ตลาดวังหลัง สถานที่ที่มีความหลัง เพราะในสมัยก่อนบริเวณนี้ส่วนนึงเป็นพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือ เรียกว่าวังหลัง และยังเคยเป็นโรงเรียนสตรีแห่งแรกของประเทศอีกด้วย ชื่อ “โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง” ปัจจุบันนี้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลศิริราช ลักษณะของตลาดวังหลังจะเป็นตรอกเล็กๆ แยกไปหลายซอยที่เต็มไปด้วยร้านค้าสองข้างทาง ซึ่งเสน่ห์ของที่นี่ก็คืออาหารคาวหวานชื่อดัง ราคาย่อมเยาว์ และยังมีสินค้าแฟชั่น มือหนึ่ง มือสองสำหรับวัยรุ่นเด็กแนว และคนทั่วไปให้ได้ช้อปกันอย่างสนุกสนาน

วันนี้ 2หมวยจะพาไปเดินรำลึกความหลังที่ย่านวังหลัง สถานที่กิน เที่ยว สุดฮิตติดอันดับใน
กทม. เรียกได้ว่าไปที่เดียวได้ครบทุกอย่าง ทั้ง กินอิ่ม เที่ยวเพลิน เดินสนุก ช็อปกันจนลืมเหนื่อย จะชิคแค่ไหน ตาม 2หมวยไปเลยจ้า

ถึงแล้ว ท่านี้ที่รอคอย "ท่าวังหลัง"
บางคนมารถส่วนตัว บางคนมาเรือ บางคนมารถสาธารณะแล้วแต่สะดวกเลยจ้า แต่ 2หมวยเลือกมารถส่วนตัวนะจ๊ะ เพราะกลัวช้อปแหลก อิ่มตัวแตกจนแบกตัวเองกลับไม่ไหว สำหรับคนที่เอารถมาสามารถนำไปจอดที่ตึกทางซ้ายก่อนถึงวัดระฆัง แล้วเดินมาตามทางหลังวัด ก็จะเจอ เป้าหมาย "ตลาดวังหลัง" ของเรา

ร้านอร่อยที่ตลาดวังหลัง ร้านแรกที่นึกถึงก็คือร้านเก่าแก่อย่าง “วังหลังเบเกอรี่” ขนมปังอบ สด ใหม่ แบบร้อนๆจากเตา ขนมปังใส้ทะลักนิ่มที่สุดในโลก อบใหม่สดทุกวัน ที่สำคัญไม่ใส่สารกันบูด เห็นคนรุมขนาดนี้แล้วไม่ต้องพูดถึงความอร่อย 2หมวยจะไม่ยอมพลาด

ขอบอกไส้เน้นๆ ไส้แน่นมาก ก็เจ้าของร้านให้ไส้แบบไม่กลัวเจ๊งขนาดนี้ ตัวขนมปังก็นุ่มลิ้นมากๆ ขนาดแช่เย็นไว้อีกวันขนมปังยังนุ่มอยู่เลย แค่ตัวขนมปังจะแฟบลงไปนะ



2หมวยอยากแชร์ความอร่อย ก็เลยจัดกลับบ้านเป็นของฝาก เราซื้อเนยสด เพราะความชอบส่วนตัว ตอนกลับไปบ้านเราจัดเอาเนยสดเข้าตู้อบอีกรอบ ฟินหนักกว่าเดิมอีกจ้า เพราะเนยสดมีความละลาย ตัวขนมปังชุ่มไปด้วยเนย ร้อนๆ พระเจ้าจอช เข้าปากแล้วมันดีมากจริงๆ ใครอยากลอง...ก็ทำตามได้นะจ๊ะ



อรทัย ซูชิวังหลัง ทำไมต้องอรทัย? ทำไมคนต้องมุง? ทำไมคิวต้องยาว? มีดีที่อะไร? ... รอช้าอยู่ใย
2 หมวยก็พุ่งซิคะ

