“เที่ยวไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก"คำนี้มันใช้ได้จริงๆนะคุณโยม สถานที่ท่องเที่ยวเมืองไทยของเราแพ้ใครซะที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ป่าเขา น้ำตก ทะเล ที่ยังรอการไปเยือนอีกหลายแห่งที่มีให้เลือกเยอะแยะไม่หวานไม่ไหว กระทู้นี้ผมจะหยิบยกมารีวิวเพียงแค่บางส่วนที่ได้เดินทางไปมาให้ได้ชมกันกับ 50 สถานที่ที่ควรไปสักครั้ง(ก่อนตาย) พร้อมแล้วก็ออกเดินทางเต็ดเตร่ “สะพายเป้" ไปเท่ พร้อมกันเลยครับ
........
....
..
กระทู้นี้ไม่ได้จัดอันดับ TPO 50 ครับ เป็นกระทู้ที่ จขกท ได้ไปเที่ยวมาและหยิบออกมาบางส่วนให้ชม 50 ที่ๆน่าไปครับ

อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางของผมติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/saphipae

1.เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน)จังหวัดสุราฎร์ธานีตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก หรือที่เรียกกันว่า “กุ้นหลินเมืองไทย" เชื่อได้เลยว่าหลายคนที่มาเยือนแห่งนี้จะต้องตะลึงกับความงามของสถานที่แห่งนี้ กับบรรยากาศอ่างเก็บน้ำที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูน รูปร่างแปลกตาและสวยงามยิ่งช่วงเช้าจะมีหมอกลอยตามภูเขา ทำให้ความสวยงามเพิ่มขึ้นมาอีก

ก่อนลงเรือเที่ยวชมบรรยากาศภายในเขื่อน แนะนำให้ขึ้นมาจุดชมวิวที่สันเขื่อนก่อนครับ และควรมาถึงก่อน 6 โมงเช้า โชคดีจะได้เห็นหมอกลอยปกคลุมเหนือผืนน้ำ ได้บรรยากาศไปอีกแบบเหมือนมาเที่ยวภาคเหนือเลย

ภายในเขื่อนยังมีบริการแพที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวไว้อีกด้วย มีทั้งของเอกชน และของอุทยานไว้บริการ ราคาก็จะต่างกันออกไป มาเที่ยวแล้วควรนอนสักคืนสองคืนรับลองฟิน

บรรยากาศเขาหินปูนที่รายล้อมผืนน้ำถ้าไม่ค้างคืนสามารถนั่งเรือเที่ยวชมแบบไปกลับก็ได้นะครับ

อัตราค่าบริการเรือนำเที่ยวมีทั้งแบบไปกลับและค้างคืน ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางที่ไป และที่พักมีเรือแบบ10 คน และ 20 คน จะต้องเหมาอย่างเดียวถ้ามากันน้อยคยอาจจะต้องหารกันเยอะพอสมควร มาเป็นกลุ่มก็ตกคนละไม่กี่ร้อยบาท

2.ดอยเสมอดาว (ดาวเสมอดอย_ที่_ดอยเสมอดาว) จ.น่าน เป็นอีกสถานที่ที่เหมะกับการดูดาว ชมทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน แนะนำให้มากางเต็นท์นอนดูดาวสักคืน

บรรยากาศหมอกยามเช้า

3.เขาช้างเผือก ที่ได้กลายเป็นตำนานที่ขึ้นยากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทยไปเสียแล้ว55555555... ไม่ใช่ระยะของการเดินทาง หรือสูงชัน แต่เนื่องจากเป็นที่โด่งดังและกำลังฮิต ด้วยข้อจำกัดกำหนดให้นักท่องเที่ยวขึ้นได้วันละไม่เกิน 60 คนจึงทำให้การจองโควต้ายากมาก อาจจะต้องรอหลายปีกว่าจะได้ขึ้น แต่แนะนำสักครั้งต้องไปวัดใจสันคมมีด

การเดินทางพิชิตยอดจากจุดกางเต็นท์จะต้องเดินไปตามสันเขา ที่ผมให้ฉายาว่า "ขวาตายซ้ายไม่รอด"

การเดินทางไปเขาช้างเผือกอันดับแรกต้องโทรจองโคต้าขึ้นเขากับทางอุทยานก่อน โดยกำหนดให้นักท่องเที่ยวต่อวันไม่เกิน 60 คน จากนั้นเมื่อจองโคต้าได้แล้วให้ส่งรายชื่อ-นามสกุล และเลขบัตรประชาชนไปให้กับอุทยาน เบอร์ติดต่ออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 0813820359 โดยจะมีต่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าหน้าที่นำทาง 1200 บาทต่อกลุ่ม และถ้าไม่อยากแบกสำภาระเองสามารถใช้บริการลูกหาบคนละ 1100 บาท (คนหนึ่งแบกของได้ประมาณ 20 กก.)

