กลับมาพบกันอีกครั้งการเดินทางของ TungPang Life Is A Journey วันนี้จะพาไปดูเสน่ห์ของ "พัทลุง" อีกต่อจากรีวิวก่อนหน้านี้คือ "ปากประ"ความสุข สงบ สวยงาม เอนกายที่ Wetland Camp อิ่มท้องที่ บางชาม รีวิวนี้จะพาไปเจออีกมุมของพัทลุงที่บอกได้คำเดียวว่ามีเสน่ห์จริง ปล.อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ อยากให้ทุกคนมาเที่ยวพัทลุงและได้เห็นเหมือนที่TungPangเห็นความเป็นธรรมชาติที่พัทลุง ที่ยังมีการทำนาไปดูดกลิ่นไอท้องทุ่งให้เต็มปอด ไปเดินตลาดน้องใหม่ของพัทลุง "ตลาดป่าไผ่สร้างสุข" ครั้งนี้ใจดีมากที่ได้นั่งรถไฟฟรีในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ ก่อนกลับในเมื่อร่างกายต้องการกาแฟก็ต้องแวะ "ขนำ คออฟี่"
ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ ได้ข่าวว่าที่พัทลุงเปิดตลาดใหม่ด้วยนะ ลักษณะคล้ายกับหลาดใต้โหนด และตรงกับวันที่ไปเที่ยวพอดีเลยอะไรจะโชคดีขนาดนี้นั้นก็คือ "ตลาดป่าไผ่สร้างสุข" ที่เปิดทุกวันเสาร์และเพิ่งเปิดก่อนสัปดาห์ที่จะไปด้วย พอรู้แล้วก็ต้องลองไปเดินตลาดน้องใหม่กันในทริปครั้งนี้
ระหว่างเดินทางในตัวเมืองพัทลุง สองข้างทางก็ยังมีวิถีชีวิตของคนที่นี้ ทุ่งนาที่เหลืองทองและเขียวหรือบ้างที่ก็มีการเก็บเกี่ยวแล้ว เห็นแล้วต้องแวะรับลมเย็นๆกันสักหน่อย
สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองก่อน กราบไหว้ศาลหลักเมืองพัทลุง
วิวจากศาลหลักเมือง ไปมุมไหนๆก็จะเห็น "เขาอกทะลุ" สัญลักษณ์ของพัทลุง ในมุมที่แตกต่าง และสวยงามตลอด
เห็นภาพนี้แล้วนึกถึงคำขวัญของพัทลุงมาเลย "เมืองหนังโนรา อู่นาข้าว พราวน้ำตก แหล่งนกน้ำ ทะเลสาบงาม เขาอกทะลุ น้ำพุร้อน" จากนั้นก็แวะกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอีกที่สำคัญ "พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ พัทลุง"
จากนั้นก็เดินทางไปตลาดน้องใหม่ การขับรถที่พัทลุงในช่วงฤดูทำนานะ เป็นอะไรที่ชอบมากๆ
การเดินทางไปตลาดป่าไผ่สร้างสุข ก็ได้แผนที่มาจากเพจ พัทลุงทูเดย์
มาถึงกันแล้ว "ตลาดป่าไผ่สร้างสุข" การเดินทางง่ายๆนะ ตลาดตั้งอยู่ที่ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง หาไม่ยากเลยค่ะ ห่างจากโรงพยาบาลควนขนุนแค่ 500 เมตร ห่างจากตัวเมืองพัทลุง 17 ก.ม.
คนมาเที่ยวกันเยอะมากๆๆ น่าจะได้การตอบรับที่ดี ร้านค้าของกินนี้ต้องต่อคิวกันเลยนะ แม่ค้าขายดีกันทั้งนั้น
มาลุยสำรวจตลาดกันเลย ที่นี้เท่าที่สังเกตุนะ จะเป็นสินค้าจากชุมชนในท้องถิ่นที่นี้
เดินสำรวจกันทั่วแล้วก็ไปซุ้มอาหารกันดีกว่า ไปกันว่ามีอะไรน่ากิน
ผลไม้สดๆๆ จากชาวบ้านปลอดจากสารพิษแน่นอน
มีที่นั่งให้พักกัน นั่งเล่นฟังดนตรีสดในสวนไผ่ หรือจะมาล้อมวงกินอาหารกัน
นี้ของโปรดเลย ยืนรอนานหน่อยก็จะยืน เพราะของสดจริงๆ
ตบท้ายด้วยดื่มนมพัทลุงกันจร้า
เมื่อเดินตลาดเสร็จแล้ว ร่างกายมันต้องการกาแฟ ก็มุ่งตรงไปร้าน "ขนำ คอฟฟี่" แวะจิบกาแฟชมท้องทุ่งก่อนขึ้นรถไฟไปบ้านเพื่อนต่อ
