เชียงใหม่น่ะไปง่าย สะดวกเมื่อไหร่ จะเลือกเดินทางแบบไหน ก็ง่ายนิดเดียว
สวัสดีจ้า… นี่แมงน้อยเอง ปีนี้มีโอกาสไปแอ่วเชียงใหม่ ถึง 3 ครั้ง ในช่วงเวลาใกล้ๆ กัน และเป็นการเดินทางที่ครบทุกประเภทเลยนะ ทั้งรถยนต์, รถไฟ, เครื่องบิน
ครั้งที่ 1 : เดือน ม.ค. ขับรถเที่ยวเองไปเรื่อยๆ 7 คืน 8 วัน พากิน เที่ยว ทั่วเชียงใหม่ ในกระทู้ "เชียงใหม่ กิน เที่ยวไหน ที่เค้าว่าฮิต…ฮิปเตอร์"
Link : https://pantip.com/topic/36125795
ครั้งที่ 2 : เดือน ก.พ. โดยสารรถไฟใหม่ ขบวนด่วนพิเศษอุตราวิถี กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ ไปร่วมทำบุญให้กับโรงเรียนที่ห่างไกลความเจริญ ที่ อ. เชียงดาว ในกระทู้ "ทริปนี้มีเรื่องเล่า ปลายทางของเราคือเชียงดาว"
Link : https://th.readme.me/p/8042
ครั้งที่ 3 : เดือน พ.ค. ได้โอกาสบินฟรี พักฟรี กับกิจกรรมดีดีของ KTC ที่จัดขึ้น ในโครงการ KTC Real Team ครั้งที่ 44 ตอน Coloured by Seasons @Flora Creek Chiang Mai..มหัศจรรย์สีสันแห่งมวลดอกไม้ทุกฤดูกาล ซึ่งเป็นกระทู้ล่าสุดในครั้งนี้ค่ะ
โครงการ KTC Real Team
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักโครงการนี้ ขอเกริ่นให้ฟังสักหน่อย ทาง KTC ได้จัดกิจกรรมให้กับสมาชิกของบัตร KTC เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่มี Lifestyle ชอบเที่ยว ชอบรีวิว โดยไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียง มาร่วมสมัคร ส่งผลงานที่เคยรีวิวบน Social ต่างๆ ให้ทีมงานพิจารณา หากผลงานเป็นที่ถูกใจคณะกรรมการ และเหมาะกับสถานที่หรือรางวัลที่จัดขึ้นในแต่ละครั้ง เพื่อนๆ ก็จะได้ลุ้นเที่ยวฟรีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 44 แล้วค่ะ (แอบบอก…ล่าสุดครั้งที่ 45 พาไปเที่ยว IRAN เลยนะ รีบสมัครกันเยอะๆ ก่อนสิ้นเดือน พ.ค. นี้ เผื่อจะมีโอกาสลุ้นไปต่างประเทศฟรีๆ ด้วย)
ส่วนตัวอย่างรีวิวทริปจากคนที่เคยได้รางวัลครั้งก่อนๆ สามารถเข้าไปชมย้อนหลังได้ที่ www.ktc.co.th/ktcworld หรือติดตามแฟนเพจ www.facebook.com/KTCWorldCommunity เพื่อจะได้ทราบข่าวสาร และไม่พลาดกิจกรรมดีดีที่ทางเว็บไซด์จัดขึ้นค่ะ
สำหรับรางวัลที่แมงน้อยได้รับในครั้งนี้ ดีต่อใจมากเลยทีเดียว
- ห้องพักแบบ Deluxe Plantation จำนวน 3 วัน 2 คืน สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า 2 มื้อ
- อาหารกลางวัน และเครื่องดื่ม 1 มื้อ (อาหารไทย)
- อาหารเย็น และเครื่องดื่ม 1 มื้อ (อาหารฝรั่ง)
- บริการนวด คอ บ่า ไหล่ 30 นาที สำหรับ 2 ท่าน