การเดินทาง ไปอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
อยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 175 กิโลเมตร การเดินทางจากอำเภอเมืองกาญจนบุรี ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 323 ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิเป็นระยะทาง ประมาณ 30 กิโลเมตร จุดเริ่มเดินที่บ้านอีต่อง

4.อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง บนเส่นทางหลวงหมายเลข 1095 แม่มาลัย-ปาย ตามถนนคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อหลายๆแห่งอยู่ตามเส่นทางถนนสายนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ "ห้วยน้ำดัง"

5.น้ำตกเปรโต๊ะลอซู "หัวใจสายน้ำแห่งป่าอุ้มผาง" น้ำตกที่นอกจากจะเรียกชื่อยากแล้ว ยังไปยากอีกต่างหาก หลายคนเรียกว่าน้ำตก "เปรโต๊ะลอซู" หรือจะเรียกอีกชื่อก็คือ "น้ำตกปิ๊ตุ๊โกร" นั้นเอง สายน้ำที่ไหลลงมาจากยอดดอยมะม่วงสามหมื่นมาบรรจบกันจนมองคล้ายรูปหัวใจ มองจากสายตาน่าจะสูงเกือบ 1000 เมตรได้คาดว่าน่าจะสูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่เหนือขุนเขากลางผืนป่าตะวันตกในเขตใกล้กับตะเข็บชายแดนพม่าฝั่ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก

6.เกาะราชาน้อย จ.ภูเก็ต เกาะเล็กๆ ที่ยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ มีหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลสีฟ้าใส ในช่วงที่น้ำลดจะเกิดเป็นทะเลแหวกที่สามารถเดินเชื่อมไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้เกาะราชาน้อยยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากอยู่ไกลออกจากฝั่งไปเยอะ ทำให่เกาะสวรรค์ แห่งนี้อุดมไปด้วยทรัพยาการใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ เป็นจุดดำน้ำลึก มีปะการังหลากหลายชนิด และเป็นเกาะที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

7.ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถ้ายังไม่เดินแนะนำต้องไป และถ้าเราจัดอันดับความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในเมืองไทย แน่นอนว่าดอยหลวงเชียงดาวจะอยู่ในอันดับต้นๆของเมืองไทยไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของพันธุ์ไม้ กลุ่มของยอดเขาต่างๆที่อยู่ในบริเวณนี้ รวมไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย รวมไปถึงทะเลหมอกในยามเช้า แน่นอนว่าก่อนจะได้พบกับสิ่งที่สวยงามเหล่านั้นคุณตัองแรกกับความเหนื่อยที่จะต้องใช้สองขาเดินขึ้นกับยอดเขาที่มีความสูงอันดับ 3 ของเมืองไทย

ทะเลหมอกยามเช้าบนยอดกิ่วลม

ส้นทางขึ้นดอยหลวงเชียงดาวที่อนุญาติให้ขึ้นมี 2 เส้นทาง

1. เส้นทางเด่นหญ้าขัด เเป็นเส้นทางที่ไกลที่สุดจากจุดเริ่มต้นขึ้นไป ถึงยอดดอยประมาณ 8.5 ก.ม. แต่ไม่ชันมาก

2. เส้นทางปางวัว-อ่างสลุง ระยะทางประมาณ 6.5 ก.ม.เส้นทางค่อนข้างชันในช่วงแรก

โดยทั้งสองเส้นทางจะมาบรรจบกันที่สามแยก หลังจากนั้นเดินต่อไปยังเส้นทางเดียวกันไปอ่างสลุงซึ่งเป็นจุดกางเต้นท์

8.ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) เส่นทางขุนเขาที่เต็มไปด้วยสีชมพูดูซากุระเมืองไทย(ดอกนางพญาเสือโคร่ง) ที่ไปต้องไปใกลถึงต่างแดนด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาสูง จึงมีความงดงามของสภาพพื้นที่ซึ่งปกคลุมด้วยสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

มาที่นี่นอกจากเราจะได้ชมแปลงพืชผักไม้ผลเมืองหนาวต่าง ๆ หากมาในช่วงต้นถึงปลายเดือน ม.ค. ของทุกปี (แต่ละปีจะบานไม่ต่อยตรงกัน) จะได้ชมดอกพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย ที่จะบานสะพรั่งเป็นสีชมพูสวยงามตลอดริมทาง

การเดินทาง : การเดินทาง โดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ก่อนถึงอำเภอจอมทอง มีทางแยกขวามือขึ้น ดอยอินทนนท์ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 ราวหลักกิโลเมตรที่30-31 มีสามแยกตรงหมู่บ้านขุนกลาง ก็เลี้ยวขวาไปอีก 16 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านขุนวาง เลยหมู่บ้านไปประมาณ2 กิโลเมตร ก็จะถึงสถานนีเกษตรฯ ขุนวาง ถนนเป็นถนนลาดยาง อาจจะมีหลุมบ้าง โดยรถสาธารณะ หากต้องการเดินทางวางโดยไม่มีรถส่วนตัว ต้องอาศัยเช่ารถสองแถวสีเหลืองโดยสามารถเช่าได้ตรงอำเภอจองทอง ตรงคิว รถสองแถวขึ้นดอยอินทนนท์ตรงวัดพระธาตุศรีจอมทอง

