Dear , Taipei
เรื่องเล่าปนรอยยิ้มจากทริปไต้หวัน 6 วัน 5 คืน ของเราและผองเพื่อน
.....
ไทเป เป็นเมืองหลวงที่น่ารัก
ผู้คนเป็นมิตร พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
อาจจะร้อนไปบ้างกับสภาพอากาศช่วงเดือนสิงหาฯ
ที่อุณหภูมิในบางจังหวะ
สามารถพุ่งสูงได้ถึง 39 องศาเซลเซียส !
.....
ว่ากันว่า มาไต้หวันทั้งที เรื่องอาหารการกินนี่ห้ามพลาด
ในทุกวัน ต้องมีเมนูใหม่ๆ แวะเวียนมาให้ชิมกันตลอด
แถมด้วยการมุ่งหน้าตามหางานอาร์ต ชิคๆ คูลๆ ที่มีให้ดูกันทั้งเมือง
ความสนุกมันดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เวลาได้ไปเที่ยวกับเพื่อน
อย่างที่บอกไปในชื่อเรื่อง
เธอ . ฉัน . ไต้หวันของพวกเรา
.....
.....
แล้วทำไมต้องไปไต้หวัน ?
คำถามเปิดประเด็น ที่เรากับเพื่อนแยกย้ายกันไปหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ
" เรามีเพื่อนที่นู่น มีคนพาเที่ยวได้นะเว่ย "
" ค่าเงินคิดง่าย 1 ดอลล่าไต้หวัน ประมาณ 1.1 บาทไทย "
" ตั๋วเครื่องบินก็ไม่แพงนะ "
.....
" เห้ย! คนไทยถูกยกเว้นวีซ่า ให้เที่ยวในไต้หวันได้ 30 วัน ว่ะแก "
เอ้า เฮ! อันนี้ดี เอาใจพี่ไป
แค่ไม่ต้องขอวีซ่า ชีวิตก็ง่ายขึ้นเยอะมากๆ
เพราะปกติค่าธรรมเนียมก็ปาเข้าไป 1500 -1700 บาทแล้ว
นี่เราถือแค่พาสปอร์ต แล้วแพ็คของใส่กระเป๋าก็ไปได้เล่ย
.....
แต่เดี๋ยวก่อน ... พายุไต้ฝุ่น พึ่งจะพัดผ่านเกาะไต้หวันค่ะคุณผู้ชม
สภาพอากาศช่วงเดือน ก.ค. - ส.ค. ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่
เราเริ่มต้นจิ้มวันเดินทาง จากการเช็คพยากรณ์อากาศเป็นอย่างแรก
" 6 - 11 สิงหา อันนี้ๆ อากาศดี มีแดด "
จิ้มมาได้ 6 วัน 5 คืน ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
เราตกลงกับช่วงเวลานี้และจะได้กลับมาทันวันแม่พอดี
.....
ได้วัน ก็จิ้มหาตั๋วเครื่องบินกันต่อ
เราเลือกบินกับ Nok Scoot ตัวเหลือง เพราะราคาพอรับได้ แถมได้บินตรงถึงไทเปเลย
( ราคาตั๋วไป-กลับอยู่ที่คนละ 7,xxx บาท )
.....
DMK - TPE
ก็แฮปปี้ดี น้องนกไม่ดีเลย์ พาเรามาถึงไทเปภายใน 4 ชั่วโมง :)
.....
.....
จากสนามบินเข้าตัวเมืองไทเป การเดินทางทุกอย่างจะมารวมตัวกันที่นี่
ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟธรรมดา รถไฟความเร็วสูง รถบัส รถเมล์ มากันครบทีม
.....
ที่นี่เลย
" Taipei Main Station "
....
การเดินทางในเกาะไต้หวัน ง่ายแล้วก็สะดวกมากๆ
ที่นี่ใช้บัตรที่เรียกว่า " Easy Card " ซึ่งมันก็อีซี่สมชื่อ
แค่เติมเงินเข้าไป ใช้ซื้อตั๋วนู่นนี่ ซื้อของในเซเว่นได้ทุกอย่าง
เราโชคดีมากๆ ที่บังเอิญเจอโปรโมชั่นของ Nok Scoot x การท่องเที่ยวไต้หวัน
แจกบัตร Easycard ฟรีๆ แถมมีตังค์ในบัตรอีก 100 TWD เย้ !
