พารู้จัก Shimla ราชินีแห่งขุนเขาของ India
จะบอกว่าทริปนี้ไป ทั้งหมด 3 เมือง แต่จะขอพารู้จัก ชิมลาเน้นๆ ก่อนเลย เพราะว่าประทับใจที่สุด
จากเท่าที่เที่ยวอินเดียมาในหลายๆครั้ง ชอบที่สุดก็พาราณสี รองลงมาก็ชิมลานี้แหระ
บางคนอาจจะไม่คุ้นชื่อนี้ ที่นี้อินเดียนะจ๊ะนายจ๋า เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่า ราชินีแห่งขุนเขา ป๊าดดดดดดด ตอนที่ได้ยินชื่อนี้ก็กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะไปมากๆแล้ว แล้ว เธอยังมี เส้นทางรถไฟสายมรดกโลก อีกต่างหาก โอ้วโหววววว เช่นนั้นแล้ว เราก็เลยตัดสินใจปักมุด แพลนแผนไปที่นี้ละจ้า มันก็น่ารับมรดกโลกแหระ ก็มันเป็นเส้นทางรถไฟตัดหุบเขา ขึ้นเขาขึ้นไป วิวสวยมากจะนายจ๋า
เดินทางไปชิมลา จากจอร์ดปูร์ โดย รถไฟนะจ้ะ ..................
หยุด!!! เบรกความคิดไว้ก่อน... มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด ไม่ได้เลวร้ายอะไร ไม่ได้สกปรกแบบที่คนไทยชอบเบ้ปากร้องยี้ เราไปอินเดียทุกครั้ง ไปโดยรถไฟทุกครั้ง ชอบรถไฟอินเดียมากกว่ารถไฟไทย อันนี้พูดตรงๆแบบไม่กลัวดราม่าใดใดเลย
เอ้า งง ใช่มั้ย งง ล่ะซิ ก่อนอื่น "เปิดใจ" คุณก่อน ก่อนอ่านบทความ ก่อนฟังเรื่องราวของอินเดีย เพราะพูดเลยว่า คนไทย อคติต่ออินเดีย เกินไป แม้จะมีกูรู ที่ศึกษา และอยู่ที่อินเดียมายืนยันสารพัดว่า อินเดียมีดีกว่าที่คนไทยคิด คนไทยบางคนก็ยังคง "ปิดใจ" อยู่ดี มัน "ไม่แฟร์" เลยจริงๆ
จริงอยู่ที่ ถ้าวัด "สภาพความเป็นอยู่" ใช่ อินเดียแย่กว่า แต่ถ้าวัดที่เศรษฐกิจ ทัศนคติ กฏหมาย ความมุมานะพัฒนา และเทคโนโลยี รวมไปถึงประสิทธิภาพความสำเร็จของเยาวชนที่สามารถส่งตัวเองออกไปทำงานต่างประเทศ ในยุโรป หรืออเมริกา นั้น เขา Successful กว่าไทยเยอะแล้ว เรื่องเทคโนโลยี นี้ไม่ต้องพูดถึง ล้ำไปทุกทาง ทั้งเทคโนโลยีด้านแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึง วิทยาการต่างๆ และ อาวุธ ไม่รบกับใคร แต่สามารถผลิตนิวเคียร์ได้ ปืนแปนอะไร ผลิตเองได้หมด
อินเดียเขาจะเป็นประเภท คนรวย รวยสุด ...คนจน ก็จนจริงๆ
เมืองที่เจริญก็เจริญสุด เมืองที่ไม่ ก็สภาพตามอดีตกาล แต่โดยรวมคือพัฒนากว่าเดิมมากๆ
ทุกครั้งที่เดินทางในอินเดีย เรามักจะเลือกเดินทางในรถไฟ เรารู้ว่าหลายคนกลัว และไม่กล้า และมองว่ามันสกปรกชัวร์ เพราะ
ทุกครั้งที่เราเขียนบทความ บอกเล่าวิธีเดินทาง ฟีดแบ็คกลับมาคือ เจ๋งอ่ะ กล้าไปหรอ เก่งจัง ไม่ไปด้วยคนหรอก รถไฟอินเดียไม่ไหวว่ะ
เราไม่ได้เจ๋งจ้า ไม่เก่งอะไรเลยก็แค่ไปรถไฟ ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรแตกต่างจาก รถไฟไทยเลย
ช่วยสลัดภาพรถไฟอินเดียที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนล้นออกมา ออกจากหัวก่อน นั้นมัน ตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาแล้วมั้ง
เราขอพักเกี่ยวกับ รถไฟอินเดียไว้ก่อน ถ้าอยากอ่านเพิ่มสามารถอ่านได้ที่บทความ โอ้โห้ว ล้ำ รถไฟอินเดีย ดีเลิศ กว่าที่คนไทยร้องยี้
กลับมาเที่ยวต่อก่อน ...............