- บริการรถรับ-ส่งสนามบิน Airport Transfer 2 เที่ยว
- ตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ) สายการบิน Nok Air จำนวน 2 ที่นั่ง
ซึ่งนอกเหนือจากรางวัลที่ได้ มีส่วนที่แมงน้อยไปกินเที่ยวเพิ่มเองด้วย ประสบการณ์ 3 วัน 2 คืน จะเป็นยังไง ตามไปชมพร้อมกันเลยจ้า
ต่อไปจะเป็นการแชร์ประสบการณ์ และภาพบรรยากาศที่ได้ไปสัมผัสทริปพิเศษจากการเป็นผู้โชคดีในกิจกรรมนี้มาฝากเพื่อนๆ ณ โรงแรม Flora Creek Chiang Mai ค่ะ
…ต้องขอสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้จักโรงแรม Flora Creek Chiang Mai มาก่อน พอได้รางวัล ก็หาข้อมูลในเน็ต จึงรู้ว่า ที่นี่คืออุทยานสวนดอกไม้กฤษดาดอยเดิมนั่นเอง (อ้าว..ที่เดียวกันเหรอนี่!!) ซึ่งที่นี่เคยเป็นที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวสวนดอกไม้เมืองหนาวยอดฮิตอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่เลยนะ แต่ได้ปิดไปช่วงหนึ่ง เพื่อทำการรีโนเวทใหม่ เพิ่งเปิดให้บริการล่าสุดเมื่อ พ.ย. 59 ที่ผ่านมา ปัจจุบันภาพที่พักกฤษดาดอยแบบเก่าที่เคยเห็นเปลี่ยนไป กลายเป็นรูปลักษณ์ใหม่ ตกแต่งสไตล์ยุโรป เพิ่มความเก๋ของสวน ที่เค้าจะจัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามพันธุ์ไม้แต่ละฤดูกาล เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะไปช่วงไหน ก็จะได้วิวใหม่ๆ ให้ถ่ายรูปเพลินแน่นอนค่ะ เห็นจากในรูปว่าสวยแล้ว ยิ่งอยากไปเห็นของจริงไวๆ แล้วสิ
กำหนดเดินทาง : 8-10 พ.ค. 60 โดยสายการบินนกแอร์ ณ สนามบินดอนเมือง
รอบนี้ได้ไปเยือนอาคารผู้โดยสารใหม่ของสนามบิน โล่ง กว้าง สว่าง สะดวก สบายตา ลดความแออัดจากอาคารเก่าได้มากทีเดียว แมงน้อยใช้บริการจอดรถค้างคืน ค่าบริการ 250 บาท/คืน (ราคาเดียวกับสนามบินสุวรรณภูมิเลยจ้า)
เคาน์เตอร์และจุดให้บริการ Check in ของ Nokair มีสองฝั่ง และหลายช่อง สะดวก ไวมากเลยค่ะ
ขนมที่แจกบนเครื่อง (ขาไป) แพ็คเก็จจิ้งน่าร๊ากกก ตัวขนมก็อร่อยด้วยนะ
ขนมที่แจกบนเครื่อง (ขากลับ)
ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นิดๆ ก็ถึงสนามบินเชียงใหม่ พนักงานมารอรับ ด้วยรถตู้ของโรงแรม จากจุดนี้ไปยังโรงแรม ใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ
โรงแรมตั้งอยู่บนเขาใน อ.หางดง แมงน้อยลองหาแผนที่มาปะไว้ เผื่อคนที่จะเดินทางไปโดยรถส่วนตัวค่ะ
Credit photo : www.floracreekchiangmai.com
โรงแรมอยู่ติดถนน สังเกตได้ง่าย เมื่อลงจากรถ ก็เดินขึ้นไป Check in แมงน้อยได้รับการต้อนรับที่น่ารักจากพนักงาน ตั้งแต่ลงจากเครื่อง จนถึงหน้า Lobby เลยค่ะ