แผนผังแสดงจุดดอกนางพญาเสือโคร่งบาน

9.ขุนช่างเคี่ยน ดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ขุนเขาเปลี่ยนเป็นสีชอมพู ฤดูกาลผันเปลี่ยน อีกหนึ้งเส้นทางท่องเที่ยวที่แสนจะโรแมนติก ต้องไปสักครั้ง เส้นทางที่เต็มไปด้วยสีชมภูอีกแห่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยการเดินทางไม่ใกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นดอยสุเทพผ่านพระตำหนักภูพิงค์ แยกขวาที่สามแยกไปหมู่บ้านม้งดอยปุย จากนั้นเลี้ยวไปขุนช่างเคี่ยน ประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง การเดินทางสามารถเข้าถึงโดยรถยนต์ หรือจะเช่ารถสองแถวที่เชิงดอยสุเทพ มีบ้านพัก และจุดกางเต็นท์บริการ

เบอร์ติดต่อ : ศูนย์วิจัย และฝึกอบรมที่สูง คณะเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 0 5394 4052, 0 5322 2014

10.น้ำตกทีลอซู หากพูดถึงน้ำตกในเมืองไทยแล้ว คงไม่มีที่ไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชียและใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก "ทีลอซู" เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่าน้ำตกดำ ถ้าใครชอบความงานของน้ำตก แน่นอนทีลอซุต้องอยู่ในตัวเลือกของใครหลายๆคน

11.นาขั้นบันใดบ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวนาขั้นบันใดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และบรรดาช่างภาพในตอนนี้ ในช่วงต้นเดือนกันยายน – ปลายตุลาคม นาข้าวที่บ้านป่าบงเปียงจะยังเป็นสีเขียว แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนต้น - กลางเดือนพฤศจิกายน นาข้าวจะให้สีทองงดงาม และถือว่าเป็นทุ่งนาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย

12.เกาะไข่ เป็นเกาะขนาดเล็ก อยู่ในอ่าวพังงา มีด้วยกัน 3 เกาะคือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ยอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงาแต่การเดินทางต้องขึ้นเรือจากภูเก็ต ทมีหาดทรายขาวน้ำทะเลใสมีปลาหลากชนิดสีสันสวยงามว่ายอยู่ใกล้ๆ ชายหาด มีปะการังสวยงาม การเดินทางไปเกาะไข่สามารถซื้อทัวร์ได้จากบริษัทนำเที่ยว หรือเช่าเรือได้จากท่าเรือเกาะสิเหร่ ท่าเรือแหลมหิน หรืออ่าวฉลอง ในจังหวัดภูเก็ต

13.สามพันโบก “สามพันโบก" แก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขงที่มีความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า หมู่ที่ 4 ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี

14.ดอยพุ่ยโค ตั้งอยู่ที่ บ้านอุมดาเหนืออ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอนมี วิวทิวทัศน์สวยงามและสุดยอดทะเลหมอกที่สามารถมองวิวได้รอบ 360 องศา ทำให้สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกดิน ในยามค่ำคืนมีดาวเต็มฟ้าระยะทางเดินเท้าไม่ไกลใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็ถึงยอดดอยแต่ใช้เวลาเดินทางนั่งรถนานมาก

บนยอดดอยไม่มีที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมเต้นท์อาหารและน้ำดื่มมาเอง จากจุดเริ่มเดินเท้าใช้เวลา ประมาณ 30 -45 นาที สามารถติดต่อลูกหาบ รถกระบะรับส่งจาก อ.สบเมยไปยังจุดเริ่มเดินเท้า(บ้านอุมดาเหนือ) ได้ที่ อาจารย์บั๊ม 086-117 7254 (โทรไปช่วงเย็นเพราะที่โรงเรียนไม่มีสัญญาณโทรศัพท์)

ต้นเดียวดาย อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของดอยพุ่ยโค

15.โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ (อ.อ.ป) อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกในปัจจุบัน ไฮไลต์สำคัญคือ ป่าสนเปลี่ยนสีและสัมผัสความอลังการของป่าสนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีทิวเมเปิลใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสี ช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวคือเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี ใกล้กันมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ในยามเช้าจะมีสายหมอกจับกลุ่มลอยฟุ้งเหนือผิวน้ำที่สวยไม่แพ้ปางอุ๋ง

การเดินทาง

หากใช้รถยนต์ส่วนตัวจากตัวเมืองเชียงใหม่ เดินทางไปอำเภอกัลยาณิวัฒนา แนะนำ 2 เส้นทาง คือ

1. ใช้เส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ริม เข้าทางหลวงหมายเลข 107 ไปตามเส้นที่ไปตำบลแม่แตง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1095 มุ่งหน้าสู่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮอ่งตอน เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกก่อนถึงอำเภอปาย 13 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1265 ผ่านบ้านเหมืองแร่ จนเข้าสู่อำเภอกัลยาณิวัฒนา ระยะทางประมาณ 165 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวพอสมควร แต่สภาพดีที่สุด เป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง

2. มุ่งหน้าสู่อำเภอแม่ริม เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1096 ไปทางอำเภอสะเมิง ผ่านตำบลบ่อแก้ว อุทยานแห่งชาติขุนขาน บ้านยางห้า บ้านแม่ตะละ บ้านแม่แดดน้อย บ้านดงสามหมื่น บ้านแจ่มน้อย เข้าบ้านวัดจันทร์ ถนนเป็นดินลูกรัง 42 กิโลเมตร ก่อนถึงโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ต้องใช้รถกระบะทั่วไปสามารถไปได้รวมระยะทางประมาณ 155 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จะมีรถโดยสารสองแถวสีเหลืองออกากสถานีขนส่งข้างเผือก อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ วันละ 2 เที่ยว เวลา 09.00 น. และเวลา 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง และมีรถออกจากตลาดแสงทอง อำเภอปาย วันละ 1 เที่ยว เวลา 13.00 น.

