หวัดดีจ้า มาอีกแล้วจ้าาาาาา มากับชื่อทริปแบบฆ่าตัวตาย พลีชีพมาก แฮร่~
ทริปนี้จะพาไปเวียดนามแหละ
จริงๆทริปนี้เริ่มจากความไม่ได้ตั้งใจ ความงง และเผลอใจล้วนๆ
ว่างไง แล้วเปิดเว็บไปเรื่อย ดันไปเจอตั๋วของ VietjetAir กรุงเทพ – ฮานอย (ไปกลับ) กะโปร 0 บาท!!
เอ้า เหมือนโดนของ หน้ามืดกดเฉย นั่นแหละ เลยเป็นที่มาของทริปนี้..
ครั้งนี้เราไปเวียดนามเหนือ จริงๆก็เคยไปมาแล้ว ทั้งไปเที่ยวและทำงาน แต่!! ไปครั้งก่อนๆ โดนหลอก โดนโกงจ้ะ
ฝังใจมาก เจ็บนี้อีกนานนนนนน แต่ถามว่าเข็ดมะ?
ตอบเลย ไม่!! และครั้งนี้มี mission คือ กู จะ ไม่ โดน โกง!
ดังนั้นต้องเตรียมความพร้อมเว้ย!
เริ่ม!
1. เมืองที่เราจะไปในครั้งนี้คือ
ฮานอย-ซาปา
2 สกุลเงินของเวียดนามใช้สกุล ดอง วิธีคิดง่ายๆ 10,000 ดอง = 16 บาท (ใช้ดอลล่าได้นะถ้าใครมี)
3 การเดินทาง พาหนะหลักในประเทศคือมอเตอร์ไซค์ แต่ถ้าเดินทางไกลหน่อยก็มีทั้ง รถเท็กซี่ รถบัส รวมถึงรถไฟ
4 เรื่องข้ามถนนถ้าเดินข้ามถนนที่นี่ห้ามถอยหลังเด็ดขาด!! เดินไปเลยไม่ต้องหยุด รถจะเลี้ยวหลบได้เอง อีกเรื่องคือชคนที่นี้บีบแตรกันแบบ โอ้โห หูจะหนวกแล้วจ้าาาาา อย่าตกใจนะเธอ~
5 ปลั๊กไฟเหมือนบ้านเรา ไม่ต้องใช้หัวแปลงอะไรใดๆทั้งสิ้น
6 เข้าประเทศนี้ ไม่ต้องกรอกใบ ตม. นะ เดินเข้าไปเลย!
7 Internet มี wifi เกือบทุกร้าน แต่ถ้ากลัวไม่ทันใจ แนะนำ pocket wifi จากเมืองไทยกวิ้นใช้บริการของ tripizee สัญญาณดีเลยนะ
8 ถ้ากลัวเที่ยวเองแล้วโดนหลอก ก็ซื้อทัวร์เลย มีหลากหลาย ของกวิ้นพอดีไปรู้จักกับ siam viet travel เลยรบกวนให้เค้าเป็นธุระให้ เค้าสื่อสารภาษาไทยได้ สบายใจ
9 ระวังโดนโกง!! มีสติให้เยอะๆ เช็คตัวเองดีๆ เตรียมความพร้อมตัวเองดีๆด้วยนะ
ถ้าอยากอ่านวิธีเตรียมตัวละเอียดๆ ดูได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/pg/tidsoihoytam/photos/?tab=album&album_id=1218255578268443 เลยจ้าาาา
ตอนนี้ป่ะ ไปเวียดนามกัน!!
