บางทีในอีกมุมหนึ่ง พระอาทิตย์ตกดิน ก็สื่อความหมายของการลาทีไม่ใช่ลาจาก แต่เป็นลาเพื่อหยุดพัก พักใจอย่างนิ่งๆ อยู่กับตัวเองอย่างมีความสุขให้ได้ในแต่ละวันวัน
กระทู้นี้ผมจะพาทุกคนไปดูดวงอาทิตย์ในมุมต่างๆของประเทศไทย ยกเว้นภาคเหนือนะ เพราะผมไม่เคยไปฮ่าๆ โดยส่วนตัวแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบการเดินทางอยู่เเล้ว และทุกการเดินทางของผมต้องไปนั่งดูพระอาทิตย์ให้ได้ไม่ว่าจะขึ้น หรือตก ถ้ามีโอกาส หรือเรียกง่ายๆว่า ผมเป็นคนขี้เหงา ที่ชอบไปนั่งเล่าเรื่องให้ดวงอาทิตย์ฟัง
เริ่มต้นด้วยที่นี่เลยครับ เกาะเต่าจ.ชุมพร ดวงอาทิตย์ลับฟ้า ลาโลกของความสว่างของวันนั้นไปได้อย่างเหงาและอ้างว้าง สำหรับคนที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาะเต่า ก็อย่าลืมแวะไปนั่งชมความสวยงามของเจ้าดวงอาทิตย์นะครับ เพราะบอกเลยว่า มันเฉิดฉายเปร่งประกายความสวยงามของมันได้น่ามองมาก
แต่ทุกครั้งที่มันจะลา ถ้าทุกคนสังเกตดีๆมันจะคอยเตือนเราตลอด หรือมองอีกมุมคือการเล่าเรื่องของมัน และผมชอบตีความหมายของเล่าเรื่องของมัน เป็นสี่เรื่องราว นั้นคือ
ภาพที่1 แสงสว่างของมันที่เจิดจ้ามีสีของท้องฟ้าปะปน นั้นคือความสุขของการเดินทางของดวงอาทิตย์ในวันนั้น
ภาพที่2 แสงมันเริ่มเจิดจ้าบดบังสีท้องฟ้า ท้องทะเลเต็มไปด้วยสีส้มแดง นั้นคือการเหนื่อยล้าของมัน
ภาพที่3แสงสีแสดที่แฝงไปด้วยความอ่อนนุ่มของโทนสี นั่นคือการบอกว่ามันเหงาเหมือนกับผมที่นั่งคุยกับมัน
ภาพที่4แสงจางๆที่กระทบน้ำ นั่นคือการบอกลาของมัน แต่เป็นลาเพื่อจะเริ่มต้นใหม่ (แต่นี่ก็แค่มุมของผมนะ)
หากเรามองด้วยจินตนาการของความสุข ทุกที่ที่เราไป มันสวยงามเสอมครับ
สถานที่ที่ 2 ตรัง
ริมหาดปางเม็ง หลังจากที่เที่ยวจากหมู่เกาะต่างๆผมก็ได้มานั่งเล่น ริมหาดปากเม็งรอดูความสวยงามของเจ้าดวงอาทิตย์ บอกเลยว่าไม่แพ้เกาะเต่า ที่ไม่แพ้เนี่ย คือความเหงานะ ฮ่าๆล้อเล่น สวยครับ ยังคงสวยงามเหมือนเดิม และเช่นเคยครับ สี่ความแตกต่างของท้องฟ้าเราจะเห็นว่า ดวงอาทิตย์จะสั่งลาคล้ายๆกัน(หรือว่าผมคิดไปเองคนเดียวก็ไม่รู้นะฮ่าๆ)
จากนั้นก็นั่งเหม่อมองไปเรื่อย บรรยากาศมันทำให้คนเราเหงาเพิ่มได้นะ ผมว่า
ตัดภาพมาสถานที่ที่ที่ 3 เขื่อนรัชชประภา สุราษฎร์ธานี
ที่นี่สวยไม่แพ้ที่อื่น การที่เราจะเห็นพระอาทิตย์ตกได้เราต้องนั่งเรือออกมาจากแพ และต้องรีบออกมาให้เร็วเพราะดวงอาทิตย์ลงเร็วมาก และเเล้วพวกเราก็ไม่ผิดหวัง ดวงอาทิตย์อวดความสวยงามได้อย่างประทับใจ