รับ Welcome drink เป็นน้ำ English Rose สีและรสชาติคือน้ำกุหลาบผสมโซดา ทานแล้วสดชื่น
ในส่วนของ Lobby ตกแต่งเรียบง่ายดูดี เป็นโถงกว้าง เปิดรับลมธรรมชาติ มีโซฟาให้นั่งหลายจุด แถมมองออกไปด้านนอก ยังเห็นวิวสวนดอกไม้กฤษดาดอยได้ 360 องศา ซึ่งส่วนนี้จะเชื่อมต่อกับห้องอาหาร Creek Cafe รองรับแขกภายนอกที่เข้ามาใช้บริการร้านอาหารด้วยค่ะ
จุดนี้มีเครื่อง Mac ให้บริการอินเตอร์เน็ตสำหรับผู้เข้าพักด้วย
เห็นทรงไม้ไผ่ นึกถึง Gardens by the Bay ที่สิงคโปร์เลย
ซึ่งช่วงที่แมงน้อยเข้าพัก ทางโรงแรมกำลังปรับหน้าดินของสวน เพื่อลงต้นไม้ใหม่รับหน้าฝนที่กำลังจะเปลี่ยนฤดูในสัปดาห์หน้า ทำให้ช่วงที่ไปดอกไม้สีๆ อาจจะไม่ได้มีให้เห็นมากนัก แต่ความเขียวขจีของพันธุ์ไม้อื่นๆ ยังมีให้สดชื่นแทนค่ะ แถมพื้นที่ของสวนกฤษดาดอยกว้างมาก เปิดให้เข้าชมฟรีด้วย สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป โพสต์เฟสบุค อัพไอจี คีย์ทวิตเตอร์ รับรองว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน
ก่อนจะพาไปชมภาพบรรยากาศโดยรวม ขอเกริ่นถึงรายละเอียดที่นี่คร่าวๆ สักหน่อยค่ะ Flora Creek Chiang Mai จัดเป็นที่พักระดับ 5 ดาว ตกแต่งสไตล์ยุโรปในสวนดอกไม้ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา บนเนื้อที่กว่า 21 ไร่ โดยมีลำธาร เสียงน้ำตกไหลริน ประกอบอยู่ด้วยในเกือบทุกจุดของโรงแรม ซึ่งทำให้คนที่ได้มาเยือนสัมผัสได้ถึงความสดชื่นของธรรมชาติ ร่มรื่น และรู้สึกผ่อนคลาย
ทำเลที่ตั้ง สามารถเดินทางได้สะดวก ใกล้จุดแลนมาร์ค หรือแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ใช้เวลาเดินทางไปในแต่ละที่ เพียง 15-30 นาทีค่ะ เช่น
- สนามบินนานาชาติเชียงใหม่
- เซ็นทรัลเชียงใหม่
- สวนสัตว์ไนท์ซาฟารี
- ถนนนิมมานเหมินทร์
- วัดพระธาตุดอยคำ
- สวนราชพฤกษณ์
- แกรนแคนย่อนหางดง
การตกแต่งโดยภาพรวมทั้งหมด เป็นคอนเซ็ป "Modern-localized boutique resort" เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และความสวยงามของดอกไม้รอบๆ บริเวณที่พักได้อย่างเต็มที่
ซึ่งแมงน้อยจะพาเดินชมสวนโดยรอบ ภาพที่ถ่าย มาจากช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป โดยจัดรวมเป็นเซ็ทแต่ละโซนให้ชมนะคะ เริ่มต้นที่ประตูทางเข้าสวนกฤษดาดอยเลย บริเวณนี้จะได้ชมสวนพร้อมเสียงเพลงบรรเลง มีเสียงนกร้อง และเสียงน้ำตกประกอบด้วย เพลินสุดๆ
ตรงนี้น่าจะเป็นมุมสุดฮิตที่ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูป
Flora House จุดขายของที่ระลึก (เปิดบริการ 09.00 – 17.00 น.)
