เราพักกันที่ตัวเมืองศรีราชา เช็คเอาท์เสร็จก็ออกไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียวกัน ขับรถกันไปไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว เราไม่ได้มาสวนสัตว์เขาเขียวนานมาก และมาครั้งนี้ทำให้เราอยากแนะนำทริคเล้กๆน้อยๆ จากสิ่งที่เราประสบมา
⭐️ เตรียมเงินสดไว้ ด้านในสวนสัตว์ใช้เงินสดทั้งหมดไม่ว่าจะซื้ออาหารให้สัตว์หรือให้คน ไม่รับแสกน เงินสดล้วนๆ เตรียมไว้สัก 300 น่าจะได้
⭐️ สวนสัตว์เขาเขียวแบ่งเป็น 2 โซน โซนเขียวและโซนชมพู สัตว์ตัวเด่นๆเช่น หมูเด้ง กิงก่องแก้ว พี่แฟลช อยู่โซนสีเขียวหมดแล้ว หากเวลาจำกัด เที่ยวโซนสีเขียวก็พอ
⭐️ วันอาทิตย์ที่เราไปช่วงบ่ายรถไฟฟ้าหมด รอคิวยาวมาก แนะนำให้ไปตอนเช้าก่อนสิบโมง รถยังมีอยู่เยอะ
⭐️ ป้องกันความร้อนและแสงแดด ในสวนสัตว์ถึงจะร่มรื่นแต่อากาศก็ร้อนเอาเรื่อง ชุดแต่งกายควรระบายอากาศได้ดี หรือมีอุปกรณ์กันแดดกันร้อนเพิ่ม



การเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว มี 3 แบบ ซึ่งแบบแรก คือ นั่งรถซาฟารี ของสวนสัตว์บริการ (วิ่งเฉพาะโซนเขียว) วิ่งวนอยู่ในสวนสัตว จ่ายครั้งเดียว เดินขึ้นลงได้ตลอดตามจุดจอด ราคาค่ารถ 35 บาท

รถไฟฟ้าใหญ่ หรือ รถกอล์ฟ มีขนาด 4 และ 6 ที่นั่ง ราคา 2 ชั่วโมงแรก 500 บาทและ 700 บาท (ตามลำดับ) และค่าประกัน 50 บาท/คัน เหมาะสำหรับครอบครัว ได้รับความนิยมมาก ถ้าวันอาทิตย์สายๆ หรือ บ่ายๆ รอคิวยาวมาก

รถไฟฟ้าเล็ก หรือ สามล้อเล็ก นั่งได้ 2 คน วิ่งได้เฉพาะโซนเขียว ราคา 2 ชั่วโมงแรก 300 บาท แต่เป็นตัวเลือกที่คิดว่าราคาต่อหัวแพง เพราะผู้ใหญ่นั่งได้แค่ 2 คน แต่ข้อดี คือ ง่ายต่อการจอด

โซนแรก คือ ละมั่ง แต่ละจุดก็จะมีคนขายอาหารเพื่อให้อาหารสัตว์ แต่รับเป็นเงินสดเท่านั้นนะ

โซนละมั่ง จะปล่ยอละมั่งให้เดินแบบอิสระ ที่จริงมีรั้วกั้นเชือกเอาไว้แต่ก็ไม่ได้กั้นอะไรได้ ละมั่งก็เดินมุดออกมาง่ายๆ เป็นจุดที่หลายครอบครัวโดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กจะใช้เวลาอยู่เยอะพอสมควร

โซนต่อไป คือ โซนดักเด็ก คือ เพนกวิ้น ซึ่งไฮไลท์ของน้อง ได้แก่ เดินพาเรด แต่เรามาไม่ทัน แต่ก็ได้เห็นน้องใกล้ๆ แบบนี้ก็น่ารักดี



โซนเรียกแขก ได้แก่ โซนคาปิบาร่า หรือที่เขาเขียวเรียกว่า “กะปิปลาร้า” ซึ่งเป็นสัตว์ที่คิดว่าหน้าตากวนประสาทมาก เดาอารมณ์ไม่ถูก

ตรงนี้คนเยอะโดยเฉพาะเด็กๆ จะรอคิวให้อาหารพี่ๆคาปิกันไม่ขาดสาย หลายตัวคงอิ่มแหละดูไม่ค่อยสนใจ ได้แต่นอนทำหน้ามึนทำจมูกบานๆหุบๆไป