Day 1 BKK- Hanoi - Sapa
ก่อนไป เราแวะเอา pocket wifi ที่ได้จองไว้ของ Tripizee ที่สนามบินสุวรรณภูมิ บูธของ tripizee อยู่ชั้น B1 ทางออกไปโรงแรม Novotel หาไม่ยากๆ
ข้อดีก็คือมีบริการส่งถึงบ้านหรือติดต่อรับได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อุปกรณ์ที่ให้มาก็จะมีตัวเครื่อง สายชาร์จ หัวแปลงแบบ universal แล้วก็แผ่นพับคู่มือ อ้อ อีกดีอีกอย่างคือ ถ้าสัญญาณ มีปัญหาสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือที่ line@ ได้เลย แง่มๆ
ซึ่ง VietjetAir
เป็นสายการบินราคาประหยัดที่ขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิเด้อ อย่าไปดอนเมืองนะยะ ตกเครื่องมานี่ฮาเลย
รอบนี้ได้โปร 0 บาทมา 1 เที่ยวเลยประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ
รวมภาษีแล้ว ได้ตั๋วมาราคา 3,199 บาท
ซื้อไว้นานมาก นานจนลืม ก็บอกแล้วว่าโดนของ 5555
เครื่องออกบ่าย3ครึ่ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงฮานอยจ้า
ใครมีแพลนไปเวียดนามลองดูได้นะของ VietjetAir มีโปรบ่อยๆ เส้นทางการบินมีบินลงฮานอย / โฮจิมินห์ / ไฮฟอง
อ่ะ แปะลิ้งค์ให้ >> http://www.vietjetair.com/Sites/Web/th-TH/Home
แหม ก็เอาให้เข้ากับชื่อทริปไงๆ
1. รถแท๊กซี่ เราตัดออกทันทีเพราะเสี่ยงแก่การโดนโกงมิเตอร์
2. รถ mini van ราคาก็ประมาณ 3-4usd แล้วแต่ความใกล้ ไกล ของโรงแรม วิธีนี้รถจะแวะส่งไปเรื่อยๆตามจุดหมายของคนในรถ
3. Local Bus แน่น๊อน คนรวยอย่างชั้นเลือกวิธีนี้! ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ชิลๆกันไป เรานั่งไปลงป้ายสถานีรถไฟฮานอย
ราคาคนละ 30,000 ดองเองจ้าาา ประมาณ 48 บาทเอง
คนเวียดนามที่รู้จักกันแนะนำมา รถจะวิ่งตรงจากสนามบิน ผ่านสะพานลองเบียน ไปผ่านจุดสำคัญๆ และผ่านสถานีรถไฟด้วย
ป้ายรถเมล์หาง่ายมาก เดินออกจาก Terimal ปุ๊ป เลี้ยวซ้าย จะผ่านที่จอด taxi มานิดนึง ป้ายจะอยู่อีกเลนส์ถนน ข้ามไปขึ้นได้เลยเด้อ
รอบรถแต่ละคันห่างกันประมาณ 15-20 นาที
เราอยากเขียนให้เนื้อหามันเรียงๆกัน เผื่อใครอยากเที่ยวตามจะได้หาข้อมูลง่ายๆ เป็นไง กวิ้นใจดีมะ กิกิ
โอ้โห นางฟ้าชัดๆ คุณฟ้าได้ยินเสียงกระเพาะของกวิ้นชิมิ สรุปเลยได้มานั่งโซ้ยเฝอแบบ localๆ แบบนี้นี่แหละ นั่งเก้าอี้ซักผ้าไปอีก 5555
เออ นั่นแหละ สรุปคือ ต้องหาที่อาบน้ำ ยืนงงๆอยู่หน้าสถานีรถไฟแล้วทันใดนั้นหางตาอิชั้นก็เหลือบไปเห็นป้ายโรงแรม Mango Hotel
เลยเดินหน้ามึนๆไปถามที่ล็อบบี้ พนักงานหน้ามนก็บอกว่าคนละ 60,000 ดองจ้า คิดๆ เออเกือบ100 อืม ก็โอเคนะ งั้นอาบจ้าาาา
พิกัดตามนี้นะ https://goo.gl/maps/Dg6qTGgXZnz
คือมันได้นอนยาวๆ สบายๆกว่า แอร์เย็น มีปลั๊กให้ชาร์จแบต เห้ย! หนูลูกสบายสุดๆล่ะจ้ะ
เท่านั้น นอนสบายถึงที่หมายในเวลาเท่ากัน
จองออนไลน์ได้ที่ http://dsvn.vn/
แต่ถ้าชอบหรูอยู่สบายก็ไปดูที่ https://www.hanoisapatrain.com/
PS. ถ้าลำบากไม่อยากจองเอง ให้ agent จองให้ก็ได้ อย่างเราก็ให้ Siamviettravel จองให้แล้วนัดไปเอาตั๋ว
แบบ 1 ห้อง 6 เตียง คือฝั่งละ 3 ชั้น อื้อหื้อออ กวิ้นไม่อยากจะคิด จบคืนแรกบนรถไฟตู้นอน รถไม่มีตู้สเบียงนะ ตุนของไปกินด้วยเด้อ
แต่จะมีรถเข็นขายของเกือบทั้งคืนแหละ สายแ_กไม่ต้องห่วง
Day2 SAPA
เรานั่งรถไฟจาก Hanoi – Laocai รอบเวลา 22:30 - 7:00 น.
