กราบบบบบ.... สวัสดีเพื่อนๆชาวสองเกลอเจอหมี กลับมาอีกครั้งหลังจากที่หายไปนานมากๆ วันนี้ทีมงานหมีเราก็มีทริป “ลุยสิงคโปร์ฉบับติดดิน ฟินเกินเบอร์” จะมานำเนอกับเพื่อนชาวหมีกัน รอบนี้เรามากันที่ “สิงคโปร์” ใกล้ๆ บ้านเรา เป็นทริป 3 วันเน้นเดิน เดิน และก็เดิน เอาเป็นว่าเดินจนตรีนแทบแตกเลย ทริปนี้เราเน้นเที่ยวฟรีตรงไหนเสียตังค์เข้า เราไม่ไป ฮ่าฮ่า ทริปนี้เรามีสมาชิคใหม่มาร่วมลำบากกับเรา 1 คนครับ
รอบนี้เราเลือกเดินทางกับ Jetstar asia ได้ตั๋วมาในราคา 3,150 บาท ใช่แล้วครับเพื่อนๆ อ่านไม่ผิด ราคานี้แหละ แต่จองล่วงหน้า 7 เดือนน่ะ เราบิน 5 ก.ค. แต่ แต่ แต่... เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ต้นเดือนมิถุนายนสายการบินออกมาประกาศว่า “ปิดเส้นทางจากไทยไปสิงค์โปร์” โอ้พระเจ้า แต่เค้าก็จะพยายามจัดสรรค์ไฟล์ใหม่ให้เรา บางคนก็ได้ไปต่อ บางคนก็ถูกยกเลิก และแน่นอนว่า ทีมหมีเราทำบุญมาเยอะ “เราได้ไปต่อครับ” ปล.ก่อนเดินทาง อย่าลืมไปลงทะเบียน ICA ลงล่วงหน้าได้ 3 วันก่อนเดินทางด้วยครับ
เราออกเดินทางกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ นั่งลุ้นกันจนนาทีสุดท้ายว่าจะยกเลิกไหม แต่ก็โชคดีไปครับ อ่อ เราได้เค้กวันเกิดบนเครื่องด้วย ขอบคุณทางสายการบินด้วยครับ เรามาถึงสนามบินซางฮีเวลา 12.00 (ซึ่งเวลาเร็วกว่าเรา 1 ชั่วโมงครับ) เทอร์มินอล 4 พอออกมาจาก ตม.แล้ว ให้เดินไปทางขวาเลยเดินไปจนสุดอาคารจะมีจุดขึ้นรถบัส มี 2 สายครับ สายแรกไป Jewel และอีกสายไป terminal2 (MRT) เราเลือกเข้าเมืองเลยมา T2 ก่อน พอมาถึง T2 ให้เดินลงบันไดมาเลยครับ จะเจอ MRT เข้าเมือง (CG2) ใครที่มีบัตรทราเวลการ์ดแล้วก็แตะเข้าไปได้เลย แต่เราไม่มีครับ ต้องไปซื้อที่ตู้ขายครับ ก็อยู่ใต้บันไดเลื่อนที่เราลงมานั่นแหละครับ ค่าบัตร 11$ + เติมอีก 10$ ปล.เติมเงินไม่รับเงินสดน่ะครับบัตรเครดิตแตะไป ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มเดินทางกันได้เลย





‘Sultan Mosque’ [ MRT CG2 > EW4 > EW12 Bugis exit B ] จากทางออก เดินมาอีกประมาณ 450 เมตร ก็จะถึงครับ มัสยิดสุลต่าน เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงมากในสิงคโปร์และเป็นอาคารศาสนสถานที่มีความงดงามอลังการมากที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1824 เพื่ออุทิศแด่สุลต่านฮุสเซน ชาห์ สุลต่านองค์แรกของสิงคโปร์





‘Butternut tree hotel’ [ MRT EW12 > EW16 Outram park exit 4 ] จากทางออกเราเดินต่อไปอีก 300 เมตรก็ถึงครับ ที่พักดีครับมีสายฉีด อยู่ติดกับ ‘Poteto head’ แต่ตอนที่เราไปร้านอาหารและบาร์บนชั้นบนได้ปิดตัวไปแล้ว



หลังจากทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็ไปเตรียมตัวดูโชว์พลุวันชาติกันที่ ‘Marina bay’ [ EW16 > EW14 Raffles place exit H ] พอมาถึงขนาดยังไม่ค่ำน่ะคนอย่างเยอะ เราดูพลุจนจบทุกชุดการแสดงครับ ซึ่งเย็นนี้เราฝากท้องไว้กับเซเว่นครับ “ถูก และ ดี”






อรุณสวัสดิ์เช้านี้ รีบตื่นเลย ต้องไปถ่ายรูปกันที่ ‘Fort canning park’ [ NE4 > NE6 Dhoby Ghaut exit B ] เราออกจากที่พักตอน 6.00 ไปขึ้น MRTที่สถานีไชน่าทาว์น เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนให้เดินข้ามถนนไปที่ตึกจากนั้นเดินไปข้างซ้ายของตึก จะเจอบ่อน้ำพุมังกร ให้เดินขึ้นไปตามทางเดิน จะไปต่อท้ายแถวพอดี ซึ่งเราไปถึง 7.30 แถวก็ยาวออกมาเกือบถึงทางออกแล้ว นี่มาเช้าแล้วน่ะเนีย สำหรับอุโมงค์ต้นไม้นี้ ในอดีตเป็นที่ตั้งของวังในยุคกษัตริย์มาเลย์ จากนั้นเมื่ออังกฤษเข้ามาในดินแดนนี้ Fort Canning Park ก็กลายเป็นศูนย์บริหารการปกครองอดีต หลังจากถ่ายรูปกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกทางด้านขวาได้เลย







