เป็นที่ทราบกันดีครับว่ายากกว่าการเดินขึ้นเขาช้างเผือก คือ การโทรจองนั่นเอง

ผมโทรมาตั้งเเต่เดือน ธ.ค.59 วันละ 100 กว่าสาย เต็มทุกวัน ยังไม่ละความพยายามโทรมาเรื่อยๆ

ช่วงต้นเดือน มกราคม โทรติด ได้คิววันที่ 24 มกราคม 2560

แพลนไว้คร่าวๆดังนี้ครับ

วันที่ 1 เดินทางไปพักที่ อช.ทองผาภูมิ หรือไปที่ หมู่บ้านอิต่อง (นอนเต๊นท์)
วันที่ 2 เดินเท้าขึ้นเขาช้างเผือก นอนค้างบนเขาช้างเผือก (นอนเต๊นท์)
วันที่ 3 ลงเขา เดินทางกลับ

-----------------------------------------------

ขอเเนะนำโดยทั่วไปก่อนนะครับ

เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทอวผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเเต่ละปีจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเดินป่า เขาช้างเผือก ปีละประมาณ 30 - 50 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของช่วงนั้นๆด้วยครับ

อย่างที่บอกไปเเต่ทีเเรก ยากกว่าการได้ขึ้นเขาช้างเผือก คือ การโทรให้ติด จองให้ได้ นั้นเเเหละครับ

ข้อกำหนดในการจองขึ้นเขาช้างเผือก
1. จองวันที่จะขึ้นได้ล่วงหน้าไม่เกิน 7 วัน
2. สามารถโทรจองได้ ที่เบอร์ 0 3451 0979 และ 09 8252 0359
ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
3. สามารถจองได้ไม่เกิน 10 คน ต่อ เจ้าหน้าที่ 1 คน
4. ต้องแจ้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชนของทุกคนทันที แล้วจัดส่งเอกสาร(สำเนาบัตรประชาชน) ของทุกคนทาง
E-mail : [email protected] ภายใน 1 วัน
5. ลงทะเบียนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เวลา 07.00-08.00 น.
6.ค่าบริการผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ ดังนี้
- ค่าบริการสำหรับบุคคล 40 บาท (ผู้ใหญ่ชาวไทย)
20 บาท (เด็กชาวไทย)
- ค่าบริการสำหรับชาวต่างชาติ 200 บาท (ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ)
100 บาท (เด็กชาวต่างชาติ)
- ค่าบริการสำหรับยานพาหนะ
รถยนต์ 30 บาท
จักรยานยนต์ 20 บาท
-ค่าบำรุงสถานที่พักกางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน
7.เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ๑ คน ต่อนักท่องเที่ยว 10 คน 1,800 บาท
ลูกหาบ 1 คนจะแบกสัมภาระไม่เกิน 30 กิโลกรัม 1,300 บาท
8. สำหรับอาหาร ควรเป็นอาหารที่ประกอบง่าย แนะนำเป็นแก๊สปิคนิคในการใช้ประกอบอาหาร
9. สำหรับน้ำดื่มควรเตรียมคนละ 3 ลิตรขึ้นไป
10. ห้องน้ำมีบริการที่บนเขา ลักษณะเป็นส้วมหลุม ควรเตรียมทิชชู่เปียกไปด้วย

---------------------------------------------------------------------------------------------

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนขึ้นเขาครับ

1. ฟิตร่างกายให้พร้อม หากร่างกายไม่พร้อม อาจเป็นตระคริวได้

2. เตรียมใจ

3. สัมภาระ เอาไปเท่าที่จำเป็นเท่านั้นครับ

4.น้ำดื่มขวดเล็ก พกติดตัว จิบทีละนิดครับ อย่าดื่มมาก เดียวจะลงเท้า เป็นตระคริว เท้าบวมได้

5. กินยาคลายกล้ามเนื้อ Norgesic (คนเป็นโรคกะเพาะควรกินพร้อมอาหาร ดื่มน้ำตามมากๆ) ก่อนเดินขึ้น

---------------------------------------------------------------------------------------------

การเดินทาง

1.รถส่วนตัว

2.รถประจำทาง

- รถทัวร์ กรุงเทพ - ด่านเจดีย์สามองค์ รถเที่ยว 06.30 น. ลงที่ตลาดทองผาภูมิ ต่อรถสองเเถวไปยังอีต๋อง (รถสองเเถวเที่ยวสุดท้าย 12.30 น.)