มาถึงเช้าพอดี พอมาถึงทุกคนต้องมีสตินะ!!
เพราะเมื่อเราลงรถไฟปุ๊ป จะมีคนมารุมเราแบบ busๆๆๆ mini vanๆๆๆ
คืออออ ตูสวยมาก รู้สึกเป็นที่ต้องการมากจ้าาาา
แต่นั่นแหละ เราเลือกไปกับป้าคนนึงที่เดินมาขายตั๋วตั้งแต่บนรถไฟทั้งๆที่รถยังไม่ถึงลาวไก
เพราะว่ารู้สึกว่าป้าแกขึ้นมาบนรถได้ แกน่าจะไม่โกงหรอก ตรรกะไหนไม่รู้ว่ะ 5555
ไปดูจากที่โรงแรมก็ราคานี้ ดังนั้นถ้าใครเสนอราคาแพงกว่านี้อย่าไป!
Lao cai อยู่ห่างจาก Sapa ต้องนั่งรถต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงนะ เราไปถึงซาปาตอน 8 โมงเช้า
หาจาก Booking.com ฮะ ราคาดี วิวดี๊ดี อ่ะ เอาเป็นว่าคือที่พักราคาพันนิดๆ แต่วิวหน้าห้องราคาหลักล้านเด้อคร่าาาา
ได้ดีลราคาห้องคืนละ 1,116 บาท รวมอาหารเช้า มีระเบียงห้องแบบเชื่อมต่อเดินอออกมาชมวิวได้ด้วย
มือนื้โดนไป 170,000 ทำไมรู้สึกแอบแพงว่ะ =.,= กินข้าวหมดเป็นแสน
อ้อ แต่คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 270 บาท อืม แพงว่ะ 5555
แต่ดันจังหวะไม่ดี รถของโรงแรมหมด เค้าเลยบอกให้เราเดินไปหาที่ตรงจตุรัสก็ได้
พอดินมาก็เจอมอ'ไซต์จอดๆอยู่ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเขาให้เช่ามั้ย
แต่ว่าพอป้าเจ้าของวิน (ต้องเรียกไงอะ เรียกป้าเจ้าของวินแระกัน)
เห็นเราสะพายเป้ แขวนกล้อง เค้าพุ่งมาหาเราเลยจ้าาาา
มอเตอร์ไบ้ท์ๆ นั่นแหงะ!! ชัดเลย
เราก็ถามราคากันไป สรุปได้ราคามา 5usd ค่าเช่ารถ
แต่ตอนแรกที่โรงแรมบอกเราว่าต้องไปเติมน้ำมันเอง ซึ่งปั๊มน้ำมันมีตั้ง 1 ปั๊มถ้วน
ตอนนั่งรถมินิแวนมาแอบเห็นคิวรอเติมน้ำมันยาวมว๊ากกกก เลยถามป้าแกว่ามีน้ำมันมะ
ป้าบอก มีจ้า พร้อมชูแกลลอนน้ำมันขึ้นมา!! เออ ยอม ป้าคิดเราอีก 3 เหรียญสำหรับน้ำมันเต็มถัง
ตอนนั้นลืมคิดว่า ไม่น่าเติมเต็มถังหรอก ไม่ได้ใช้เยอะขนาดนั้น แต่ไม่เป็นไร ผ่านไปแระ
บ้านเค้าขับกันค่อนข้าง.... ยังไงอะ พูดยังไงให้สุภาพและออกอากาศได้ เอิ่มมม ขับค่อนข้างหวาดเสียวก็ได้ 5555
แล้วทางมันขึ้นเขาลงเขา ทางโค้งทางลาดมาเต็ม ต้องขับแข็งหน่อยนะถึงแนะนำวิธีนี้
วันนี้ท้องฟ้าเปิดมากๆ เมฆวิ่งไวสุดๆ สงสัยรีบทำรอบ
Fansipan
เขาฟานสิปันตอนนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเพิ่งเปิดใช้เคเบิ้ลคาร์ตอนต้นปี 2016 นี่เองนะ ใหม่มากๆ
รู้สึกน่าจะเป็นเจ้าของเดียวกันที่สร้างดานังฮิลล์ที่เราเคยรีวิวไปให้โพสนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ https://www.facebook.com/pg/tidsoihoytam/photos/?tab=album&album_id=1069349529825716
ต้องเดินขึ้นบันไดที่ชันมากย้ำ มาก! เดินไปอีกประมาณ 600-700ขั้น ค่ะคุณเพื่อน!!!
