนี่ผมรีบตื่นเช้าแล้วรีบออกเดินทางไปยัง อ.ปัว การเดินทางไปอ.ปัวครั้งนี้ผมใช่เส้นทางผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคาระหว่างการเดินทางเต็มไปด้วยหมอกที่ลงมาปกคลุมแม้จะยังไม่เข้าหน้าหนาวแต่อากาศก็เย็นสบายกันเลยทีเดียว เป็นวันแรกที่เดินทางมาจ.น่านแล้วแดดออกหลังจากห่างหายไปถึง2วัน

ผมเดินทางมาถึงอปัวในช่วงสายๆ อ.ปัวก็เป็นอำเภอนึงของจ.น่านใช้เวลาราว2ชั่วโมงการเดินทางในช่วงอุทยานเป็นทางโค้งหักศอกอยู่หลายช่วง เป็นการเดินทางที่หวาดเสียวอยู่พอสมควร สำหรับใครที่ชอบการเดินทางที่หวาดเสียวแนะนำเส้นทางนี้เลย
การได้มาเพื่อสิ่งที่เราคาดหวังมันคงต้องลงทุนบางสิ่งเพื่อนมัน.....วิวดีๆก็เช่นกัน

ภายในอ.ปัวมีที่เที่ยวอยู่หลายที่ด้วยกันที่แรกที่ผมไปคือวัดภูเก็ต อ่าว!!วัดนี้ ทำไมชื่อ วัดภูเก็ตแล้ว ถึงมาอยู่ที่น่านได้ละ ความจริงแล้ววัดภูเก็ต ตั้งชื่อตามหมู่บ้านที่ชื่อว่า หมู่บ้านเก็ต ตัววัดตั้งอยู่บนภู วัดจึงถูกเรียกชื่อว่า "วัดภูเก็ต"


ที่ที่ทำให้ผมมาที่นี่เพราะที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยที่สุดในอ.ปัว ระเบียงชมวิวด้านหลังวัดติดกับทุ่งนาที่กว้างไกลพร้อมด้วยฉากหลัง เป็นภูเขาวนอุทยานดอยภูคา ที่สร้างภาพที่แสนจะงดงามประทับใจที่ผมจะไม่มีวันลืม


ร้านฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ร้านอาหารที่มีบรรยากาศก็เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน อาหารที่นี่ทำมากจากเห็ดหลายอย่างและขอรับรองว่าอร่อยทุกอย่างแน่นอน

อาหารราคาหลักร้อยวิวหลักล้าน

ผมเดินทางต่อไปยังวัดเขาน้อยจากวัดพระธาตุเขาน้อย ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านใช้เวลเดินทางจากอ.ปัวประมาณ1ชั่วโมง ปัจจุบันบริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหา อุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน

ว้าว!! เสียงนี้ดังขึ้นมาในหัวผมกับภาพเบื้องหน้าที่ตั้งอยู่สวยงามในวันที่อากาศสดใสสามารถมองได้ไกลแสนไกล

ตกเย็นแล้ววันนี้ผมมาฝากท้องกับตลาดนัดคนเดินแถวถนนข้างวัดภูมินทร์ที่นี่มีทั้งของกินและของฝากและของที่ระลึกให้เลือกซื้อมากมาย บริเวณลานหน้าวัดภูมินทร์มีการปูเสื่อให้คนได้มาฟังดนตรีเพราะๆกับกินอาหารอร่อยๆ ....บางทีชีวิตก็คงไม่ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้วละ

นาน นานเท่าใด
กว่าจะเดินทางไกลออกไปพบเจอ
เมืองที่มีหมอกมัวสลัว ๆ และสายฝนพรำ
จำ ๆ ขึ้นใจเส้นทางอันห่างไกลผ่านไพรพนา
ข้ามภูผา ข้ามฟ้าให้มาพบเจอ
โอ้เจ้านกนางแอ่นเจ้ารู้
เจ้าจึงโผบินจากแดนใด
มาหาถิ่นเกาะถิ่นพักใจ
ใกลแสนไกลไม่ย่อไม่ท้อ
มีกี่คนที่ดั้นด้นมา ด้วยรับรู้ว่ามีเมืองนี้
งามเหมาะสมพอดิบพอดี ให้มาพักพิง
น่านนะสิ น่านนะสิ
มากี่ที ๆ อยากอยู่นาน ๆ

น่านแม้อาจเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนะธรรมที่หลากหลายผู้คนใจดีมีน้ำใจ เป็นเมืองที่ใช้ชีวิตแบบไม่ต้องรีบร้อน สงบสุข ละก็คงเป็นอีกเมืองที่ถ้ามีโอกาส จะกลับไปอย่างแน่นอน

ฝากติดตามผลงานที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ

Link: https://www.facebook.com/onthejourneythai

เข้าไปพูดคุยไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นชมรูปสวยกันนะครับ



ความคิดเห็น