เขาช้างเผือก เป็นเขาที่เดินไม่ยาก แต่จอง ยากโคตรๆ

ทริปแรกของปี 13-15 มกราคม 2560

เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีความสูงถึง 1,249 จากระดับน้ำทะเล

ระยะทางประมาณ 8-9 กิโลเมตร และเปิดให้ขึ้นได้แค่ 2 เดือนต่อปี เนื่องจากฤดูอื่นๆไม่เหมาะสม อาจมีไฟป่า ถ้าหน้าฝนก็จะลื่นมาก

ก่อนจะได้เดินทางจริง ฝนเท กระหน่ำทุกวัน คือ ไปก็เสี่ยงว่าจะไม่ได้ขึ้น ความโชคดีในความโชคดี ที่ฝนหยุด 1 วันก่อนวันเดินจริง แล้วอุทยานก็ประกาศให้เดินขึ้นได้เป็นเจ้าแรกหลังฝนเทจ้าาาา

ออกจาก กทม. 5 ทุ่มไปถึง 6 โมง เงียบสนิท ไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มีนักเดินทาง ทุกคนพากันหลับบนรถจน 7 โมงครึ่ง เริ่มมีคนมาประปราย เจ้าหน้าที่มา 8 โมง ล้างหน้าแปลงฟัน เตรียมตัวไปลงทะเบียน

ฟ้าผ่าอีกครั้ง ไม่มีรายชื่อใน 60 คนของวันนี้ ใจแป้วววแล้ววว

เอางัยต่อ ติดต่อไปที่พี่ที่จองให้โอ้ยยสัญญาณไม่มีอีก ต้องเดินไปหาสัญญานอีก 2-3 กิโล กว่าจะได้เรื่องก็เสี่ยวๆอยุ่เน่.....สุดท้ายได้จ้าาา...เข้ารอบเป็นคณะสุดท้ายของวันนี้

นกเงือกตัวใหญ่หน้าอุทยานอยู่นิ่งๆให้ถ่ายรูปเพลินๆเลย

มาเริ่ม start ที่หมู่บ้านอีต๋อง ของก็จะรุงรังประมาณนี้

ลูกหาบกิโลละ 30 บาท

- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1000/5 ตกคนละ 200 บาท

ฝ่ายบัญชีประจำกลุ่ม

ตื่นเต้นๆ เริ่มเดินตอน 9 โมงกว่าๆ

ลูกหาบไปก่อนเลย เด๋วปิดท้ายให้

จากหมู่บ้านเดินมาประมาณ 2 กิโล จะถึงป้ายทางเข้า อันนี้ของจริงแล้วนะ

เดินมานานแล้ว เห็นเขาช้างเผือกอยุ่ไกลๆ โน้นนนอ่า

จะเป็นลม...ไม่มีรีวิวไหนเคยบอกไว้ ว่าก่อนจะถึงเขาช้างเผือก ต้องเดินข้ามเขา 4 ลูก OMG!!

ผ่านไปเจอทุ่งหญ้าสีทอง โอ้วแม่เจ้าสวยอ่าาา

บนหลังเขาชะมด ร้อนตับจะแตก

มองลงไปแล้วใจมันหวิว ว่าขึ้นมาได้ไง (ลูกที่ 2 แล้ว)

เห็ยจุดดำๆ เล็กๆที่ปลายยอดนั้นมั้ย? คนนะนั่น นั่นฮะแหละ ปลายเขาช้างน้อย ลูกที่ 3 ได้แต่มองตาปริบๆ

แล้วนั่งถ่ายรุปเล่นสักพัก

ทำใจได้แล้วไปต่อ ขอขี่หลังไปตรงนั้นหน่อย แฮ แฮ

เนื่องจากเป็นเขาที่ไม่มีต้นไม้ ช่วงไหนหญ้าสูงหน่อย ก็มีที่บังแดด โชคดีจัง

เขาเหมือนขยับเข้ามาใกล้เราอีกนิดนึง......

มีขึ้นก็ต้องมีลง ข้างล่างนั้นคือจุดกางเต้นท์ ถึงบ่าย 3 โมงพักแปป แล้วไปต่อสันคมมีด

ลูกหาบน่ารักกก กางเต้นท์ให้เรียบร้อยเลย พร้อมสัมพาระ

ข้ามเขานี้ไปก็จะถึงสันคมมีด ซึ่งโดนบังอยู่

มองขึ้นไป นี่มัน 80 องศาชัดๆ

พักแปปนะ -ขาสั่น- โอ้ยยขำแรง แดดก็ไม่เบาสะเลยนี่ 4 โมงเย็นนะย๊ะ

ถึงแล้วสันคมมีดดดด โอ้ยยคนเยอะต้องไปทีละคน นอนรอนะ

บางทีก็มีคำถามกับตัวเองนะว่ามานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ วืบไปนิตือไม่ต้องหาศพเลย

วิวแบบ 360 องศาที่ต้องมาเห็นด้วยตาคุณเอง

ขำแรงตลอดยัยคนนี้

เจ้าหน้าถึงขั้น ดมยาดมและ ยัยคนนี้ถ่ายรูปนานเกิ้นนน

ขาลง ตูดเท่านั้นที่ช่วยได้ดี

มาม่าจะเยียวยาทุกความเหนื่อยล้าของวันนี้

แสงสุดท้าย

ดาวเยอะและชัดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา...นี่ 4 ทุ่มเบาๆเองนะเนี่ย จะให้รอตี 2 ก็จะหลับกลางอากาศ

ร่ำราเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทางกลับ...น้ำตาจะไหล...

ลมแรงประทะหน้า ปากกระพือ ความทรงจำนี้ ยากจะลืมเลือน

พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว 7 โมงเช้า เริ่มลงเขาแล้ว วิวอลังการดาวล้านดาว

จุด 3G ที่แรงมาก ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามา เขาช้างเผือก

จุดไหน ขาสั่น ก็ สายย่อนะจ๊ะ

ไม่สวยให้ถีบตกเขาได้เลย 555+

ชะนีที่หุบ

บ้ายบาย see you again

ความอะเลิท ได้จบลง อาเมน

ยิงยาวๆ 2 ชม.ถึง บ้าไปแล้วเดินหรือวิ่ง

ลงมานั่งจิบน้ำเย็นๆ ที่หมู่บ้านอีต๋อง กับขนมจีน หวานจ๋อย

เรื่องราวเกิดขึ้นเร็วประหนึ่งฝันไป นี่ฉันไปเหยียบ เขาช้างเผือกมาแล้วจริงๆ หรอเนี่ย

เสียงตึบๆ ที่ ขา เป็นสัญญาณบอกว่าเองไปถึงแล้วล่ะ

ได้อาบน้ำแล้วก็สดชื่นประมาณนี้เลย

ค่าใช้จ่าย สำหรับทริปนี้
- ค่าน้ำมัน ไปกลับ 1500/5 ตกคนละ 300 บาท
- ค่าทางด่วน ไปกลับ 80บ. ตกคนละ 16 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน 380 ห้า คน ตกคนละ 76 บาท
- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1000/5 ตกคนละ 200 บาท
- ค่าเช่าเต้น ผ้าห่ม ที่รองนอน คนละ 171 บาท
- ค่าจ้างลูกหาบ 2 คน นน.รวม 63 กก. 2780 ตกคนละ 556 บาท
-รวม- 1319 บาท ไม่รวมค่าอาหาร
*สำหรับเรา ค่าอาหาร 4 มื้อ อยู่ที่ 400 บาท
รวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น 1719 บาท แบงพันสองใบมีทอน 555+