ชุดคู่แหละแก หมั่นไส้ป่ะ? อืมๆ /ยิ้ม
ตอนถ่ายนี่แบบ ตั้งขา ตั้งเวลา แล้วคือกลัวอยู่ลึกๆ ว่าตั้งๆอยู่ จะมีคนหยิบกล้องวิ่ง แต่ก็ไม่เกิดขึ้น รอดไปค่ะ!
เออแต่เดินเป็นชั่วโมงจริงๆนะ เราไม่ค่อยสบายด้วย ยิ่งเดินไปสูงๆ หายใจไม่ทันเลยใช้เวลาเยอะ
จุดนี้ทุกคนก็พร้อมจะถือธงไปโบกๆ ประมาณถึงแระจ้าาาา
สวยมากๆ อากาศวันที่เราไปค่อนข้างเย็นเลยอะ เมฆวิ่งไวมาก แบบอารมณ์เหมือนได้อยู่บนเมฆเลยอะ
นี่อาจจะเป็นข้อดีของการมาที่นี่ในฤดูหนาว เพราะเห็นบางคนมาตอนช่วงฝนตก หมอกลงจัดมากๆ
แต่เราว่า แต่ละช่วงเวลามันมีความสวยงามในตัวของมันเสมอแหละเนอะ
ตอนแรกจะไปกินร้านข้างทาง หากินเอาดาบหน้า แต่ไม่ไหวล้าวววว กินที่นี้แหละ ลองท้องไปก่อนๆ
ระหว่างทางก็เจอจุดแวะถ่ายรูปเยอะมากๆ ยกตัวอย่างแบบภาพนี้เนอะ
เอ้อ มีผลไม้ ขายด้วยนะแถวนี้ หิวก็ซื้อกินแก้เซ็งไปแล้วกันเนอะ
คือมันสูงมากๆ คือเห็นตั้งแต่ตอนขับมอ'ไซค์แล้วล่ะว่ามันสูง คิดว่าถ้ามาตอนหน้าน้ำ นี่คงฟินสุดๆ สวยๆสุดๆเลยอะ
ไม่ชินทางด้วย กลัวจะอันตราย
อีกเรื่องคือต้องกลับมาเช็คอินกะต่อรองเรื่องรถด้วย
พอดีเราเช่ารถแค่วันเดียว แล้วน้ำมันมันยังเหลือเต็มเลยอะ ก็งกอะนะ
แล้วคิดไว้แล้วว่าพรุ่งนี้น่าจะใช้มอไซค์อีกเลยไปเจรจาว่าจะเอารถไปค้างคืนด้วย คือสรุปคิดอีก 6usd
ง่ะ ป้า ทำไมเพิ่มมาเหรียญนึงอะ แล้วนี่ก็ต่อรองนานมากกก สุดท้ายก็ต้องยอมจ่าย เพราะเสียดายน้ำมัน =.,=
อ่ะได้ เราทำตาม จัดมาค่ะ!!