- รถตู้ กรุงเทพ - กาญฯ ต่อด้วย เมืองกาญ- ทองผาภูมิ ต่อรถสองเเถวไปอีต๋อง (รถสองเเถวเที่ยวสุดท้าย 12.30 น.)

สำหรับผม ทริปนี้ เดินทางโดยรถตู้หมอชิต - กาญฯ ลงที่ บขส.ครับ ออกจากหมอชิต 7 โมง (รอคนเต็ม) ถึงกาญ 9.30น. ต่อรถไปทองผาภูมิ รถตู้คงไม่ทันเเน่ เลยเช่ามอเตอร์ไซด์ ครับ

คชจ. การเดินทาง รถตู้ 120.- มอเตอร์ไซด์รับจ้างไปร้านเช่า 30.- เช่ามอเตอร์ไซด์ 2 วันๆละ 500.- 1000.-

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ที่พัก หลับนอน

บ้านพัก/ เต๊นท์อุทยาน มีบริการ

หรือเลือกพักที่อีต๋องก็ได้ครับ เพราะเราต้องไปเริ่มเดินจากอีต๋อง

ผมเลือกกางเต๊นท์ที่อุทยาน จ่ายค่าธรรมเนียมอย่างเดียว เพราะเอาเต๊นท์ไปเอง

------------------------------------------------------------------------------------------------

  • หมวกปิดหัวและคอ ใส่กันแดดเผาหัว และเป็นไข้แดด ถ้าไม่มีก็ไปหาซื้อที่บ้านอิต่องได้ ขายใบละ 100 บาท แนะนำว่าควรซื้อ
  • รองเท้า ที่ใส่ขึ้นไป อย่างน้อยควรเป็นผ้าใบ ใส่สบายๆ จะได้เดินแล้วไม่เมื่อยเท้า ปวดเข่ามาก
  • รองเท้าแตะ อยากเอาไปใส่ตอนพักด้านบนแล้วก็ได้
  • เสื้อควรมีเปลี่ยนตอนนอนเพื่อความสบายตัว และเปลี่ยนตอนลงมาด้านล่างอีกครั้ง
  • อากาศน่าจะหนาว อุณหภูมิต่ำกว่า 20องศา เตรียมเสื้อหนาๆไปด้วยก็พอไหว เพราะมีถุงนอนอยู่แล้ว

แปรงสีฟัน ทิชชู่เปียก

  • น้ำไม่มีให้อาบ ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดตัวเอาแทน
  • แปรงฟันด้วยน้ำกินในขวด

เครื่องมือประกอบอาหาร ของกินเล่น

  • ไม่ต้องเตรียมหม้อ จาน ชามอะไรไปนะครับยกเว้นไปกันหลายๆคน จะทำกับข้าวกินเอง เเต่ไม่เเน่นำครับ เพราะลงมาจากสันคมมีดก็มืดเเล้ว
  • ลูกหาบ จะก่อไฟและต้มน้ำให้ ขายน้ำด้วยคับ ขวดละ 50.-
  • สำหรับการต้มน้ำ ยืมหม้อสนามจากลูกหาบได้ เอาไว้ต้มน้ำร้อน...แต่เอาไปเองได้ก็ดีกว่า
  • ขนมและของกินเล่นไปซื้อเอาที่หมู่บ้านได้ ราคามาตรฐานไม่ชาจเพิ่ม ถือว่าอุดหนุนชาวบ้าน
  • ไม่มีน้ำประปา ต้องซื้อน้ำขวดให้ลูกหาบแบกขึ้นไป ล้างหน้า แปรงฟัน ฯลฯ
  • ไฟฟ้าไม่มีให้ใช้ เล่นมือถือก็เตรียม Power bank กันขึ้นไปเอง
  • AIS เป็นเครือข่ายที่มีสัญญานดี DTAC มีสัญญาณ โทรเข้าโทรออกได้ เเต่เล่นเน็ตไม่ได้ (ตั้งเเต่หมู่บ้าน)
  • น้ำควรเอาขึ้นไปขั้นต่ำคนละ 2ขวดใหญ่ ติดตัว 1 ขวดเล็ก
  • ใช้ไม้เท้าได้ครับ

