รีวิวนี้ทำขึ้นมาสำหรับคนที่มีเวลาประมาณ 3 วัน อยากเที่ยวเชียงใหม่ทั้งบนดอยและในเมือง

ผมสรุปที่เที่ยว ที่พักก่อนนะครับ เผื่อไม่ใช่แนวจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอ่าน

---

สถานที่เที่ยว

- สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง (สวน80, สโมรสรอ่างขาง, สวนต่างๆ )

- ไร่สตอเบอรี่นอแล

- ไร่ชา 2000

- สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

- เดินเล่น หาของกิน ตามถนนนิมมานต์

- วัดพันเตา

ที่พัก

- โรงแรม Cmor Hotel by Andacura (ในเมืองเชียงใหม่)

- บ้านพักณิชารีย์ ในไร่สตอเบอรี่(ไม่ใช่นอแล) บนดอยอ่างขาง

- บ้านเสลา (ในเมืองเชียงใหม่)

ส่วนร้านอาหารเยอะ เดี๋ยวจะยาว เอาเป็นว่าตามกันไปดูดีกว่าเนอะ

ฝากเพจด้วยครับ รีวิวตรัง
---------------------------------
เมื่อวันหยุด 11-12-13 กพ. ที่ผ่านมา เราเลยวางแผนว่า 3 วันเราจะเที่ยวในเมืองและบนดอยได้อย่างไรให้ได้ไปหลายที่มากที่สุด และแต่ละที่ก็ไม่เร่งจนเกินไป วางแผนเสร็จสรรพ กะจะนั่งรถไฟใหม่ชิคๆ คูลๆ ไป เต็มจ้าา ก็เลยต้องไปรถทัวร์ และมีแต่รถทัวร์ที่มีชื่อเสียงเรื่องแย่ๆ จากรีวิวพันทิปทั้งนั้น เราเลยคิดว่า เอาว่ะ ไม่ถึงตายก็ไม่เป็นไร ไปโลด จองอินทราทัวร์ ไป และยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ดีจริงๆ สายไปเกือบ 2 ชม. โอเคไม่เป็นไรเข้าใจ วันหยุดอาจรถเยอะ รับได้ แต่ที่รับไม่ค่อยได้คือ มี 3 กลุ่ม ที่ได้ ที่นั่งที่เดียวกับ งงกับ ระบบจองของเขามาก แต่พนักงานใจเย็นและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก ก็ไม่เป็นไร เตรียมใจไว้แล้ว ถึงเชียงใหม่ ประมาณ 10 โมง (ถือว่าช้ามาก)

วันนี้เราจะไป สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์กัน ก่อนอื่นไปเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ BIKKY 250 บาท แล้วขับมาเช็คอินที่พัก Cmor Hotel by Andacura ใกล้นิมมาน เพื่อเอาของไว้ก่อน แต่เนื่องจากคนเต็มเช็คอินเข้าไม่ได้เพิ่งจะ 10 โมงกว่า เลยไปหาไรกินก่อน มากินที่ ต๋อง เต็ม โต๊ะ ปกติร้านเปิด 11.00 น. มา 10.50 น. รีบเข้าไปสั่งเลย พอ 11 โมง ก็เป็น ต๋อง โต๊ะ เต็มแล้วจ้าา ใครสายก็นั่งรอกันไป (รู้สึกเป็นผู้ชนะ 555) อาหารเสิร์ฟไวดี จัดไปเบาๆ ออเดิร์ฟเมืองเหนือ ต้มข่า

ตามด้วย แอ๊บหมู อาหารเหนือ คล้ายๆ ห่อหมก

อร่อยมากๆ แต่แอ๊บหมูกินเยอะๆก็เลี่ยน ทานเสร็จก็กลับ แต่ระหว่างทางน้องไข่หวานอยากแวะร้านเรื่องเล่า ก็ต้องตามใจเขาหน่อย

หนังสือออกจะแนวๆหน่อย มี วี วิโอเลต ด้วยอ่า กรี๊ดดดด!!