เราเลือกร้านตรงแถวๆลานจตุรัสกลางเมืองเลย คนดูเยอะ เลยเลือกร้านนี้
บาบีคิวคือ เราไปเลือกๆ ให้เค้าไปปิ้งให้ แล้วเดี๋ยวเค้าจะมาเสิร์ฟเอง
มื้อนี้ หม้อไฟ 1 ชุด (สำหรับ2คน) และบาบีคิวประมาณ 8 ไม้ เบียร์ 2 ขวด
เสียหายไป 550,000 ดองจ้า
Day3 SAPA-HANOI
Morning~ วันนี้ตื่นมาอากาศดี๊ดี แสงตะวันยามเช้าส๊วยสวย
ตอนแรกนี่เด๋อมาก เข้าใจว่าชื่อหมู่บ้าน แคทแคท ที่มันแปลว่าแมวอะ
ถามผู้ชายว่า หมู่บ้านมันมีแมวเยอะเหรอ โดนด่ากลับมาทีนึง ฮ่วย =.,=
ระหว่างทางเจอกังหันมุมดี แวะถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย
เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในซาปา ส่วนใหญ่ใครที่มาก็ต้องมาแวะ อยู่ใกล้ตัวเมืองด้วย
เสียค่าเข้านะ 50,000 ดอง แต่ถ้าเอามอ'ไซค์มา แน่นอนคุณจะโดนค่าจอดอีก 10,000 ดอง
อ่ะหันกลับไปมองที่เราผ่านมา โอ้โหหหหหหห ชันดีนะตอนมาเดินลง แง่มๆ
เดินขึ้นเนินมาแระ นางก็ยังจะขับมาตื้อ นี่บอก No!! I can walk!! นางก็บอก 2km farๆ ไม่ค่ะ กวิ้นจะเดิน!
เดินได้นะ ถ้าใครมีแรงก็เดินเลย อย่าไปขึ้นเลยมอ'ไซค์ เปลือง!!
ทะเลสาบตอนกลางวันนี่ก็สวยดีเนอะ
สรุปคือ กดได้จ้ะ ไม่ยากด้วย แต่มีค่าธรรมเนียม 100 บาทไทยนะ ใครกลัวเงินไม่พอก็ลองมองๆหาตู้กดได้เลย
สั่งมา2เมนู คือปลาทอดกะต้มยำหอยที่มีสัปปะรดอยู่ เอิ่มมมม และ ข้าว2 จาน น้ำอัดลม2 ป๋อง โดนไป 230,000 ดอง
คราวนี้เราซื้อตั๋วรถไปลาวไกกับที่พักนะรอบนี้ ราคาเท่าขามาเลย 50,000 ดอง
โรงแรมบอกรถออก5โมงดูนาฬิกามีเวลาเหลือ เลยเดินเล่นในเมืองอีกนิดหน่อย
โบสถ์ เรียบๆ แต่สวยจัง
เตรียมตัวนั่งรถไปสถานีรถไฟ Lao cai เพื่อกลับฮานอยกัน
ส่วนเหลืองๆนั่นรถบัส อีก1 วิธีเดินทาง ลาไก-ซาปา ราคาไม่รู้คร่า~ ไม่ได้ใช้บริการเลย
เป็นเส้นแบนๆ ผัดกะเนื้อ สั่งมา2จาน เบียร์อีก 2 ขวด หมด 200,000 ดอง
จะถึงฮานอยประมาณ 05.00 น. นอนกันไปยาวๆ พรุ่งนี้ลุยเที่ยวกันต่อ
ฮานอยรอเราอยู่!!
Day4 Hanoi - Ninh Binh
วันนี้เราซื้อ One day Trip ไว้จาก Agency นั่นแหละ จะออกไปเที่ยว ตามก๊อก หรือที่คนไทยเรียก ฮาลองบก!!
ถึงสถานีรถไฟฮานอยประมาณตีห้านิดๆ ง่วงก็ง่วง เดินออกมาเจอแท็กซี่รุมอีกค่ะ
ตอนแรกมีคันนึงบอกจะเหมาพาไปราคา 200,000 โห ไมแพงจังอะ ดูแล้วโรงแรมใกล้ๆเองนะ ไม่เอาไม่ไป
สุดท้ายเลือกไปมิเตอร์ ไอ้บ้าเอ้ย เลขวิ่งไวมาก น้ำตาจะไหล สุดท้ายค่าเท็กซี่ 300,000 โห โห โห ไม่น่าเลยกวิ้นเอ้ย!!!
แล้วมาถึงโรงแรม พีคมากค่ะ โรงแรมปิด !!
