สวัสดีครับ วันนี้ผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้" จะพาทุกคนไปชิมอาหารที่ร้าน “Brown Sugar Bistro & Clean Food" แถวๆ BTS สะพานควายครับ โดยร้านนี้เป็นร้านที่ผมคิดว่ามีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่างและน่าจะตอบโจทย์คนที่ทำงานแถวนั้นรวมทั้งคนที่ชอบอาหาร Clean Food ได้เป็นอย่างดีเลย
เราเริ่มดูกันไปทีละเรื่องเลยแล้วกันนะครับ เริ่มจากพิกัดที่ตั้งร้านกันก่อน ร้าน Brown Sugar Bistro & Clean Food หรือร้าน Brown Sugar Bistro นั้นตั้งอยู่ใน Community Mall ของคอนโด Ideo Mix พหลโยธินครับ (ชื่อโครงการจริงๆ มันตามนี้เลย แต่ผมว่าถ้าจะให้เข้าใจและหาเจอง่ายๆ ก็น่าจะเรียกว่า Ideo Mix สะพานควายมากกว่า) โดยคนที่มาด้วย BTS นั้นก็ให้ลงที่สถานีสะพานควายจากนั้นก็ออกที่ทางออก 4 แล้วเดินต่อไปทางสวนจตุจักรอีกราวๆ 30-40 เมตรก็จะถึงครับ เรียกว่าตำแหน่งร้านนั้นใกล้ BTS มากๆ ส่วนคนที่ขับรถมานั้นหากขับมาจากสวนจตุจักรก็ให้ขับมาตามถนนพหลโยธินเรื่อยๆ และจะเห็นคอนโด Ideo Mix อยู่ทางซ้ายมือของเราก่อนที่จะถึงสถานี BTS สะพานควายเล็กน้อย
สำหรับคนที่ขับรถมานั้นก็จำเป็นต้องแลกบัตรตามระเบียบของการเข้าเขตคอนโดนะครับ โดยให้เราบอก รปภ. ไปว่า มาทานข้าว จากนั้นเค้าจะให้เราไปจอดรถที่หลังตึกซึ่งหากเราประทับตราบัตรจอดรถที่ร้านก็จะสามารถจอดได้ฟรี 3 ชั่วโมง แต่ถ้าใครเน้นสะดวกอยากจอดที่ด้านหน้าคอนโดเลย จะสามารถจอดได้แค่ 30 นาทีเท่านั้นและหากเกินต้องจ่ายเงินค่าจอดแพงพอดูครับ T__T
พอเรามาถึงหน้า Community Mall ของ Ideo Mix สะพานควาย ที่มี Max Value อยู่ด้านล่างแล้ว ก็ให้เราเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง เราก็จะเห็นร้าน Brown Sugar Bistro อยู่ที่หัวมุมเลย โดยร้าน Brown Sugar Bistro นั้นเป็นร้านขนาดเล็กมีโต๊ะในร้านประมาณ 6-7 ตัว สามารถรองรับคนได้ราวๆ 25-30 คน ส่วนด้านนอกนั้นก็จะมีโต๊ะที่เป็น Outdoor อีก 3-4 ตัว สามารถนั่งได้ราวๆ 15 คน ซึ่งบริเวณโต๊ะด้านนอกนี้ผมว่าเหมาะกับวันที่บรรยากาศดีๆ หรือช่วงตอนเย็นๆ ที่แดดไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ครับ บรรยากาศน่าจะชิวดี
• ปลากะพงผัดฉ่า (149 บาท)
• หม้อไฟปลากะพงต้มเผือก (189 บาท)
• เต้าหู้คั่วพริกเกลือ (115 บาท)
• หมูสับผัดหนำเลี๊ยบ (129 บาท)
• ปลากะพงทอดน้ำปลา (320 บาท)
• ลาบหมูทอด (99 บาท)
• ทอดมันกุ้ง (159 บาท)
• ต้มยำผัดแห้งรวมมิตรกระทะร้อน (199 บาท)
• ข้าวไรซ์เบอรี่ (20 บาท)
• BSB บราวนี่และไอศกรีม (125 บาท)
เป็นยังไงล่ะครับ ดูจากรายชื่อแต่ละรายการแล้ว น่ากินใช่มั้ยล่ะครับ และต้องบอกเลยว่าไม่ใช่แค่ชื่อเท่านั้นที่ดูแล้วน่ากิน เพราะหน้าตาอาหารจริงๆ ก็น่ากินไม่แพ้กับชื่อเลยครับ > <
