สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกๆท่าน หลังจากที่ผู้เขียน หายหน้าหายตาหนีเข้าไปกบดานในป่า (จะบร๊าาา!) ไม่ได้ไปไหนครับ ก็ด้วยภาระหน้าที่ งานบ้านงานเรือน สาระพัดสาระเพ ถ้าจะให้ผมบรรบายจริงๆทั้งวันก็คงไม่หมด ฮ่าๆ เราต่างก็เจอกับเรื่องวุ่นวาย เรื่องเครียดมาทั้งปีทั้งเดือนแล้ว วันนี้วางเรื่องเครียดๆของเราไว้สักวันหนึ่ง ออกไปสูดอากาศสดชื่นให้เต็มๆปอด ฟังเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหลเย็นๆ กันสักวันเน๊อะ

"นับเป็นเวลาหลายเดือนมาก กว่าผมจะแอบจิ๊กตังค์คุณแม่บ้านได้สำเร็จ เพื่อเป็นค่าออกทริป (ม๊ายยช๊ายย แหม ใครจะไปทำอย่างนั้นกัน เล๊าาว!) ชีวิตของผมเหมือนท่านผู้อ่านหลายๆท่านเลยครับ กว่าจะหาเวลาว่างได้ เคียร์งาน! ลาพักร้อนได้! หยอดกระปุกจนครบ! แล้วบอกกับตัวเองว่า เย้!!! วันนี้ตู เป็นไท แล้ว โว้ยยยย!!!! " ฮ่าๆ

ทริปนี้ใช้เวลาเตรียมความพร้อม ประมาณหนึ่งอาทิตย์ครับ ทีแรกกะจะไปกับพี่ชายสองคน เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มหลักของเรา หลายท่านติดภาระกิจ แต่หลังจากนั้น สามวันก่อนออกเดินเราก็ได้สมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหลายท่าน รวมถึง คุณครูและน้องๆโรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา ที่อาสามาเป็นไกด์นำทางให้เรา แม๊ะผมนี้โล่งอกขึ้นมาทันทีเลย หลังจากนี้ ผู้เขียนจะขอเล่าเรื่องพร้อมถาพไปที่ล่ะจุดนะครับ โดยจะขอเริ่มที่จุดแรกที่เรามาถึงก่อนครับ สถานที่ทั้งหมดอยู่เขตพื้นที่ ของอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ครับ


วัดถ้ำบอน หรือ วัดน้ำตกถ้ำบอนเจริญธรรม

วัดน้ำตกถ้ำบอนเจริญธรรม หรือ น้ำตกถ้ำบอน ตั้งอยู่ที่ บ.แปดอุ้ม ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลุ่มของเรามาถึงที่นี้ราวๆ 9โมงเช้า เกือบๆจะ4โมงเช้า

บรรยากาศโดยรอบของวัดปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ ทำให้บริเวณวัดร่มรื่น และเงียบสงบ ลมพัดมาแต่ละที เย็นสบ๊าาย ^ ^ มากๆครับ


สถานที่หลักๆของวัดจะมีสองจุดนะครับ จุดที่ผมนำเสนอท่านผู้อ่านจะเป็นในส่วนของถ้ำบอนซึ้งจะอยู่ด้านล่าง ส่วนสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาจะอยู่ด้านบน หากท่านผู้อ่านข้ามสะพานมาแล้วจะสังเกตเห็นได้ทันทีครับวัดจะอยู่ทางซ้ายมือพอดี


ภายในถ้ำ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว จึงไม่แปลกใจที่เราจะพบเห็นถังน้ำ วางยาวตลอดแนวทางเดิน


เส้นทางสำหรับเดินไป น้ำตกถ้ำบอน ตามทางเดินยังมีตะไคร่น้ำต้องใช้ความระมัดระวังด้วยนะครับ


เดินมาสักประมาณ 20เมตร เราก็จะสามารถเห็นน้ำตกได้อย่างชัดเจน


เป็นที่แปลกตาอยู่พอสมควร ถ้าพูดถึงน้ำตกแล้ว เรามักจะเห็นนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ ไม่ก็ลงไปถ่ายกับน้ำตกใกล้ๆ ด้วยความสงสัยผมจึงถามกับน้องๆที่มาด้วยกันว่า "เอ้า ท่านไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำหรือ" น้องบอกว่า ที่จริงท่านก็ไม่ได้ห้ามครับ อาจจะเป็นเพราะน้ำตกอยู่ในวัดด้วยครับ (อ๋อ)


