ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้การที่มีร้านอาหารในห้างที่เปิดบริการบุฟเฟต์แบบไม่จำกัดเวลาในการกิน และราคาต่อคนไม่สูงมาก ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีและทำให้ชีวิตเรานั้นดีขึ้นในระดับนึงเลยครับ เพราะบางครั้งเราก็แค่อยากกินอิ่มๆ นั่งทานสบายๆ คุยเพลินๆ แบบไม่เร่งรีบ และก็ไม่อยากจ่ายแบงก์ 500 ออกไปให้กระเป๋าตังค์เรามันฟีบ จนทำให้ใจห่อเหี่ยวและใช้ชีวิตที่เหลือในเดือนอย่างยากลำบากใช่มั้ยล่ะครับ T_T

.

.

และร้าน Shabu Smile (ชาบู สไมล์) คือร้านชาบูที่ผมว่ามันน่าสนใจตรงนี้นี่แหละครับ ด้วยจุดเด่นที่ขอสรุปสั้นๆ ตั้งแต่ตอนต้นเลยว่า

1. เมนูอาหารเยอะ ถึง 60 รายการ

2. ไม่จำกัดเวลา! อยากจะนั่งกินนานแค่ไหนก็นั่งกินเลย

3. ราคาไม่แรงเพียง 320 บาท/คน net (ราคา 299 บาท + Vat 7% โดยราคาดังกล่าวยังไม่รวมเครื่องดื่มและของหวาน)

4. มีน้ำซุปให้เลือกถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำใส, น้ำดำ, เย็นตาโฟ หรือต้มยำ ใครชอบอะไรแปลกๆ ไม่เหมือนใครจัดเย็นตาโฟและต้มยำเลยครับ

5. มีน้ำจิ้มถึง 4 แบบ ครบทุกรสชาติ ตั้งแต่พอนซึ, สุกี้, ซีฟู้ด แล้วก็น้ำจิ้มแจ่ว!

6. ชีสไม่อั้น อยากจะกินเท่าไหร่ก็สั่งมาได้ตลอด

7. คุณภาพอาหารเมื่อเทียบกับราคาถือว่าสอบผ่าน กินแล้วไม่รู้สึกเสียดายเงิน ^^

เอาล่ะครับ เกริ่นข้อดีของร้านนี้ไปแล้ว ทีนี้ไปอ่านรีวิวเต็มๆ กันดีกว่าจะได้เห็นทุกซอกทุกมุมว่าเป็นยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง จะได้รู้ครบๆ ก่อนตัดสินใจ ไม่ไปยืน fail ที่หน้าร้านครับ

ร้าน Shabu Smile เป็นร้านชาบูที่ปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขาด้วยกัน ได้แก่ที่ เมเจอร์ รัชโยธิน และที่ The Mall งามวงศ์วาน ชั้น 5 โดยสาขาหลังนี้พึ่งเปิดใหม่สดๆ ซิงๆ ได้ไม่ถึง 15 วันเลย และเป็นสาขาที่ผมจะพาทุกท่านไปชิมในวันนี้ ซึ่งหน้าตาร้าน Shabu Smile ที่ The Mall งามวงศ์วาน ชั้น 5 นั้นถือว่าดูสวยใช้ได้ โล่งๆ สะอาดตา แล้วก็มีความน่ารักปนอยู่ตามกำแพงร้านเล็กน้อย ^^

ภายในร้านจะมีโต๊ะประมาณ 20 ตัว จุคนได้ทั้งหมดประมาณ 80 คน โดยประเภทอาหารจะมีทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ที่สั่งกินได้ไม่อั้น แล้วก็แบบ a lar carte สั่งเป็นจานๆ แต่เชื่อผมเถอะหลังจากที่ดูราคาในเมนูแล้วแม้ราคาอาหารแบบ a lar carte แต่ละจานจะไม่สูงมาก แต่จัดแบบเป็นบุฟเฟต์นั้นคุ้มและสบายใจในการกินมากกว่าเยอะครับ

หน้าตาเมนูบุฟเฟต์ครับ ราคาที่ติดที่หน้าร้านคือ 299 บาท + Vat 7% ซึ่งก็คือ 320 บาท net โดยราคานี้ยังไม่รวมเครื่องดื่มและของหวานนะครับ ใครที่อยากกินเครื่องดื่ม refill ก็จัดไปเพิ่มที่ 39 บาท/คน หรือใครอยากกินน้ำเปล่าก็ 20 บาท/ขวดครับ

