สวัสดีค่ะ เงียบหายจากการรีวิวไปสักพัก เเต่ยังไปเที่ยวตลอด ๆ นะคะ ^^
สืบเนื่องจากกระทู้ที่ผ่าน ๆ มาได้ Pantip pick วันนี้จึงอยากกลับมาแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ อีกครั้งค่ะ
อาจจะเขียนไม่ละเอียดเหมือนกระทู้ผ่าน ๆ เนื้อหาสาระไม่ค่อยเยอะ ขออภัยด้วยนะคะ ดูรูปเพลิน ๆ กันนะคะ


เดินทาง ช่วงวันที่ 8-9 มี.ค. 59 (2 วัน 1 คืน) เป้าหมายหลักของเราคือทุ่งข้าวบาเลย์ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ และจากนั้นเลือกเที่ยวที่ใกล้ ๆ ตัวเมืองตามเวลาที่มีค่ะ ไม่ได้กำหนดเเน่นอน


วันเเรก อ.สะเมิง

-ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง

-ไร่สตอเบอรี่ นภ-ภูผา

-ไร่สตอเบอรี่วงศ์วาน

-นอน บีทู รีสอร์ท อ.เมือง

วันที่สอง อ.เเม่ริม อ.เมือง

-วัดป่าดาราภิรมย์

-ม่อนเเจ่ม

-โครงการหลวงหนองหอย

-สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

-ตลาดวโรรส



เดินทางโดย "สายการบินเเอร์เอเชีย" ไป-กลับ ดอนเมือง-เชียงใหม่ จองช่วงโปรโมชั่นข้ามปีอีกแล้วค่ะ น้องที่ทำงานล่วงหน้าไปรอที่เชียงใหม่ก่อน ถึงเชียงใหม่ประมาณ บ่ายโมง เช่ารถกับ "Budget" เเบบรวมประกันภัยชั้น1 ได้ รถโตโยต้า วีออส จองไว้ล่วงหน้าประมาณ 6 วัน รถว่างพอดี เเต่ช่วงหน้าหนาว หรือช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ต้องจองล่วงหน้านาน ๆ นะคะ เพราะรถเต็มตลอด ขับไปรับน้องที่รอในตัวเมืองและมุ่งหน้าไปสะเมิงค่ะ โดยใช้เส้นทาง เเม่ริม (ถ้าอยู่ในคูเมืองออกประตูช้างเผือก เส้นทางนี้ไปหลายที่เลยค่ะ ไป เเม่ริม สะเมิง เเม่เเตง ปาย เเม่ฮ่องสอน กัลยานิวัฒนา เชียงดาว ฝาง ดอยอ่างขาง ยกตัวอย่างที่เจ้าของกระทู้เคยไปนะคะ)

เราใช้เส้นทางไปเเม่ริม ออกมาจากตัวเมืองไม่ไกลนัก เเวะทานอาหารกลางวันที่ "ร้านข้าวซอยเเม่มณี" ร้านอยู่ฝั่งขวามือค่ะ มองเห็นปั๊มเอสโซ่(อยู่ซ้ายมือ)แล้วกลับรถ เข้าไปในซอยโชตนา 24 รสชาติใช้ได้ค่ะ เมื่อก่อนอร่อยมากไม่ต้องปรุงเพิ่ม เเต่หลัง ๆ เขาทำรสกลาง ๆ ไว้ให้ลูกค้าได้ปรุงเองค่ะ เพราะบางคนชอบหวานเค็มไม่เหมือนกัน เเต่ก็ยังอร่อยค่ะ ราคาไม่เเพงด้วย ทานตั้งเเต่ชามละ 25 บาท ตอนนี้ 35 บาทแล้ว มีทั้งหมูและเนื้อ อื่นอีกมากมาย ร้านหยุดทุก วันพระ นะคะ



ข้าวซอยแม่มณี


14 น. อิ่มท้องแล้วเดินทางไปเป้าหมายเเรกของเรา นั่นคือ"ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง" หากจากตัวเมืองประมาณ 40 กม. ตรงไปเส้นหลักเเม่ริม เลี้ยวตามป้ายบอกทางได้เลยค่ะ ผ่านที่เที่ยวต่าง ๆ ของ อ.เเม่ริม ผ่านปากทางเข้าม่อนเเจ่ม เส้นทางคดเคี่ยวลาดชันมากขึ้นช่วงเข้าสู่สะเมิง เเต่ไม่มาก ขับด้วยความระมัดระวังนะคะ เส้นทางบางช่วงของแม่ริมกำลังปรับปรุงพื้นถนน


15 น. ประมาณหนึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงจุดหมาย ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง ไม่มีค่าเข้าชมค่ะ เเต่ลงชื่อเข้าเยี่ยมชมกับเจ้าหน้าที่บริเวณทางเข้าค่ะ เเปลงข้าวมีด้านหน้าที่ยังเขียวเริ่มเหลือง และด้านหลังมีทั้งเเปลงเก็บเกี่ยวแล้ว บางเเปลงสีเหลืองทองพร้อมเก็บเกี่ยว เเปลงที่เขียว เเต่ตอนมาถึงเเดดแรงมาก ตามคำเเนะนำต้องมาถ่ายเเสงเย็นค่ะ จะสวยมาก เราไปชมเเปลงด้านหลังถ่ายรูปเล็กน้อยร้อนมาก จึงออกไปเที่ยวไร่สตอเบอรี่ก่อน แล้วตอนเย็นก่อนเเสงหมดค่อยกลับมาอีกทีค่ะ



ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง


Advertisement

15.30น. เราออกจากศูนย์วิจัยข้าวไปเที่ยวไร่สตอเบอรี่ก่อนค่ะ แล้วค่อยกลับมาอีก



ไร่สตอเบอรี่วงศ์วาน มีร้านอาหารและที่พักไว้บริการค่ะ เราซื้อสตอเบอรี่ ชาเย็น ถ่ายรูปนิดหน่อย และก็นั่งพักเหนื่อยสักพัก สตอเบอรี่ที่นี่กิโลละ 150 บาท หวานดีค่ะ มาช่วงนี้จะดูเเห้งเเล้งหน่อย ไม่ได้ถ่ายวิวมาเลยค่ะ ถ่ายเเต่น้อง เธอบอกแล้วลงได้ 555+ เเถวนี้มีร้านกาเเฟน่ารัก ๆ ด้วยนะคะ แต่เราไม่ได้แวะ

ไร่วงศ์วาน


เราย้อนกลับมาไร่สตอเบอรี่ นภ-ภูผา ไม่ไกลจากศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง เราชอบบรรยากาศที่นี้มากกว่าค่ะ ซื้อสตอเบอรี่ปั่น กับ สตอเบอรี่สด ราคากิโลละ 100 บาท ถูกกว่า สดกว่า หวานอร่อยกว่าค่ะ มีมุมถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ มีบริการที่พักด้วย มีทุ่งข้าวบาเล่ย์เเปลงไม่ใหญ่มากด้วยนะคะ กำลังเหลืองเต็มที่เลย สวยค่ะ ข้อดีของการมาไร่สตอเบอรี่ช่วงนี้ คือ สตอเบอรี่จะถูกกว่ามาก คนไม่เยอะด้วยค่ะ


ไร่นภภูผา


Advertisement

มีทางเเหวกไว้ให้ถ่ายรูปค่ะ ถ้าชอบเเบบใกล้ชิด ที่ไร่นภ-ภูผา เหมาะกว่า ศูนย์วิจัยข้าวค่ะ


บรรยากาศดี ชอบค่ะ ตอนเเรกเราว่าจะรอเก็บเเสงเย็นทุ่งข้าวบาเล่ย์ ที่ไร่นภภูผา เเต่ยังไม่ได้ถ่ายมุมด้านหน้าของศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง กลับไปดีกว่าตั้งใจแล้ว



ประมาณห้าโมงกว่า ๆ เรากลับมาเก็บเเสงสุดท้ายของวันที่ "ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง"ค่ะ



ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง


มีหลายมุมนะคะ เเต่เราถ่ายมุมเดียวไม่ได้เดินเยอะ หญ้าปักขากางเกงค่ะ ^^
ถ่ายรูประวังอย่าเข้าไปเยียบในเเปลงข้าวเสียหายนะคะ รักษาความสะอาดไม่ทิ้งขยะ ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยเตือนเเต่ช่วยกันดูเเลรักษานะคะ



พระอาทิตย์ตกแล้ว คืนนี้เราไปค้างในเมืองค่ะ พรุ่งนี้ยังไม่ได้วางเเผนว่าจะไปเที่ยวไหน เเต่คงไปใกล้ ๆ ตัวเมือง หรือในเมือง ไม่ได้จองที่พักไว้ค่ะเราหาที่พักในเน็ต หาที่ถูกใจ ถูกราคา แล้ว walk in ระหว่างขับรถไปที่พักที่สนใจ เราผ่าน โรงแรมบีทู รีสอร์ท ป้ายราคา 399 บาท เราจึงเข้าไปติดต่อสอบถาม ขอดูห้อง ห้องโดยรวมดีค่ะ ราคาถูกกว่าด้วย เราจึงพักที่นี้ 399 บาท เตียงแฝด ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ แต่ซื้อเพิ่มได้

ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ลิงค์โรงเเรม http://www.xn--o3cf5fra.com/hotel/B2_Resort

โดยรวมชอบค่ะ คุ้มค่าเกินราคา มีตู้เย็น ทีวี อ่างล้างจาน ตู้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสระผม หมวกคุมอาบน้ำครบ ที่นั่งระเบียงหน้าต่าง Free WIFI สระว่ายน้ำ ฯลฯ ข้อด้อยคืออยู่ชานเมือง ห่างจากใจกลางเมืองพอสมควร เหมาะกับคนมีรถค่ะ จะไปเข้าเมือง หรือไปทางเเม่ริมสะดวกดีค่ะ แต่ถ้านอนคนเดียวก็เเอบกลัวค่ะ กระจกเป็นประตูตู้เสื้อผ้าบานใหญ่มาก อยู่ติดเตียง เเต่ไม่มีอะไรค่ะ เเอร์เย็นหลับสบายตลอดคืน

วันที่สอง



วันนี้ต้องกลับเที่ยวบินหกโมงเย็น ขอเที่ยวสบาย ๆ ใกล้ ๆ ไปตามเวลาที่มี check out ออกจากโรงแรมตั้งแต่ 6 โมงเช้า อากาศตอนเช้าเย็นกำลังสบายค่ะ มุ่งหน้าไปเส้นทางเดิม อำเภอแม่ริม แวะซื้อหมูปิ้ง ไส้อั่ว เป็นอาหารเช้า หลังจากเลี้ยวซ้ายไปตามถนน แม่ริม-สะเมิง ประมาณ 2-3 กม. จะเห็นป้ายวัดป่าดาราภิรมย์ทางซ้ายมือ ขับเลี้ยวเข้าไปตามป้ายประมาณ 1-2 กม. ก็ถึงตัววัดค่ะ



" วัดป่าดาราภิรมย์ " เป็นวัดพระอารามหลวง ภายในวัดมีต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่นดีค่ะ มาถึงวัดประมาณ 6.30 น.

รู้สึกสงบจิตสบายใจ


ตัวพระอุโบสถ กำลังปรับปรุง


เดินชมรอบวัด แล้วออกเที่ยวม่อนเเจ่มต่อค่ะ ระหว่างทางจะผ่านสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เดี๋ยวเราจะย้อนกลับมาเที่ยวที่นี้ ม่อนเเจ่มไปสายมากจะร้อนมากค่ะ ถึงม่อนเเจ่ม อาจเเห้งเเล้งไปบ้าง แต่ยังพอมีดอกไม้สวย ๆ คนน้อยสบายตาดีค่ะ


ม่อนเเจ่ม


ลงจากม่อนเเจ่มเเวะไปดูแปลงผักในตัว โครงการหลวงหนองหอย


จากนั้นก็ย้อนกลับไปเที่ยวชม "สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์" มาถึงที่นี้ประมาณ 10 โมงกว่า ๆ ค่ะ ค่าเข้าชม รถยนต์พร้อมคนขับ 100 บาท ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย คนละ 40 บาท ค่ะ บัตรนี้ยังใช้เป็นบัตรผ่าน Canopy walkway ด้วย


Conopy walkway ทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทางประมาณ 400 เมตร สูงกว่า 20 เมตร โครงสร้างเป็นเหล็ก บางช่วงเป็นกระจกใสมองเห็นข้างล่าง มีความแข็งแรง ทำตามคำแนะนำด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัย

"สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์"


เสียดายที่บริเวณจุดชมวิวปิดปรับปรุง


จากนั้นเราขับรถไปชม กลุ่มอาคารเรือนกระจก มีพืชพันธุ์ไม้ให้ชมมากมาย


ประมาณบ่ายโมงเรากลับเข้าเมืองไปซื้อของฝาก เเคบหมู ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม สตอเบอรี่ ที่ตลาดวโรรส แล้วไปหาร้านนั่งทานข้าว ทานของหวานชิล ๆ รอไปคืนรถและขึ้นเครื่องแบบไม่รีบร้อน


สาขาโมโตะยา Sakamotoya


>>> จบทริปกลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ <<<

สรุปค่าใช้จ่ายในทริปค่ะ



เครื่องบิน ไป-กลับ 1 คน 800 บาท

เช่ารถ 13.00น. (8 มี.ค.) ถึง 17.00น. (9 มี.ค.) 1 วัน 850 บาท

ค่าน้ำมัน 400 บาท

ค่าที่พัก 399 บาท

ค่าอาหาร อื่น ๆ ประมาณ 1000 บาท



เฉลี่ยคนละประมาณ 1300 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)



โดยรวมประทับใจค่ะ ชอบเที่ยวภาคเหนืออยู่แล้ว ไม่ว่าจะฤดูไหน คนเหนือน่ารักใจดีค่ะ ได้รับการช่วยเหลือเมื่อเดือดร้อนตลอด ที่ผ่านมาในทริปนี้ ระหว่างทางจอดรถซื้อสตอเบอรี่ที่เเม่ริม เจ้าของสวนเห็นรถยางแบนมาก ไม่แน่ใจว่ารั่วไหม พาไปเช็คยาง และเติมลม ที่ร้านทั้งที่วันนั้นปิดร้าน ไม่คิดค่าบริการด้วย ใจดีมาก รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งน้ำใจของพี่เขามาก ไปเที่ยวเหนือหลายจังหวัดแล้ว เจอแต่คนใจดีค่ะ



ทักทาย สอบถามเพิ่มเติมในเพจ " เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า " ได้นะคะ
https://www.facebook.com/talk2travels/

กระทู้ที่ผ่านมาค่ะ
http://pantip.com/profile/1024117



จนกว่าจะพบกันใหม่ "สวัสดีค่ะ"


ความคิดเห็น