2 วัน 1 คืน กับหมู่บ้านเล็กๆที่อากาศดีที่สุดอีกทีหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่

"หมู่บ้านแม่กำปอง"

ทิ้งเรื่องยุ่งเหยิงที่กรุงเทพ แอบโดดเรียนมาพักสมอง

ลองวางมือถือ และถือกล้องไปเก็บบรรยากาศที่ "หมู่บ้านแม่กำปอง"

เราได้พักกับโฮมสเตย์ ป้าลัดดา ด้วยราคา 560 บาท

พร้อมอาหารเย็นและเช้าไม่อั้น กับผ้านวมหนาๆกี่ผืนก็ได้

แต่ก่อนจะเดินเที่ยวเล่นในหมู่บ้าน

ก็แวะมาไหว้พระกันที่ วัดแม่กำปอง เสริมความสิริมงคล กันก่อน

เดินไป น้ำตกแม่กำปองกัน

เดินลงมาทางถนน ป้ายน่ากลัวเหมือนกันนะ

แวะถ่ายกับกระจกโค้ง

แวะทานข้าวราคา 35 บาท ที่ร้านกาแฟ ฟรีไวไฟ

ปล.กาแฟที่นี่คั่วเองเกือบจะทุกร้าน

เดิมเล่นๆในหมู่บ้าน

เด็กดอย

กลับบ้านมานอนกลิ้งไปกลิ้งมา จนถึง 6 โมงเย็น ป้าลัดดาก็ทำ น้ำพริก ไข่เจียวผักหวานผัดน้ำมันหอย กับ ปลาทูนิ่ง เป็นอาหารเย็นวันนี้ อร่อยมาก แถมได้คุยกับคุณลุง ที่แร็พภาษาเหนือใส่รัวๆๆ

กินอิ่มก็ไปเอนหลัง นั่งตากลมชมวิวหมู่บ้านจากระเบียง

บ้านนี้มีน้ำอุ่นๆพร้อมเครื่องอุปโภคให้ครบครัน ยาสีฟัน ยาสระผม ครีมอาบน้ำ

(จะอาบน้ำอุ่นบอกนะจ๊ะ จะได้ไปเปิดแก๊ส)

เนื่องจากบ้านป้าลัดดาไม่มีไวไฟ และวันนี้ก็เดินขึ้นไปดูน้ำตกมา บวกกับอากาศเย็นๆ ทำให้หลับสนิทตั้งแต่ 2 ทุ่ม

ตื่นมาพร้อมกองผ้านวมหนาๆ ตอน 6 โมงเช้า

ตื่นเช้าขนาดนี้ แต่ป้าลัดดาก็ยังตื่นก่อนเรา ลงมาเตรียมต้มข้าวให้กินตอนเช้า

ต้มหมูสับใส่เห็ด พร้อมใข่ลวก โรยด้วยกระเทียมเจียว

แถมกล้วยน้ำว้าไม่อั้น

ตื่นเช้ามากๆ ก็ว่าง เลยไปเดินเล่นในหมู่บ้านอีกซักรอบ ก่อนที่ที่บ้านจะขับรถมารับ

เดินไปเจอรถกับข้าว แบบกับข้าวเหนือๆ

ก่อนกลับไปขนของที่บ้าน ก็แวะมาดื่มกาแฟที่ ร้านเพิ่งเปิดใหม่หมาดๆ

ตรงทางลงน้ำตก ที่ต้องเดินลึกเข้ามาในสวนกาแฟ

ร้านบรรยากาศดี มี 2 ชั้น และเจ้าของร้านก็อยู่ข้างๆบ้านป้าลัดดาด้วย

ก่อนจะกลับ อย่างที่บอก นอกจากหมู่บ้านแม่กำปองจะเป็นหมู่บ้านที่อากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อน

ผู้คนก็ยังมีอัธยาศัยดี ชวนคุยเล่นสนุกสนาน แม้ว่าเราจะไปคนเดียว

แต่อีกอย่างที่เราประทับใจคือ น้องหมากับน้องแมว หลายๆตัวก็ชอบให้เราเล่นด้วย ไม่ได้ขี้กลัวหรือจะไล่กัดแต่อย่างใด

ได้เวลากลับบ้านแล้วจริงๆ

good bye แม่กำปอง