หลังจากที่เที่ยว จอร์ดปูร์ เราก็ย้ายร่าง ขึ้นรถไฟ ไปชิมลา แต่ชิมลาจะไม่มีรถไฟตรงขึ้นไปเลยนะ จะต้องไปลง สถานี kalka (เกลากา) ก่อน เพื่อ เปลี่ยนไปนั่ง รถไฟ Toy Train รถไฟสายมรดกโลกนี้ ขึ้นไปที่ชิมลา
เราออกจากจอร์ดปูร์ วันที่ 6 ธันวาคม นั่งรถไฟ รอบ 10.25 น. จองคลาส A3 จริงๆ A3 นี้ก็ดีแล้วนะ เพียงแต่ส่วนตัวน้อยกว่า A2 แค่นั้นเองวันเวลานาน ละจ๊ะนายจ๋า หลายชั่วโมงเลยละ ตั้งแต่ 10โมงของวันที่ 6 ธันวาคม ถึง เกลากา ใน7โมงของวันที่ 7ธันวาคม
อินเดียค่อนข้างล้ำในเรื่องของวิทยาการทางเทคโนโลยี อันนี้ต้องยอมรับว่า ไทยเพิ่งจะมีแอฟติดตามรถไฟนะ และไม่ได้มีแบบเรียลไทม์ และไม่มีแอฟออเดอร์อาหาร คือซื้อตามที่เดินขาย ชั้นดีดีก็กินตามที่เสิร์ฟ แต่อินเดียมีแอฟติดตามรถไฟแบบแอพลิเคชั่น และมีแอพที่สามารถออเดอร์อาหารได้ ทุกคลาสนะคะ ย้ำว่าทุกคลาส ของไทยนี้ต้องเป็นชั้นดีดีจ่ายเงินตามระดับชั้นไปเน๊อะถึงจะมีห้องอาหารหรือมีเสิร์ฟ ที่สำคัญคือรถไฟอินเดียมีปลั๊กชาร์ตแบตทุกคลาส แม้แต่นั่งระยะเวลาสั้นๆก็มีให้ จะมีที่เหมือนไทยก็คือ พวกคลาสที่มีขายตั๋วยืนก็ไม่มีปลั๊กชาร์ตแบตให้ แต่นั่งชั้น2 ชั้น1 นั่งนอนชั้น2 มีแอร์ไม่มีแอร์ ไปจนถึงเฟิร์สนั้น มีที่ชาร์ตหมด รวบไปถึงแอพจองตั๋วรถไฟก็มี แอพนะจ๊ะ ไม่ต้องไปล็อคอินบนเว็ปไซต์จอง พี่แขกเขาก็มีหมดนะจ้ะ เขาไม่ได้ธรรมดาๆ แบบที่คนไทยมองเขาลบๆนะคะ
เรื่องความปลอดภัยคือ เซฟมาก จริงๆคนอินเดียเขาเฟรนลี่ แล้วก็ไม่ต้องมองเจตนาที่เขาชอบจ้องมองไปในทางที่ไม่ดี เพราะเขากระแสนิยม เขาชอบชาวต่างชาติ ไม่ซิต้องบอกว่าตื่นเต้นที่เห็นเรา โดยเฉพาะผู้หญิง
ต้องขยายความต่อว่า ผู้หญิงอินเดียส่วนน้อยมากที่จะก๋ากั่น แต่งตัวจัดเต็ม แต่งหน้าจัดหนัก เพราะผู้หญิงอินเดียมีวัฒนธรรมแบบไทยสมัยก่อน จริงๆแล้วเราอะเหมือนเขา เพราะเขามีอายุกำเนิดประเทศมาก่อนเรามากๆ แต่ที่เราวิวัฒน์ในบางเรื่องมากกว่าเขา เพราะเรารับทุกอารยธรรม ตะวันตกตะวันออกเรารับหมด