ร้านนี้มีซูชิให้เลือกซูชิหลากหลายหน้าในราคาเริ่มต้นเพียงชิ้นละ 5 บาทเท่านั้น



มาแล้วค่ะซูชิที่สั่งไป...ถึงจะมีกัดโดนข้าวเม็ดแข็งๆไปบ้าง แต่รสข้าวก็พอรับได้ ที่นี่มีซูชิหน้าแปลกๆให้เลือกด้วยนะ อย่างของเรา...ซูชิหน้ากุ้งกิมจิ ซูชิที่นี่ราคาเท่าตลาดนัด แต่ความรู้สึกมันต่างจากตลาดทั่วไป ก็เพราะความสะอาดนี่แหละ



เครื่องดื่มดับกระหายที่เราสั่งไป แก้วแรกน้ำสับปะรดปั่น หวานหอมใช้ได้เลย ไม่หวานมาก ถัดมาที่ชาเขียวเย็น แก้วละ 7 บาท คืออธิบายไงดี มันหวานแต่กลิ่นชาอ่อนมาก เราไม่ปลื้มเท่าไหร่



ควรจะพัก หรือ กินต่อดี ทันๆๆๆๆใดน้านนนน เราก็เหลือบไปเห็นนนน ... ทาโกะยากิ ลูกละแค่ 5 บาท สับขาหลอกแทบไม่ทัน เดินไปชิดหน้ากระจกกันเลยทีเดียว สั่งทุกไส้สิคะ ต้องลองกันเลยทีเดียว ทางร้านทำมาให้ใหม่แบบร้อนๆซะด้วย ถ้าทานที่ร้านจะมีซอสของทาโกะยากิสูตรของทางร้านเลย เป็นแบบขวด อยากจัดเต็มแค่ไหน ก็หยิบบีบเองได้ที่โต๊ะเลย



ตัวยังแตกไม่พอ เรามาต่อที่ "ร้านสายไหม บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง"

ร้านนี้คนเยอะอีกเช่นกัน ขนาดของร้านค่อนข้างเล็ก และแออัดเบาๆ แต่ด้วยความอยากลองว่าทำไมคนถึงได้เยอะก็ต้องลองเอง เพราะสายตามันบอกไม่ได้ นอกจากได้ลองชิม

สิ่งที่ อยากกิน คือ เกี๊ยวกุ้งตัวโตๆเต็มคำ ผสมกับหมูสับ ที่ตั้งอยู่ในกะละมังหน้าร้านนั่นแหละ



ชามเดียวเอาไม่อยู่ซิคะ มาแล้วต้องชิม ทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง มาเสิร์ฟละ..น่ากินมั้ยหละ? บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงกับ เกี๊ยวน้ำ หอมๆ ทนไม่ไหวละขอชิมก่อน!!



ตัวเกี๊ยวกุ้งหมูสับมีความหอมหมูสับหมักผสมผสานกับความหวานของกุ้งก็อร่อยพอตัวอยู่นะ ส่วนตัวแป้งเกี๊ยวก็นุ่มชุ่มน้ำไม่ด้านๆ บะหมี่ก็ดีงาม เส้นค่อนข้างเล็กและนุ่ม เด็ดที่น้ำหมูแดงที่ราดมา เค็มหวานแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มแล้ว ร้านนี้จัดว่าประทับใจ ขากลับมาจะซื้อเป็นของฝากปรากฎว่าหมด อดเลย !!