เดินต่อมาอีกนิ๊ส...จะได้ฟิลลิ่งอีกแบบหนึ่งครับ


นี้ถ้าไม่ติดว่า ผมลืมพกโลชั่นทากันยุงมาด้วย อยากจะนั่งฟังเสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง นานๆกว่านี้ และด้วยจุดหมายต่อไปของเราต้องใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร เวลานี่ช่างไม่เข้าใจเราเลยเน๊อะ ^ ^


เอาล่ะครับ ตรวจความเรียบร้อยของสัมพาระ รัดสายรองเท้าของท่านให้แน่น เพราะหนทางต่อจากนี้จะเพิ่มดีกรีความ Adventure ขึ้นกว่าเดิมอีกมากครับ พร้อมแล้วเราไปลุยต่อกันเลยครับ ฮู ย่า !!!



เนิน 500 , Neun 500


เนิน 500 ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 25 กิโลเมตร และห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานี 138 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากอ่างเก็บน้ำห้วยพลาญเสือตอนบน ประมาณ 2 กิโลเมตร

"สมัยสงครามที่มั่นเนิน๕๐๐เป็นที่ตั้งกองพันทหารเวียดนามที่๗ กรมที่๗๓๓ซึ่งเป็นทหารราบภูเขาขนาดกองพัน ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น"

ประวัติความเป็นมาของ เนิน500 เพิ่มเติม ผู้อ่านสามารถเข้าไปอ่านได้ที่

http://wachirapragan.blogspot.com/2015/03/blog-pos...

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=skyman&mo...

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=...

**ผู้เขียนขอขอบพระคุณที่มาของข้อมูลด้วย นะครับ


ห้วง พ.ค.-มิ.ย.2530 ฝ่ายไทยได้ใช้กำลังเป็นชุดปฏิบัติการขนาดเล็ก ทำการเข้าตีต่อที่หมาย เนินต่าง ๆ ในลักษณะการยุทธแบบป้อมค่าย สามารถยึดฐานที่มั่น ฝ่ายเวียดนามได้บางส่วน ขุดคูติดต่อเจาะเข้าหาฐานที่มั่น กดดันฝ่ายเวียดนามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งฝ่ายเวียดนามได้ถอนกำลัง ออกจากที่หมายเนินต่างๆ และแนวเขตประเทศไทย ในปลายปี พ.ศ.2530

ที่มาของข้อมูล:http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=skyman&mo...


ทราบความเป็นมาของ เนิน500 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกลุยกันต่อเลยครับ แต่ขณะที่กลุ่มของพวกเราขับรถเลยจากวัดฯ มาได้ไม่ไกลนัก รถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของพี่กล้า ก็ทำท่าว่าจะไปไม่ไหวเสียแล้ว และเพื่อความไม่ประมาท เราจึงเอารถขึ้นท้ายกระบะเพื่อความชัวร์ ถ้าฝืนขับต่อไปรถอาจจะเกิดความเสียหายได้

ต้องขอขอบคุณ พี่เอกโชเฟอร์สายลุย และน้องๆทุกคนด้วยนะครับ ที่เป็นทั้งไกด์นำทาง ทั้งฝ่ายสนับสนุนและอำนวยความสะดวกทุกอย่างๆในครั้งนี้

ผลจากการที่ฟนตกหนักมาหลายวัน ทำให้ถนนเกิดความเสียหาย หากท่านผู้อ่านเดินทางมาในช่วงหน้าฝนต้องเพิ่มความระมัดระวังด้วยนะครับ




นอกจากถนนหนทางที่ขรุขระ ที่ท่านต้องเจอแล้ว ท่านผู้อ่านจะได้เจอกับ สัตว์ป่า ที่อยู่ตามข้างทาง จะบร๊า!! นั้นมัน วัว ของชาวบ้านครับ (ชาวบ้านในระแวกใกล้เคียง จะนำสัตว์มาเลี้ยงข้างบนนี้ด้วยครับ)