เรามาเริ่มกันที่จานแรกกันเลยกับ “ปลากะพงผัดฉ่า" บอกเลยว่าเมนูนี้สมกับเป็นเมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ เพราะคณะกินเพื่อความบันเทิงของผมทั้ง 3 คน ต่างเห็นตรงกันว่าจานนี้เด็ดมาก เนื้อปลาสดแน่น ชิ้นใหญ่ รสชาติกลมกล่อม เครื่องเทศเยอะโดยเฉพาะกระชาย เรียกว่าขาที่ชอบผัดฉ่า ขาที่ชอบอะไรแซ่บๆ น่าจะโดนใจกับจานนี้ครับ อ้อ....แต่ด้วยความที่เนื้อปลาแต่ละชิ้นมันใหญ่มาก ดังนั้นในจานมันก็เลยจะมีจำนวนชิ้นของปลาไม่ได้เยอะมากนะครับ ซึ่งของอย่างนี้มันก็ต้องแลกกันเนอะ ชิ้นใหญ่ก็ได้น้อยชิ้น ชิ้นเล็กก็ได้เยอะชิ้นหน่อย เอาเป็นว่าถ้าไปหลายคนแล้วเห็นว่าจำนวนชิ้นไม่พอคนก็ลองตัดแบ่งกันดู หรือไม่ก็สั่งเป็นจานใหญ่แทน เพราะจานที่ผมกินนั้นเป็นแบบจานเล็กครับ ^^
สำหรับเมนูนี้หากเรามากันน้อยคนแล้วอยากจะลองทาน ทางร้านเค้ามีแบบที่ไม่ใช่หม้อไฟด้วยนะครับ จะได้ปริมาณที่น้อยลงหน่อย น่าจะพอเหมาะกับการกินซัก 2-3 คน
ยังไงลองพิจารณาดูนะครับว่าชอบกินสไตล์ไหน คือถ้าเป็นคนที่ชอบหมูเยอะๆ เค็มน้อยๆ และชอบทานมันๆ น่าจะถูกปากกับรายการนี้ แต่ถ้าเป็นคนที่เคยชินแบบที่ผมเคยกินตั้งแต่เด็กๆ จะรู้สึกแปลกๆ กับมันหน่อยครับ
สำหรับน้ำจิ้มที่ให้มาคู่กันนั้นจะเป็นน้ำจิ้มแบบรสแซ่บลักษณะคล้ายๆ ยำนะครับ ไม่ได้หวานแบบที่มีมะม่วงผสมเหมือนกับหลายๆ ร้าน
ในกระทะร้อนจะใส่กุ้ง หอยและปลาหมึกมาให้เยอะสมราคา โดยกุ้งกับปลาหมึกนั้นขนาดตัวใหญ่ใช้ได้ ส่วนหอยนี่ต้องทำใจจริงๆ เพราะเปลือกใหญ่ก็จริงแต่พอผ่านความร้อนแล้วตัวมันหดลงไปเยอะเลย T___T สำหรับรสชาติโดยรวมๆ นั้นถือว่าดีเช่นกัน จัดจ้านและหอมต้มยำ ทานคู่กับข้าวร้อนๆ ลงตัวดีครับ
สำหรับเมนูนี้ผมว่าไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบทานต้มยำซักเท่าไหร่นะครับ ส่วนใครที่ชอบอะไรแนวต้มยำน่าจะโดนใจ ยิ่งได้กินคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ทางร้านหุงมาอย่างดี ทั้งนุ่ม ทั้งอร่อย บอกเลยว่ากินเพลินดีครับ
เครื่องดื่มของทางร้าน Brown Sugar Bistro นั้น จะมีให้เลือกทั้งชา, กาแฟ, น้ำผลไม้, อิตาเลี่ยนโซดา, น้ำอัดลม, เบียร์ แล้วก็ค็อกเทลครับ ซึ่งผมว่าประเภทเครื่องดื่มที่ทางร้านมีนั้นมันครอบคลุมกับคนทุกประเภทเลยทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น ผู้หญิง และผู้ชาย สำหรับวันนี้ผมทั้ง 3 คนเลือกเป็นเครื่องดื่มตามนี้ครับ
• น้ำแตงโม (65 บาท)
• น้ำมะนาว (65 บาท)
• ชาเย็นนมสดทรงเครื่อง (75 บาท)
น้ำแตงโมนั้นมาเสิร์ฟในภาชนะรูปทรงเหยือกขนาดเล็ก ดูสวยงามดี รสชาติหวาน สดชื่น อยู่ในมาตรฐานของน้ำแตงโมที่ดีครับ ส่วนน้ำมะนาวนั้นมาในแก้วทรงสูงรสชาติดีเช่นกัน