เดินเก็บภาพชมธรรมชาติรอบสวน จนถึงเวลาเกือบเที่ยง เริ่มหิวแล้วค่ะ เลยขอเข้าไปใช้บริการห้องอาหาร Creek Cafe กับเมนูที่ทางโรงแรมเซ็ทไว้ให้ ขอบอกว่ารสชาติอร่อยและอิ่มมาก สำหรับ 2 คนนี่คือ อิ่มไปถึงพรุ่งนี้เลยนะเนี๊ยะ
ชอบทุกเมนูเลยค่ะ แต่แอบเทใจให้ปลาทอดผัดเปรี้ยวหวานมากหน่อย
อยู่ที่นี่เหมือนได้ทานผลไม้ทั้งสวน
กาแฟ ชาเชียว หวาน มันส์ กำลังดี
เจอแพ็คเก็จจิ้งขวดน่ารักอีกแล้ว
หลังจากอิ่มแล้ว ขอเก็บภาพบรรยากาศในห้องอาหารมาฝากนิดหน่อย ก่อนจะเข้าไปสำรวจห้องพักกันต่อ
เนื่องจากที่นี่ค่อนข้างกว้าง การจะไปยังห้องพัก หรือจุดอื่นๆ จะเลือกเดินออกกำลังกายชมสวนไปเรื่อยๆ หรือแจ้งพนักงานต้อนรับ ขอใช้บริการรถกอล์ฟไปส่งตามจุดต่างๆ ก็ได้ค่ะ
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 70 ห้อง (เห็นจำนวนห้องแล้ว เหมาะสำหรับการสัมมนา หรือทริปพักผ่อนของบริษัทจริงๆ เลย) แบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ
- Superior Garden View 33 ตารางเมตร (จำนวน 8 ห้อง)
- Deluxe Plantation 53 ตารางเมตร (จำนวน 42 ห้อง)
- Deluxe Horizon 63 ตารางเมตร (จำนวน 14 ห้อง)
- Pool Villa 140 ตารางเมตร (สระน้ำส่วนตัว) (จำนวน 6 ห้อง)
ถึงแล้ว…ห้องพักแบบ Deluxe Plantation พื้นที่ใช้สอย 53 ตรม. เป็นห้องที่แมงน้อยได้พักในครั้งนี้ค่ะ
เปิดเข้าไปแล้วชอบเลย ตกแต่งห้องด้วยโทนสีที่ชอบ เป็นสีเบจ เรียบหรู สะอาด สบายตา แถมห้องโล่งโปร่ง กว้าง ไม่อึดอัด
ซึ่งไฮไลต์ที่ทำให้ยิ้มไม่หุบ คงจะเป็นการจัดป้ายต้อนรับที่น่ารักมาก รู้สึกได้ถึงความตั้งใจ และรู้สึกเป็นคนพิเศษจริงๆ ค่ะ
ภายในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครันตามมาตรฐาน แต่ที่เพิ่มเติมพิเศษ อย่างเช่น ลำโพงบลูทูธ ถูกใจมากค่ะ เพราะแมงน้อยชอบฟังเพลงบนมือถือ หรือจะเปิดยูทูปโดยใช้เสียงผ่านลำโพง ก็ดังทั่วห้องเลย
ในห้องจะมีน้ำดื่มให้ทั้งหมด 6 ขวด พร้อมบัตรแลก Welcome Fruit ที่สามารถรับได้ที่ห้องอาหาร Creek Cafe เนื่องจากเป็นผลไม้แช่เย็น ทางโรงแรมจะไม่ได้วางทิ้งไว้ที่ห้อง แถมอุปกรณ์ที่อยู่ในห้องพักทุกชิ้น หากมีความต้องการเป็นของที่ระลึก ก็สามารถติดต่อพนักงานต้อนรับเพื่อสอบถามราคาได้ค่ะ
โซนห้องน้ำและห้องแต่งตัว แยกระหว่างห้องอาบน้ำ ห้องส้วม อ่างล่างหน้า ห้องแต่งตัว ได้อย่างลงตัว
ชอบของเหลวในห้องน้ำที่จัดไว้ให้มากเลย ทั้งแชมพู สบู่ล้างมือ โลชั่น ครีมอาบน้ำ เป็นกลิ่นเดียวกันทั้งเซ็ท หอมอโรม่า โดนใจสุดๆ สอบถามมา เป็นของแบรนด์ ERB ค่ะ
ถ้าเบื่อบรรยากาศห้องแอร์ ก็ลองเปิดม่าน เปิดประตูรับลมธรรมชาติ ฟังเสียงลำธาร และเสียงนกร้องเพลง หลังห้อง เพลินไปอีกแบบค่ะ
ขอเวลาเอนกาย ทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ พักเหนื่อยแป็ป แล้วเดี๋ยวแมงน้อยพาไปสำรวจห้องแต่ละแบบกันต่อ ว่าจะน่าพักขนาดไหน
ห้องพักแบบ Deluxe Horizon พื้นที่ใช้สอย 63 ตารางเมตร
ลักษณะคล้ายห้อง Deluxe Plantation แต่พื้นที่ใช้สอยมากกว่า ด้านหลังก็มีลำธารไหลผ่านเช่นกันค่ะ
ห้องพักแบบ Pool Villa พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร (สระน้ำส่วนตัว)
ห้องพักแบบ Superior Garden View พื้นที่ใช้สอย 33 ตารางเมตร
ซึ่งห้องพักแต่ละแบบ ออกแบบในโทนสีเบจคล้ายๆ กัน แตกต่างกันตรงที่พื้นที่ใช้สอย แต่ละห้องได้ความรู้สึกโปร่ง โล่งสบาย สัมผัสธรรมชาติได้อย่างแท้จริง
ต่อไปแมงน้อยจะพาชมพื้นที่ส่วนกลางในโซนใกล้ๆ ที่พักนะคะ
โดยเริ่มจากบริเวณหน้าห้องพัก จะเป็นโซนที่ตกแต่งด้วยดอกไม้นีออน สำหรับเปิดในตอนกลางคืน
ใกล้ๆ กันจะมีฟิตเนสและสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของต้นไม้ใหญ่ สดชื่นสุดๆ เลยค่ะ
(เปิดบริการ 07.00 – 19.00 น.)