แล้วคุณก็รู้ว่าคนไทยไปไหนพร๊อพเต็มมาก การแต่งตัวนี้ตามแฟชั่นกันสุดๆถูกม่ะ เพราะฉะนั้น บ้างก็ดูสวย บ้างก็ดูแปลกตา น่ามองสำหรับเขา (แต่บางคนก็แค่เจ้าชู้ใส่ สาวๆต้องตรองคารมเเขกหนุ่มดีดีนะจ้ะ) ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว ถ้าคุณเข้าใจเขา มันจะไม่มีอะไรน่ากลัว
ส่วนในมุมมองของผู้ชาย สิ่งที่ผู้ชายบางคนจพเจอเนี่ย สิ่งที่ไม่ค่อยโอเคเราว่า ผู้ชายอินเดียบางคนเขามาไทยเพราะสาวฮ็อตที่พัทยา พูดแบบนี้เข้าใจใช่ม่ะ เพราะบ้านเขาไม่โอเพนเรื่องพวกนี้ ดังนั้นหนุ่มๆไทยที่ไปอาจจะโดนถามว่าเคยเที่ยวพัทยามั้ย ฉันชอบหนวดยูชอบมั้ย ผู้หญิงเป็นยังไง เค้าสนใจเรื่องนี้ มีแนะนำมั้ย แต่ก็ไม่ได้ว่าคุณจะเจอคนแบบนี้ประเภทเดียว ที่ดีดีค่อยช่วยเหลือมีน้ำใจก็เยอะคร้า
ส่วนมากที่เราเจอคือ เป็นเรื่องของความน่ารำคาญมากกว่า พูดมากเกิน ชวนคุยไรหนักหนา เดินตาม ขอถ่ายรูป ตื้อซื้อของ ตื้อขึ้นรถ พยายามขายทัวร์ เดินมาพูดคุยลงท้ายด้วยการขอเฟส ตม. ไฮเดอราบัด ถามเยอะมาก แล้วไม่ได้มีสาระ คือขอเฟสเรางี้ แล้วเราต้องต่อเครื่อง ตอนตี5 ถึงตอนตี1 ง่วง คืออยากเข้าไปที่เกทเพื่อนั่งเพื่อนอน แล้วดูคำถามที่เจอ แล้วก็ไม่ยอมปั้มด้วยนะเว่ย เออเอาเหอะ เนี่ยมันเจอแต่แบบเนี่ย ไม่เจออะไรน่ากลัว เจอแต่แบบกวนใจอ่ะ
เราอ่ะคลุกคลีกับคนอินเดียตรงๆ ทั้งเพื่อน แฟนมาจากอินเดีย คบมาแบบ 2 , 3 ปีแล้วนะ แล้วเป็นคนที่มีสาระ เขาสอน เขาช่วยเหลือเราได้ทั้งเพื่อนทั้งแฟน บางข้อมูล บางทัศนคติที่เขาอธิบายมา มันคือความจริง ที่กล้าพูดเนี่ยเพราะคลุกคลีมาโดยตรง สนิทพูดได้ทุกเรื่อง ถึงเข้าใจพวกเขาไง
(อันนี้ออเดอร์อาหารผ่านแอฟติดตามรถไฟ)
จากจอร์ดปูร์ แล้วเราก็มาถึง Kalka แล้ววววววววว ความหนาวสุดๆ ต้องคว้าเสื้อมาใส่อีกชั้นเลยละ จ้า เสื้อคอเต่า 3 ชั้น เสื้อคลุม ผ้าคลุม โอ้ยยยยยย ยังหนาวอยู่เลยจ้า เราก็ไปซื้อตั๋วรถไฟ นั่งชั้น 3 ธรรมดาไปอ่ะนะ 2ที่ 100รูปี ตกที่ละ 50รูปี หรือประมาณ 25บาท
มารู้จักชิมลา ก่อน ..............
ชิมลา เป็นเมืองหลวงในรัฐหิมาจัล
ชิมลา เป็นเมือง หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนหุบเขา ทั่วทั้งเขา .............