มาถึงแล้วร้านกาแฟ "ขนำ คอฟฟี่" บรรยากาศยังเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือท้องทุ่งนาที่มีต้นข้าว นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาร้านนี้นะ ถามว่าทำไมแวะแต่ร้านกาแฟร้านนี้ ร้านอื่นในพัทลุงไม่มีแล้วรือ เพราะเป็นร้านที่แตกต่างจากร้านอื่นๆชอบบรรยากาศของร้าน อยู่ภูเก็ตก็เข้าร้านกาแฟบ่อยเหมือนกันก็แต่ละร้านก็คล้ายๆกัน
บรรยากาศร้านมาครั้งนี้รู้สึกจะเขียวชะอุมกว่าครั้งก่อน
นี้ไม่ใช่ศาลาพักใจนะ เป็นอีกโซนด้านข้าง เหมาะสำหรับเม้าม้อยมากเลย ไม่ต้องกลัวรบกวนคนโต๊ะข้างๆเลย
โซนที่นั่งในห้องแอร์ก็มีนะ จะแตกต่างในแต่ละมุมกันไป ใครชอบมุมไหนก็เลือกนั่งกันเลย
เลือกโต๊ะที่นั่งได้แล้วก็มาสั่งกาแฟกันเลย ครั้งนี้น้องๆที่ร้านน่ารัก แนะนำเมนูนอกเหนือจากกาแฟด้วยนะ
เค้กส้มก็มาพร้อมคาปูชิโน่เย็น
มาที่ร้าน "ขนำ คอฟฟี่" ต้องสั่งขนมตาลเป็นเมนูขึ้นชื่อ ถ้าจะดีต้องมาพร้อมกับลาเต้ร้อนสักแก้วจะเข้ากันมากเลย
อยู่ที่ร้านประมาณตอนเที่ยงเลย เพื่อนก็เริ่มหิวแล้วเราจะไปกินข้าวกันที่ไหนดี มาอีกแล้วคำถาม แต่ๆที่นี้มีข้าวจานเดียวด้วยนะ ครั้งนี้ก็เพิ่งรู้นะนี้ จะเป็นข้าวผัดจะมี 2 เมนู คือข้าวผัดปู,ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู
ข้าวผัดน้ำพริกปลาทูมาแล้ว กินที่นี้พร้อมเสริฟกับวิวหลักล้านจริงๆ
จานนี้ข้าวผัดปู
จากที่กินกันอิ่มแล้วก็เดินย่อยด้วยการสำรวจร้านกันหน่อย หามุมถ่ายรูปกันชิคๆๆ เก็บไว้โพสเช็คอินกัน
ร้าน "ขนำ คอฟฟี่" มีโซนที่นั่งให้เลือกเยอะจริงๆๆด้วยนะ
มุมนี้ใครๆมาร้านขนำ คอฟฟี่ ต้องมาแชะภาพจุดนี้ ที่นี่...พัทลุง เมื่ออิ่มแล้ว ร่างกายได้กาแฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาไปขึ้นสถานีรถไฟ "พัทลุง" กัน
มาถึงแล้วที่สถานีรถไฟ "พัทลุง"
มาต่อคิวซื้อตั๋วกันเถอะ นี้เพิ่งจะรู้อีกนะ ในการซื้อตั๋วฟรีใช้แค่บัตรประชาชนแค่นั้นเอง ก็ได้ตั๋วมาแล้ว
ได้ตั๋วรถไฟฟรีมาแล้ว มาสถานีรถไฟพัทลุงจะได้เห็นวิวเขาอกทะลุชัดเจนเลยนะ
รถไฟก็มาแล้ว เด็กๆๆตื่นเต้นกันใหญ่เลย เราก็ตื่นเต้นไม่แพ้เด็กๆๆเลยนะ เพราะนั่งรถไฟในรอบ 10 ปี
ถึงเวลารถไฟออกเดินทางแล้ว หมดเวลาสำหรับทริปพัทลุงแล้ว
ภาพนี้จากหน้าต่างรถไฟ
การนั่งรถไฟก็เหมือนได้สัมผัสธรรมชาติไปอีกแบบ เพราะข้างทางจะเต็มไปด้วยธรรมชาติ ท้องทุ่ง
สถานีรถไฟเล็กๆๆก็ยังมีให้เห็นเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เรายังเด็กๆๆ
นี้ก็ถือว่าเป็นกำไรของการได้นั่งรถไฟ ได้เห็นสิ่งที่แตกต่างและสิ่งที่เห็นก็สวยงามในตัวของมัน ขอบคุณเพื่อนจริงๆที่ชวนกันนั่งรถไฟ ทำให้เราคิดถึงสมัยเด็กๆๆ ภาพในตอนนั้นก็ลอยมา แค่นี้ก็สุขใจไปอีกแบบ มีความสุขทุกครั้งในการเดินทางแม้ว่าจะไปที่ที่ซ้ำๆ แต่การไปในที่ที่เดิมแต่เวลาไปไม่เหมือนเดิม ทุกที่ที่ไปก็จะเปลี่ยนไปตามเวลา ตามอากาศฝนฟ้าในช่วงเวลานั้นๆ จึงทำให้การเดินจะมีภาพที่สวยงามเสมอแม้ว่าจะมุมจะต่างกัน แต่ทุกอย่างจะสวยในตัวของมันเอง
ขอบคุณสำหรับการติดตามรีวิว
How About Chillout
วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 16.54 น.