และแน่นอนครับ นอกจาก น้องวัวแล้ว สิ่งที่ท่านจะได้เห็นตลอดเส้นทาง ไปยังเนิน500แล้ว นั้นคือป้าย เปิด KFC สาขาใหม่ ครับ ม๊ายยช้าายย! แหม นั้นมันป้ายบอกให้ระวังวัตถุระเบิดครับ Danger Mines

เนื่องจากบริเวณจุดนี้ ยังมีวัตถุระเบิดที่ยังเก็บกู้ไม่แล้วเสร็จ (หรืออีกในหนึ่งก็คือ ยังไม่สามารถเก็บกู้ได้ ในตอนนี้ครับ**)

หนทางต่อจากนี้ไป จึงไม่แปลกใจเลยว่า หากท่านผู้อ่านจะพบเห็น ป้ายบอกให้ระวังวัตถุระเบิด หรือ Danger Mines ตลอดเสันทาง "เพราะฉะนั้น นี่เป็นอีกข้อหนึ่ง ที่ผู้เขียนอยากแนะนำว่า ให้เรามีไกด์ที่เป็นคนในพื้นที่ หรือจะติดต่อไปทางพี่ๆทหารที่ประจำการอยู่ที่นั้น (ช่องบก ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์) มาเป็นวิทยากรเพื่อให้ความรู้ด้วยจะดีมากครับ"


ขับมาอีกนิดหนึ่งก็จะเจอป้ายบอกทางไปยัง เนิน 500


ในภาพล่างนี้ ถนนจะเริ่มทวีคูนความยากลำบาก ขึ้นเรื่อยๆ


จนบางครั้งก็ขึ้นไม่ไหวครับ ต้องถอยกลับไปตั้งหลักใหม่ จุดนี้คือจุดที่พวกเราต้องรวมพลังกันครับ และต้องใช้ความชำนาญในการขับรถพอสมควรนะครับ ถ้าเป็นรถเก๋งนี้ ผู้เขียนขอบอกไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ จอดไว้ที่บ้าน เอามอเตอร์ไซค์มาดีกว่าครับ


เอ๊าพวกเรา นับ 1 2 3 ฮึ๊บ!!! 1 2 3 ฮึ๊บ!!!


กว่าจะขึ้นได้เล่นเอาเหนื่อยหอบไปตามๆ เลยครับ ⊙▂⊙ 


ก่อนจะถึงเนิน500จะมีฐานอยู่จุดหนึ่ง (แต่ผู้เขียนจำชื่อไม่ได้ต้องขออภัยด้วยนะครับ) มีเจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ด้วย เราจึงแวะสักกาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (พระพุทธรักษานักรบกล้าอีสาน) เพื่อให้การเดินทางของเราในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไม่มีอุปสรรค "พระพุทธรักษานักรบกล้าอีสาน จะหันพระพักตร์ไปทางรอยต่อของสามประเทศ"



บังเกอร์ ที่ท่านเห็นอยู่นี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่กัมบังของวีระบุรษทหารกล้า

คลังเก็บอาวุธ (ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว)

ขับรถต่อมาอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะมาถึงจุดหมายที่สองของเราแล้วครับ เนิน500 นั้นเอง ท่านผู้อ่านที่เปิดมาเจอตรงนี้เลย ยังไม่ทราบประวัติของเนิน500 สามารถเลื่อนกลับขึ้นไปอ่านได้จากข้างบนนะครับ


รูปปั้น จ่าสมชาย จ.ส.อ.สมชาย แก้วประดิษฐ์ บนยอดเนิน 500

วีรกรรม จ.ส.อ.สมชาย แก้วประดิษฐ์ ตำแหน่ง รอง ผบ.มว.ปล.ที่ 1 ร้อย ร.2341 ปฏิบัติตามแผนยุทธการเผด็จศึก กองทัพภาคที่ 2 เมื่อ 28 มิ.ย.30 มว.ปล.ที่ 1 ภายใต้การนำของ จ.ส.อ.สมชายฯ ได้รับคำสั่งให้เข้าตีข้าศึก ณ เนิน 500 ฐานตั้งรับข้าศึก ขณะปีนป่ายหน้าผาเพื่อทำการแทรกซึม บริเวณพิกัด VA 2XXX61 (จุดตรวจการณ์ปัจจุบัน) จ.ส.อ.สมชายฯ ได้นำกำลังเข้าต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่ได้ถูกอาวุธของฝ่ายตรงข้ามนานาชนิด ระดมยิงอย่างหนัก เป็นเหตุให้ จ.ส.อ.สมชายฯ เสียชีวิตในทันที