ยัง ยังไม่หมด เรายังได้ One Day Tour ของเจ้ารถแดง Hop On Hop Off แถมมาอีก
ทั้งหมดนี้ ฟรี! นะจ้าา เป็นการต้อนรับสู่ไทเปที่ประทับใจมากเลย
** โปรโมชั่นนี้มีจำกัดแค่ 888 ใบน้า เฉพาะช่วงเดือนสิงหาฯ 2017 **
.....
.....
จาก Taipei Main Station
เราจองที่พักที่อยู่ใกล้ๆ สามารถเดินไปได้
อันนี้เลย - MUIU INN Hostel -
.....
( * รายละเอียดเรื่องที่พักแอบบอกไว้ตอนท้ายนะจ๊า )
หลังจากเช็คอินที่โฮสเทล ทิ้งกระเป๋าเป้ใบใหญ่ไว้ที่ห้อง
ก็ได้เวลา ทำความรู้จักกับไทเปกันแล้ว
หนีห่าววววววววว
.....
.....
เรานัดเจอเพื่อนคนไต้หวัน ที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นปี
วันนี้สบายละ พวกเราจะมีไกด์ท้องถิ่น พาเที่ยวแบบคนไทเปจริงๆ
ไม่สนใจไกด์บุ๊ค ไม่ตามล่า Landmark 555
แค่บอกกับเพื่อนว่า เราอยากให้พาไป ที่ที่เธอชอบไป ก็แค่นั้น :)
.....
01 - BOPILIAO OLD STREET
ที่แรกที่เพื่อนพาไป
เปิดตัวกันอย่างเรียบง่ายด้วยการพาไปเดินดูงาน Exhibition
ที่แปลงโฉมตึกเก่า ให้กลายเป็นโลเคชั่นให้เดินเล่น ถ่ายรูป กันเพลินๆ
.....
.....
02 - MOON BUS
ตามมาติดๆด้วย งาน Exhibition สีเหลืองน่ารัก
ที่อยู่ถัดจากตึกไทเป 101 มาไม่ถึง 200 เมตร แค่เดินข้ามถนนมา
เราจะเห็นเจ้ารสบัสหน้าตาน่ารัก ชวนให้เข้าไปดูเรื่องราวด้านใน
ที่มีชื่อตอนว่า " When the moon forgot " ของศิลปินชาวไต้หวัน จิมมี่ เลี่ยว
.....
.....
03 - Xinyi Public Assembly Hall
เดินต่อจากเจ้ารถบัส Moon Bus มาอีกนิดนึง
จะเจอหมู่บ้านอนุรักษ์ของเขต Xin yi ที่มีการรีโนเวทจนกลายเป็นพื้นที่ Cultural Park
พวกเราโชคดี ไปตรงกับงานตลาดของทำมือ เจอของ Handmade มาวางขายเต็มเลย
น่ารักมากๆ ราคาก็ไม่แพง เพราะคนที่มาขายส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา
.....
.....
ข้างในตึกเก่า มีคาเฟ่น่ารักกับร้านไอศครีม Homemade ซ่อนตัวอยู่
ข้างในร้านตกแต่งน่ารัก มีของกุ๊กกิ๊กให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งโปสการ์ด สมุดโน้ต
เลยไปถึงชาแบบต่างๆ เพราะคนที่นี่ดื่มชากันตลอดเวลา
......
.....
พอพูดถึงชา มาไต้หวันทั้งที ต้องไม่พลาด
ตามล่า " ชานม " ของเด็ด ของดีประจำจังหวัด 5555
อันที่หาได้ง่ายสุด เราชอบที่สุด แพ็คเกจดูดีสุด
เราแนะนำเจ้าชานมเซเว่น ที่มีขายกันทุกที่ ทุกสาขา ราคาอยู่ที่ขวดละ 28-34 TWD
มีหลายสี หลายรสชาติ ชากุหลาบที่พึ่งออกมาใหม่ก็หอมหวานดีงามเหลือเกิน
เรากับเพื่อนนี่ชิมเกือบครบทุกอัน ชอบมากกก
อันนี้เล่ย !
......
.....
ได้เวลาหลบความวุ่นวายในเมืองหลวงกันแล้ว
หลังจากเที่ยวไนตัวเมืองไทเปกันจนหนำใจ เพื่อนไต้หวันตัวดีก็พาหนีอพยพออกมาชั่วคราว
วันนี้เราจะไป " Jiufen " เมืองโบราณที่อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ไปเดินดูเมืองเก่ากัน ออกไปเจอทะเล แล้วก็ไปนั่งรถไฟ
ออกไปเจอธรรมชาติบ้าง :)
.....
.....