เมนู BSB บราวนี่และไอศกรีมนั้นค่อนข้างจะใช้เวลาในการรอนานซักหน่อยนะครับ เพราะทางร้านต้องอุ่นบราวนี่และก็ตกแต่งจานอีกเล็กน้อย โดยไอศกรีมที่อยู่ในจานจะเป็นไอศกรีมวานิลลา ความอร่อยอยู่ในระดับกลางๆ แต่สำหรับบราวนี่นั้นผมว่าอร่อยมากครับ ลักษณะบราวนี่ของร้าน Brown Sugar Bistro นั้นจะเป็นแบบเนื้อแห้งที่ด้านบนจะกรอบนิดๆ และมีช็อคโกแลตชิพเป็นทอปปิ้ง ซึ่งพอมันผ่านการอุ่นร้อนอีกรอบมันก็เลยยิ่งน่าทานเพราะช็อคโกแล็ตชิพด้านบนจะเยิ้มนิดๆ ส่วนวิปครีมวันที่ผมไปนั้นจะเป็นวิปครีมแบบหวาน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันไม่ค่อยเท่ากันเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามทางร้านได้แจ้งว่าหลังจากนี้จะเปลี่ยนไปใช้เป็นวิปครีมแบบจืดแทนซึ่งน่าจะทำให้รสชาติของขนมหวานจานนี้กลมกล่อมมากขึ้นครับ
สรุปสำหรับเมนูนี้ บราวนี่อร่อยโดนใจมาก และสำหรับคนที่ชอบกินบราวนี่ แต่ไม่ชอบกินไอศกรีม ผมแนะนำเลยว่าให้สั่งแต่บราวนี่ที่ราคาชิ้นละ 50 บาทอย่างเดียวมากินก็พอ รับรองว่าอร่อยโดนใจ และประหยัดเงินไปได้พอควรเลยครับ ^^
หลักๆ แล้ว อาหาร Clean Food ของร้าน Brown Sugar Bistro นั้นจะเน้นทำเป็นแบบ Delivery เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่รักสุขภาพโดยมีราคากล่องละ 89 บาท แต่เราสามารถซื้อเป็นแพคเกจหลายๆ กล่องแล้วทยอยกินได้ ซึ่งจะมีราคาถูกลงครับ ส่วนขอบเขตในการ Delivery นั้นทางร้านจัดส่งทั่วทั้งเขต กทม. เลยนะครับ แต่ในเรื่องรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการจัดส่งอาจจะต้องสอบถามที่ร้านดูอีกที ทั้งนี้ในวันที่ผมไปนั้นผมได้อาหารมาทดลองชิมสามกล่องด้วยกันได้แก่
• ข้าวกล้องผัด + ปลาทูย่าง
• ข้าวเต้าหู้ทรงเครื่องไก่สับ
• ข้าวแกงกะหรี่ไก่
รสชาติโดยรวมๆ ต้องบอกว่ามันคืออาหาร Clean Food นี่แหละครับ ปรุงแต่งน้อย เน้นการต้มและนึ่งเป็นหลัก แต่รสชาติโดยรวมก็ยังดีอยู่ และถือว่ารสชาติอร่อยกว่าอาหาร Clean Food หลายๆ ร้านที่ผมเคยกิน เพียงแต่คนที่ชอบกินอาหารรสจัดๆ หวานๆ คงไม่ชอบซักเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องของราคาก็ต้องยอมรับกับตรงๆ ว่าอาหาร Clean Food นี่จะราคาสูงกว่าอาหารโดยทั่วไปอยู่พอควร แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เดียวกับร้านอาหาร Clean Food หลายๆ ร้าน โดยอาจจะมีบางร้านที่ราคาถูกกว่าหน่อยแต่ปริมาณที่ได้ก็น้อยลงตามไปด้วยครับ T___T
อ้อ...สำหรับเมนูข้าวแกงกะหรี่ไก่นั้น หลังจากที่ผมลองชิมแล้วผมว่ามันน่าจะเป็นผัดผงกะหรี่ไก่มากกว่าครับ
สำหรับผมในวันนั้นได้มีโอกาสลองชิมกะเพราไส้อั่วไปด้วยนิดนึง ต้องบอกเลยว่ามันอร่อยและเป็นอะไรที่ผมชอบมากนะครับ ไม่แปลกใจเลยที่รายการนี้จะเป็นรายการยอดฮิตติดอันดับของร้านคู่กับเต้าหู้คั่วพริกเกลือ แต่สิ่งที่ผมเสียดายสุดๆ ก็คือทำไมเค้าไม่เอาเมนูนี้มาให้ผมชิมตั้งแต่แรก เพราะผมชอบมันมากกว่าบางรายการที่ได้กินไปแล้วซะอีก T_____T