ซึ่งบริเวณนี้ จะมีประตูกั้นแยกระหว่างห้องพัก กับสวนกฤษดาดอย เพื่อความเป็นส่วนตัว โดยภาพต่อไปนี้จะเป็นส่วนที่เป็นจุดเชื่อมต่อเข้าสวนกฤษดาดอยค่ะ
ที่เห็นลิบๆ คือห้องอาหารเฟื่องฟ้า
เมื่อข้ามสะพานไปจะพบกับห้องอาหารเฟื่องฟ้า ซึ่งเป็นร้านอาหารเก่าของกฤษดาดอย โดยยังคงโครงสร้าง เอกลักษณ์ความเป็นล้านนาไว้เหมือนเดิม เพื่อให้มีบรรยากาศเก่าๆ ได้คิดถึงความหลังเมื่อสมัยก่อน ตรงนี้จะเป็นการทานอาหารท่ามกลางสวนดอกไม้ รองรับลูกค้าได้ถึง 150 ที่นั่ง (เปิดบริการ 10.00 – 17.00 น.)
บริเวณใกล้ๆ กันจะเป็นตึกสปา นามว่า "Green House Spa" (เปิดบริการ 10.00 – 19.00 น.)
แมงน้อยได้เข้าไปสำรวจและใช้บริการนวด คอ บ่า ไหล่ 30 นาทีด้วย เพลิดเพลินสบายตัวเลยค่ะ
ปล. จะใช้บริการสปา ต้องโทรจองล่วงหน้า 1 ชม. เพื่อให้พนักงานเตรียมความพร้อม และคิวไม่ชนกับท่านอื่นด้วยนะคะ
ถ้าชอบนวดพร้อมกับชมบรรยากาศด้วย ต้องเชิญที่ชั้น 2 ค่ะ
หลังจากนวดเสร็จ ก็รับน้ำสมุนไพรทานให้สดชื่นค่ะ
ตึกข้างๆ สปา จะเป็นที่พักแบบ Superior Garden View ที่มีเพียงแค่ 8 ห้องเท่านั้นค่ะ
บริเวณสวนตรงนี้จะมีความสมบูรณ์ของต้นไม้ใหญ่มาก ลูกต้นสนขนาดเล็ก-ใหญ่ร่วงมาประดับประดาลานหญ้า น่ารักไปอีกแบบ
แมงน้อยได้เดินรอบสวน ออกกำลังกายไปหลายรอบ เพราะที่นี่กว้างจริงๆ ค่ะ
วันแรกของการเข้าพัก แมงน้อยยังไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน ได้เวลามื้อเย็นก็ไปทานอาหารที่ห้องอาหาร Creek Cafe เช่นเดิม รอบนี้ทางโรงแรมจัดเป็นอาหารฝรั่งให้ค่ะ อิ่มอร่อยถูกปากเช่นเดิม
(รอบ Dinner จะเป็นช่วงเวลา 17.00 – 23.00 น. สั่งอาหารได้ไม่เกิน 22.30 น. ค่ะ)
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยของหวาน คือ เค้กบราวนี่ราดช็อคโกแลต เสิร์ฟพร้อมไอศครีมวานิลลา ฟินสุดๆ เลยค่ะ
บรรยากาศห้องอาหารในตอนกลางคืน
ระหว่างทางเดินกลับเข้าห้องพัก จะเห็นสวนดอกไม้นีออน ที่จัดในคอนเซ็ป "Lighten up at Krisdadoi" สวยงามดี เป็นสีสัน
เมื่อมาถึงห้องพัก ทางโรงแรมได้เข้ามาจัดห้อง ทำความสะอาดให้ พร้อมวางขนมไว้ให้ด้วย
เมื่อคืนหลับสบายมากค่ะ ตื่นมาตอนเช้า เพื่อไปทานอาหารและสูดบรรยากาศช่วงเช้าสักหน่อย โดยแมงน้อยรวบรวมภาพอาหารเช้าไว้ทั้งสองวันเลย ห้องอาหารเช้าจะเปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 06.30 – 10.00 น. กรณีถ้ามีแขกพักไม่ถึง 20 ห้อง จะเป็นอาหาร A la carte ถ้าเกินจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ ซึ่งวันที่ไปคนไม่เยอะมากเลยเลือกสั่งอาหารตามเซ็ทที่มีให้ เช่น ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด ชุดอเมริกันเบรคฟาสต์ โดยในทุกชุดจะมีสลัดให้เลือกหลายอย่าง ที่ถูกใจสุด ก็จะเป็นสลัดผักย่าง หากใครไม่อิ่ม ก็สามารถเติมอาหารได้ตลอดด้วย