เห้ย ไปเที่ยวมาก็เยอะนะ ไม่เคยเจอการปิดประตูของโรงแรม คืออารายยยยยย
สรุป เคาะเว้ย เคาะซัก2-3ที มีคนเปิด หน้าตาง่วงๆ
เฮ้อ~ รอดไปค่า
เรายังเช็คอินไม่ได้ ก็ฝากของ จัดการตัวเองแล้วเตรียมตัวไปเที่ยวกัน
Agency นัดเราให้ไปขึ้นรถที่ Opera House เปิด map ดูไม่ไกลมา เดินไหว เลยเดิน
ยังไม่เปิดเลย เพิ่ง7โมงเองอ่า งั้นหาร้านกินข้าวก่อน
เส้นเป็นเหมือนขนมจีนอะ แต่เล็กกว่าหน่อยแล้วไม่เหนียว ใส่ไก่ฉีก ลูกชิ้นหมู อร่อยดีนะ ถ้วยละ 35,000ดอง
จะมีรถมาจอดแบบตบไฟฉุกเฉิน แล้วไกด์วิ่งลงมาถามชื่อเรา พอใช่ ก็โดดขึ้นรถเลย เออเว้ย ง่ายๆแบบนี้แหละจ้า
One Day Trip ของเราได้มาในราคา 20 usd (อันนี้เป็นราคาโปรโมชั่นที่กวิ้นได้มานะพอดี ส่วนราคาปกติอยู่ที่30usd จ้ะ)
ราคานี้คือ
1. ค่ารถไป-กลับฮานอย
2. ค่าอาหารกลางวัน
3. ค่ากิจกรรมต่างๆ (ค่าเข้าฮวาลือ ค่านั่งเรือตามก๊อก และ ปั่นจักรยาน )
ซึ่งเราซื้อกับ siamviet travel ไม่แน่ใจว่าที่อื่นราคาเท่าไหร่ แต่ดูๆแล้วราคาจะเริ่มที่ 22 usd นะส่วนใหญ่
โดย one day trip เนี่ยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 8.00 น แล้วจะกลับถึงฮานอยประมาณ 19.00 น
รถยางแตกค่ะ ฮัลโหลลลลลล คือรายยยย
เปิด map ดู อีก 5 โลถึงที่เที่ยวไง ทำไมอะ แงงงงงงง
ดีนะที่ทริปนี้ผู้ชายเยอะ ก็ช่วยๆกันเปลี่ยน 20 นาทีได้อะ เฮ้อ รอดไปค่ะ~
ฮวาลือ (Hoa Lu) ตรงนี้เป็น เมืองหลวงเก่าของเวียดนาม
ก่อนที่จะย้ายไปที่ฮานอย ก็มีประวัติยาววววววววว ไกด์จะเล่าให้ฟังตลอดเลยนะ ได้ความรู้ไปประดับบารมี
จากที่ฟังๆไกด์เล่า วัดนี้ราชินี Doung Van Nga ได้สร้างขึ้นให้กับกษัตริย์คนที่ 1 (King Dinh) ผู้เป็นสามี
เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกปฏิบูรณะมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
(Le Temple) เป็นวัดที่สร้างขึ้นให้กับกษัตริย์ราชวงศ์เล วัดนี้จะคล้ายๆ กับวัดมะกี้เลย แต่เล็กกว่าหน่อย
มากจนลืมไปเลยว่ะ 555555
แต่รสชาติดีนะ อร่อยเลย มีหลายเมนู กินอิ่มแล้วก็เที่ยวต่อ ที่ต่อไป พวกเราไปล่องเรือตามที่ตามก๊อก!! (Tam coc)
หรือที่คนไทยเรียก ฮาลองบกนั่นเอง
เรือที่นี้เป็นเรือถีบนะ คือ ถีบจริงๆนะเว้ย ดูรูปได้ 5555 คนพายจะนั่งใช้เท้าถีบไม้พาย ไม่ใช้มือพาย ทุกลำเลยอะ …เท่ว่ะ แค่เห็นก็เมื่อยแทนล่ะ
แต่ถึงไม่มีนาข้าวให้ดู บรรยากาศก็ยังดีอยู่ดีอะ แดดมันแรงนะ แต่ลมพัดเย็นๆ เคลิ้มดี
คุณผู้ชายบอกสวยจังเลย หันหลังแล้วส๊วยสวย =.,=
มีฝูงนกกะยางด้วยอะ (ใช่นกกะยางมั้ยว่ะ 555 ) มีภูเขาที่เล็กใหญ่สลับๆกันไป
เป็นโขดหินย้อยลงมาต่ำๆ สนุกดีนะ
รู้สึกชอบที่นี่นะ ธรรมชาติดีมากๆ สวยดี ขนาดตอนไป อากาศก็ค่อนข้างร้อนเล็กน้อย แต่ธรรมชาติที่เห็นมันลบความร้อนออกไปหมดเลยอะ
และนางจะพยายามขายทุกอย่างที่นางมีให้เรา ไอ้บ้าเอ้ย บอกไม่เอาๆ ก็ตื้อจนแบบ เออก็ได้ว่ะ!