บ้านพักในโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์

บ้านสนเขา 1 – 5 นอนได้ 2 คน ราคา 600 บาท

บ้านสนเขา 6 - 7 นอนได้ 4 คน ราคา 1,000 บาท

บ้านปากะญอ นอนได้ 2 คน ราคา 1,200 บาท

บ้านวิวน้ำ 1 - 2 นอนได้ 2 คน ราคา 1,200 บาท

บ้านวิวน้ำ 3 นอนได้ ๒ คน ราคา 3,000 บาท

บ้านวิวน้ำ 4 - 5 นอนได้ ๓ คน ราคา 3,000 บาท

บ้านรวม 1 - 2 นอนได้ ๖ คน ราคา 2,000 บาท

บ้านรวม 3 นอนได้ 10 คน ราคา 2,000 บาท

บ้านฉางข้าว 1 - 2 (ใหม่ล่าสุด) นอนได้ 2 คน ราคา 2,000 บาท

ที่นอนเสริม 200 บาท ต่อคน, ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ 50 บาท ต่อคน

16.เกาะไม้ท่อน (Honeymoon Private Island) เป็นเกาะเล็กๆ ที่เงียบสงบบนฝั่งอันดามัน เกาะสวรรค์ที่ถูกปิดเป็นส่วนตัวมานานนับสิบปี ซึ่มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติบนเกาะและโลกใต้ท้องทะเลต้องสวยงามมีบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน เล่นน้ำหรือดำน้ำ สามารถมองเห็นฝูงปลาสวยงามหลายชนิด

ล่องเรือชมปลาโลมาแบบใกล้ชิดกับ ถ้าหากใช้เรือเรือที่ใช้เป็นเรือยอร์ชแบบกางใบ เพราะะเสียงไม่ดังและวิ่งไม่เร็วมากนักของ ทำให้ปลาเข้ามาว่ายโชว์ตัวเล่นกับคลื่นหน้าเรือกันเยอะ อีกหนึ่งความประทับใจที่ได้มาเยือนที่นี่

17.เมืองโบราณ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุง ว่ากันว่ามาที่นี่ที่เดียวได้เที่ยวเกือบทั่วประเทศ เพราะได้รวบรอมสถานที่สำคัญของทุกภาคเอาไว้ ใกล้ๆแค่นี้ที่สมุทรปราการ

18.ย่านตึกเก่าเมืองภูเก็ตเสน่ห์แห่ง ชิโนโปรตุกีส สิ่งแรกที่ผู้ไปเยือนจะรู้สึกสะดุดตาก็คือตึกเก่าที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าเเก่ของเมือง

19.ลำคลองงู สุดยอดมหาถ้ำที่ครั้งหนึ่งต้องไปเยือน กับเส้นทางเดินป่าที่จะต้องสวมชูชีพ และแอทเวนเจอร์พอสมควร ทั้งลอยคอ โดนน้ำ เพื่อเข้าไปยังตัวถ้ำ โดยเฉพาะถ้ำเสาหินที่ว่ากันว่าเป็นเสาหินที่สูงที่สุดของโลก รวมไปถึงถ้ำนกแอ่นที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน เปิดให้ท่องเที่ยวเฉพาะเดือน มีนาคม-เมษายน ของทุกปี ที่ อช.ลำคลองงู จ.กาญจณบุรี

การเดินทาง จากจังหวัดกาญจนบุรีเดินทางสู่อำเภอทองผาภูมิตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 แล้วเดินทางต่อจากอำเภอทองผาภูมิตามเส้นทางดังกล่าวไปประมาณ 16 กิโลเมตร ถึงบริเวณสามแยกพุทโธเลี้ยวขวาไปประมาณ 12 กิโลเมตร จะมีทางแยกเข้าไปอีก 4 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู

20.ภูชี้ฟ้าถ้าจะเอ๋งถึงสถานที่ชมทะเลหมอก แน่นอนภูชี้ฟ้าย่อมอยู่ในอันดับต้นๆที่ใครๆจะนึกถึง คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง

21. น้ำตกพาเจริญ จ.ตาก เป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามด้วยชั้นน้ำตกที่ไหล ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยจำนวนมาก นัก มีน้ำตลอดปี มีถึง 97 ชั้น ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญอยู่ริมทางหลวงหมายเลข1090 บริเวณกิโลเมตรที่ 36-37มีทางลูกรังแยกซ้ายมือเข้าไปอีก 700 เมตร จะถึงตัวน้ำตก