มาร่วมเดินทางไปด้วยกันครับ

วันเเรก 23 ม.ค.60

ตั้งนาฬิกาปลุก 05.00 น. ตื่นเเล้ว เเต่ด้วยความเพลีย ไม่ได้นอนมาหลายคืน ขอต่ออีกครึ่งชม. กว่าจะเสร็จภาระกิจ ออกจากเกสเอ้าส์ 6 โมงเช้าพอดี รอรถเมล์ กว่าจะถึงหมอชิต 6.30 น. กว่ารถจะออก 7 โมงกว่า ซึ่งเเน่นอนไปไม่ถึงเมืองกาญก่อน 3โมงเช้าเเน่ๆ

09.30 น. ถึง บขส.กาญ งัดเเผนสำรองออกมาคือ "รถเช่า" โทรสอบถามราคาเสร็จ Msx วันละ 500.- ตกลงไว้ 2 วัน

จากนั้นไปซื้อเต๊นท์ เสบียงต่างๆ ที่โลตัส เพราะไม่ได้เตรียมไรมาเลย 5555 เริ่มออกดกินทางด้วย 2 ล้อ ไปอำเภอทองผาภูมิ คาดว่าจะถึงประมาณบ่ายโมง

ยิ่งขับยิ่งไกลครับ T_T ไปออกอำเภอศรีสวัสดิ์ โทรถามเพื่อน ปรากฎว่าหลงทาง ย้อนกลับมาทางเดิม เเวะกินข้าวก่อน


ปกติไม่ค่อยกินน้ำอัดลม มื้อนี้โค้ก 2 ขวด ถามทางไปทองผาภูมิเเม่ค้า จากนั้นนั่งพักแปปนึง เริ่มออกเดินทางต่อ ประมาณ 70 กม. อากาศร้อนมาก

เเวะปั้มเติมน้ำมัน เเล้วก็ไปต่อ ถึง อท.ทองผาภูมิ 16.30น. จ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆ เข้าไปลงทะเบียนให้เรียบร้อย

จากนั้นก็ไปกางเต๊นท์ อาบน้ำเสร็จเกือบมืด หิวมากกกกกกก กินข้าว นอนพักเอาเเรงไว้พรุ่งนี้ อากาศกำลังดีครับ ไม่ร้อน

ไม่เงียบมากครับ ข้างๆมีกลุ่มนึงกางเต๊นท์นอนอยู่ข้างๆ น่าจะขึ้นเขาช้างเผือกด้วยกัน ^_^

ตื่นมาเที่ยงคืน นอนไม่หลับ หนาวววววววมากกกกกกก ผ้าห่มยังเอาไม่อยู่ รื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาใส่ 4 ชั้น ^_^ ตื่นเช้ามาไปดูพระอาทิตย์ขึ้น

ทำภารกิจส่วนตัวเสร็จ เอาผ้าห่มไปคืนครับ เช่าถุงนอนต่อ เเบคเพจเสร็จก็ออกไปบ้านอีต๋อง จากที่ อท. ไป ประมาณ 10 กิโลครับ จอดรถไว้ที่ป้อม ตร. เเล้วเดินไปหาข้าวกิน