สำหรับเครื่องดื่ม Refill ของที่นี่จะมีให้เลือกทั้งน้ำอัดลมแล้วก็น้ำสมุนไพร อย่างพวกใบเตย, มะตูม, อัญชัน ,เก๊กฮวย นะครับ รสชาติกลางๆ ไม่ได้เข้มข้นมาก ออกหวานเล็กน้อย ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบทานอะไรหวานๆ อาจจะไม่ถูกปาก แนะนำให้ไปกินน้ำอัดลมหรือน้ำเปล่าจะดีกว่า

ทีนี้มาดูหน้าตารายการอาหารทั้ง 60 รายการกัน คร่าวๆ จะมีเนื้อ 2 แบบ, หมู 6 แบบ, ไก่, กุ้ง, ปลา, ปลาหมึกกรอบ แล้วก็พวกผัก, ลูกชิ้น, เกี๊ยว แล้วก็ข้าวกับไข่ โดยลูกชิ้นของ Shabu Smile นั้นมีหลายประเภทดีครับ

มาว่ากันที่หน้าตาอาหารและรสชาติที่ผมกับเพื่อนๆ ได้ลองกินกันนะครับ หน้าตาเนื้อต่างๆ ถือว่าดูดีในชาบูที่ระดับราคาประมาณนี้ ส่วนพวกอาหารอื่นๆ อย่างเช่น ผัก, ลูกชิ้น, ข้าวผัดกระเทียม ก็ดูดีเช่นกัน สำหรับเรื่องรสชาติของอาหารส่วนใหญ่นั้นอยู่ในเกณฑ์ดีและสอบผ่านสบายๆ เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยรายการอาหารที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือเนื้อลายหินอ่อน, สันคอหมู, ตับหมู, กุ้ง, ข้าวผัดกระเทียมแล้วก็ลูกชิ้นต่างๆ ทั้งนี้จำนวนชิ้นเนื้อในแต่ละจานนั้นไม่ได้เยอะมากนะครับ แต่เราสามารถสั่งทีละเยอะๆ เช่น 5 หรือ 10 ได้ เดี๋ยวทางร้านเค้าจะรวมใส่มาในจานใหญ่ขึ้นให้ จะได้ไม่เสียเวลารอหรือหงุดหงิดใจเวลาอาหารมันขาดช่วงครับ

อ้อ...ลูกชิ้นที่เป็นลักษณะหัวแหลมๆ มีลายทางสลับนั้นเวลากินต้องระวังหน่อยนะครับ เพราะข้างในจะมีไส้ที่เป็นลาวาอยู่ และต้องขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าห้ามกัดตอนที่พึ่งเอาขึ้นมาจากหม้อใหม่ๆ โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจจะลวกปากได้ ควรเอามาวางพักไว้ข้างนอกให้เย็นลงเล็กน้อยและค่อยๆ กัด อย่ากัดขาดครึ่งแบบเต็มแรง เดี๋ยวไส้มันจะพุ่งปรี้ดไปที่หน้าเพื่อนของเราได้ @_@

หมายเหตุ : สำหรับสีของถาดเนื้อและหมูนั้น ร้านนี้ค่อนข้างแตกต่างจากร้านอื่นนะครับ โดยเนื้อหมูจะใส่มาในถาดสีดำ ส่วนเนื้อวัวจะใส่มาในถาดสีขาว ดังนั้นใครที่ไม่กินเนื้อต้องระวังหน่อยนะครับ

เอาล่ะ มาดูกันที่น้ำซุปดีกว่า ซุปของที่ร้าน Shabu Smile นั้นจะมีทั้งหมด 4 แบบได้แก่ น้ำใส, น้ำดำ, เย็นตาโฟ แล้วก็ต้มยำ โดยใน 1 หม้อนั้นเราสามารถเลือกน้ำซุปได้ 2 แบบ ซึ่งผมกับเพื่อนๆ ต่างก็เห็นตรงกันว่าน้ำซุปที่นี่นั้นรสชาติดี สอบผ่านหมดเลย และแต่ละอย่างก็มีเอกลักษณ์ของมัน อย่างน้ำซุปใสก็หวานน้ำซุป มีรสชาติในตัว, น้ำดำก็ไม่เค็มจัดเหมือนหลายร้าน, น้ำซุปต้มยำ รสจัดจ้าน อมเปรี้ยวนิดๆ ส่วนน้ำซุปเย็นตาโฟก็แปลกใหม่ น่าลอง คล้ายกับกินเย็นตาโฟจริงๆ ยิ่งใส่ปลาหมึกกรอบและพวกเส้นๆ ลงไปด้วยยิ่งเหมือนครับ