22.เกาะขาม ไข่มุกมรกตแห่งท้องทะเลตราดเป็นเกาะส่วนตัวเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเกาะหมาก ที่มีหมู่หินภูเขาไฟเป็นเอกลักษณ์ และชายหาดสีขาวที่ยื่นออกไปในทะเล ถ้ามาเที่ยวเกาะหมากไม่ควรพลาดที่จะนั้งเรือมาชมความงามของเกาะนี้ ส่วนที่พักตอนนี้ยังไม่พร้อมเปิดให้ใช้บริการ

23.เขาพนมรุ้ง "เอาไมเคิล แจ็คสันคืนไป....เอาพระรายณ์คืนมา" ท่อนฮุกเพลงทับหลังที่ปลุกกระแสคนไทยให้ช่วยกันทวงทับหลังนารายณ์ที่โดนขโมยไปนำกลับมาคืนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ด้วยประวัติศาสตร์อันต้องจารึก "เขาพนมรุ้ง" จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ได้รับความสนใจทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติ

ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ดวงอาทิตย์ตกตรง 15 ช่องประตูปราสาทพนมรุ้ง

24.ภูสอยดาวหลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะไปสัมผัสที่นี่ซักครั้งหนึ่ง แม้การเดินทางจะยากลำบากมากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ที่อยากจะขึ้นไปเห็นที่นั่น บนยอดลานสนที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า"ดอกหงอนนาค" และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ตามแต่ช่วงฤดูกาลที่ไปเยือน หากอยากพบเห็นดอกหงอนนาคและความเขียวขจีของทุ่งหญ้าและลานสน ขอแนะนำให้ไปช่วงหน้าฝนต้นดูจะเหมาะสมที่สุด แต่หากใครที่ชื่นชอบการเดินป่าหน้าฝนที่นี่ก็เหมาะสมเช่นกัน โดยเฉพาะการถ่ายภาพทุ่งดอกหงอนนาคยามคลอเคลียกับม่านหมอกท่ามกลางลานสนสามใบดูสวยงามและน่าประทับใจมิใช่น้อย

การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง

1.เริ่มจากการเดินทางจากกรุงเทพที่สถานีขนส่งหมอชิตซื้อตั๋วไปลงที่จังหวัดพิษณุโลกราคาเริ่มต้นประมาณ 300 กว่าบาท (การเดินทางมาที่ จ.พิษณุโลก ดูจะสะดวกกว่าและนักเดินทางนิยมใช้เส้นทางนี้)ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง

2.ควรกะเวลาให้พอดีมาถึงที่นี่ประมาณตี 5 ให้ทันรถประจำทางไปอ.ชาติตระการเที่ยวแรก ราคาประมาณ 80 บาท ใช้เวลาประมาณ3 ชั่วโมง(หรือจะใช้บริการเหารรถแท็กซี่หรือสองแถวที่ขนส่งให้ไปส่งที่ถูสอยดาวเลยก็ได้มีบริการไป-กลับ ประมาณ 3500 บาทต่อเที่ยว

3.เมื่อไปถึงอ.ชาติตระการก็ต่อวินมอเตอร์ไซต์ไปลงที่ตลาด อยู่ไม่ไกลนักประมาณ 20 บาท หาไรกินลองทองที่ตลาดรอรถสองแถว

4.จากนั้นรอรถสองแถวสีส้มจะออกจากตลาดชาติตระการ 10.30 กับ 12.30 เท่านั้นในแต่ล่ะวัน(อาจมีการคลาดเคลื่อน)และต้องสอบถามก่อนว่าเวลาไหนจะผ่านไปภูสอยดาวบางที 10.30 อาจจะไม่ผ่าน ก็ต้องนั่ง 12.30 ไปถ้าเวลา 10.30 ผ่านก็ไปถึงเกือบบ่าย 2 ก็ยังพอขึ้นภูสอยดาวทัน(แต่ฝีท้าวต้องขั้นโปร) เวลา 12.30 ก็ถัดไปอีกถ้าเดินไวก็ยังขึ้นได้ ราคาคนละ 100 บาท

5. ส่วนคนที่เดินทางโดยรถสองแถวจะมีปัญหาตอนขากลับ คือบางวันอาจไม่มีรภสองแถว หรือมีแต่เราอาจจะลงมาไม่ทัน ถ้าไม่มีรถขากลับหรืออาจจะลองนัดหมายกับคนขับดูตกลงเรื่องราคาและวันกลับให้ดี ไม่งั้นอาจต้องนอนต่อข้างล่างอีกคืน อิอิ หรือมีอีกวิธีที่คือขอติดรถคนอื่นมาลงที่อ.ชาติตระการ หรือบางทีอาจจะโชคดีเค้ามาที่ตัวเมืองพิษณุโลก วิธีนี้จะใช้ได้ผลก็ต้องมีสมาชิกประมาณ 1-3 คน ดูจะง่ายในการขอเค้าติดรถน่ะครับ