ชิมลา ได้รับขนานนามว่า เป็นราชินีแห่งขุนเขามานานแล้ว.......... หลายคนอาจจะรู้สึกว่า เห้ย เลห์ ลาดัก เขาสวยกว่า ทำไมไม่ได้รับขนานนาม ต้องบอกก่อนว่าความ อเมชิ่ง ของชิมลามันมีมานานแล้ว ที่อเมชิ่ง สุดๆสำหรับเราก็ตัวอาคาร บ้านเรือนของเขา แล้วมันก็ตั้งอยู่บนหุบเขา ท่ามกลางป่าสน เทือกเขา สวยและธรรมชาติมากๆ ดังนั้นมันก็เหมาะแล้วที่เขาจะได้รับสมยานามนี้
ชิมลามีอากาศเย็นสบายตลอดปี ในหน้าหนาว หนาวจิง แต่สวยมาก อุณหภูมิในหน้าหนาวอยู่ที่ -3 ถึง 6 ในช่วงที่เราไป คือธันวาคม กลางวัน 3-6องศา กลางคืน 1 องศา ถึง ติดลบจ้า
และแล้วเราก็มาถึงชิมลา........ และแท็กซี่ก็รุมเราหนักมาก จนเราฟิวขาด จริงๆ ทริปนี้เราฉุนเฉียวหนักมาก คือเรามีแฟนเป็นคนอินเดียก็จะซึบซับนิสัยมันมา (โทษมันอีก) แฟนเราเคยบอกว่า ไม่ไปก็ปฏิเสธให้ขาด อย่าทำเสียงนุ่มนิ่มแบบนี้ ไม่เอาไม่ซื้อไม่ไปไม่รับบริการเขาปฏิเสธให้ขาด อย่ามาทำเสียงนุ่มๆ ทำท่าเกรงใจ เราก็เลยจะเสียงแข็งๆหน่อยๆ เหมือนคนพร้อมไฝว้ตลอดเว ฮ่าๆ
อย่างที่ชิมลาคือ " ไอเซด ไอ ด็อนท์ วอน แท็กซี่!!!!" เสียงสูงเลยละ
แท็กซี่ คนดังกล่าว : โอ้วววววววว วาวววว (แล้วถอยกรูออกไปเลย)
หรือบางทีจะ ก็ โน!!! หนักๆคำเดียว จบ หรือ ไอเซด โน ย้ำๆ หนักๆกะเขาหน่อย คนมาขอทาน สภาพเขาก็น่าสงสารแหระ แต่เราก็สงสารตัวเรามากกว่าไงคือเงินมีจำกัดอ่ะ แล้วถ้าให้คนนี้ คนนู้นมองอยู่ไกลๆนู้นล่ะ เราก็จะ โน ไอเซโน แล้วผายมือเชิญเขาไปเลย (ใจร้ายมั้ย TT.TT )
ก็เนี่ยแหระ ก็ใจร้ายแหระ แต่ไม่อยากยื้ดยื้อไง สั้นๆ แต่จบค่ะ ไปต่อ ...........ก็ ไม่ต้องไปไฝว้กับเขาทุกคนหรอกนะ นั้นมันถิ่นเขา แต่ถ้าไม่ไหว จัดไปสักดอกก็ดี จะได้จบๆไป แฟนเราเคยบอกว่า มันไม่ผิด ถ้าเราจะทำปฏิกิริยาแบบนี้ และไดร์เวอร์ควรเข้าใจว่า ถ้าคนต้องการ คนเราก็จะไปหาเขาเอง ไม่จำเป็นต้องมาตอแย เซ้าซี้แบบนี้ ถ้าเป็นแฟนเราเขาจะ เสียงดังใส่ทุกเคสเลยละ นิ่งสุดก็แค่ ไม่พูดแต่มองหน้าคนขับตุ๊กๆพวกนั้นนิ่งๆ นางเคยรั่วสาดภาษาฮินดียาวๆ ใส่เหล่าไดร์เวอร์ด้วยนะ นี้ก็ซึมซับมาไง ฮ่าๆ
ชิมลาถูกก่อตั้งในช่วงที่ อังกฤษ เข้ามาครอบครองอินเดีย ดังนั้น ถ้าอยากไปยุโรปแต่บัทเจ้ทไม่ถึง มาที่นี้แทนได้เหมือนกัน สาวๆหนุ่มๆ ที่นี้ แต่งตัวกันแบบ สายฝอมากๆ เลย มีความรู้สึกว่าคล้ายๆยุโรปเลยละคะ อังกฤษเริ่มสร้างชิมลาช่วงทศวรรษที่ 1820 และนับจากนั้นที่นี่ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยือน “ราชินีแห่งขุนเขา” เพื่อรับอากาศเย็นและความงดงามของธรรมชาติ ใครที่คิดจะมาที่นี้ มีสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ คือมันอยู่บนเขา และมันไม่มีตุ๊กๆ มันมีแต่แท็กซี่ ถ้าเงินหนา ก็ไปแท็กซี่ได้เลย แต่ถ้าไปแบบ ประหยัดเน้นกินแบบเรา ก็เดิน ......
