สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน ห่างหายจากการเขียนกระทู้มานานพอสมควร
และวันนี้อยากบันทึกเรื่องราวดีๆ ที่ได้มีโอกาสบันทึกเรื่องราว
การทำความดีเพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 9 ไว้เป็นกระทู้เล็กๆ
เพื่อเก็บความทรงจำดีๆนี้ไว้ตลอดไป และตลอดกาลครับผม
ผมได้รับโอกาสดีๆจาก ททท.สำนักงานเชียงราย
ให้เก็บบันทึกเรื่องราวนี้ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงครับ
ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆท่านได้นะครับ
ฝากติดตามเพจเล็กๆของผมด้วยนะครับ
<<สะพายกล้องเที่ยวยินดีให้คำปรึกษาครับ>>
FB สะพายกล้องเที่ยว: https://www.facebook.com/InLovETraveL2015/
FB: https://www.facebook.com/boysuperza
ปล.หรือจะจ้างไปงานก่อได้นะครับ ยินดีบริการด้วยความประทับใจครับผม ^ ^"Mekong Challenge 2016" จากโขงสู่อิระวดี" ปั่นจักรยาน เทิดพระเกียรติในหลวง ร.9 เพื่อรวบรวมแม่น้ำสำคัญ 6 สาย
(โขง-อิรวดี-สะโตง-สาละวิน-ปิง-เจ้าพระยา)
................................................
คณะนักปั่นจักรยาน ที่มีความรักที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่9 อยากจะแสดงออกด้วยความกตัญญู ความเครพ
และไว้อาลัย มีแรงผลักดันในการจัดทริป ปั่นจักรยานทางไกล ระยะทางกว่า 2,990 กิโลเมตร เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่9
และเพื่อรวบรวมแม่น้ำสายสำคัญ 6 สาย (โขง-อิรวดี-สะโตง-สาละวิน-ปิง-เจ้าพระยา)
เพื่อนำมาถวายสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่สวรรคคาลัย ณ บริเวณสนามหลวง
................................................
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา คณะนักปั่นจักรยาน "Mekong Challenge 2016 จากโขงสู่อิระวดี"
เริ่มเดินทางจาก อ.เชียงของ จ.เชียงราย มีพี่ๆ น้องๆ นักปั่นทั่วจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงร่วมปั่นกับคณะนักปั่นจักรยานทางไกล
ข้ามประเทศเพื่อเป็นกำลังใจ และเพิ่มพลังให้กับทางคณะนักปั่นจักรยานทางไกล จาก อ.เชียงของ ถึงด่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงราย
เพื่อส่งคณะปั่นจักรยานทางไกลข้ามด่านพรมแดนไปยังประเทศพม่า
................................................
กำหนดการปั่นจักรยานทางไกล จากเชียงของ เชียงแสน แม่สาย ท่าขี้เหล็ก เชียงตุง ตองยี ยองห้วย สีป้อ พินอูลวิน
มัณฑะเลย์ พะโค มะละแหม่ง แม่สอด ตาก กำแพงเพชร ชัยนาท ไปสิ้นสุดที่กิจกรรมเข้าถวายสักการะ
ถวายความอาลัยที่กรุงเทพมหานคร รวมระยะทางกว่า 2,990 กิโลเมตร รวมระยะเวลาการปั่นจักรยานทางไกล 15 วัน
................................................
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมแม่น้ำสายสำคัญ ทั้งหมด 6 สาย (โขง-อิรวดี-สะโตง-สาละวิน-ปิง-เจ้าพระยา)
โดยเพิ่มจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้คือแม่น้ำ 4 สาย (โขง-สาละวิน-อิระวดี-เจ้าพระยา)
เพื่อนำมาถวายสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
................................................
เช้าวันนี้เราตื่นเช้ามาชมความสวยงามและวิถีชีวิต ริมแม่น้ำโขง ณ อำเภอเชียงของครับ
และก็ถึงเวลารนัดหมาย เจ็ดโมงเช้า เหล่านักปั่น มากถึง 200 กว่าคน เจอกันที่จุดรวมตัวของกลุ่มนักปั่นครั้งนี้
เรานัดรวมตัวกันที่จุดชมวิวห้วยทรายมาน อ.เชียงของครับ ปั่นจักรยานออกมาจากตัวเมืองเชียงของ
ประมาณ 10 กม.ครับ ก็จะเจอจุดชมวิวห้วยทรายมาน อยู่ทางด้านขวามือครับ มีป้ายเด่นชัด สังเกตุได้ไม่ยากครับ
เมื่อคณะนักปั่นมากันพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็ลุยกันเลยครับ เริ่มปั่นกันเลย
จุดต่อไปที่คณะนักปั่นจะไปอีกจุดหนึ่ง เพื่อถ่ายภาพหมู่กันคือ จุดชมวิวผาพระ ริมโขง
เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกที่แห่ง บนเส้นทาง เชียงของ เชียงแสน
หมวกกันน็อคแบบพอเพียง ทำจากเปลืองลูกมะพร้าว เก๋ไก๋มากครับ
บันทึกภาพหมู่เพื่อบันทึกความทรงจำเรียบร้อยแล้ว คณะนักปั่นก็ออกเดินทางกันต่อเลยครับ
จุดหมายต่อไป บ้านหาดบ้าย หมู่บ้ายไทลื้อ
ก่อนถึงหมู่บ้านหาดบ้าย ขับผ่านรีสอร์ทสวยๆหนึ่งที่ คือ ไร่แสงอรุณ วิวติดน้ำโขงสวยมากๆ
เมื่อเข้าหมู่บ้านหาดบ้าน จะเจอกันวิธีชีวิตชาวบ้านหมู่บ้านหาดบ้าย ที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ
และแล้วคณะนักปั่นก็เดินทางมาถึงยังหมู่บ้านหาดบ้ายแล้วครับ มีชาวบ้านมาต้อนรับเต็มไปหมดเลย
มีทั้งขนมให้คณะนักปั่นได้ทานกันด้วยครับ
ขนมพื้นบ้านที่ผมคิดว่าหลายๆท่ายคงไม่รู้จัก ทางเหนือเขาเรียกว่า "ข้าวต้มหัวหงอก" ครับ
และเพื่อนๆท่านไหนที่ ได้มีโอกาสมาแวะเที่ยวยังบ้านหาดบ้านแห่งนี้สิ่งที่ไม่ควรพลาดเลย คือข้าวซอยไก่ แบบไทลื้อครับ
จะมีลักษณะคล้ายๆกับก๋วยเตี๋ยวน้ำใส แล้วเอาน้ำพริกอองมาใส่ อร่อยใช้ได้เลยครับ และอีกอย่างอาหารของไทลื้อ คือ
ข้าวแรมฟืนครับ หรือเรียกอีกอย่างว่าข้าวฟืน เป็นลักษณะแป้งนิ่มๆ ใส่น้ำมะเขือเทศแล้วปรุงรสด้วยผงชูรส และเกลือพริกคั่ว
อร่อยไปอีกแบบหนึ่งครับ และที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยครับถูกมาก ข้าวซอยไก่ ถ้วยละ 30 บาท และข้าวแรมฟื้น ถ้วยละ 5 บาทเองครับ
คณะนักปั่นรับประทานของคาว ของหวานเป็นที่เรียบร้อย
ทุกท่านก็พร้อมเพรียงกัน ร่วมทำบุญตักบาตรกับ ชาวบ้านชุมชนบ้านหาดบ้ายครับ
คณะนักปั่นและ ชาวบ้าน บ้านหาดบ้ายร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบาร ทั้งน้ำตา และยืนไว้อาลัยถวายแด่ "ในหลวง ร.9" เสด็จสู่สวรรคาลัย
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกันต่อแล้วครับผม จุดมุ่งหมายต่อไป ที่ว่าการอำเภอเชียงแสนครับ
ตรงหมู่บ้านหาดบ้ายนี้ก็เป็นจุดเปิดงาน และปล่อยตัวคณะนักปั่นอย่างเป็นทางการครับ
ปั่นๆๆ มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงแสนครับผม
ผ่านวัดพระธาตุผาเงาแล้ว อีกนิดเดียวก็จะถึงที่ว่าการอำเภอเชียงแสนแล้วครับ
ในที่สุดก็เดินทางมาถึงที่ว่าการอำเภอเชียงแสนแล้วครับ คณะนักปั่นพักรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี้ก่อนครับ
รับประทานอาหารกลางวันพักผ่อนตามอัธยาศัยเรียบร้อย คณะนักปั่นจักรยาน ร่วมลงนามถวายความอาลัย
แด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล และประกาศปณิธาน เพื่อรวบรวมแม่น้ำสายสำคัญจำนวน 4 สาย
เพื่อเพื่อนำมาถวายสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สู่สวรรคคาลัย ณ บริเวณสนามหลวง
คณะนักปั่นลงนามถวายความอาลัยกันครบทุกคนแล้ว
ก็ออกไปเก็บแม่น้ำสายแรก ตามปณิธานที่ตั้งไว้ นำทีมโดยคุณเบิร์ดครับ
เก็บแม่น้ำสายที่ 1 เรียบร้อย คณะนักปั่นก็ออกเดินทางไปยังอำเภอแม่สายกันครับ
จุดชมวิวสามเหลี่ยมทองคำ แบ่งเขตสามประเทศด้วยกัน อยู่ติดกับพระเจ้าล้านตื้อ สีทองสวยงาม
และแล้วการเดินทางของคณะนักปั่นในวันแรกก็สิ้นสุดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
พักผ่อนเตรียมตัวข้ามด่านประเทศพม่า ในวันพรุ่งนี้เช้า และเมื่อมาถึงอำเภอแม่สายแล้ว
ต้องขึ้นไปวัดพระธาตุดอยเวา เพื่อไหว้สิ่งศักสิทธิ์ ให้ปกปักรักษาคณะนักปั่นทุกท่านให้เดินทางปลอดภัย
ในครั้งนี้ด้วยครับ
วิวแสงเย็นสวยๆกับชุมชนเล็กๆข้างล่าง สวยงามมากครับ เพื่อนท่านไหนได้มาเที่ยวที่อำเภอแม่สาย
ไม่ควรพลาดจุดนี้เป็นอย่างยิ่งครับ "วัดพระธาตุดอยเวา"
สะพายกล้องเที่ยว
วันพฤหัสที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.39 น.