ผมเชื่อว่า หลายๆ คนนั้นเคยไปเกาะพีพี และ มีวิธีการเดินทางที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ หรือ เรือสปีดโบ้ท
ของผู้ให้บริการนำเที่ยวแต่ละแห่ง
ที่ผมจะมาเล่า คือ นี่เป็นโปรแกรมหนึ่งในการเที่ยวเกาะพีพี แบบ One Day
คือ ไป และ กลับ โดยไม่นอนค้างคืน ชื่อว่า
PHI PHI SUNRISE TRIP หรือ ทริปพีพีรุ่งอรุณ
ส่วนใหญ่ ทริปนี้เนี่ยคนไทยไม่ค่อยจะรู้จักหรอกครับ จะบอกว่าคนไทยขี้เกียจตื่นเช้าก็จะดูใจร้ายไป ฮะๆๆ
จริงๆ แล้วฝรั่งจะตื่นเช้าๆ มาเที่ยวก็ไม่ใช่ว่าจะเยอะนะครับ
ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีทัวร์ไหนเขาทำโปรแกรมนี้กัน
แต่ถ้าให้ผมเลือกระหว่างตื่นเช้าสักหน่อยแล้วเจอบรรยากาศดีๆ ของอ่าวมาหยา กับ ตื่นสายๆ แล้วเจอนักท่องเที่ยวแน่นหาดล่ะก็ขอตื่นเช้า สักครั้งในชีวิตละกัน
ก่อนที่จะเดินทางได้อ่านรายละเอียดทริปมาบ้างแล้วถึงแม้จะไม่เห็นภาพ แต่ เกาะพีพี ผมเคยไปมาแล้วหลายรอบ เลยเข้าใจดีว่าจุดไหนเป็นอย่างไร และ อะไรคือ สาเหตุที่คนไทย "อี๋" เกาะพีพี ... สาเหตุไม่ใช่เพราะเกาะพีพีไม่สวย แต่ เพราะ ความสวยนั่นแหละ ที่ดึงดูดชาวต่างชาตมามากมาย จนจะเหยียบกันตายบนอ่าวมาหยา ที่มีความยาวไม่กี่ร้อยเมตร
ดังนั้นการตัดสินใจเดินทาง และ " ถ่าง " ตาตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัวและเดินทางมาถึงท่าเรือก่อน 6 โมงเช้า จึงได้เริ่มขึ้น
ท่าเรือ Royal Phuket Marina เป็นท่าจอดเรือหรูๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองภูเก็ต
(เรารู้ว่าถ้าจะนั่งเรือไม่กระแทกต้องนั่งด้านหลัง และ จะได้ถ่ายภาพรวมๆ ได้ด้วย)
สุดท้ายสายตาก็เริ่มแพ้แก่แสง และ หลับลง ๆ ๆ
Z z z z
รู้สึกตัวตื่น เมื่อไกด์ทักทายนักเดินทางในเรือว่า เราได้เดินทางมาใกล้ถึงเกาะพีพี แล้ว และจุดแรกที่เราจะไปกันก็คือ
" อ่ า ว ม า ห ย า " MAYA Bay
อ่าวสวรรค์ที่หนุ่มสาวชาวต่างชาติฝันที่จะได้มาสักครั้งในชีวิต เหมือน ลีโอนาโด ดิคาปริโอ ดาราสุดหล่อในภาพยนตร์เรื่อง The Beach
เช้าแล้ว ... เรือค่อยวิ่งเข้าสู่อ่าวมาหยา พร้อมแสงแดดอ่อน และ กลิ่นเย็นๆ ของอากาศ ผสมกลิ่นคลื่นจะทะเล
เรือค่อยแล่นผ่านทางเข้าอ่าวมาหยา อย่างช้าๆ พร้อมกับ เปลือกตาที่ค่อยๆ ยกขึ้น เช่นกัน
คนละฝั่งกับอ่าวมาหยา เป็น โละซามะ เบย์ สำหรับชมวิว ... ผมก็ว่าสวยดีครับ
(แต่เคยมาแล้วเลยไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ อยากถ่ายภาพอ่าวมาหยาเพิ่มมากกว่า)
กลับมาจาก อ่าวโละซามะ ทางด้านหลัง แดดเริ่มจ้าขึ้น ... และ นักท่องเที่ยวก็เริ่มมากขึ้นเช่นกัน
ออกจากอ่าวมาหยา .... แสงแดดเริ่มส่องสะท้อนผิวน้ำเป็นประกายจากท้ายเรือที่วิ่งสู่จุดต่อไป
หลังจากอาบน้ำตัวเปียกกลางทะเลกันเรียบร้อย จุดต่อไปคือ
" ปิ เ ล๊ ะ ล า กู น "
ที่เรือค่อยๆ แล่นเข้าไปภายในซอกเขา ... เราเคยมาที่นี่แต่ทำได้แค่ดู เพราะ เรือแน่นจนลงเล่นน้ำไม่ได้ เกรงจะถูกใบพัดปาดคอเอา ฮ่าๆๆ
ด้านในมีจุดน้ำตื้นด้านล่างเป็นทรายขาว
ถ้ำไวกิ้ง เป็นจุดที่เรือแวะให้ชม ก่อนที่เราจะไปรับประทานอาหารเที่ยงกันที่หาดส่วนตัว จุดหนึ่งของเกาะพีพี
(จุดนี้ไกด์ก็อธิบายเรื่องรังนกไป ... แต่ผมคุ้นชินกับรังนกนางแอ่นอยู่แล้ว .. เลยสนใจว่า เดี๋ยวเราจะกินอะไรมากกว่า)
ที่นี่มีจุดรับประทานอาหารที่เป็นหาดส่วนตัว มองเห็นไกลๆ ว่าจะเป็นเพียงร้านเดียวที่ตั้งอยู่บนหาดนี้
หลับตาได้สักพัก ไม่อยากให้เสียเวลา ก็เพราะ พอแดดมา น้ำทะเลด้านหน้าร้านอาหารนี่ก็ใสใช่เล่น
จุดสุดท้าย
"เกาะไผ่ ... Bamboo Island"
" Friend's Style "
" Jump Style "
ไม่รู้เป็นเพราะว่า เวลานี่ หรือ วันนี้ ที่ทำให้น้ำทะเลหน้าเกาะไผ่ ใสขนาดนี้
หลังจากเล่นน้ำทะเลสาแก่ใจแล้ว
ก็ออกจากเกาะเวลาประมาณ บ่าย 2 โมง และกลับถึงท่าเรือบ่าย 3 โดยประมาณ
ถือว่าเป็นเวลาที่ไม่เลวในการกลับไปนอนแช่อ่างหรือสระว่ายน้ำในโรงแรมต่อ ก่อนที่จะรับประทานอาหารเย็น
www.facebook.com/Fantasticsimilan
หรือ โทร. 061-3851000
ซึ่งเป็นตัวแทนการจองทริปสำหรับลูกค้าชาวไทยให้กับ
บริษัท The Beach ที่จะเป็นผู้ดำเนินการนำเที่ยว
Hello Phang-Nga
วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.43 น.