‘Vivo City’ [ NE6 > NE1 Harbour Front exit c ] จาก Fort canning เราก็มากันที่ห้าง Vivo city มาหาข้าวกินก่อน เดินขึ้นมาศูนย์อาหารบนชั้น 3 เลย “ถูก และ ดี” จากนั้นก็ไปต่อกันที่ ‘Universal Studio Singapore’ ถ้าใครอยากชิลๆ ก็นั่งรถไฟ [sentosa express] ไป ที่ชั้น 3 ข้างศูนย์อาหารไปได้เลยราคา 5$ แต่ แต่ แต่ แบบนั้นมันง่ายไปพี่หมีจะพาเดินไปครับ เดิงลงมาที่ชั้นล่าง จากนั้นเดินตรงทะลุห้างไปเลย จะเจอทางเดินไม้ยาววววไปถึงเกาะเลย ไม่ไกล ผมเดินมาแล้วประมาณ 1.1 กม หลังจากนั้นก็เดินลงบันไดเลื่อนมาชั้นล่างจะมีเป็นนิทัศการณ์ ‘Vision magic-Harry porter’ จะอยู่ที่เดียวกับ Casino เลย ปล.วิธีการกลับมาที่ฝั่ง คือ เดินเหมือนตอนข้ามเกาะ หรือนั่งรถไฟกลับ หรือนั่งรถบัสฟรีกลับ ด้านหน้าของทางเข้า casino จะมีจุดรับส่ง RWS8 ซึ่งรถจะไปจอดส่งที่หน้าห้อง Vivo City เลยครับ









เรากลับมาพักที่โรงแรมก่อน เพื่อจะออกไปอีกครั้ง สู้แดดที่นี่ไม่ไหวจริงๆ อาบน้ำอาบท่าแล้วไปกันต่อที่ ‘Super Tree Grove’ ขึ้นที่สถานีไชนาทาว์น [ DT19 > DT16 Bay front exit B ] หลังจากออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดวนขึ้นไปยังทางเชื่อมที่สามาทะลุตึก marina ไปได้เลยครับ เดินทะลุไปยัง super tree grove กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราเข้าไปกินข้าวเย็นที่ศูนย์อาหารครับ “ถูกและดี” ราคาน่าคบหา
















หลังจากนั้นก็ออกมาจับจองพื้นที่เพื่อชมการแสดงครับ มีสองรอบตามนี้ 19.45-20.00, 20.45-21.00 หลังจากนั้นเราก็เดินกลับมาหน้าตึกมาริน่าอีกครั้ง เดินลงบันไดเลื่อนเพื่อทะลุกลางห้างมาริน่าไป จากนั้นเดินเอื่อยๆ ไปเรื่อยครับไปถึง ‘Helix Bridge’ และก็วนมาจนถึง merlion จนได้การแสดง Light show ตรงนี้จะมีทุกวัน วันล่ะ 3 รอบตามนี้ครับ 20.00, 21.30, 23.00







เช้านี้เราตื่นมาแล้วมุ่งมาที่ ‘Merlion Park’ แต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ ถ่ายรูปได้เต็มที่เลย จากนั้นแวะไปกินอาหารอินเดียที่ร้าน ‘Anjana Kitchen’ อุหม่าหมิเลย











เราเช็คเอ้าท์แล้วกลับไปที่สนามบิน เมื่อขึ้นมาจาก MRT เราก็เดินตามทางเชื่อมไปยังห้าง ‘Jewel’ ศูนย์อาหารอยู่ที่ชั้น 4 เราฝางท้องมื้อสุดท้ายที่นี่เพราะ “ถูกและดี” และสุดท้ายเราก็เดินมาที่ชั้น 1 เพื่อออกมาด้านหน้าห้าง จะมีรถบัสไปส่งที่ เทอมินอล 4 เป็นอันสิ้นสุดการเดินทางครั้งนี้










สำหรับทริป “ลุยสิงคโปร์ฉบับติดดิน ฟินเกินเบอร์” อาจจะเก็บได้ไม่ครบทุกจุด แต่ก็พยายามให้ได้มากที่สุดครับ เน้นเดินกับ MRTเป็นหลักครับ และเน้นกินอาหารในศูนย์อาหาร ไม่กล้าเคลมว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ให้เพื่อนๆคิดซ่ะว่าเป็นการท่องเที่ยวฉบับคนงบน้อยก็แล้วกันครับ เลยอยากแชร์เส้นทางนี้กับเพื่อนๆ หมีทุกคน ร่มนี่ต้องพกติดตัวเลยร้อนจริงครับ สำหรับทริป นี้ทางทีมงานหมีต้องขอลาไปก่อน อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพและดูแลตัวเอง จนกว่าจะพบกันใหม่ ...... “สวัสดีครับ”
สรุปค่าใช้จ่าย
- ตั๋วเครื่องบิน สุวรรณภูมิ – สิงคโปร์ = 3,150 x2 คน = 6,300
- ประกันการเดินทาง + Sim = 400 x2 คน = 800
- ที่พัก = 1,600 x2 คืน = 3,200
แลกเงินไป 400$[10,280] เหลือกลับมา 220$[5,654]
- บัตร MRT+ Topup 20 $ = [22$+40$] x2 คน = 1,550
- อาหาร + กาแฟ + ขนม = 180$ = 4,626
สองเกลอเจอหมี
วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.26 น.