***รถโดยสารชาติตระการ-พิษณุโลก ช่วงบ่ายมีน้อยกว่าช่วงเช้า โดยจะมี 14.00 กับ 17.00 (น่าจะทันเที่ยว 5 โมงเย็น)

25.อ่าวมาหยาหากจะเอ่ยถึงทะเลในเมืองไทย ที่อยู่ในใจอันดับต้นๆของคนไทยและต่างชาติ ก็คงจะหนีไม่พ้น อ่าวมาหยา หนึ่งในจำนวนนั้นและตั้งอยู่บนเกาะพีพีเลเป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

26.โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย ตามพระราชดำริ (ปางอุ๋ง)ดินแดนสุดโรแมนติกไอหมอกลอยปกคลุมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง เพียงเท่านี้ก็ทำให้ปางอุ๋งกลายเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายๆคน

โครงการจัดหมู่บ้านรวมไทย ตามพระราชดำริ พื้นที่หมู่บ้าน เปิด 05.30 น. - 18.30 น.นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน สามารถทำการจองผ่านระบบการลงทะเบียนได้ที่ ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพระบรมราชินูปถัมภ์ โทรศัพท์ 053-611244 โทรศัพท์มือถือ 085-618-3303 โทรสาร 053-611649

27.เขาดินสอในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี จะมีฝูงเหยี่ยวและนกนานาชนิด บินอพยพจากประเทศรัสเซีย จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง เพื่อหนีอากาศที่หนาวเย็น เพราะมีหิมะตกและบางพื้นมีน้ำแข็งปกคลุม จำเป็นต้องหาอากาศอบอุ่นและหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เหยี่ยวจะบินอพยพลงมาทางตอนใต้ทุกปี พื้นที่ที่เหยี่ยวอพยพผ่านมากที่สุดคือจังหวัดชุมพร บริเวณเขาดินสอ ที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกอย่างสำหรับที่นี่ประกอบกับวิวที่สวยงามมองเห็นชายหาดทะเลที่ทอดยาวมองใกลถึงหาดทุ่งวัวแล่น

28.เกาะตาชัย จ.พังงา เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ช่วงนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ชื่อนชอบในท้องทะเล ดำน้ำ ดูปะการัง ถ้าเอ่ยชื่อเกาะนี้มาน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก และจะต้องหาโอกาศไปสัมผัสสักครั้งให้ได้ เกาะตาชัยตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและไม่ไกลจากหมู่เกาะสุรินทร์มากนักมีชายหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาว ประมาณ 700 เมตร

29.จุดชมวิวหยุนไหลถ้าคุณมีโอกาศมาเที่ยวเมืองปายสักครั้ง อีกสถานที่ๆไม่ควรพลาด คือการที่ได้ขึ้นมายืนชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้น อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวมุมสูงของ อ.ปาย นั้นก็คือ "หยุนไหล"เลยหมู่บ้านสันติชลไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร สามารถติดต่อรถนำเที่ยวขึ้นไปด้านบนที่หมู่บ้านได้เลย

30.น้ำตกเหวนรกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพียงคุณมีเวลาแค่ 1 วันไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพ คุณก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม น้ำตกเหวนรกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกสูงประมาณ 60 เมตร มีน้ำไหลผ่านหน้าผาชั้นนี้จะพุ่งไหลลงสู่หน้าผาชั้นที่ 2 และ 3 ที่อยู่ถัดลงไปใกล้ๆ กัน สายน้ำจะไหลลงสู่หุบเหวเบื้องล่างเป็น มุม 90 องศา สูงประมาณ 150 เมตร ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมาก

31.ตลาดน้ำท่าคา ทุกเช้าวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันขึ้นหรือวันข้างแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ สู่วิถีตลาดน้ำ ชีวิตที่ไม่ต้องปรุงแต่ง อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของสองฝั่งคลอง ที่ตลาดน้ำท่าคา จ.สมุทรสงคราม

32.อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยสถาปัตยกรรมอันงดงามวิจิตรบรรจง และที่สำคัญเป็นร่องรอยอดีตแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย และของคนทั้งโลกจนได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นแหล่งมรดกโลก ภายในอุทยานฯ มีสถานที่สำคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน โดยมีคูเมือง กำแพงเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ประกอบไปด้วยโบราณสถานทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง

33.ดอยผาผึ้ง จ.น่านอยู่บริเวณหมู่บ้านมณีพฤกษ์ 3 เป็นภูเขาหินปูนสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,600 เมตรซึ่งไม่มีต้นไม้ใหญ่มากนัก ส่วนมากจะเป็นทุ่งหญ้าคา จากจุดนี้สามารถมาองใกถึงภูแว และยังสามารถชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม ชมทัศนียภาพของอำเภอบ่อเกลือจากปากทางต้องเดินเท้า 20 นาทีเลาะไปตามไหล่เขา ธรรมชาติงาม

34. เกาะเสม็ด สรรค์ใกล้กรุง คำนิยามสั้นๆที่นัดท่องเที่ยวต่างพุดเป็นเสียงเดียวกัน ด้วยการเดินทางที่ไม่ใกล้จากเมืองหลวง ประกอบกับการเดินทางที่สะดวกสบาย เพียงไม่กี่ชั่วโมง น้ำทะเลใสๆ สีฟ้าครามก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้าแล้ว เสม็ดจึงครองตำแหน่งขวัญใจของนักท่องเที่ยวในเป็นระยะเวลานาน ด้วยชายหาดขาวๆรับรองว่าถ้าใครได้ไปเกาะเสม็ด เป็นอันต้องหลงเสน่ห์ความงามของเกาะแก้วพิศดารแห่งนี้แน่นอน

