ทริปนี้เกิดขึ้นเพราะความใจง่ายจริงๆ มีสาวสวยมาชวนไปปีนเขาหน่อตามรีวิวกัน เราก็ตกลงทันทีแบบไม่ต้องคิดอะไร ออกเดินทางวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2560 ด้วยรถไฟ ออกจากสถานีกรุงเทพฯ 7:00

นั่งกินลมชมวิวไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงสถานีรถไฟบางปะอินขบวนจักรยานที่มาด้วย 2 ตู้ก็ลงไปกันหมด พอถึงสถานีอยุธยาก็ต้องรอถอดตู้ 2 ตู้นั้นนาน 15 นาที พอมาถึงสถานีหนองโพก็ต้องรออีก 15 นาทีให้สปินเตอร์แซงไปก่อน ขบวนที่เรานั่งแค่รถเร็วไปเด่นชัย พอมาถึงนครสวรรค์เพื่อนมารอรับนานแล้ว พอครบองค์ก็ตกลงกันว่ากินข้าวก่อนแล้วค่อยไปเขาหน่อเก็บแสงเย็น

เพื่อนพามากิน ร้านนายตี๋ลูกชิ้นปลากราย 3 รส สั่งเส้นปลาต้มยำ 3 ชาม ทอดมันปลากราย ทอดมันกุ้ง เปาะเปี๊ยะกุ้ง อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะทอดมันปลากราย ส่วนเส้นปลาต้มยำสำหรับคนชอบเปรี้ยวแบบเราจะอ่อนเปรี้ยวจนต้องเติมเปรี้ยวเพิ่ม มื้อนี้ทั้งหมด 220 บาท

อิ่มของคาวก็เดินมาร้านข้างๆ bitter sweet สองสาวสนุกกับของหวานส่วนเราลาเต้ร้อนแก้วเดียว เครื่องดื่ม 3 แก้ว ขนมกับไอศกรีม 3 อย่าง ทั้งหมด 390 บาท ขนมอร่อย ตกแต่งสวยดี

หลังจากอิ่มแล้วก็รอย่อยก่อน พวกเราออกจากตัวเมือง 4 โมงเย็น ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที เพื่อไป เขาหน่อ พอไปถึงนักท่องเที่ยวก็เยอะ ลิงก็เยอะ ลิงที่นี่น่ารักนะไม่แย่งของ ป้าแม่ค้าแกบอกอย่าจับลิงนะ เดี๋ยวลิงจะชินคนแล้วจะกระโดดเข้าหา ปีนขึ้นตัว แย่งของ เราว่าคนในชุมชนคิดดีนะในเรื่องลิง มาถึงก็ซื้อน้ำดื่มและเริ่มเดินกันเกือบ 5 โมงเย็น เส้นทางการขึ้นเขาหน่อเป็นทางบันไดประมาณ 700 ขั้น และปีนบันไดลิงอีก 5 จุด

ระหว่างทางปีนขึ้นก็สนุกกับสิ่งรอบตัวก็เลยไม่เหนื่อย ซนไปเรื่อยเปื่อย

วิวระหว่างทางก็สวยจนหายเหนื่อยกันไป

ถึงจุดนี้เหมือนจอหนังใหญ่ๆ ที่กำลังฉายวิวทุ่งนาและท้องฟ้ายามเย็น

ยอดเขาหน่อจะมีรอยพระบาทจำลองภายในศาลาเก่า

ด้านบนยอดเขาจะมีจุดถ่ายรูปหลายมุมมาก เราสองคนก็ถ่ายกันเยอะ ถ่ายรูปให้คนอื่นบ้างตามคำร้องขอ ทุกคนก็สนุกสนานกับบรรยากาศรอบตัว เราก็ซนไปทั่วเช่นเดิม

เดินมาอีกฝั่งมาถ่ายมุมที่มีธงศาสนาบ้าง ฝั่งนี้ก็สวยเหมือนกัน ขอบคุณนางแบบในภาพด้วย

เดินย้อนกลับลงมาตรงจุดมหาชนที่ทุกคนต้องปีนขึ้นไปนั่งถ่าย เราและนางแบบสาวสวยก็ด้วย

พอถ่ายรูปสุดท้ายเสร็จก็หันมือถือมาถ่ายอาทิตย์กำลังจะลับพอดี

แสงหมดก็ถึงเวลาลงแล้ว เราสองคนเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ลง นางแบบเราบอกรีบลงก่อนมืดไม่ชอบเดินมืดๆ แบบไม่ชินทาง ขาลงใช้เวลาแค่ 10 นาที สนุกสนานมาก ลงมาหลังสุดแต่ตามทันคนที่ลงก่อนที่บันไดปูน ลงมาถึงด้านล่างก็มืดมากแล้ว มืดแล้วอดสำรวจถ้ำและบริเวณรอบๆ อดเลี้ยงกล้วยลิงด้ว

ระหว่างรอเพื่อนมารับก็นั่งริมถนน ผู้คนแถวนี้น่ารักและมีน้ำใจมากๆ แวะถามเราสองคน พร้อมบอกมีอะไรให้ช่วยบอกได้เลยนะ มีพี่อีกคนจะอยู่คุยเป็นเพื่อนแต่พวกเราเกรงใจพี่เขาขายของเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แถมไม่ได้น่ากลัวอะไร มีทั้งลิงทั้งหมาเป็นเพื่อน

เพื่อนมารับไปหามื้อเย็นกินที่ร้าน ครัวชาลี 2016 อาหารอร่อย ราคาตามคุณภาพ

จบทริปใจง่ายที่เขาหน่อแบบประทับใจ และอิ่มอร่อยทุกมื้อจนตัวแตก

ป.ล. นางแบบสาวสวยฝากบอกมา

ป.ล.1 ใส่กางเกงหนาหน่อยก็ดี หินแหลมคม เวลานั่งหรือนอนถ่ายรูปจะได้ไม่เจ็บ

ป.ล.2 เตรียมถุงมือขึ้นมาด้วยเพื่อป้องกันมือจากหินคมๆ จะได้ปีนหินได้เต็มที่

ติดตามทริปเดินทางอื่นๆ ได้ที่

เพจ : ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

IG : prapat / ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว