หลังจากหาข้อมูลการเดินทางไปเบตงอยู่1วัน เราตัดสินใจว่าอยากไปสัมผัสเมืองเบตงสักครั้ง เป็นยังไงนะ สุดปลายด้ามขวาน

อยากไปคนเดียว ตามวิถีการเดินทางของเรา จะเดินทางวันศุกร์

แต่ชีวิตแจ๊ค ไม่เคยตามแผน

กลางดึกวันพฤหัส โทรศัพท์ดังขึ้น ไม่ดิ่ โทรศัพท์ไม่ดัง เพราะเราปิดเสียง555

ปลายสายคือพี่บอยแอดมินเพจ กูเที่ยวไปเรื่อย และ เที่ยวสิวะอยู่ทำห่าอะไร

พี่บอย:ไปเชี่ยวหลานมั้ย เดินทางพรุ่งนี้.......

แจ๊ค : ค่ะ

แมร่ง เช้าวันเสาร์ มาโผล่เชี่ยวหลานซะงั้น นี่คือจุดเริ่มต้นของ "กระทันหันทริป"

ก่อนเดินทางกันต่อ ขอฝากเพจด้วยจ้าาาา ติดตามการเดินทาง ท่องเที่ยวถ่ายภาพของแจ๊คได้ที่นี่ค่ะ เพจ นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/journ...

ฝากกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ

ขอบคุณภาพจากโปรนัท

เดินทางกัน 2 รถตู้ 19 ชีวิต มีคนที่รู้จักอยู่ไม่กี่คน แต่พอมาเจอกันเราก็เที่ยวกันได้หมดค่ะ

พี่บอยจัดทริปเกือบทุกอาทิตย์ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเดินป่า ใครสายเดินป่าไปติดตามดูทริปได้ค่ะ

ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน ทริปบ้าอะไรก็ไม่รู้ เที่ยวหนักมาก เที่ยวจนต้องร้องขอชีวิต

คร่าวๆนะ วันแรกเที่ยวเชี่ยวหลาน วันที่สองขึ้นจากเขื่อน ไปเก็บภาพที่เขาเทพพิทักษ์ หรือเขารูปหัวใจนั่นเอง

แล้วตีรถไปภูเก็ต เพื่อส่งเพื่อนกลับกทม.ก่อน 3 คน ระหว่างทางเราแวะเก็บภาพที่สะพานสารสิน ไปถึงภูเก็ต

รอถ่ายภาพเครื่องบินที่หาดในยาง แล้วกลับไปพังงาเพื่อขึ้นเสม็ดนางชี วันที่สามลงจากเสม็ดนางชี

ไปล่องเรืออ่าวพังงาไปเขาตาปูและเขาพิงกัน กลับจากล่องเรือ แล้วกลับกทม.ระหว่างทาง

แวะเขาหลัก ถ่ายภาพเรือสึนามิ เป็นอันจบทริป โคตรคุ้มอ่ะทริปนี้

เอาเป็นว่าเราจะหยิบมารีวิวเป็นที่ๆละกันนะ รีวิวแรกเราจะพาไปเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือชื่ออย่างเป็นทางการก็คือเขื่อนรัชชประภา

****วิธีการเดินทางเท่าที่เรารู้นะ

นั่งรถทัวร์ไปลงบขส.สุราษ แล้วนั่งรถสองแถวจากบขส.เข้าเมือง ในเมืองจะมีรถตู้สายสุราษ-บ้านตาขุน-เขื่อนเชี่ยวหลาน

รถจะไปส่งที่ท่าเรือ จริงๆจะบิน หรือจะนั่งรถไฟ ได้หมด แต่เราไม่แน่ใจวิธีต่อรถ

****การเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานมีทั้งone day trip และไปค้างคืนตามแพต่างๆซึ่งมีให้เลือกมากมาย ราคาเรือเป็นแบบเหมาลำ

แพที่ใกล้สุดจะเป็นแพนางไพร วิวสวยมาก แต่ที่พวกเราไปพักคือแพไกรสร ไกลมาก

****ค่าเรือไปกลับ และแบบค้างคืน ราคาจะต่างกัน มีแบบนั่งได้ 10 คน 20 คน ราคาคิดตามระยะทาง

เอาราคามาให้ดูค่ะ ตามอ่านนะ ภาพอยู่ตอนก่อนลงเรือ ซูมดูหน่อย ตัวมันเล็ก

ติดต่อจองคิวเรือ ที่เบอร์ 083-300-1730 หรือจะติดต่อที่หน้างานเลยก็ได้ค่ะ

ถ้าไปกันไม่กี่คน ไปหาจอยกับกรุ๊ปอื่นจะประหยัดกว่าค่ะ

ได้ข้อมูลกันแล้ว มาเดินทางกันต่อค่ะ

29.04.2560 เช้าวันเสาร์ รถตู้พาพวกเรามาถึงทางเข้าเขื่อนเชี่ยวหลาน เราลืมตาขึ้นมาและอุทานในใจ เชี๊ยะหมอก!!!!!!!!