ด้านบนมีงานศิลปะให้ชม

11 โมงกว่าแล้ว กลับโรงแรม Cmor ห้องเตรียมเรียบร้อยแล้ว

ที่พักมีให้เลือกห้องหลากหลาย ใน agoda มีตั้งแต่ประมาณ 1,000 - 2,000 บาท จากราคาปกติ หลายพันบาท น่าพักมากๆ ห้องกว้างขวาง

อาบน้ำก่อน เหนียวตัวมาก

มีร้านอาหารด้านล่าง

มีสระว่ายน้ำ และยังมีรถตุ๊กๆ บริการฟรี และ สามารถใช้จักรยานได้ฟรีในช่วงกลางวัน กลางคืนไม่ได้เพราะมืด จักรยานไม่มีไฟ

อาบน้ำเสร็จ เราก็แว๊นไป สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ระยะทาง 35 KM. ขับ 1 ชม. ระหว่างทางเจอที่เที่ยวเยอะแยะ แต่ต้องตัดใจ เพราะเรื่องของเวลา ถึงแล้ว!!

จุดเด่นของที่นี่คือสะพานที่ความสูงเทียบเท่าระดับของยอดไม้ แวะถ่ายรูปซะหน่อย เราไปตรงกับวันหยุดคนเลยเยอะ

บางมุมคนก็น้อยถ่ายรูปเล่นสนุกดี

จากนั้นขับรถขึ้นไปชมพืชพันธ์ุต่างๆ มีเยอะมากๆ

มีหลายโดมและมีต้มไม้มากมายควรเผื่อเวลาไว้ที่นี่ 2-3 ชม. เป็นอย่างน้อยถึงจะชมได้ทั้งหมด เรามีเวลาน้อยก็ถ่ายเท่าที่ได้

บ่าย 4 โมงเย็นแล้ว เป้าหมายต่อไปอยู่ระหว่างทาง คือ Zombie Cafe เป็นร้านที่จุดเด่นคือไปนั่งทานอาหารในลำธาร แลดูชิคมาก แรกๆก็ดี ครับ แต่แช่ไปแช่มา ก็คิดว่าจะเอาเท้ามาแช่ทำไมเนี่ย!! หนาวก็หนาว เดี๋ยวเท้าเปื่อย ก็ไม่รู้เหตุผลตัวเองเหมือนกันทำไมต้องกินแล้วเอาเท้าแช่น้ำ 5555

อาหารได้ช้า แต่เพราะเทศกาลคนเยอะด้วยมั้ง สั่งมากินขำๆ เสพบรรยากาศ ไก่ราดชีสอะไรซักอย่าง + นมสดคาราเมล 2 แก้ว

ประมาณ 300-400 บาท ผมว่าแพงไปหน่อย

แว๊นมอไซค์กลับ ตัวเมือง วันนี้บังเอิญเป็นวันมาฆบูชา เลยเพิ่มแผน ช่วงกลางคืนไปวัดพันเตา จุดเด่นคือแสงสีจากแสงเทียนในเตาที่วางเรียงรายอยู่นี่แหละ

เมื่อได้เวลาก็จะมีพระมาเดิน ช่วง 2 ทุ่ม เพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนา

เสร็จแล้วเราก็ไปเดินถนนคนเดินวัวลาย จะมีของกิน สินค้าเมืองเหนือให้ชม แต่ผมกินเล็กๆน้อยๆครับ ไม่มีไรถูกใจผมเท่าไหร่

เกือบ 4 ทุ่มแล้ว ร้านอาหารหลายร้านปิดไปแล้ว แต่ยังมีร้านดังอีกร้านที่เปิดทั้งคืนนั่นก็คือ สุดยอดบะหมี่ซุปกระดูก ผมไม่ได้อวยนะครับ ชื่อร้านมันเป็นแบบนี้เลย 555

แต่ร้านนี้สุดยอดสมชื่อจริงๆ อร่อย ถูก ให้เยอะ

สั่งตามชื่อร้านเลยก็ไม่ผิดหวังครับ

แต่ผมชอบซุปกระดูกต้มแซ่บมากกว่า รสชาติเด็ดมาก

เหนื่อยมาทั้งวัน กินอิ่มแบบนี้กลับห้องอาบน้ำนอนจ้าา

เช้าวันอาทิตย์ เราจะขึ้นดอยอ่างขางกัน แต่คงไม่ขับมอไซค์ไปเองแน่ๆ แต่ก่อนหน้านั้นหาไรกินซะก่อน อีกร้านดังในเชียงใหม่คือ RISTR8TO