" จากคำบอกเล่าเพิ่มเติม กล่าวว่า ศพ จ.ส.อ.สมชายฯ ถูกทหารเวียดนามแขวนเอาไว้ ณ จุดนี้ เพื่อล่อให้ทหารไทยมาแย่งศพคืนไป พอทหารไทยขึ้นมาก็ระดมยิงใส่ เล่าต่อกันอีกว่า กว่าจะนำศพของ จ.ส.อ.สมชายฯ กลับลงมาได้ มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์แย่งศพครั้งนี้ จำนวนมาก "

ที่มาของข้อมูล: http://life-tmac.blogspot.com/2015/01/blog-post.ht...

ด้วยวีระกรรมอันห้าวหาญและเสียสละของท่าน จึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานฯ เพื่อสดุดีวีรกรรมของท่านและเหล่าทหารกล้า ที่เสียชีวิตในสมรภมูิแห่งนี้

**รูปปั้นของจ่าสิบเอกสมชายและลูกน้องอีกสองคน (ตามแบบเดิม) ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างปรับปรุงนะครับ วันที่กลุ่มของพวกเราขึ้นไปจึงเก็บภาพมาได้แค่บางส่วนเท่านั้น**

บนยอดของเนิน500 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้ 180ํ รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านของเราด้วย

หากท่านผู้อ่านมาถึงยอดเนินสักประมาณตี5-6โมง วิวที่ท่านเห็นอยู่ในขณะนี้จะถูกปกคุมไปด้วยทะเลหมอกในตอนเช้า มีหลายท่านที่เคยขึ้นไปแล้วเจอแค่หมอกควันธรรมดา (แนะนำว่าควรเช็ค “พยากรณ์อากาศ” )ก่อนขึ้นมายังเนิน500 เพื่อความชัวร์ครับ ถ้าหากฝนตกตอนหัวค่ำ หรือตอนกลางคืน เปอร์เซ็นที่จะมีทะเลหมอกในตอนเช้า จะยิ่งมีมากขึ้นครับ

น่าเสียดายที่กลุ่มของพวกเรากว่าจะมาถึงยอดเนิน เวลาก็ล่วงเลยมาจนจะบ่ายโมงแล้ว ครั้งหน้าจะไม่ขอพลาดแน่นอนครับ

ระหว่างนี้ปล่อยให้น้องๆได้ลองสำรวจพื้นที่โดยรอบ เราพบชิ้นส่วนของวาวุธ ลฯ ที่ครั้งหนึ่งเคยใช้ปกป้องแผ่นดินของเรา น้องบางคนเคยมาที่นี้แล้วผู้เขียนก็ได้ความรู้ใหม่จากน้องๆด้วย ฮ่าๆ

ก่อนจะกลับให้พวกเราสูดเอาอกาศบริสุทธิ์ หายใจลึกๆ แล้วค่อยปล่อยออกมา ฮาาาาาา! 。◕‿◕。

สิ่งของทุกอย่างพวกเรานำมาจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ถุงขนม ลฯ เราจะไม่ทิ้งไว้ที่นี้ ถังขยะมีต้องทิ้งให้ถูกที่นะครับ ^ ^


ตรวจสัมพาระเรียบร้อย เราก็พร้อมที่จะลุยต่ออีกยก จุดหมายต่อไปของเราก็คือ เขื่อนตอนบน (พลาญเสือตอนบน) หรือ สมรภูมิช่องบก นั้นเองครับ


สมรภูมิช่องบก

"เวียดนามเริ่มเคลื่อนกำลังรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย และตั้งกองกำลังตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อต้องการควบคุมแนวชายแดนไทยไว้ทั้งหมด และตัดการส่งกำลังบำรุงของเขมรฝ่ายต่อต้านจากไทย จนเป็นที่มาของ สมรภูมิช่องบก"

ที่มาของข้อมูล: http://www.ubonpra.com/board/index.php?topic=1031....