ไม่คิดว่าจะเจอหมอกเยอะขนาดนี้ หมอกจัดมาก ขาวไปหมด มองไม่เห็นอะไรเลย

ไปจอดกันที่เขื่อนเพื่อเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา และเดินชมวิว แต่เราก็ยังมองไม่เห็นอะไร

ด้วยสันดารช่างภาพสายชิลล์อย่างเรา ขอรอ เผื่อหมอกจะจางลง จนได้ภาพมา 3 เซ็ท คือแบบหมอกขาวๆมองไม่ค่อยเห็นอะไร

2.แบบเริ่มเห็นวิวบ้างเล็กน้อย

และแบบที่3คือ เห็นวิวและมีหมอกตามยอดเขาไม่เสียแรงที่รอคอย

หมอกเริ่มสลายตัว ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อน

โอ้ยยยยยย อยู่แค่สันเขื่อนหัวใจฉันก็พองโตแล้ว เขื่อนนี้ทำไมสวยจัง ฉันตกหลุมรักเธอแล้วนะ

ความสวยอยู่ที่เลนส์ ความชัดเจนอยู่ที่เธอ บรึ๋ยยยยย ขอบคุณภาพจากโปรพริกสายถ่อย

ที่นี่มันสวยมากเก็บภาพกันรัวๆๆๆๆๆ

ขอบคุณภาพสะบัดผ้าพริ้วๆจากโปรนัท

ขอบคุณภาพจากโปรนัท

ทุกคนเริ่มหิว กินข้าวเช้ากันที่ร้านในเขื่อนนั่นแหละค่ะ อิ่มแล้วก็ซื้อขนมของกินเล่น ไปกินที่แพ พร้อมแล้วไปที่ท่าเรือกัน

ประทับตราอุทยาน เก็บไปอีก 1

ราคาเรือค่ะ

พาเสือขึ้นเรือ

ขอบคุณภาพจากพี่บอย

ขอบคุณภาพจากน้องบิว

วิวระหว่างทางโคตรสวย เก็บภาพตลอดทางเลยค่ะ

เรานั่งเรือกันนานมาก นานจนใครบางคนหลับ ต้นไงจะใครล่ะ

เพราะแพเราอยู่ไกล เราพักแพไกรสร ข้างหน้านั่นไง ถึงแล้วค่ะ

บ้านของพวกเราคืนละ 900 นอนได้ 3-4คน มีอาหาร 3 มื้อ มีเรือให้พายฟรีๆ จอดอยู่หน้าบ้าน พายได้ตลอดเวลา

ที่นี่มีไฟให้ใช้ค่ะ สามารถชาร์ตแบตได้

แต่ไปชาร์ตรวมกันที่ห้องอาหารนะ ในห้องนอนไม่มีปลั๊กไฟ ไฟจะปิดประมาณ4-5ทุ่ม

อยู่ที่นี่ไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ทำให้ได้คุยกับตัวเอง ได้คุยกับคนรอบข้าง มากกว่าจ้องหน้าจอโทรศัพท์

ขอบคุณภาพจากโปรนัท สีแจ่มอะไรขนาดนี้

ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีแอร์ ไม่มีตู้เย็น โทรทัศน์ พัดลม แล้วทำอะไรกัน

นั่งคุย เล่นน้ำ ถ่ายภาพ พายเรือ ดื่ม

หมดแรงก็นอน อ่อนแอก็แพ้ไป

ตื่นมาเล่นน้ำใหม่ สิ่งที่ทำ มีอยู่แค่นี้ แต่มันไม่น่าเบื่อเลย

ขอบคุณภาพจากโปรนัท สวยบาดใจ

ช่วงบ่ายแก่ๆ พายเรือเล่นอีกรอบ ไปเจอต้นกลางทาง

ด้วยความบ้าพลัง เราเลยพายไปพิชิตเกาะเล็กๆมาเกาะหนึ่ง

ปวดแขนเลยจ้าาาาา ไกลชิปหาย พายไปถึงแล้วพายกลับ ไปเพื่อ?????? 5555

ขากลับพายไม่ไหว เนวิเกต้นช่วยลากไป เจอเรือพี่บอย พี่เอ๋ นัทตี้

ต้นโชว์แมน ลากเรืออีกลำ โอ้ยยยยยยพี่ขุนไกร พายเก่งอะไรเบอร์นั้น

ช่วงเย็นลุงคนขับเรือพาเราล่องเรือไปส่องสัตว์

ได้เห็นวัวป่า หรือกระทิงป่า ประมาณนี้ค่ะ จำไม่ได้ว่าตัวอะไร แต่เราใส่เลนล์ไวด์ซูมถ่ายไม่ถึง