จุดนี้มีลูกกะปิปลาร้าที่เป็นตัวตึงใหม่ของสวนสัตว์เขาเขียว ชื่อ “กิง – ก่อง – แก้ว” วิธีจำว่าตัวไหนชื่ออะไรก็ง่ายๆ ถ้ามาตัวเดียวชื่อ “กิง” สองตัวชื่อ “กิง - ก่อง” ถ้ามาครบสามก็ “กิง - ก่อง - แก้ว” โดยเรียกจากตัวซ้ายสุดก่อน


ตรงข้ามกะปิปลาร้าเป็นบ้านพี่แฟลช สล็อทชื่อว่องไวแต่ตัวจริงนิ่งจนเนียนไปกับบรรยากาศรอบด้านไม่มองหาจริงๆอาจจะมองไม่เห็น ยังดีทีไปถ่ายได้ตอนผงกหัวขึ้นมา (นิดหน่อย)



บ่อฮิโปโปเตมัสบ่อใหญ่ ในบ่ออยู่กันสองตัวถ้วนแต่ถ้าอยากเห็นใกล้ๆต้องเดินลงไปด้านล่าง ดูจากตรงนี้ก็ได้เห็นเป็นก้อนๆใหญ่ๆอยู่ในน้ำนั่นแหละ ท่าทางจะไม่ขึ้นมาง่ายๆเสียด้วย

ถัดไปอีกหน่อยเป็นบ้านหมูเด้ง และเหล่าฮิปโปทั้งแคระและไม่แคระ ยังมีคนแวะมาเยี่ยมเยียนหมูเด้งไม่ขาดเหมือนเดิม ส่วนหมูเด้งก็นอนอยู่ในน้ำปิดจมูกข้างหนึ่งเปิดข้างหนึ่ง การจะเห็นหมูเด้งลุกขึ้นมาวิ่งเล่นน่าจะต้องใช้โชคพอประมาณ


โซนแอฟริกาเป็นอีกโซนที่สนุกสนานกับการให้อาหารสัตว์ แต่ถ้าคุณไม่ได้ติดเงินสดมาคุณจะทำได้เพียงพอตาปริบๆ แบบเรา


กรงสิงโต ใช่!! กรงอย่างเดียว หาสิงโตไม่เจอ ไม่รู้หลบแดดอยู่ตรงไหน ไม่เห็นแม้แต่เงา

แรดตัวใหญ่มากยืนกินหญ้าที่นักท่องเที่ยวป้อนแบบสบายใจสุดๆ แรดที่นี่เป็นแรดขาวเป็นสัตว์บกที่ตัวใหญ่เป็นอันดับสองรองจากช้าง

อีกหนึ่งจุดให้อาหารที่ได้รับความนิยมในโซนนี้น่าจะเป็นยีราฟ

หมีขอมองหาอยู่นานไม่เจอ เกือบจะไปที่อื่นอยู่แล้ว เงยหน้ามองบนต้นไม้เจอก้อนอะไรดำๆ อ่อ!! น้องอยู่บนต้นไม้ เฮ้อ!!


ตรงข้ามทางเข้าจุดให้อาหารแรดมีเกาะลีเมอร์อยู่ แต่จากตรงนี้จะเห็นแค่เกาะแต่เข้าไปในเกาะไม่ได้ ต้องกระเถิบไปอีกหน่อย
เกาะลีเมอร์จ่ายค่าเข้าชมเพิ่มเติม สแกนจ่ายได้ ราคาไม่แรงมาก 50 บาท อาหารกระปุกละ 50 บาท คนเข้าชมเยอะพอสมควร ตอนเราไปต้องรอประมาณ 20 นาที



แนะนำว่า ซื้อตั๋วเสร็จทางพนักงานก็จะแจกถุงมือและหน้ากากอนามัย สำหรับใส่บนเกาะ ถ้าอยากมีกิจกรรมบนเกาะลีเมอร์ ก็ซื้ออาหารให้น้องๆได้ ราคา 50 บาท/กระปุก

เมื่อถึงเวลาก็ไปขึ้นแพ เจ้าหน้าที่ใช้วิธีสาวเชือกพาข้ามไปเกาะ ไม่นานนักแพก็พาเราข้ามมาถึงเกาะ ถุงมือพลาสติกแล้วก็หน้ากากอนามัย ต้องใส่ทั้งหมดนะ พอถึงเกาะพนักงานจะตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของเราและน้องๆ