ซื้อให้ตัวเองไม่พอ ตื้อให้เราซื้อให้คนพายเรือเราด้วย นี่ก็แบบ ก็ได้ นางงามไง คิดว่าคนพายก็เหนื่อยแหละ เลยซื้อให้ด้วย
แล้วพอพายกลับมาถึงจุดลงเรือ คนพายเรือมาขอทิปอีก 1 ดอลล่าๆ อ่า~ ลุง แล้วน้ำที่หนูซื้อให้ลุงมะกี้ นี่ลุงไม่นับเลยหรอ
อันนี้แล้วแค่ใครจะให้ไม่ให้นะ แต่เราไม่ได้ให้อะ เราไม่มีแบงค์ย่อยๆแล้วด้วยแหละ บายค่า~
แล้วอีกอย่างที่คิดว่าโดนกันทุกคนแน่ๆ คือจะมีเรือดักซุ่มคอยถ่ายรูป อย่าไปยิ้มให้นะเว้ย!!! ไม่งั้นแกจะได้รับรูปและเสียเงินให้ป้าแกแน่ๆ
และกิจกรรมต่อไป ไปปั่นจักรยานค่ะ! กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจนะ
ไม่ไปก็ได้ นั่งรอสวยๆอยู่ที่ร้านอาหารที่ทัวร์ติดต่อไว้ แต่มาทั้งที…ก็ต้องเอาให้สุดป่ะ?
ขอไกด์มาลงแถมที่พักย่าน Old Quarter ประมาณ 20.00 น.
มีเหตุนิดหน่อยเลยช้าค่ะ ฝรั่งที่ไปทัวร์เดียวกับเราทำกระเป๋าเงินหาย รถเลยได้ออกจากตามก๊อกช้า
สงสารอ่า ฝรั่งหล่อด้วย /ป้าป โดนผู้ชายข้างตบหัวทิ่ม =.,=
นี่เล่าเรื่องที่พักยังนะ? เออยังแน่ๆ 555
ที่พักฮานอยของเราคืนนี้
'Hanoi Amanda Hotel' ค่ะ ที่นี่จะใกล้กับที่เที่ยวหลายๆที่ เราจองจาก booking เหมือนเดิม
ได้ราคา คืนละ 728 บ. ได้ห้องใหญ่เฉยเลย โรงแรมนี้เดินทางสะดวก ฝั่งตรงข้ามมีมินิมาร์ทเปิด 24ชั่วโมงด้วย
จริงๆแถว Old Quartier คือย่านใจกลางเมือง มันเป็นแหล่งกิน มีที่เที่ยว หรือจะช้อปก็มี
ซึ่งที่พักก็หลายราคา มีตั้งแต่ hostel ไปจนถึงโรงแรม ลองหาที่ชอบที่ถูกใจกันดู ที่สำคัญวันนี้เราจะไปซอย “Ta Hien"
ห้ามพลาดจ้าหนุ่มสาวทั้งหลาย!! มันเป็นซอบที่รวมร้านอาหาร ผับ และบาร์ไว้ด้วยกัน คึกคักสุดๆ ข้าวสารบ้านเราอะจริงๆ ก็นั่นแหละแก
แล้วนั่งกินๆอยู่มีเรื่องเว้ย คือตำรวจลง ถนนตอนแรกมีแค่ทางเดินเล็กๆเพราะคนนั่ง ตำรวจมาปุ๊ป ทุกคนเบียดเข้ามาติดร้านหมดเลยอะ
แล้วพอตำรวจไปก็ลากเก้าอี้ไปนั่งเหมือนเดิมเด๊ะ เออ ไอ้บ้า ตกใจหมด!
ไอ้บ้าเอ้ย!!! แต่เบียร์ถูกจริงๆ ขวดนี้ 15,000 ดอง แต่มันจะมีแบบขายเป็นแก้วเว้ย แก้วล่ะ 10,000 ดอง
แบบ บ้าไปแล้ววววววว เอาล่ะ วันนี้จบลงที่นี่แหละจ้า
Day5 Hanoi - BKK
สวัสดีเช้าวันใหม่ วันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนที่เราจะกลับไปพบโลกแห่งความเป็นจริง
พอคิดว่าต้องกลับไปทำงานก็.... แงงงง แต่ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินมาเที่ยวนะ ฮึบไว้ๆ T-T
วันนี้เราต้องบินกลับแล้ว เราบินไฟล์ท 12.25 น.