จากการล่องเรือ และนั่งเรือมาตอนเช้า เขื่อนมันใหญ่มาก ป่าและสัตว์ป่าถูกกลืนกินไปเท่าไรไม่รู้เนอะ

ถ่ายสัตว์ไม่ได้ หันมาถ่ายวิว ถ่ายนางแบบ นายแบบ

ชมแสงสุดท้ายของวันนี้

ขอบคุณภาพจากโปรนัท กลับถึงแพมืดพอดี ได้เวลามื้อค่ำ โคตรหิวค่ะ

กิจกรรมหลังจากมื้อค่ำ ก็นั่งล้อมวงกันเหมือนเดิม
ขอบคุณภาพจากโปรนัท

ภาพกลางคืนตอนหัวค่ำ ก่อนออกล่าช้างเผือก
สุดท้าย เมฆหมอกบังได้ช้างจางๆเท่านั้นเอง เลยไม่ได้เอาภาพมาให้ดูค่ะ

รู้สึกเหมือนไม่ได้นอน อากาศร้อนค่ะ นอนไม่หลับ ตื่นเช้ามารอรับคุณพระอาทิตย์ และคุณหมอก
เราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากหน้าห้องได้เลย

พอสายๆน้ำไม่ไหลค่ะ หาได้แคร์ไม่ อาบน้ำกันหน้าห้องเลย ขอบคุณภาพจากโปรนัท

พระอาทิตย์ขึ้นมาเมื่อไรก็ร้อนเลย แสงอุ่นๆยามเช้าคงหาไม่ได้แล้วสิ่นะ โลกเราเข้าขั้นวิกฤตแล้ว
เก็บภาพกันถึงสายๆก็ได้เวลาเก็บของ กินข้าวเช้า เดินทางกันต่อ

อีกนิดค่ะ ยังไม่จบนะ แจ๊คมีวิวระหว่างทางและกุ้ยหลินเมืองไทยมาฝาก วิวระหว่างทางมันสุดๆแล้ว โคตรสวย สายหมอกหยอกเย้ายอดเขา โอ้ยยยยยยยย รักเลย

เราแพ้เขา แพ้หมอก เห็นแล้วกรี้สสส มุมที่ไม่มีหมอกก็สวยมากเช่นกัน

ขอใส่ภาพแบบรัวๆๆนะคะ

ขอถ่ายเสื้อนิดนึง

ขอบคุณภาพจากพี่บอย

เรือพาเราไปแวะถ่ายภาพที่แพนางไพร แพนี้วิวสวยเวอร์

ออกจากแพนางไพร เราไปต่อกันที่กุ้ยหลินเมืองไทย หรือเขาสามเกลอนั่นเองค่ะ

มีไอติมขายด้วย ถ้ายละ 40 บาท

แอ็คอาร์ตถ่ายภาพกันเต็มที่

เรือจอดให้เก็บภาพกันอยู่พักนึง จบจากเขาสามเกลอ ก็กลับขึ้นฝั่งค่ะ

ขอบคุณภาพจากพี่บอย

ได้เวลา บ๊าย บาย เชี่ยวหลาน สถานที่ที่อยากให้คุณมาสัมผสด้วยตัวเอง ใครชอบชีวิตช้าๆ เชี่ยวหลานคือคำตอบ

ขอบคุณพี่บอยที่จัดทริปดีๆ และที่สำคัญเพื่อนร่วมทริป ทุกคนน่ารักมากๆ ไว้ร่วมทริปกันอีกนะคะ

ประสบการณ์ไม่มีขาย อยากได้ต้องเดินทาง

นักเดินทางตัวน้อย

https://www.facebook.com/journ...

แถมให้ค่ะ เขารูปหัวใจ หรือเขาเทพพิทักษ์ ไม่ไกลจากเชี่ยวหลาน แวะไปเก็บภาพกันได้ค่ะ