พนักงานบอกว่าช่วงนี้ลีเมอร์กำลังหาคู่(อย่างหนัก) ตัวผู้ทั้งเกาะวิ่งไล่ตัวเมียอย่างกับซอมบี้ อาหารในมือนักท่องเที่ยวแทบไม่มีความหมาย แต่พนักงานก็พยายามเรียกน้องๆให้มาเกาะไหล่(บางตัวเกาะหัว) ให้นักท่องเที่ยวได้ให้อาหาร
การรับอาหารจากเรา น้องน่ารักมาก การจับ การคว้าก็ทำอย่างนุ่มนวล ไม่น่ากลัวเหมือนที่คิด



อีกโซนที่ใครๆก็ต้องแวะมา คือ "ไฮยีน่า" อันเลื่องชื่อ ไฮยีน่ามีสองตัวชื่อ “จุ๊มเหม่ง” กับ “จุ๊มเติ้ล” เท่าที่หาข้อมูลจากในเนต จุ๊มเหม่งน่าจะเป็นตัวที่นอนแผ่อยู่ แต่ก็ลองเรียกชื่อตัวที่อยู่ด้านหลังดันผงกหัวขึ้นมามอง



จุดต่อมาที่คนเยอะมากคือ “ช้างว่ายน้ำ” ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเห็นช้างอาบน้ำในลำธารมาบ้าง แต่น้ำลึกๆแบบนี้ไม่แน่ใจว่าช้างว่ายได้หรือไม่ หลังจากหาข้อมูลก็พบว่า “ว่ายได้” ตราบใดที่งวงยังโผล่พ้นน้ำได้


ช้างว่ายน้ำดูได้สองจุด ชั้นบนจะเห็นช้างทานอาหารที่เจ้าหน้าที่ยื่นให้ น้องเดินเอางวงคว้าอาหารจากเจ้าหน้าที่

โซนสีเขียว เที่ยวครบแล้ว เรามาต่อที่โซนสีชมพู "หุบเสือ" ซึ่งโซนนี้เข้าได้เฉพาะรถกอล์ฟ หรือ ขับรถเส่วนตัวข้ามาเองได้
สิงโตขาว มีกิจกรรมให้อาหารสิงโตด้วย ราคาอาหารแล้วแต่จะให้น้อง สิงโตขาวดูจะสบายสุดในย่านนี้ มีคนแวะเวียนมาให้อาหารไม่ขาด นอนกินสบายใจมาก



พอขับเข้ามาในโซนสีชมพู จุดแรกที่จะเจอ คือ "วัวแดง" อยู่เป็นฝูง หน้าตาเฉยเมย ไม่สนใจอะไรเลย ส่วนกระทิง อยู่ใกล้ๆวัวแดง เราจอดรถดูแบบผ่านๆ กระทิงนอนจ้องตาไม่กระพริบ คิดในใจว่าจะพุ่งมาหาเรามั๊ยน้อ???


ตัวกินมดยักษ์ ตัวนี้แปลกตาเรามาก ไม่เคยเห็นมาก่อน ตัวใหญ่ ดูขนแข็งๆเหมือนไม้กวาด แต่ตอนนี้น้องมีตัวเล็กเกาะหลังอยู่ตลอดเวลา


โซน Wildlife Wonderland ภายในโซนประกอบไปด้วยแพนด้าแดง ลิงคาปูชินกระหม่อมดำ ฮิปโปโปเตมัส นาก และลิงกระรอก โซนนี้มีน้องหมูมะนาว และ หมูตุ๋น อยู่กันอย่างเงียบๆ สวีทกันแบบไม่มีใครกวน น่ารักดี



ลิงกระรอกนี่แหละที่หันมาสบตากับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ลิงกระรอกน่ารักดี อยากรู้อยากเห็น มามองนักท่องเที่ยวกันใหญ่

แพนด้าแดงหลับ ไม่แม้แต่จะหันหน้ามาหาเลย อันนี้เสียใจ!!

เที่ยวกันเสร็จ กะว่าจะเช่าแค่ 2 ชั่วโมง พอไปคืนเลยเวลามา 2 ชั่วโมง จ่ายค่าเช่ารถฉ่ำไปเลย
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว
ที่ตั้ง: ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
เวลา: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 200 บาท, เด็ก 40 บาท (อายุไม่เกิน 12 ปี) ส่วนเด็กต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรี
ค่าพาหนะ: รถจักรยานยนต์ 40 บาท, รถยนต์ 80 บาท และรถบัส 100 บาท
FB: www.facebook.com/kkopenzoo
Web: www.kkopenzoo.com
Map: https://maps.app.goo.gl/wj2sYY...
⭐️ ถ้าชอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่
www.pratuneung.com หรือ www.facebook.com/followmeonear... ⭐️
วิวริมหน้าต่าง
วันพฤหัสที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 10.39 น.