วันนี้เลือกมานั่งทานอาหารด้านนอก เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย
สำหรับวันนี้มีแพลนออกไปเที่ยวในถนนนิมมานค่ะ กลับมาอีกทีก็ได้รับขนมเหมือนเดิม แต่เป็นอีกสี สอบถามพนักงานบอกว่าจะนำมาให้ตามสีของวัน น่ารัก มีกิมมิคดีจัง
ในส่วนบริการอื่นๆ ที่ทางโรงแรมมี Support อาทิเช่น บริการรถเช่า บริการรับ-ส่งสนามบิน บริการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ บริการซักรีด เป็นต้น เรียกได้ว่า มาที่นี่ได้ครบทุกอย่างจริงๆ ค่ะ
ส่วนใครที่สนใจ เลือกที่นี่ไว้สำหรับจัดสัมมนา ท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะ แมงน้อยก็ว่าเหมาะนะ เพราะทางโรงแรมเค้ามีห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ กว้างขนาด 250 ตารางเมตร รองรับคนได้ประมาณ 100 กว่าคน มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดประชุมครบเลย ไม่ว่าจะเป็นระบบเครื่องเสียง , LCD Projector, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งห้องประชุมจะเป็นอาคารที่ติดกับ Lobby เลยค่ะ
สุดท้ายขอนำภาพวิดีโอความสวยงามของสวนในธรรมชาติที่สมบูรณ์ เคล้าเสียงน้ำตก ลำธาร เสียงนกร้อง ให้ชมกันเพลินๆ เพื่อให้ทุกคนอินกับบรรยากาศในภาพไปพร้อมกับแมงน้อยด้วยค่ะ
ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน เป็นประสบการณ์การพักผ่อนที่ประทับใจมาก สำหรับการได้เข้าพักที่โรงแรม Flora Creek Chiang Mai นี้ และด้วยความที่ห้องพักตั้งอยู่บนภูเขาที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนจริงๆ ค่ะ ถ้าใครอยากใช้ชีวิต Slow life พักจากความวุ่นวายในเมือง มาให้กำไรชีวิตในช่วงเวลาพิเศษ ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ
เชียงใหม่ เที่ยวได้ทุกฤดู เพราะในแต่ละช่วงก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป โดยเฉพาะที่นี่ เค้าจะตกแต่งสถานที่ตามฤดูกาล ซึ่งจะทำให้ผู้พักไม่รู้สึกจำเจ แถมได้อารมณ์ความรู้สึกไปคนละแบบด้วย แล้วลองหาโอกาสมาเที่ยวมาพักผ่อนดูสักครั้งนะคะ รับรองจะประทับใจ
"โรงแรมฟลอร่า ครีค เชียงใหม่" (Flora Creek Chiang Mai)
ที่ตั้ง : 90 หมู่ 4 ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
โทร. : 0-5200-1400
website : WWW.FLORACREEKCHIANGMAI.COM