ช่องบก : ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านแปดอุ้ม ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี. เป็นพื้นที่ชายแดนซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกัน ๓ ประเทศ คือ ไทย,ลาว,กัมพูชา มีทิวเขาพนมดงรัก กั้นเป็นแนวเขตแดน มีเส้นทางติดต่อเดินข้ามไปมาหากันได้

"การปฏิบัติการรบที่ช่องบก ตั้งแต่ ม.ค.2528-ธ.ค.2530 ฝ่ายไทยได้สูญเสีย กำลังพล เสียชีวิต 109 นาย และบาดเจ็บ 668 นาย"

ลักษณะภูมิประเทศ : เป็นทิวเขาสลับซับซ้อน มีป่าทึบยากแก่การตรวจการณ์ ทั้งทางพื้นดินและทางอากาศ ใช้เป็นแหล่งซ่อนพราง และกำบังเป็นอย่างดี บริเวณช่องบกนี้เป็นเขตพรมแดนต่อกันของ ๓ ประเทศคือ ไทย ลาว และกัมพูชา นี้เอง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สามเหลี่ยมมรกต

ความสนุกและความมันของเรายังไม่หมดแค่นี้ เมื่อเส้นทางของเราเริ่มแคบลงเลื่อยๆ บางจุดต้องให้น้องๆคอยสแตนบายอยู่ข้างหลังด้วยกรณีรถติดล่ม

เมื่อทางแคบลงๆเลื่อยๆ กิ่งไม้ตามถนน,ข้างทาง จึงเป็นอุปสรรค์ของเราอย่างมาก เราจึงส่ง หน่วย seal ของเราล่วงหน้าเพื่อไปเคลียร์เส้นทางก่อน

ป้าย Danger Mines มีให้เห็นตลอดเส้นทาง (ผู้เขียนรู้สึกอบอุ่นยังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆ)


สิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางมาที่นี่ เราควรเคารพกฎกติกาในการเดินป่า ไม่ว่าจะเป็น ป้ายห้าม ป้ายเตือน เพื่อความสงบ และความปลอดภัย "เรา รักษ์ ป่า ป่าก็จะรักเรา" ครับ


บางจุด นอกจากรถยนต์แล้ว มอเตอร์ไซค์เองก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังด้วยนะครับ

ในที่สุดกลุ่มของเราก็เดินทางถึงแล้วครับ ช่องบก หรือ สมรภูมิช่องบก

ซ้ายมือของผู้เขียนคือ อ่างเก็บน้ำพลาญเสือตอนบน ขวามือคือ ฐานอนุพงศ์ กองร้อยทหารพราน 2305

ฐานอนุพงศ์ หรือ ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ กองร้อยทหารพราน 2305 (ต้องกราบข้ออภัย ที่กลุ่มของพวกเราบันทึกภาพมาเพียงเล็กน้อย) หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยในการเดินทาง หรือทราบข้อมูลเกี่ยวกับ เนิน500,ช่องบก,สามเหลี่ยมมรกต เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ เลยนะครับ พี่ๆทหารใจดีมาก และพร้อมให้ข้อมูลทุกๆท่าน


เล่ากันต่ออีกว่า "ห้วยพลาญเสือตอนบน"แห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งกีดขวาง แนวทางเคลื่อนที่ของข้าศึก

เรามาถึงที่ช่องบกก็เกือบๆบ่ายสามโมง อากาศก็ร้อนพอใช้ได้ และเด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน (◕‿◕✿)

มาถึงตอนนี้ผู้เขียนจึงขอไปแจมกับน้องๆด้วยซะเลย ฮ่าๆ

น้ำเย็นสบายมากๆครับ ⊙﹏⊙

นอกจากพายเรือ เล่นน้ำ สำหรับบางท่านที่ไม่ชอบลงน้ำ ชอบนั่งชิวๆ กินลมชมวิว ช่วงหน้าฝนจะมีดอกกระดุมทองบานสะพรั่งตามแนวทางเดิน ไว้ให้เฟลฟี่ด้วย น่ารัก ตะมุตะมิ✿✿ ไปอีกแบบครับ 。◕‿◕。

แม้ว่าสงครามที่ช่องบก จะผ่านมาแล้วกว่า30ปี ผู้เขียนเองยังรู้สึกว่าเหตุการณ์พึ่งผ่านมาได้ไม่นาน เพราะทุกครั้งที่ได้อ่านป้ายจารึกวีระกรรม ได้เห็นสถานที่ ทำให้รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย แม้ว่าเหตุการณ์ดั่งกล่าวจะจบลง ก่อนผู้เขียนจะเกิดก็ตาม