เดินมาเจอร้านเเรก ข้าวหน้าไก่ 40.-

เสร็จก็ไปซื้อเสบียงไว้มื้อเที่ยง เย็น เเล้วก็เช้าอีกวันครับ

เดินไปประมาณ 50 ม. จุดทางขึ้นเขาจะมี จนท.มาคอยรับอยู่ เราก็ยื่นบัตรที่ทาง อท.ให้มา ให้เจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้รวมกลุ่มครับ สำหรับใครที่จ้างลูกหาบ ก็ติดต่อได้ที่นี่ครับ (ลูกหาบเขาจะมีรายได้เฉพาะที่เขาช้างเผือกเปิดเท่านั้นครับ เเบกได้ไม่เกิน 30 kg) ใครที่เเข็งเเรงก็แบกเป้ไปเองได้เลยครับ สำหรับผมลูกหาบคงไม่จำเป็น กะจะแบกขึ้นเอง มาเจอกลุ่มน้องที่กางเต๊นท์นอนใกล้กันเมื่อคืน กลุ่มน้องเขาจ้างลูกหาบ ขาดอยู่สิบกว่ากิโล เลยช่วยเเชร์ลูกหาบเขาไป 5 กิโล รอเจ้าหน้าที่จัดกลุ่มเสร็จก็ถ่ายรูปเเล้วเริ่มเดินทันทีครับ

เราก็ยื่นบัตรให้ จนท.ดู

รวมทีม

กลุ่มที่ต้องเดินไปด้วยกัน 9 คนครับ จนท.นำทาง "พี่รุจ"

ออกเดินทาง 800 ม. จุดเเรก เป็นด่านตรวจ เราต้องเขียนชื่ออีกครั้งนึงครับ ตามกลุ่ม

ถ่ายรูปอีกครั้ง พี่อ้อม ซิ่งบิ๊กไบมาจาก กทม. - ผม - พี่รุจ - คุณกิ๊ฟ บ่นหิวตลอดทาง - คุณฝน สายลุย - คุณเดียร์ ผู้ใช้ก้นในการปีนเขา- น้องเขา 2 คน - ตุณเมย์ - คุณลี จากนราธิวาส


ไปกับกลุ่มนี้ สนุก เฮฮา มากครับ 5 5 5 5 5 55 5

เดินไปเรื่อยๆครับ ภูเขา 5 ลูก ที่เราต้องข้ามไปให้ได้

ออ ลูกหาบจะไปก่อนเรานะครับ

เดินๆ พักๆ ไปเรื่อยๆครับ

ขอใช้รูปภาพเล่าเเทนนะครับ

แฮ่

ไม้เท้าช่วยได้ครับ

ทางที่โหดๆ ลื่นๆ จะมีเชือกให้เราจับ ไต่ไปเรื่อยๆครับ

อากาศร้อนนะครับ ควรใส่เสื้อผ้าที่โล่งๆ อากาศถ่ายเทได้

ถ้าไม่ไหว เหนื่อย ก็พักได้ตลอดทางครับ

เดินไป ถ่ายรูปไปครับ สนุก ไม่เหนื่อย

ถึงจุดนี้ 11.30 น. ผ่านเขามา 4 ลูก


เค้าบอก ม่ายเหนื่อยเลยยยยย 55555

แอบถ่ายไปเรื่อย 555 มาคนเดียว ไม่รู้จะถ่ายใคร

เห็นสันเขา ที่เราจะต้องเดินไป มันอยู่ใกล้เเค่นี้เอง 5555

เดินไปท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว

เห็นเเล้วครับ แคมป์ของเราคืนนี้ ลูกหาบจะกางเต๊นท์ให้เราเสร็จเรียบร้อยครับ สำหรับคนที่เเบกเอง ก็สามารถเลือกที่กางเต๊นท์ได้ตามใจชอบ

ถึงเเล้วเป็นเวลาประมาณบ่ายโมงครับ ก็พักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ใครจะนอนในเต๊นท์ที่ร้อนอบอ้าวก็ตามสบายเลย5555 ผมเลือกนั่งเอนกายใต้ร่มไม้พักนึง เกือบๆหลับไป รอเวลา 15.30 น. จนท.จะพาเราขึ้นสันคมมีด ถือว่าเป็นจุดไอไลท์ของเขาช้างเผือกละครับ

ได้เวลา เตรียมน้ำไปสักขวดเล็กๆครับ ที่ขาดไม่ได้คือ กล้อง หมวก เริ่มออกเดินทางกัน +++ มาดูเส้นทางเดินสู่สันคมมีดกันครับ

เห็นทางขึ้นเขาที่สูง ชัน แล้ว แหม๋.....

