วัดหลวงขุนวิน เชียงใหม่ วัดกลางหุบเขา ที่ซ่อนความสงบไว้ในทุกลมหายใจ

ครั้งแรก . . . ที่ผมได้เห็นภาพของวัดหลวงขุนวินใน Social เหมือนมีอะไรมาดึงดูดผมให้นั่งนิ่งและจ้องมองภาพที่เห็น ความรู้สึกประทับใจผุดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว และผมได้ตั้งปณิธานไว้ว่า สักวันจะต้องไปถ่ายภาพที่วัดนี้ให้ได้

การเดินทางไปที่วัดไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป เราใช้เส้นทางเชียงใหม่-ฮอด เมื่อถึงสามแยกสันป่าตองให้เลี้ยวขวาผ่านที่ว่าการอำเภอแม่วาง กิโลเมตรที่ 12 ขับไปตามทางจนถึงกิโลเมตรที่ 26 จะเห็นป้ายทางเข้าหมู่บ้านหัตถกรรมเพื่อการท่องเที่ยวบ้านสบวินทางขวามือ เป็นเส้นทางเดียวกับวัดขุนวิน จะมีถนนลาดยางไปถึงบ้านชาวปกาเกอะญอห้วยหยวก ระยะทาง 5 กิโลเมตร หลังจากนั้นเส้นทางจะเป็นเส้นทางดินลูกรังสลับคอนกรีตทั้งคดเคี้ยวและแคบขึ้นภูเขาสูงชันและลื่นในบางช่วงเป็นระยะทางอีก 5 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เราได้ติดต่อชาวบ้านเพื่อเหมารถกระบะพาขึ้นไปที่ตัววัด

เมื่อถึงบริเวณวัด สิ่งแรกที่ได้เห็นคือ บันไดพญานาคตามศิลปะล้านนา ลำตัวพญานาคเป็นสีขาว ร่องรอยของกาลเวลาที่แต่งแต้มตัวพญานาคทำให้รู้สึกดูขลังและศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา (ปัจจุบันได้ข่าวว่ามีการบูรณะทำสีใหม่แล้ว) ทางเดินทำเป็นขั้นๆลวดลายคล้ายกับเกล็ดพญานาค รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เขียวชะอุ่มสวยงาม อากาศเย็นๆกำลังสบาย

วัดหลวงขุนวินเป็นวัดเก่าที่ถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่นานเกือบ 700 ปี จนถึง พ.ศ. 2497 ครูบาอุ่นเรือน สุภทฺโท แห่งวัดควรนิมิตร ตำบลมะขามหลวง อำเภอสันป่าตอง ลูกศิษย์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้มาบูรณะขึ้นใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ปัจจุบันเป็นวัดที่มีความสวยงามมากด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาท่ามกลางบรรยากาศเย็นฉ่ำของป่าเขียวครึ้ม เป็นที่จำพรรษาของพระและเณรรวมทั้งเป็นที่ปฏิบัติธรรมของอุบาสกและอุบาสิกา

โดยมีหลวงพ่อจรัญ ทกฺขญาโณ เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้สร้างพระอุโบสถไม้ขึ้นสองหลัง ประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ปางจงกรมแก้ว สูง 9 เมตร ฐานกว้าง 2 เมตร เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักจากต้นจำปีป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นตายตามคำทำนาย

ส่วนอุโบสถอีกหลังหนึ่งประดิษฐานพระนอน ปางปรินิพพาน และพระพุทธรูปไม้แกะสลักอีกหลายองค์ มีการบูรณะกุฏิและศาลาต่าง ๆ รวมทั้งสร้างบันไดพญานาคที่อ่อนช้อยตามแบบศิลปะล้านนา สำหรับพระเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเรื่องเล่าว่า พระพุทธองค์เคยเสด็จมายังบริเวณนี้ พบชาวลัวะ 2 คน คือ ขุนสาบและขุนสระเมิง ได้กราบทูลขอพระเกศาธาตุไว้เพื่อบูชา แล้วสร้างเจดีย์ครอบองค์พระธาตุไว้บนยอดเขาเตี้ย ๆ เรียกว่า พระธาตุม่อนเปี๊ยะ วัดหลวงขุนวิน เป็นวัดป่าที่อยู่ไกลจากชุมชน ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เท่านั้น

-----------------------------------------------------------------------
ติดตามกันต่อได้ที่
https://www.facebook.com/TravelofSalaryMan/
https://www.facebook.com/voravuds
https://www.youtube.com/@SalarymanJourney

View Images

Voravud Santiraveewan

 วันพฤหัสที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เวลา 13.02 น.