ปล. ไส้อั่วของทางร้านเค้าบอกว่านำมาจากจังหวัดแพร่นะครับ เป็นไส้อั่วที่รสไม่จัดจ้านมาก จึงสามารถนำมาปรุงอาหารแล้วต่อยอดรสชาติไปได้อีกหลายทาง ใครที่ชอบทานอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ แนะนำให้ลองทานดูครับ
วันที่รับประทาน : วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2560
ช่วงเวลา : 14.30 – 17.30 น.
จำนวน : 3 คน
รสชาติอาหาร : โดยรวมๆ รสชาติอาหารถูกปากผมกับชาวคณะ อร่อยและสอบผ่านเลยครับ โดยเฉพาะเต้าหู้คั่วพริกเกลือ, ปลากะพงผัดฉ่า, ปลากะพงทอดน้ำปลา แล้วก็ของหวานอย่างบราวนี่ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเมนูที่ทำจากปลากะพงส่วนใหญ่ทางร้านทำออกมาได้ดีจริงๆ สมแล้วที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอและเลือกใช้เนื้อจากปลากะพงตัวใหญ่หนักกว่า 10 กิโลกรัม เนื้อก็เลยแน่น อร่อย และสามารถทำอาหารได้หลากหลาย ส่วนอาหาร Clean Food นั้น ผมว่ารสชาติอาหารดีนะครับ ซึ่งผมขอสารภาพตามตรงเลยว่าก่อนที่จะกินนั้นผมแอบดูถูกอยู่ในใจว่าอาหารที่ไม่ปรุงอะไรเยอะนี่มันจะอร่อยได้ซักแค่ไหนเหรอ แต่พอได้กินเข้าไปแล้วก็รู้สึกดีกับเมนูเหล่านี้ขึ้นมาเลยครับ
ความหลากหลายของอาหาร : เป็นจุดเด่นนึงของร้านเลย ทั้งที่เป็นร้านขนาดไม่ใหญ่มากแต่จำนวนรายการอาหารกลับมีให้เลือกเยอะมาก เอาเป็นว่าแค่เมนูจากปลากะพงอย่างเดียวก็เยอะแล้ว คนที่ชอบทานปลากะพงน่าจะถูกใจร้านนี้แน่ๆ ครับ
ความสะอาดของร้าน : อยู่ในระดับกลางๆ ทั้งความสะอาดและความเรียบร้อย ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงเพราะพื้นที่ร้านจำกัดด้วย แต่ในเรื่องของความสวยงามโดยรวมก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในพื้นที่แบบนี้ครับ
การบริการของพนักงาน : วันที่ผมไปนั้นทั้งร้านมีแค่ 1-2 โต๊ะเท่านั้น เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ใครจะมาทานข้าวกัน ดังนั้นก็เลยไม่ได้ติดประเด็นอะไรในส่วนนี้ แต่เท่าๆ ที่ผมสังเกตดูตอนที่มีลูกค้าคนอื่นๆ เข้ามาในร้าน ทางเจ้าของร้านก็เข้าไปช่วยดูแลลูกค้าด้วยตัวเองเลย ดังนั้นคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในส่วนนี้ครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : ถ้าพูดถึงการเดินทางอย่างเดียวผมว่าทำเลที่ตั้งร้านเป็นทำเลที่สะดวกดีนะครับ ใกล้ BTS สะพานควาย เดินต่ออีกแค่ไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น ส่วนคนที่ขับรถมาก็มีที่จอดรถในส่วนของคอนโดได้เลย ไม่ต้องวุ่นวายหาที่จอดมากนัก (ประทับตราที่ร้านสามารถจอดรถได้ 