ส่วนน้ำจิ้มทั้ง 4 แบบนั้นก็ตอบโจทย์ความต้องการของคนหลายกลุ่มได้เป็นอย่างดีเลยไม่ว่าจะเป็นพอนซึ ที่เป็นมาตรฐานในการกินชาบูของหลายร้าน, น้ำจิ้มสุกี้ที่อร่อยลงตัวและมีรสหวานนิดๆ, น้ำจิ้มซีฟู้ดที่เปรี้ยวนำ รสจัดจ้านกว่าใครเพื่อน และปิดท้ายที่น้ำจิ้มแจ่ว ที่น่าจะถูกปากถูกใจหลายคนด้วยส่วนผสมของรสชาติทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน และไม่เผ็ดมาก

เอาเป็นว่าในเรื่องของน้ำจิ้มนั้น ใครชอบแบบไหนก็จัดไป และเราสามารถเทมาลองกินทุกอันเลยก็ได้ เอาตามใจชอบของเราเลย เนื้อนี้จิ้มแบบนี้ เนื้อนั้นจิ้มแบบนั้น สลับไปมาได้หมดจะได้ไม่เบื่อ ส่วนเรื่องของน้ำซุปใครชอบรสชาติมาตรฐานก็จัดน้ำใสและน้ำดำไป ส่วนใครที่ชอบอะไรแปลกใหม่ที่ร้านอื่นไม่มีก็เย็นตาโฟและต้มยำเลยครับ ^^

ก่อนจะไปสรุปปิดท้ายกัน มีอีก 1 เมนูที่ผมจะไม่พูดถึงมันไม่ได้นั่นก็คือชีส!! ชีสทรงลูกเต๋าที่มาเสิร์ฟเป็นถ้วยๆ แบบนี้ โดยเราสามารถจะสั่งมาเพิ่มได้ไม่อั้น อยากจะกินเท่าไหร่ก็จัดไป ใครที่เป็นสาวกหมูจิ้มชีส เนื้อจิ้มชีสน่าจะฟินแน่ๆ แต่ถ้ามากันหลายคน ผมแนะนำว่าให้ลองขอกระบวยจากทางร้านเพิ่มนะครับ จะได้จิ้มชีสกันแบบฟินๆ ไม่ต้องไปเสียเวลารอกระบวยจากใคร

อ้อ เนื่องจากว่าในราคาบุฟเฟต์ของร้าน Shabu Smile นั้นจะไม่มีของหวานรวมอยู่ด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากทานของหวานก็ต้องจ่ายเพิ่มนะครับ โดยที่ร้านเค้ามีไอศกรีมยี่ห้อ “yelato 44c" จำหน่ายในราคาถ้วยละ 45 บาท มีให้เลือกหลายรสเลย ซึ่งชื่อรสแต่ละอันก็ชวนขำและแอบบงงอยู่เล็กๆ ว่ามันคืออะไร ตัวผมเองได้ลองมา 4-5 รส อย่างเช่น อาโออิ (นม), เยลลี่โอซาก้า (ยาคูลท์ปีโป้), กระทิงมึน (กระทิงแดง) แล้วก็เบียร์ รสชาติโดยรวมๆ ถือว่าอร่อยและสมราคาอยู่ครับ ใครที่พอจะมีพื้นที่ท้องเหลือและอยากจะหาของหวานกินปิดท้ายมื้อก็ลองสั่งมาชิมดูได้เลย

เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาสรุปรีวิวของร้าน Shabu Smile สาขา The Mall งามวงศ์วานกันแล้ว เดี๋ยวเรามาไล่กันไปทีละเรื่องเลยนะครับ

วันที่รับประทาน : วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2560

ช่วงเวลา : 11.00 – 14.30 น.

จำนวน : 7 คน

รสชาติอาหาร : ถือว่าดีนะครับ รสชาติถูกปากแทบทุกรายการ โดยเฉพาะเนื้อลายหินอ่อน, สันคอหมู, ตับหมู, กุ้ง แล้วก็ลูกชิ้นที่มีไส้ลาวา แต่ทั้งนี้รสชาติที่ผมบอกว่าดีนั้นคือดีในระดับในราคาอาหารช่วงเท่านี้นะครับ เพราะหากไปเทียบกับร้านที่ราคาสูงกว่านี้ซัก 100-200 บาท ก็คงสู้ลำบากอยู่