ควรไปถึงไม่เกินสนามบิน 10.00 น. เพื่อความปลอดภัย
เราตั้งใจไปเก็บภาพโบสถ์สวยๆ และกินกาแฟชิคๆ ก่อนกลับ
เราแบกกระเป๋าไปเลยค่ะ ความแข็งแรงของเราและผู้ชายทำให้การแบกกระเป๋าเป็นเรื่องชิล 5555
ระวังทางต้องผ่านแยกนี้ ด้านหลังเราคือร้าน highland coffee ที่คนส่วนใหญ่ชอบขึ้นไปนั่งชิลๆ จิบกาแฟมองวิวมุมสูงของฮานอย
โบสถ์โบราณทรง Neo-Gothic ที่ตั้งคู่กับฮานอยมากว่าร้อยปี มาเช้าจัด เค้ายังไม่ได้เปิดให้เข้าไปเลย ได้ข่าวว่าสวยใช่เล่นนะด้านใน
ร้านสีเขียวทหาร ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ และของในช่วงยุคสงครามเวียดนาม พนักงานในร้านก็ยังแต่งตัวในธีมทหารด้วย
โอ้โหหอมหวานจริงๆ และครัวซองต์นางหอมมาก จิ้มนมข้น อร่อยสุดๆ มื้อนี้ประมาณ เกือบ 200 บาท เราจำราคาไม่ได้ > <
ทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม หรือทะเลสาบคืนดาบ (Hoan Kiem Lake) ที่อยู่ใจกลางเมือง เพื่อไปขึ้นรถเมล์ สาย 86 ไปสนามบิน noi bai
คือเราเคยมาทำงานแล้วถ่ายรายการแล้ว เลยไม่เข้าไปอีก แต่ใครจะไปก็ได้นะ
ไอ้ที่อยู่ในรูปเราอะ เค้าว่ากันว่าสร้างขึ้นเป็นที่อยู่ของตะพาบยักษ์ ที่เป็นตำนานของชาวเวียดนาม
ลองหาอ่านเอา ถ้าอยากรู้ เราไม่บอกหรอก!
ส่วนสะพานแดงๆนั้น สะพานเทฮุก (The Huc Bridge) เป็น สะพานไม้สีแดง มีรูปใกล้ๆแต่ไม่ให้ดู เพราะเราว่าเราถ่ายไม่สวย 55555
ถ้ามีเวลาไปได้นะ เดินชิลๆถ่ายรูปบนสะพาน เอ้อ สะพานจะมีรางรถไฟตรงกลางด้วย ยังเปิดใช้อยู่ด้วยนะ
ส่วนด้านล่างคือกำแพงโมเสค ลวดลายจะเกี่ยวกับประวัติศาตร์ของเวียดนาม ได้ลงกินเนสบุ๊คว่ายาวสุดด้วยมั้งถ้าจำไม่ผิด ลืมง่ะ
แต่ถ้ามีเวลาก็ไปนะ น่าไปจริงๆตรงนี้
ทริปนี้ดูดพลังมาก แต่ได้ไปทุกที่ที่อยากไปเลย อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่สนุกมาก
ขอบคุณผู้ร่วมทริปที่ทั้งฉุดกระชากลากถูกกับให้จบทริปได้ ร๊ากกก
ส่วนค่าใช้จ่าย ตามนี้เลย เราว่าอาจจะมีคนทำได้ถูกกว่าานี้ แต่ว่าถ้าไปเที่ยวต้องเอาให้สุดนะ อย่ากั๊ก อย่าคิดเยอะเลย จริงๆ
เรามีเพจด้วยนะ!! ขอขายของหน่อยจ้า
ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/tidsoihoytam/
อยากถาม อะไรถามมาได้เลยน๊า ตอบได้จะตอบ
กดไลค์กดแชร์ให้กำลังใจเก๊าด้วยน๊าาาาาา อย่าลืมกด See First / ติดดาว เพจเราด้วยน้า จุ๊บๆ
ติดสอยห้อยตาม
วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.45 น.