ปลายฝนต้นหนาวเดือนตุลาคม พาแอ่วเมืองอุบลกันดีกว่า

เมืองดอกบัวงามนี้มีที่เที่ยวสวยๆที่น่าสนใจหลายแห่งเลยค่ะ^^

วิวริมน้ำโขง บริเวณวัดถ้ำคูหาสวรรค์ ถึงอุบลแล้วแวะนมัสการ กราบไหว้สังขารหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ที่ไม่เน่าเปื่อยกันก่อนค่ะ

วัดถ้ำคูหาสวรรค์ วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง อยู่อำเภอโขงเจียม ติดริมน้ำโขง ไม่ไกลจากผาแต้มค่ะ

เดินลงไปยังถ้ำเพื่อสักการะธาตุขันธ์ของหลวงปู่ได้ค่ะ

ร่างของหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อยเป็นที่เคารพของชาวไทยและชาวลาวค่ะ

พระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ

พระธรรมเจดีย์ศรีไตรภูมิ มีรูปทรงของเจดีย์เป็นทรงแปดเหลี่ยม สีขาวทั้งหมด ส่วนยอดมีเก้ายอด เป็นสีทองเหลืองอร่าม กลางห้องโถงมีพระพุทธรูปปางสมาธิ คือ พระพุทธชิโนดมบรมโรคเชษฐ์ และในเรือนธาตุมีพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราช

พระพุทธชิโนดมบรมโรคเชษฐ์

ภายในวัดสามารถชมทัศนียภาพริมแม่น้ำโขงและภูมิประเทศฝั่งสปป.ลาวได้สวยงาม

ในวัดมี "ฆ้อง AEC" ที่ ใหญ่ที่สุดในโลก ฆ้องนี้ใช้เสาสูง 26 เมตร รัศมีฆ้อง 10 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 20 เมตร น้ำหนัก 18,000 กิโลกรัม เสาหลักที่ใช้สร้างฆ้องก่อสร้างทิ้งไว้ถึง 2 ปี เพื่อให้เสาแข็งแรงค่ะ

ไปต่ออุทยานแห่งชาติผาแต้มกันค่ะ ไม่ไกลจากวัดประมาณ 19 กิโล

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านหนองผือน้อย ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ห่างจากตัวเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ 95 กิโลเมตร มีพื้นที่กว่าสองแสนไร่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น เสาเฉลียง อยู่ก่อนถึงผาแต้มประมาณ 1 กิโลเมตรค่ะ

เสาเฉลียง หรือ Rock Pillar ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม เป็นเสาหินทรายยุคจูแรสซิก รูปทรงคล้ายดอกเห็ดบาน พบกระจายอยู่ตามลานหินในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จากการกัดเซาะจากน้ำและกรวดที่ลมพัดพามาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายล้านปี

ประติมากรรมธรรมชาติเสาเฉลียง หินที่มีความคงทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่าจะคงเหลืออยู่มากกว่า

ผาแต้ม เป็นหน้าผาสูงชันที่มีความสวยงามตามธรรมชาติ เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และยังเป็นจุดที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นแหล่งทางโบราณคดีที่สำคัญของภาคอีสาน คำว่า “แต้ม” ในภาษาถิ่นดั้งเดิมหมายถึง รอยวาด ระบาย ประทับ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ โดยใช้สี ให้ปรากฏเป็นรูปภาพ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ

ค่าเข้าชม คนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาทค่ะ

บริเวณผนังหน้าผาด้านล่าง ปรากฏภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์เรียงรายอยู่ประมาณ 300 ภาพ

ภาพเขียนสีที่ยังมองเห็นได้เด่นชัดอยู่บริเวณภาพเขียนกลุ่มที่ 2 ค่ะ

ภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์มีอายุไม่ต่ำกว่า สามถึงสี่พันปีแล้วค่ะ

มาอุบลคงพลาดวัดเรืองแสงไม่ได้นะคะ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือนิยมเรียกกันว่า วัดเรืองแสง ตั้งอยู่ที่ อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง โดยจำลองสภาพแวดล้อมของป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศไว้ บริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า จุดเด่นของวัดคือ การได้มาชมภาพเรืองแสงของต้นกัลปพฤกษ์ที่เป็นจิตรกรรมอยู่บนผนังด้านหลังของอุโบสถในยามค่ำคืนค่ะ

ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว

ต้นกัลปพฤกษ์ ยามค่ำคืนจะเรืองแสงสวยงาม ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาชมและถ่ายภาพต้นกัลปพฤกษ์ คือตั้งแต่เวลา 18.00 -20.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้มองเห็นต้นไม้เรืองแสงค่ะ

พระประธานมีความงดงาม มีการแกะสลักไม้เป็นต้นโพธิ์อยู่ด้านหลังพระประธานสวยงามมากค่ะ

ฝากเพจด้วยนะคะ^^ ไปแอ่วกัน FUN TRIPS