ความหลากหลายของอาหาร : เยอะใช้ได้เลยครับ เมนูอาหาร 60 รายการโดยที่ยังไม่รวมเครื่องดื่ม ถือว่าเพียงพอต่อการกินแล้วครับ ขนาดกลุ่มผมไปกัน 7 คนยังสั่งมากินไม่หมดทุกรายการเลย ><

ความสะอาดของร้าน : ดีงาม สะอาดสบายตา สมกับเป็นร้านที่เปิดใหม่ จุดที่ติมีเพียงนิดเดียวคือวันที่ผมไปนั้นกระเบื้องปูพื้นลื่นไปนิด เดินแล้วต้องแอบเกร็งเท้าหน่อยๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้ทางร้านได้เปลี่ยนพื้นเป็นพื้นแบบใหม่ที่เดินสบายและปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมเรียบร้อยแล้วครับ

การบริการของพนักงาน : เป็นร้านที่พนักงานเยอะใช้ได้เลย เรียกว่าหันไปทางไหนก็เจอ แต่คงเพราะด้วยความที่พึ่งเปิดใหม่ไม่นานพนักงานหลายๆ คนก็เลยยังงงๆ อยู่ มีเสิร์ฟผิด เสิร์ฟช้าบ้าง แต่คิดว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก เดี๋ยวซักพักก็คงเข้าที่เข้าทางมากขึ้นครับ

ความสะดวกของการเดินทาง : The Mall งามวงศ์วานเป็นห้างที่ไม่ใกล้รถไฟฟ้าเท่าไหร่ ดังนั้นหลายๆ คนอาจจะเดินทางลำบากนิดนึง เพราะต้องพึ่งรถส่วนตัวและรถสาธารณะประเภทต่างๆ แทน ซึ่งก็มีให้เราเลือกเยอะอยู่พอควรทั้งรถเมล์, รถตู้, มอเตอร์ไซด์ หรือ Taxi ใครถนัดแบบไหนก็จัดไปได้เลยครับ

ความคุ้มค่า : สำหรับชาบูที่ราคา 320 บาท net (ไม่รวมเครื่องดื่มและของหวาน) ในพิกัดราคาประมาณนี้ก็มีคู่แข่งหลายร้านอยู่ แต่ด้วยความที่ร้าน Shabu Smile เป็นบุฟเฟต์แบบกินได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดเวลา, ชีสไม่อั้น, อาหารต่างๆ ก็อยู่ในเกรดที่ดีสมราคา อีกทั้งยังมีความแปลก ความครบเครื่องของน้ำจิ้มและน้ำซุปที่ครบครัน ผมก็เลยยกให้ร้านนี้เป็นร้านที่สอบผ่านในเรื่องของความคุ้มค่า เพราะแค่เรื่องไม่จำกัดเวลาในการกินเรื่องเดียวนี่ก็ได้แต้มต่อกว่าหลายๆ ร้านไปพอควรแล้วครับ

สรุป : ในภาวะที่มีร้านชาบูหน้าใหม่เกิดขึ้นมามากมายเต็มไปหมด ร้าน Shabu Smile เป็นหนึ่งร้านชาบูที่มีจุดขายอยู่ในตัวหลายอย่าง และน่าจะสอดแทรกขึ้นมาอยู่ในใจของหลายๆ คนได้ โดยจุดเด่นที่สำคัญก็คือเรื่องของราคา ความแปลกใหม่ของน้ำซุป และการไม่จำกัดเวลา ซึ่งน่าจะถูกใจหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่อยากได้อะไรที่แปลกใหม่ เน้นนั่งกินนานๆ ไม่เร่งรีบไปไหน ไม่ได้เน้นคุณภาพอาหารว่าจะต้องอร่อยขั้นเทพแบบมื้อละเป็นพัน เอาแค่ขอให้อยู่เกณฑ์ที่ดี กินแล้วไม่เสียดายเงิน ราคาต่อมื้อไม่แพง จ่ายแล้วแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะต้องลำบากในการอดมื้ออื่นชดเชย ผมรับรองร้านนี้ตอบโจทย์คุณเลยครับ เพราะแค่เข้าไปลองน้ำซุปเย็นตาโฟ น้ำซุปต้มยำ เอาหมูจุ่มชีสแล้วเอาไปจิ้มน้ำจิ้มแจ่วต่อ แค่นี้ก็ฟินคุ้มค่าเงินแล้วครับ ^^

ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยและการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้น แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ

สำหรับใครที่ชอบการรีวิวของผม ก็สามารถไปติดตามหรือแนะนำข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.facebook.com/amazingcouples

แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