สายลมพัด เอื่อยๆ ยามบ่าย ประกอบกับเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล มันช่างเข้ากันจริงๆครับ (◡‿◡✿)

ว่ากันว่า ช่วงเวลาของความสุข มักผ่านไปไวเสมอ หลังจากที่พวกเราแยกย้ายกัน ไปพักผ่อนตามอัธยาศัยแล้วก็ได้เวลาที่เราจะออกเดินทางต่อ ระหว่างนั้น เราได้สอบถามกับพี่ๆทหารพรานว่า ตรงสามเหลี่ยมมรกต สามารถเข้าไปได้ไหม? ได้คำตอบว่า สามเหลี่ยมมรกต จะเปิดให้เข้าเป็นช่วงครับ (ถ้าผู้เขียนจำไม่ผิด) น่าจะเดือนล่ะครั้ง

สรุปว่าวันนี้เราไม่สามารถเข้าไปที่ สามเหลี่ยมมรกตได้ (◕〝◕) ได้คิดในใจว่าน่าเสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรวันนี้ก็ได้มาตั้งสามที่ ถือว่าคุ้มแล้ว (●*∩_∩*●)


ระยะทาง จาก ช่องบก ไปที่ สามเหลี่ยมมรกต ราวๆ 4กิโลเมตรหากท่านผู้อ่านอยากทราบ ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าไปยัง สามเหลี่ยมมรกต สามารถติดต่อได้ที่ พี่ๆทหาร ที่ ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ กองร้อยทหารพราน 2305 ได้เลยนะครับ ^ ^


ก่อนออกเดินทางเรานัดแนะกันว่า จะกลับทาง เขื่อนบ้านโนนสูง เพราะถ้าย้อนกลับไปทางเดิมที่มา รถของเราไม่สามารถขึ้นเนิน และฝ่าโคลน ไปได้แน่ (เส้นทางจาก เนิน500 มาที่ช่องบกจะเป็นลักษณะการขับรถลงเนินมาเรื่อยๆครับ ถึงแม้ว่าตอนมาเส้นทางจะ เละมาก ไปหน่อย แต่ลง ก็ย่อมดีกว่าขึ้น)

และเราไม่ลืมที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่ง เราเคยมาที่นี่ 。◕‿◕。

บรรดาน้องวัว ที่เราเจอในป่าเมื่อตอนกลาง วันเย็นๆเค้าก็จะมาโผล่ตรงนี้ครับ

ยามเย็น กับวิว ริมสันเขื่อนบ้านโนนสูง

** สำหรับท่านผู้อ่านที่ยังไม่เคยเดินทางมาที่ อำเภอน้ำยืน นอกจาก 3สถานที่ ที่ผู้เขียนนำเสนอแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญๆ ที่น่าสนใจใน อำเภอน้ำยืน อีกมากมาย เช่น รูปแกะสลักนารายณ์บรรทมสินธุ์ ,แก่งลำดวน(กุ้งเดินขบวน*) ,ช่องอานม้า ,วัดภูน้อย เป็นต้น รอให้ทุกท่านมาเที่ยวชมและสัมผัส ได้ตลอดทั้งปี

และแล้วก็มาถึงตอนสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดของทริปเราแล้วครับ ขอบพระคุณทุกท่าน ที่อ่านมาถึงตรงนี้ (หรือเปิดมาเจอตรงนี้พอดี นะครับ) ฮ่าๆ ผมแซวเล่นครับ หากเนื้อหามีควาใผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


สำหรับวันนี้ ผู้เขียนต้องขอกล่าวคำว่า สวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่ 。◕‿◕。


แผนที่เดินทางจาก โรงเรียนโดมประดิษฐ์ ถึง น้ำตกวัดถ้ำบอนเจริญธรรม

แผนที่เดินทางจาก น้ำตกวัดถ้ำบอนเจริญธรรม ถึง เนิน500


สอบถามการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ : องค์การบริหารส่วนตำบลโดมประดิษฐ์ 045-859-639

https://www.facebook.com/profile.php?id=1000050457...


ความคิดเห็น