ชอบกาแฟ แต่นึกว่าจะมีของทานเล่นเยอะกว่านี้ มีแค่วาฟเฟิล ไม่ใช่ร้านที่มานั่งกินให้อิ่มจริงๆ 555

ทานเสร็จเอามอเตอร์ไซค์ไปคืน แล้วขึ้นตุ๊กๆ 100 กว่าบาทไป ขนส่งช้างเผือกเพื่อไปต่อรถบัสไปทางขึ้นอ่างขาง

ขึ้นรถบัส เชียงใหม่ ท่าตอน ไม่ถึง 100 บาท มาจอดที่ วัดหาดสำราญ บอกเขาอ่างขางก็ได้ เมื่อมาถึงก็ถามรถที่คิวสองแถว เขาบอกเหมารถ 1,300 บาท แต่เราพักที่บ้านณิชรีย์อยู่ไกล คิด 1,700 บาท แต่ถ้ารอจะเสีย 80 บาทต่อคน และวินมอไซค์ 300 บาทต่อคนไปลงสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ถ้าไปบ้านณิชรีย์ 400 บาท เราไปหาไรกินกันก่อนถ้ามีคนมารอรถสองแถวก็จะชวนกันแชร์ ถ้าไม่มีก็นั่งวินมอไซค์ขึ้นไป มากินที่ร้านม่วนส้มตำ ใกล้คิวรถ มียำหอยแครง ส้มตำไข่เค็ม และต้มแซ่บกระดูกอ่อน

อร่อย และราคาไม่แพง แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบรสชาตยำหอยแครงเท่าไหร่ครับ กินเสร็จแล้วไม่มีวี่แววผู้ร่วมเดินทาง เลยเป็นอย่างที่เห็น

ขึ้นพี่วินไป ถามพี่วินเรื่องขับมอไซค์ขึ้นเนินว่า ของพี่เขาใช้เครื่อง 110 CC แต่เปลี่ยนสเตอให้ขึ้นเนินได้ดี ลำบากพอควร แต่ก็ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เรามาพักที่ บ้านพักณิชารีย์ เพราะที่หาข้อมูลมาคืออยู่ในไร่สตอเบอรี่ แต่ตอนนั้นเฟลมา เพราะคิดว่าอยู่ในไร่สตอเบอรี่นอแลเลย ต้องขับรถไปอีก กิโล กว่าๆ เหมือนจะใกล้ แต่เนินเยอะมากกกก แต่ภายหลังผมกลับชอบที่นี่นะ เพราะสงบห่างจาก สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง 3 กิโลเมตร แต่ก็มีคนมาพัก ไม่เหงาจนน่ากลัว เจ้าของรีสอร์ทใจดีด้วย

บรรยากาศบ้านขอบด้งใกล้ๆที่พัก

นี่คือโฉมหน้าที่พัก และมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย อ่างขางหนาวตลอดปี ถ้าไม่มีนี่สาหัสแน่ๆ

นำสัมภาระไว้ และแบกกล้องไปสำรวจ ไร่สตอเบอรี่นอแล เพื่อจะไปถ่ายรูปตอนเช้า โดยการเช่ามอเตอร์ไซค์ของที่พัก 250 บาท และไปสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เนินเยอะ และสูงมากๆ ขับกันเหนื่อยจริงๆ ซื้อตั๋วเข้า สถานีเกษตรฯ คนละ 50 บาท มีดอกไม้และสถานที่ให้ถ่ายเยอะมาก

ถ่ายกับสวนบ๊วย มีอีกหลายสวนเลย เช่นสวนกุหลาบ สวนดอกไม้ต่างๆ แต่เดี๋ยวจะเบื่อหน้าแพนด้าไข่หวาน เลยข้ามไปของกินกันบ้างดีกว่า

ถ่ายรูปสวนด้านในเสร็จ ออกมา มีถนนคนเดินด้านนอก ร้านอาหารเยอะมาก อากาศหนาวๆ ของร้อนๆขายดี

กินพอสมควร พอจะกลับเจอป้าย หมูกระทะ delivery เราโทรไปเลย แต่เขาไม่ไปส่งที่บ้านพักเราซึ่งอยู่ขอบด้ง ไกลพอสมควร เราเลยไปเอาถึงบ้านเขาเลย ซึ่งอยู่แถวถนนคนเดินนี่เอง 350 บาท มีหมู กระทะ เตา ผัก ลูกชิ้น วุ้นเส้นให้ เอาบัตรประชาชนค้ำประกันเตาและกระทะ และแบกเตากลับไป