จะเดิน ไปฟิตร่างกายมาด้วย มันเดินไต่เขาอ่ะนะ ขึ้นที่สูง พกขวดน้ำไว้จิบด้วยนะคะ เดินขึ้นก็เหนื่อยแล้ว แล้วขึ้นที่สูงออกซิเจนต่ำ เหนื่อยง่ายมากๆ ก็ฟิตๆมาหน่อย จะได้เที่ยวสนุก เราก็เน้นเดินเอานะ ที่นี้ส่วนใหญ่ เดินไปเดินมา โผล่ซอยนั้นซอยนี้สุดท้ายทะลุถึงกันหมด เที่ยวง่ายมากๆ เดินง่ายมากๆ ขอแค่แรงมี สนุกชัวร์
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบอาหารอินเดียมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อารมณ์คนไทยชอบยี้อาหารเขานี้ไม่มีเลย ไม่เข้าใจว่ามันไม่อร่อยตรงไหน ฮ่าๆๆๆ แล้วแต่คนชอบเน๊อะ แต่ไม่สนับสนุนให้ยี้ทั้งๆที่ไม่เคยลอง คนที่ลองแล้วแต่ไม่ไหวอันนี้อย่างน้อยเขาก็ลองแล้วไง ไม่ได้รับหูรับตาอคติคิดลบตัดสินจากคำพูดคนอื่นนะ
แลนด์มาร์คของชิมลาก็คือ The Ridge ไปให้ถึง เดินไหนก็เดิน เดินไม่ไหวก็นั่งแท็กซี่ไป ชิมลาไม่มีตุ๊กๆนะจ้ะ ข้างบน คือฟิวยุโรปมาก ว่าแล้ว มาชมภาพ The Ridge กัน มันเป็น สันเขาที่รวมทุกอย่างอยู่บนนั้น ชิมลาเป็นเมืองที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามและสถาปัตย์กรรมแบบนีโอโกธิค แบบฉบับอังกฤษ สวยมากกกกกก ไม่รู้จะพูดอะไร คือมันสวยอ่ะ
เดินลงจาก The Ridge กลับที่พัก ฟ้าสวยมาก
แล้วก็เดินขึ้นไปใหม่ เพื่อชมบรรยากาศยามค่ำคืนสวยสุด เกิดคำบรรยาย
เต็มอิ่มสุด เพราะ นี้คือเมืองที่อยากมาที่สุด ตั้งใจมาที่สุด ทำทุกทางเพื่อให้ได้มา ใช้เวลาเยอะที่สุด มันก็เลยแน่นๆแบบนี้แหระ คนมันเยอะมั้ย ก็ไม่เท่าไรนะ ดูเหมือนคนเดินกันเยอะแยะ แต่มันสงบมากนะ มันชิว มันเพลิน มากๆ อ่ะ ใครมีเวลา ก็แพลนเลยต่อไปมนาลีเลยนะ นั้นก็เจ๋งเหมือนกัน แต่เราไม่มีเวลาแล้ว เราจึงกลับเดลี ในวันที่ 9 ธันวาคม ก็นั่งรถไฟกลับ ทั้งทริปเราไปด้วยรถไฟหมด เพราะรถไฟอินเดียไม่เหมือนอย่างที่คนไทยคิด รถไฟเขาดี ล้ำมากๆ ความปลอดภัยมี แอฟติดตามรถไฟมี ทุกอย่างมี ในแบบที่ไทยไม่มี ย้ำนะว่าเราไปมาทุกคลาสแล้วยกเว้นเฟิร์สคลาส
นอกจากนี้ในหิมาจัลก็ยังมีเมืองสวยใกล้เคียงอีก เช่น มนาลี กุลลู ดารัมซาร่า ฯลฯ
อินเดียเป็นประเทศที่ใหญ่มาก ภายในรัฐก็กว้างมากๆ ถ้ามีเวลาเยอะๆ ก็วางแผนเที่ยวทั่วรัฐไปเลย แต่เรามีเวลาจำกัดเลือกได้แค่ 1 เมืองใน 1 รัฐ ขอบอกว่า มนาลีก็สวยมากๆนะ ถ้ามีเวลาจากชิมลาก็ต่อไปมนาลีเลย แจ่มมากบอกเลย
แล้วจะกลับมาใหม่นะอินเดีย เพราะเรารักเธอมากๆเลย ใครจะว่าเธอยังไงเราไม่สน เรารู้ว่าอินเดียเป็นอย่างไร
เรารักของเรา เจอกันใหม่ทริปหน้านะ
ขอบคุณทุกคนนะที่อ่านมาถึงตรงนี้
และของฝากเพจไว้ด้วยนะจ๊ะ > แบกกล้องชิว เที่ยวไปเรื่อย
อัปเดตเพิ่มปี 2565 พอดีมีเวลานั่งทำคลิปรีวิวเลยแวะมาแปะเพิ่มค่ะ
หญิงเถื่อน Solo Traveler
วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.40 น.