เรานั่งรถไฟ ออกจากไทเปแล้วมาหยุดที่สถานี Rufeng
วันนี้จะมีเพื่อนตามมาสมทบ มาค่ะมา สมาชิกเราเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
ที่นี่เป็นเหมือนสถานีหลักของรถไฟสายตะวันออก เราหยุดที่นี่ เพื่อนั่งรถบัสต่อไป Jiufen
ระหว่างรอเพื่อนชาวไต้หวันอีกคน เราเดินเล่นดูเมืองรอบๆ
เมืองชนบทในแบบนี้ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
.....
.....
ของกินข้างทางก็มีให้เลือกเยอะมาก ราคาถูกกว่าไทเป
อันนี้เราชอบส่วนตัว เป็นขนมอบแล้วมีไส้ตรงกลาง กินร้อนๆจะฟินมาก
ไส้หลักๆ มีให้เลือกระหว่าง ครีม ถั่วแดง แล้วก็ไส้เค็มที่ทำจากหัวผักกาด
ราคากันเองมากๆ ชิ้นละ 12 TWD
.....
.....
พอเพื่อนมากันครบทีม ก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อ
เพื่อนใหม่คราวนี้ คุยสนุกมาก เป็นไกด์ที่น่ารัก ชวนเราดูนู่นนี่ตลอดทาง
เราต่อรถบัสไปที่ Jiufen กัน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ทางชัน ขึ้นเขา วิวข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป มองเห็นทะเล
ก็ดีนะ ได้เห็นไต้หวันในมุมสีเขียวๆดูบ้าง ก็สดชื่นดี
.....
.....
04 - Jiufen
หมู่บ้านโบราณ ที่ตั้งเรียงรายกันบนภูเขา
วิวด้านหลังเป็นภูเขาหิน ส่วนด้านหน้าหันมาเจอวิวทะเล
แต่ก่อนที่นี่เคยเป็นเหมืองโบราณ แต่ต่อมาแร่ธาตุหมด คนก็ย้ายออกไปกันหมด
รัฐบาลเลยเข้ามาพัฒนา จนกลายเป็นที่ท่องเที่ยว บรรยากาศดี
ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาเดินเล่น ได้ตลอดทั้งปี
.....
.....
อันนี้แอบฮา :)
ด้วยความที่พี่ไทย น่าจะมีสัดส่วนนักท่องเที่ยว เป็นสัดส่วนที่มีอิทธิพลมาก
จนร้านค้าต่างๆ พยายามเขียนเมนูเป็นภาษาไทยไว้ด้วย
แต่อันนี้ฮา เรากับเพื่อนพยายามอ่านออกเสียง มันเพี้ยนแปลกๆ
วรรณยุกต์นี่ เพี้ยน มั่วไปหมดละจ้า 555
.....
จากจิ่วเฟิ่น เรานั่งรถกลับมาที่ Rufeng แล้วนั่งรถไฟกันต่อ
.....
......
06 - ทางรถไฟสาย Ping Xi
เพื่อนแอบกระซิบว่า ทางรถไฟสายนี้โรแมนติกสุดๆ
ปลายทางของสถานี จะมีโคมลอย ให้คู่รักเขียนคำอธิษฐาน แล้วปล่อยโคมลอยนั้นพร้อมๆกัน
งื้ออ ทำไมน่ารักจัง
รอบๆ สถานีเป็นหมู่บ้านชนบท ที่เคยใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง
" You are the apple of my eye "
......
.....
เรามาถึงกันช่วงเย็น บรรยากาศดีมากๆ
ชนบทของไต้หวัน ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ มีแม่น้ำ มีสะพาน มีเด็กๆปั่นจักรยานกลับบ้าน
ดูแล้วชวนให้คิดถึงบรรยากาศแบบในหนังเรื่อง แฟนฉัน เลย
.....
.....
จากชนบท เราพาตัวเองกลับมาที่ไทเปกันอีกรอบ
คราวนี้ ได้เวลาใช้ของฟรี ระดับพรีเมี่ยมกันแล้วจ้า
เจ้ารถแดง Hop On Hop Off
ที่เราเคยเล่าในตอนต้น ว่าได้บัตร One Day Tour มาใช้กันฟรีๆ
งานนี้บอกเลยว่าคุ้มมาก :)
.....
.....
จุดเริ่มต้น และสิ้นสุดของเส้นทาง คือ Taipei Main Station
รถจะมีทุกๆ 40 นาที มีรอบเวลาบอกไว้ชัดเจน
โดยระหว่างทาง จะมีจุดจอด ให้เราเลือกลงได้เลย
และรอขึ้นคันต่อไปในทุกๆ 40 นาที เอ้า เริดดด!