35.รถไฟขบวนพิเศษรถจักรไอน้ำเฉลิมพระเกียรตินั่งรถไฟเที่ยวกับบรรยากาศย้อนยุคเก่าๆแบบนี้ได้ในโอกาศวันสำคัญต่างๆ เช่นวันพ่อ วันแม่ วันปิยมหาราช ที่จัดโดย ททท. และการรถไฟแห่งประเทศไทย

36.โบสถ์ปรกโพธิ์ อีกหนึ่ง unseen เมืองไทยที่ วัดบางกุ้ง หรือวัดปกโพธิ์ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เป็นอุโบสถที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งต้นโพ ต้นไทร ต้นไกร และกร่าง รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้ความขรึมขลังอีกด้วย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี)

37.ภูทับเบิก ลองหลับตาแล้วนึกถึงอากาศเย็นๆ ในยามเช้า พระอาทิตย์ขึ้นแสงแดดอ่อนๆ ทะเลหมอกผืนกว้างและเต็มรอบกาย มองเห็นวิวทุ่งกะหล่ำปลีสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศแบบนี้ที่ภูทับเบิกจะมีให้คุณ และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์อยู่ห่างจากตัวอำเภอหล่มเก่าประมาณ 40 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ 97 กิโลเมตร เท่านั้นเอง

38.นั้งเรือชมพระอาทิตย์ตกดินที่แหลมพรหมเทพ จะโรแมนติกขนาดไหนถ้าได้มานั่งเรือยอร์ทชมพระอาทิตย์ตกดินกับคนรัก ในสถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิศอัสดงที่สวยที่สุดของประเทศไทย

39.ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นกระบวนเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำที่เป็นราชประเพณีไทยที่มีมาแต่โบราณ จัดในงานพระราชพิธีสำคัญๆ ถ้ามีโอกาศสักครั้งไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปชมพระราชพิธีที่สำคัญอีกพิธีที่สำคัญของเมืองไทย

40.จังหวัดน่าน อาจไม่มีชื่อเสียงเป็นอันดันต้น ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยว แต่ความจริงแล้ว ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้สนใจได้ท่องเที่ยวมากมายไม่รู้จบ ทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี แหล่งอารยธรรมโบราณ ส่วนโบราณสถานโดยเฉพาะวัดเก่าแก่มีให้เห็นแทบทุกอำเภอ ได้แก่ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดด้าน วัดภูมินทร์ หอคำ วัดหนองบัว วัดบุญยืน ซึ่งล้วนแต่มีอายุนับร้อย ๆ ปี มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามทั้งสิ้น

41.ขุนแม่ยะ มหัศจรรย์แห่งขุนเขา แห่งดอยสีชมพู ตั้งอยู่ในความดูแลของ หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่ยะอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อเริ่มเข้าฤดูหนาวของทุกปี ต้นซากุระ หรือนางพญาเสือโคร่ง ในบ้านเราก็จะทิ้งใบ และผลิดอกเบ่งบานเต็มต้นอย่างดงาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของปีนั้นด้วย เพราะแต่ละปีจะบานไม่ค่อยตรงกัน การเดินทาง : การเดินทางเข้าถึงค่อนข้างลำบาก ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ถนนเป็นลูกรังดินแดงที่แยกเลียวซ้ายตรงด่านตรวจทหารบนทางหลวงหมายเลข 1095 แม่มาลัย-ปายถ้ามาจากแม่มาลัยจะเลยทางเข้าห้วยน้ำดังไปนิดเดียว ปากทางขึ้นจะมีรถกระบะชาวบ้านไว้บริการ

42.ชมวิวมุมสูงกรุงเทพ และปริมณฑล จะสวยสะแค่ไหนถ้าได้ไปอยู่บนที่สูงแล้วมองดูเมืองหลวงของเมืองไทย กับมุมมองที่แปลกตาออกไป

43.เกาะไม้ไผ ตั้งอยูทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอนด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกมีหาดทรายสวยงามและแนวปะการังซึ่งสวนมากเป็นแนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใตของเกาะ จนได้รับขนานนามว่าเป็น "ดงปะการังแสนไร่" ท่ามกลางทะเลอันดามัน

44.ภูกระดึง "ครั้งหนึ่งในชีวิตเต้องไปพิชิตภูกระดึง" คำนิยามนี้หลายคนควคุ้นหูเป็นอย่างดีว่าสักครั้งหนึ่งจะต้องมาพิชิตให้ได้ ภูกระดึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวเดินป่า ธรรมชาติ เพียงแค่เตรียมฟิตร่างการให้พร้อมเพียงแค่นี้ก็สามารถพิชิตภูกระดึกได้แล้ว ด้วยเหตุที่ว่าด้านบนและระหว่างทางมีสิ่งอำนวยความสดวกมากมาย บางคนเพียงแต่หยิบกระเป๋าตังมาอย่างเดียวก็เที่ยวพิชิตยอดภูได้แล้ว