3 ชั่วโมง) แต่ถ้าพูดถึงครับความสะดุดตาของร้านและคอนโดแล้ว ผมว่ามันไม่ค่อยสะดุดตาเท่าไหร่ มองผ่านๆ จากภายนอกแทบมองไม่เห็นหรือไม่รู้เลยว่ามีร้านอยู่ตรงนี้ด้วย ซึ่งสำหรับขาประจำที่รู้จักร้านแล้วก็คงไม่เป็นประเด็นมากนัก แต่สำหรับขาจรนี่น่าจะสังเกตเห็นลำบากหน่อย ทางร้านน่าจะต้องหาป้ายอะไรเด่นๆ สีสดๆ มาติด มันน่าจะช่วยดึงดูดสายตาได้มากขึ้นครับ
ความคุ้มค่า : ผมขอแยกเป็น 2 ส่วนแล้วกันนะครับ ในส่วนของอาหาร Clean Food นั้น สำหรับตัวผมเองที่ไม่ใช่คนชอบกิน Clean Food จะรู้สึกว่าราคามันสูงไปหน่อย ไปหาอาหารธรรมดาๆ ที่ไม่ Clean กินแทนก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก ร่างกายคงทนได้ >< แต่สำหรับคนที่กินอาหาร Clean Food บ่อยๆ น่าจะคิดว่าราคาอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ของอาหารประเภทนี้ครับ ส่วนในเรื่องของอาหารทั่วๆ ไปนั้น ผมว่าราคาโอเคนะครับสำหรับร้านที่ตั้งอยู่ในทำเลติดรถไฟฟ้าแบบนี้และรสชาติแบบนี้ครับ ราคาอาหารโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 100-200 บาทต่อจาน ซึ่งอาจจะมีคุ้มบ้าง หรือรู้สึกแพงบ้างก็แล้วแต่เมนูและความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าจะให้ดีผมว่าถ้าบางช่วงทางร้านมีจัด Promotion Discount ให้กับพนักงานที่ทำงานแถวนี้ ซัก 5-10% คนน่าจะมีคนสนใจเยอะขึ้นอีกพอควรเลยครับ
สรุป : หากคุณเป็นคนชอบที่ทาน Clean Food และขี้เกียจทำอาหารเอง หรือเป็นคนที่ขี้เกียจเดินทางออกจากออฟฟิศหรือออกจากคอนโดเพื่อไปกินข้าว ผมว่าอาหารกล่องร้านนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยเพราะเมนูแต่ละอย่างน่าสนใจมากและไม่ใช่เมนูที่ร้านอาหารตามสั่งทั่วไปจะมี ที่สำคัญเค้ายังใส่ภาชนะที่ปลอดภัยและมีราคาพิเศษสำหรับคนที่ซื้อเป็นแพคเกจเยอะๆ ด้วย และนอกจากนี้ร้าน Brown Sugar Bistro & Clean Food น่าจะยังเหมาะกับกลุ่มคนที่ชอบทานอาหารอร่อยๆ เมนูแปลกๆ หรือคนที่ชอบทานปลากะพงอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงตอนเย็นที่ผมคิดว่าที่นั่งบริเวณหน้าร้านนั้นน่านั่งกินลมชมวิวมากๆ ครับ และสุดท้ายผมมองว่าร้านนี้ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารเร็วๆ หรือมีเวลาทานน้อยซักเท่าไหร่ เพราะเท่าที่ดูผมว่าเมนูเด็ดๆ แต่ละอย่างของทางร้านค่อนข้างจะใช้เวลาในการทำนานกว่าอาหารตามสั่งทั่วไปอยู่พอควรครับ
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ
สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม ก็สามารถไปติดตามหรือแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
ภรรยาหา สามีใช้
วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.11 น.