กินคาวไม่กินหวาน สันดารไพร่ ช้าอยู่ไย ต่อด้วย สาหริ่มทับทิมกรอบ ร้านนี้เค้าจัดให้ครบค่ะ กลิ่นน้ำกระทิหอม

นวลๆ หวานพอดีๆ ทำให้ชื่นใจ



เสร็จจากร้านสายไหม แล้วไปกินอะไรต่อดี?
เพราะตอนนี้พี่บอกเลย เหงื่อชุ่มพอๆกับเกี๊ยว
ร้านนี้เลย N10 Cafe วิวดี๊ดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งได้ทั้ง outdoor และ indoor ที่ร้านเค้าตกแต่งแบบชิคๆ ใช้ไม้ผสม คงความเก่าแต่ให้อารมณ์โมเดิร์นเหมือนนั่งในห้องนั่งเล่นค่ะ ชื่อของ N10 มาจากเลขท่าเรือศิริราช
2หมวยเลยก็เลยตัดสินใจแวะร้านที่เค้าบอกกันว่า chick chick cool cool ร้าน N10 cafe ซึ่งเป็นส่วนนึงของ บ้านวังหลังริเวอร์ไซด์

ร้านนี้มีให้จัดทั้งอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม รวมถึงเบียร์ด้วย เมนูเยอะแยะมากมายให้ลอง เลือกเอาที่สบายใจเลยละกัน



ที่นั่งตรงนี้ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปค่ะ

วิวริมน้ำแบบนี้ที่มองเห็นไปถึงสะพานพระราม8 และคุ้งน้ำวัดอรุณ ถ้ามาช่วงพระอาทิตย์ตกดินคงฟินน่าดู วันที่ไปมีชาวต่างชาตินั่งชิลด้วย



2 หมวย ขอสั่งแต่เครื่องดื่มนะคะ อิ่มท้องจะแตก

เลยขอพักยกแพร๊บบบบ ขอนั่ง indoor ละกัน ฟังเพลงเบาๆ กับ แอร์เย็นๆ



งานป้ายร้านค่ะ ขอจัดหวานๆสักภาพ



ร้านนี้ต้องมา "หมูทอดชาววัง" แจ้งนิดนึงนะคะ คืออยากมาลองมากแต่วันที่เราไปคือวันอาทิตย์ก็เลยอดไปตามระเบียบ ใครอยากลิ้มลอง มาแล้วไม่แป๊ก ให้มาวันอื่นนะจ๊ะ

ต่อๆๆๆๆ ไปต่อที่ร้านนี้เลยคะ

งานแซ่บก็มา "ส้มตำป้าอิน" เป็นอีกร้านที่เราอยากกิน ติ๊กต๊อกๆ กินดีมั้ย กินไหวมั้ย กินต่อเลยดีรึป่าว

ให้ทายกันว่า เราเข้าไปกินต่ออีกมั้ย......?



นอกจากบรรยากาศกลางวัน เราก็อยากพรีเซนต์ บรรยากาศของวังหลังในยามค่ำคืน ร้านที่เราเลือกคือร้าน 342 Bar โดยร้านตั้งอยู่บนวังหลังริเวอร์ไซด์ ที่เดียวกับ N10 Cafe

มองเรือผ่านไปมา มองไกลก็เห็นแสงเหลืองอร่ามโดดของวัดพระแก้ว มันสวยมากจริงๆ



ชมวิวแบบนี้ถือว่าฟินมาก มองเห็นบรรยากาศและแสงสีของท่ามหาราชยามค่ำคืน



ที่นี่มีอาหารพวก snack ง่ายให้สั่ง และเครื่องดื่มต่างๆ เราจัดชามะนาว กับ Mocktails มาดริ๊งเบาๆเกร๋ๆ ก็พอ



จากท่าวังหลังสามารถข้ามไปท่ามหาราชได้ 2หมวย มาแล้ว..ก็อยากจัดให้ครบ ขอข้ามเรือไปเดินเล่นอีกฝั่ง เลยได้ภาพมุมนี้มา ดูเหมือนในฉากหนังคาวบอยยังไงไม่รู้

ได้เวลากลับละ สรุป มันคือทริป อิ่มตัวแตก แล้ว เราจะกลับมาพบกันใหม่ วังหลัง ใครๆก็มาได้ มาง่ายๆแค่ใจสั่งมา



Monica Lee

ไปกับหมวย / GowithMuays

 วันอังคารที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.06 น.

ความคิดเห็น