เป็นก้อนหิน ต้องระมัดระวังครับ หารองเท้าดีๆหน่อย

เดินๆ ปีนๆ ไปครับ


เหนื่อยก็พัก หายก็เดินต่อ

มีสายสลิงให้จับ เกาะครับ ไม่ต้องห่วง ส่วนขาจะสั่นหรือไม่นั้น ก็ต้องก้มลงไปดูข้างล่าง หันไปดูข้างหลังครับ 5555


ใกล้ถึงยอดเขาเเล้วครับ

เย้ ถึงเเล้ว


จากนั้นก็เดินลง กลับทางเดิมครับ (ต้องลงก่อน 17.30 น.) ถ้ามืด จะลงลำบากครับ .... เลยอดได้ภาพอัสดงลาขอบฟ้า T_T





กลับลานกางเต๊นท์ครับ จัดการกินข้าว เเล้วตามอัธยาศัย กลางคืนท้องฟ้าสวยมา เต็มไปด้วยดวงดาว อิจฉาคนที่คู่ นอนดูดาวด้วยกัน อดได้ภาพทางช้างเผือก เพราะขาตั้งกล้องอยู่บ้าน จนท.จะมานัดเเนะกับเราว่าจะลงกี่โมง เราตกลงกันที่ 7.30 น. ขาลงใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง

กลางคืนลมเเรงมากครับ ตื่นเช้าขึ้นมา อากาศไม่ค่อยหนาว เเต่ลมจะเเรง เดินเล่น ดูพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาช้าๆๆ

แล้วเราก็ซดมาม่าร้อนๆ ถ้าได้ชาสักเเล้วคงจะฟินน่าดู ^^

น้ำร้อน ให้เราเอาน้ำไปให้ลูกหาบต้มให้ครับ

ลูกหาบเก็บเต๊นท์ให้เสร็จเรียบร้อยครับ

เสื้อสวยๆ มีขายที่อุทยานครับ ทั้งเเขนสั้น ขาว

เดินกลับ สวยไปอีกกแบบครับ เเต่ต้องระมัดระวัง ลมเเร๊งเรง

เธอยังยิ้มได้ ไม่เหนื่อย 5 5 5

เดินลงมาถึง 4โมงเช้านิดๆครับ อาบน้ำได้ที่หมู่บ้าน 20.- เสร็จก็เดินเล่นสักพัก กำหนดคืนรถ 10 โมง เกินได้ ชม.ละ 50 บาท

ปิดท้ายด้วยภาพนี้ครับ โปสการ์ด ของใครบ้าง เตรียมรับเลยครับ 5 5 5 5 ใบละ15.- ค่าส่ง 5 บาท

จากนั้นขับรถกลับเมืองกาญ จ่ายค่ามอเตอร์ไซด์เกิน 4 ชม เขาคิด 1 วัน เพิ่มอีก 500.-

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆนะครับ เดินทางคนเดียว

ค่ารถตู้ไป-กลับ กทม - เมืองกาญ 120*2 = 240.-

ค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ 2 วัน + 5 ชม. 1500.-

น้ำมัน 340.-

ค่าธรรมเนียมต่างๆ+ เช่าอุปกรณ์นอน 245.-

ค่านำทาง 200.-

ค่าลูกหาบ 220.-

ค่ากิน 325.-

โปสการ์ด + ของฝาก 155.-

ค่าเต๊นท์ จิปาถะ 400.-

- - รวมทริปนี้ 3 วัน 2 คืน ประมาณ 3,625 บาท - -

ติชมได้ครับ https://www.facebook.com/aotaetieow เพจเล็กๆ ของผมไม้บันทึกเรื่องราวการเดินทาง

หากพิมพ์ผิด ขออภัยด้วยครับ มีทั้งภาษาวัยรุ่น ภาษาทางการ มั่วไปหมด


ความคิดเห็น