ที่พักสงบ และหนาวมากๆ กินหมูกระทะร้อนๆ แบบนี้ก็ฟินซิครับท่านผู้ชม

เช้าวันที่ 13 เรารีบตื่นไปไร่สตอเบอรี่นอแลที่สำรวจมุมไว้เมื่อวาน

ดูชาวเขาเก็บสตอเบอรี่ แต่เราห้ามเก็บนะ ฝ่าฝืนลูกละ 200 เลยทีเดียว อยากกินด้านบนมีขาย เราซื้อกล่องเล็ก 50 บาทมาลองชิม อร่อยและสดมาก

ด้านหน้ามีไข่ปิ้งด้วย กินไข่ปิ้งร้อนๆ ตอนเย็นๆ แบบนี้ก็ฟินดีเหมือนกัน

หลังจากฟินที่นี่เสร็จก็ไปไร่ชา 2000 ที่อยู่ไม่ไกลกันมาก

มีชาให้ชิมและซื้อกันด้วย

จากนั้นกลับไปที่พัก เจอเจ้าของรีสอร์ทให้เคพกูสเบอรี่มาเยอะเลย ใจดีมาก

เราก็เก็บของ check out และขับรถไปสถานีเกษตรฯ เพื่อจะกลับลงดอย แต่ก่อนหน้านั้นมาแวะทานข้าวที่ สโมสรอ่างขาง จานละประมาณร้อยกว่าบาท

ด้านหน้าสโมสรจะมีสวน 80 มีดอกไม้สวยๆให้ถ่ายรูปเยอะแยะ

จากนั้นเราเอารถไปคืนที่ร้านญาติของเจ้าของรีสอร์ท อยู่หน้าสถานีเกษตรเลย จากนั้นก็นั่งรถแดงลง ปกติคนละ 80 แต่ส่วนมา เขาจะเหมากันมา เราเลยติดรถสองแถวที่เขามาน้อยๆกลับไป คนขับคิด 2 คน 300 บาท ลงมาก็โบกรถเมล์ ไปลง บขส ช้างเผือก แล้วนั่งตุ๊กๆ ไปบ้านเส-ลา ที่จองผ่าน agoda ประมาณ 900 กว่าบาท(รวมทุกอย่างแล้ว)

บ้านเส-ลาเป็นที่พักออกแนววินเทจ มีความโบราณๆ อยู่ในซอยนิมมานเลย

หลังจากเก็บของเราก็ไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อยในนิมมาน ที่สังเกตได้ชัดคือ มีหลายร้านที่น่าสนใจ และแต่ละร้านจะมีสไตล์และจุดเด่นเป็นของตัวเอง

ไส้กรอกที่ต้องมีบัตรคิว ซื้อมาสองไม้ รสชาติผมว่าไม่ต่างจากที่อื่นเท่าไหร่ หรือผมลิ้นไม่ถึงก็ไม่รู้

เดินไปเรื่อยๆ

จนมาเจอ Salad concept คนแน่นมาก แต่อาหารก็มาไวดีครับ

สลัดผักแซลม่อน + น้ำสลัดวาซาบิ

ข้าว rice berry และแซลม่อน

น้ำแก้วมังกรปั่น

3 อย่างนี้ 455 บาท กะว่าจะกินขำๆ แล้วไปหาไรกินต่อ อิ่มเลย

มาต่อด้วยข้าวเหนียวมะม่วงที่ fruiturday 80 กว่าบาท

กินอิ่มก็นอน ตื่นมาตอนเช้าก่อนบินกลับไปทำงาน เราก็แวะทานอาหารเช้าที่ร้าน เข่งติ่มซำ แถวนิมมานฯ

ราคาต่ำสุดเข่งละ 25 บาท

อันนี้ชิ้นเดียวน่าจะประมาณ 30 บาท

แซลม่อน

ซาลาเปาลาวา แบะออกมาไส้แข็งเลย fail เลย

กินเสร็จก็กลับ กทม จ้า จบแล้วสำหรับทริปเชียงใหม่ อ่างขาง 2 วัน ในเมือง 2 คืน ของเรา นำสตรอว์เบอร์รีมาฝากทุกคนเลย

ใครชอบก็กด ติดตามเราได้ที่ รีวิวตรัง