เรากับเพื่อน เลือกนั่งบนชั้นสอง จะได้ดูวิวเมืองกันเพลินๆ บนรถจะมีพนักงานแจกหูฟังให้
และมีการบรรยายเรื่องราวของแต่ละสถานที่ ประมาณ 4 ภาษา
มีหนึ่งสถานที่ ที่พวกเราใจตรงกัน
" Taipei Fine Art Museum "
งั้นเราจะลงกันตรงนี้ ไปเดินดู Exhibition กันอีกซักรอบ
.....
.....
07 - Taipei Fine Art Museum
อาคารสีขาวรูปทรงแปลกตา ที่ดึงดูดเด็กถาปัตย์อย่างพวกเราได้ดีทีเดียว
เราตกลงใช้เวลาที่นี่กันยาวๆ แบบไม่รีบร้อน
จุดขายตั๋ว
พี่พนักงานส่งยิ้มมาให้แล้วถามว่า เป็นนักเรียน นักศึกษากันอยู่ใช่มั้ย?
งั้นได้ลดค่าตั๋วครึ่งราคานะ ตามนี้เลย :)
เห้ยยย ! อันนี้ดี
สวยๆ ใสๆ ไทเป
มีความเนียน แอ๊บเด็กกันไป 555 ทั้งที่เรียนจบทำงานกันแล้วทุกคน
.....
.....
ข้างใน แบ่งโซนจัดแสดงไว้เยอะมาก
เราเดินกันเพลินๆ เข้าโซนนู้น โผล่โซนนี้
สนุกมาก
.....
.....
เดินกันจนถึงโซนสุดท้าย
เป็นโซนที่เปิดให้ผู้ชม สามารถเลือกแต่งตัวเป็นอะไรก็ได้ แล้วขึ้นไปแสดงบนเวที
อันนี้ดูคนอยากเล่นกันเยอะมากๆ แถวยาว จนพวกเราที่อยากเล่นด้วย ขอยอมแพ้
เราเดินดูงานอื่นๆต่อกันอีกนิดหน่อย
ก่อนที่เราจะออกไปรอเจ้ารถแดง เพื่อนั่งกลับไปที่ Taipei Main Station
เดินกลับโฮสเทล แล้วเตรียมตัวแพ็คกระเป๋ากลับบ้าน
รู้สึกเหมือนมีลำโพงโผล่ขึ้นมาแล้วพูดเป็นประโยคว่า
หมดเวลาสนุกแล้วสิ !
.....
......
เราเที่ยวด้วยกันจนวันสุดท้าย
เพื่อนไต้หวัน ทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านต้อนรับเราแบบอบอุ่นมาก
เป็นทริปที่ได้กลับมาเจอเพื่อนเก่า แถมด้วยการได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่
รู้จักกันไปมา กลายเป็นกลุ่มใหญ่ เที่ยวกันสนุกเลย
.....
เราบอกลา และ ขอบคุณ
เพื่อนไต้หวันทุกคนที่ยอมทุ่มเทลางาน เพื่อมาเป็นไกด์ให้พวกเรา
ไว้กลับมาเที่ยวกรุงเทพครั้งหน้า
สัญญา จะดูแลเป็นอย่างดี :)
......
ข้อมูลเพิ่มเติมที่อยากบอกต่อ
ที่พักแนะนำในไทเป
พวกเราจิ้มหาที่พักที่ใกล้ MRT เอาแบบที่เดินได้ ไม่ไกลจาก Taipei Main Station
ใกล้แหล่งของกิน และผลที่ได้จากการสแกน ของเรามีที่พักเข้าตากรรมการสองที่ อยากมาแนะนำจ้า
1. MUIU Capsule Inn
อันนี้ที่พักสะอาดมาก โทนสีสบายตา มีความ MUJI ใสๆคลีนๆ 555
ชอบตรงที่ทุกคนต้องเปลี่ยนใส่ slipper สีน้ำตาล ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน :)
2. Mr Lobster's Secret Hostel
อันนี้ก็ดี มีอาหารเช้าบวกมาแล้ว พื้นที่ส่วนกลางก็กว้างดีนะ นั่งเล่นกันสบายๆ
ที่สำคัญหน้าตึกมีร้านคล้ายๆเซเว่น เดินหาของกินได้ตลอดเวลา อิอิ
....
ขอบคุณที่อ่านถึงตรงนี้นะ
ต้องบอกลากันจริงๆแล้ว
จบปิ๊ง
.....
story from somewhere.
วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.37 น.