ปล. ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษที่ทางโรงแรมร่วมกับบัตร KTC ด้วยค่ะ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
http://www.ktc.co.th/ktcworld/Hotel/Room/Promotion/Flora_Creek/index.htm
สำหรับท่านไหนที่ยังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ http://bit.ly/ApplyKTCCard
ต่อไปจะพาไปร้านยอดฮิต ที่ไปทานเพิ่มมาด้วยค่ะ - - >
มาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ต้องมากิน ก๋วยเตี๋ยวเส้นม่วง ที่ "ร้านก๋วยเตี๋ยวอัญชัน" ถนนศิริมังคลาจารย์ซอย 9 รอบนี้ตั้งใจมาลองหมูกรอบแต่หมดอดกินซะงั้น ส่วนก๋วยเตี๋ยวรสชาติอร่อยเหมือนเดิม ไม่ผิดหวัง
ร้านกาแฟคนเท่ห์ "Ristr8to Lab" ถ.นิมมาน ซอย 3 กลับมาอีกครั้ง ก็ยังเลือกมาที่สาขา 2 เพราะน่านั่งกว่า เพิ่มเติมคือมาลองเมนูใหม่ รอบนี้ลองกาแฟในหลอดแก้วเหมือนขวดวิทยาศาสตร์เป็นกาแฟผสมผงโอรีโอ้ กับกาแฟหัวกระโหลกที่เป็นคาราเมลแมคคีอาโต้ รสชาดอร่อย กลมกล่อม โดนใจแท้ๆ ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ เรื่องรสชาติคือสิ่งที่สัมผัสได้ ดีงามค่ะ
ผ่านมากี่ครั้ง คนก็ล้นหน้าร้าน รอบนี้เลยตั้งใจขอลองสักหน่อย กับต๋องโต๊ะเต็ม เอ้ย! "ต๋องเต็มโต๊ะ" ถ.นิมมาน ซอย 13 ก็เห็นทีไรคนเยอะ โต๊ะเต็มทุกที 555 ใครไปร้านนี้ต้องรับบัตรคิวนะจ๊ะ รอไม่ต่ำกว่า 10-20 นาทีเห็นจะได้ ตอนสั่งไม่มีเมนูส้มตำซะงั้น ไม่เคยรู้เลย ความเห็นส่วนตัวเมื่อได้ลองแล้ว อาจจะไม่ค่อยถูกปากตัวเองเท่าไร เพราะรสชาติไม่จัด เป็นแบบสไตล์พื้นเมืองจริงๆ เมนูที่ถูกใจสุด คงจะเป็นเมนูคอหมูย่างค่ะ
ร้านกาแฟนี้ เป็นทางผ่านไปยังโรงแรมที่พัก เลยลองแวะสักหน่อย แต่พอเข้าไปแล้วชอบเลย มีมุมถ่ายรูปเท่ห์ๆ เยอะมาก แนวฮิปเตอร์โดยแท้ นอกจากจะชอบบรรยากาศและการตกแต่งแล้ว รสชาติเครื่องดื่มอร่อย และราคาไม่แพงด้วย
ร้าน "Bannok Coffee Roasters"
แมงน้อยถ่ายบรรยากาศร้านนี้มาเยอะเลยค่ะ ใครอยากชมภาพเพิ่มเติม ตามไปที่ลิงค์นี้เลยจ้า
link : https://th.readme.me/p/9638
สุดท้ายขอขอบคุณ KTC ที่ได้มอบรางวัลสุดพิเศษนี้ให้ และขอบคุณโรงแรม Flora Creek Chiang Mai ที่ให้การต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดีตลอดการเข้าพักผ่อนที่นี่ พนักงานทุกคนยิ้มแย้มทักทาย เต็มใจให้บริการ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ แล้วพบกับแมงน้อยในรีวิวต่อๆ ไป สวัสดีค่ะ
Malang Lunla
วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.53 น.