45.ตลาดน้ำดำเนินสดวกตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี และยังเชื่อมไปถึงจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงครามเข้าด้วยกันตลาดน้ำดำเนินสะดวกจะเริ่มค้าขายกันตั้งแต่ 05.00-12.00 น. ลองแวะมาสัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆ ของตลาดน้ำดำเนินสะดวกสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าทำไมตลาดน้ำแห่งนึ้ถึงได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้แวะ เวี่ยนมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้

46. เขาเทวดาเป็นยอดเขาสูงสุดอยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ดินแดนแห่งขุนเขาที่เหมาะกับนักเดินทางทีหลงใหลในธรรมชาติ เพียงใกล้กรุงเทพแค่นี้ก็มีทะเลหมอกให้ได้ชม

47.โมโกจู ยอดเขาสูงสุดของผืนป่าตะวันตก ในเขตุอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์ จ.กำแพงเพรช อีกหนึ่งสถานที่ๆเป็นความใฝ่ฝันและจุดมุ่งหมายที่นักนิยมไพรต้องปักหมุดไว้ว่าสักวันหนึ่งต้องเดินทางไปให้ถึง ด้วยความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะพิชิตจำนวนมากและปีนี้จากที่เคยเดินไปกับกัน 5 วันก็ลดลงมาเหลือ3 วัน โดยใช้รถไปส่งในช่วงแรกและจำกัดคนขึ้นไม่เกิน 24 คนต่อครั้งที่อุทยานกำหนดวันขึ้น(อาทิตย์ละครั้ง ในช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ.) เลยกลายเป็นสถานที่ฮิตติดลมบนจองโควต้าขึ้นเขายากอีกแห่งหนึ่งตามหลังเขาช้างเผือกมาติดๆไม่ทิ้งห่าง ยกตัวอย่างปีนี้อุทยานเปิดจอง เล่นวันกันเป็นวินาทีของเมลที่ส่งกันเลยทีเดียว สุดท้ายก็ผิดหวังกันหลายคนแต่โมโกจูไม่ได้หนีเราไปไหน ปีนี้ไม่ได้ไปก็ยังมีปีหน้าที่จะมาฟากฟันกันอีก 555555

48.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล มื่อครั้งอดีต “เกาะตะรุเตา" เคยเป็นที่รู้จักกันในฐานะของ “คุกนรก" และแหล่งซ่องสุมของ “โจรสลัดตะรุเตา" ผู้ดุร้ายโหดเหี้ยม แต่ปัจจุบันเกาะแห่งนี้รวมถึงเกาะอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเช่น เกาะอาดัง เกาะไข่ เกาะราวี เกาะหลีเป๊ะ

“ผู้ใดบังอาจเก็บหินจากเกาะนี้ไป ผู้นั้นจะถึงซึ่งความหายนะนานัปการ จะกลับไม่ถึงบ้าน จะประสบอุบัติเหตุ จะหลุดพ้นจากหน้าที่การงาน จะพบกับภัยพิบัติไม่มีที่สิ้นสุด" ประโยคข้อความดังกล่าวข้างต้นนี้ คือ “คำสาปเจ้าพ่อตะรุเตา" ที่ถูกปักป้ายประกาศเอาไว้บน “เกาะหินงาม" เกาะซึ่งมีชายหาดหินที่งดงามมากที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล

49.หาดบางเบน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง เป็นที่ตั้งของที่ทําการอุทยานแห่งชาติแหลมสน มีหาดทรายยาวและกว้างใหญ่ ทรายละเอียด ร่มรื่นด้วยป่าสนจำนวนมาก อีกหนึ่งหาดสำหรับใครชอบบรรยากาศแค็มป์ปิ้ง ชมพระอาทิตย์ตกดิน แนะนำว่าผ่านไปผ่านมาต้องลองมานอนฟังเสียงคลื่น เสียงใบสนสักคืน
การเดินทางจากจังหวัดระนองไปตามทางหลวงหมายเลข 4 (ระนอง พังงา) เป็นระยะทาง ประมาณ 45 กิโลเมตร(หรือห่างจาก อ. กะเปอร์เพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น) บริเวณกม. ที่ 657 จะมีทางแยกขวามือเป็นทางลูกรังอีกราว 10 กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติแหลมสน

50.ทะเลบัวแดง ที่ทะเลน้อย จ.พัทลุงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ายังไม่เคยไปทะเลบัวแดงที่อุดร ผมว่าที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันครับ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน เช่นดูการยกยอยักษ์พร้อมแสงแรกของวันที่สะพานปากประ และพระอาทิตย์ตกดินที่สะพานที่ยาวที่สุดของประเทศไทย ที่เชื่อต่อระหว่างพัทลุงกับสงขลา(ถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา) แถมที่ทะเลน้อยยังเป็นแหล่งดูนกอันดับต้นๆของประเทศไทยเลยก็ว่าได้

ขอบคุณสำหรับคำติชมทุกๆท่านครับ ทุกคำชมจะเป็นแรงบันดาลใจในการเดินทางครั้งต่อไป