สถานที่ที่ 4 ภูกระดึง
เปลี่ยนบรรยากาศมาที่อีสานกันหน่อย ความสวยงามของดวงอาทิตย์บนภูกระดึง ที่แลกมาด้วยความเหนื่อย แต่พอได้เห็นได้มองแล้ว บอกเลยว่า สวยเหมือนกันต่างกันแค่คนละสไตล์
สถานที่ ที่ 5 อ่างน้ำพาน จ.อุดรธานี
เป็นสถานที่เปิดใหม่ คล้ายๆกันกับห้วยกระทิง ที่นี้ดวงอาทิตย์ก็สวยไม่แพ้ที่อื่นนะครับ ไปง่าย สบายไม่ลำบาก เล่นน้ำไปดูพระอาทิตย์ไปมีความสุขไปอีกแบบ
มีลงก็ต้องมีขึ้น ที่นี้เรามาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันบ้าง เห็นถึงความแตกต่างของสีได้อย่างชัดเจน ตอนลง ดวงอาทิตย์สีช่างเจิดจ้าและดุดัน แต่ตอนขึ้นนี้ ช่างอ่อนหวานซ๊เหลือเกิน
เริ่มต้นสถานที่แรกเลยครับ 1 แพรนางไพร เขื่อนรัชชประภา
เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน บอกเลยว่าครบเครื่องเรื่องเที่ยวมาก พระอาทิตย์มีให้ดูทั้งขึ้นเเละลง หากใครอยากสัมผัส ผมแนะนำแพรนางไพรเลยครับ ใกล้ที่ดูพระอาทิตย์ตก และสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าที่พัก
สถานที่ ที่ 2 ภูกระดึง
ที่นี่ก็เหมือนกัน ครบเครื่องเรื่องพระอาทิตย์ ทั้งขึ้นและลง เราสามารถหาได้จากที่นี่ ที่ที่แลกความสวยด้วยความเหนื่อย กว่าจะเห็นความสวยงาม ต้องเดินและก็เดิน แต่ถ้าถามว่าคุ้มมั้ย คุ้มมากนะครับ ฮ่าๆ
สถานที่ ที่ 3 ภูผาดัก จ.หนองคาย
ภูผาดัก ชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู ภูผาดัก เป็นภูเขาที่อยู่ใกล้กันกับภูห้วยอีสัน เป็นที่ท่องเที่ยว ที่มีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก เพราะบนภูไม่สามารถขึ้นไปนอนหรือค้างคืนได้ ทุกคนที่จะไปต้องนอนอยู่อีกที่เเล้วจ้างไกด์คนแถวนั้นพาขึ้นไป ภูนี้ ต้องเดินเหมือนกัน เเต่ระยะทางไม่ไกลเท่าภูกระดึง เเต่พอเดินขึ้นไปถึง ก็คุ้มค่าอยู่นะ เพราะเจ้าดวงอาทิตย์ โชว์ความสวยงามได้คุ้มค่ากับการเดินขึ้นไปดูมาก
ทั้งหมดนี้คือการไปเยี่ยมชมความงามของดวงอาทิตย์ของผม ในแต่ละที่ อยากให้ทุกคนได้ไปดูกัน เพราะแต่ละที่ อนกจากการเที่ยวชมทั่วไปเเล้ว หากเราโฟกัสอะไรบางอย่าง มันจะทำให้ที่แห่งนั้น มีอะไรมากกว่าการที่เราเข้าไปเที่ยว เหมือนอย่างผม ที่สนใจในดวงอาทิตย์ จนทำให้ผมมีภาพถ่ายกับดวงอาทิตย์ในหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน ขอบคุณครับ
เที่ยวจนวันลาหมด
วันพฤหัสที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.44 น.