ก่อนจะเข้าช่วง High season เคยคิดเล่นๆว่า ถ้ามีหนังสือดีๆสักเล่ม
เอาไว้ไปนอนอ่านที่ริมทะเลก็คงจะดี ได้ยินเสียงลมฝน สลับกับ กิ่งก้านใบของต้นมะพร้าวกระทบกัน
มันคงจะเพลินดีไม่น้อย แต่เอาเข้าจริง นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ที่เราจะไปกระบี่อีกครั้ง
เราวางแผนไว้นิดหน่อย ดำน้ำ เที่ยวเกาะ ส่วนใหญ่ก็ไปมาหมดแล้ว รอบนี้ เอาแบบชิวๆแล้วกัน
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลางานแล้วจองตั๋วเครื่องบินเหอะ
.
.
.
ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))
PageFacebook : https://www.facebook.com/Workingdaysareover/
.
.
.
วางแผนจองตั๋วเครื่องบินกันดีล่ะ รอบนี้เราไปกับ Thai Smile
ราคาไม่ได้แพงไปกว่า สายการบินอื่นๆมากเท่าไหร่หรอกฮะ ถ้ายอมแลกกับของว่างนิดหน่อยกับที่นั่งที่กว้างขึ้น
(จริงๆ เราเห็นแก่กินแหละ) แต่ช่างมัน จริงๆไม่ใช่อะไรเลย เราจองช้าไปหน่อย อันอืนมันเต็มหมดแล้ว 55555555


.
.
.
.
เราว่ากระบี่ มันมีเสน่ห์ในตัวของมันเองนะ ภูเขาที่สลับกับ ต้นมะพร้าว และหลังคาบ้าน
หันไปทางไหน มันก็ดูจะมีแต่ธรรมชาติไปซะหมด บวกกับช่วงที่เราไป
มีฝนตกปอยๆยิ่งทำให้บรรยากาศ ดูร่มรื่น และเย็นยิ่งกว่าปกติเสียอีก
นั่งรถประมาณ 30 นาที ก็ถึงที่พักแล้ว ครั้งนี้เราเลือก Beyond Resort Krabi
ตามรีวิวที่เราได้หาข้อมูลมาแล้ว โรงแรมนี้จัดเป็นโรงแรมหลายดาวเลยแหละ
แต่ไม่รู้ว่ากี่ดาว 5555555 หวังว่าคงจะหมดกับการอ่านหนังสือของเราจริง
บียอน รีสอร์ท กระบี่
98 หมู่ 3 ตำบล หนองทะเล, หาดคลองม่วง, จังหวัดกระบี่
โทร: 075 628 300
เว็บไซต์: www.katagroup.com/beyond-krabi
เฟซบุ๊ค: https://www.facebook.com/BeyondResortKrabi/
IG: https://www.instagram.com/katagroupresorts/

.
.
.
.
.
เดี๋ยวจะพาเดินชมรอบๆโรงแรมนะฮะ เริ่มตั้งแต่ภายในก่อนแล้วกัน
ที่นี่มีลักษณะเป็นตึก เราเดินเข้ามา Lobby จะอยู่ที่ชั้น 5
สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากชั้นนี้เลยฮะ จะบอกว่าเว่อวังอลังการมาก

.
.
.
.
.
check in เสร็จสับ ก็ได้เวลาไปชมห้องพักกันแล้ว
ห้องพักของเราอยู่ที่ ชั้น 4 ขึ้นลิฟท์ลงมาชั้นเดี่ยวเอง
เป็นห้องแบบ ดีลักซ์ซีวิวรูม ห้อง 1406 จำได้แม่นเลย
เราเลือกเตียงนอนเป็นเตียงใหญ่เตียงเดียว หรือใครจะสะดวกแบบเตียงเล็กแยกกัน
ทางโรงแรมก็มีให้บริการเหมือนกันนะฮะ ส่วนโซฟาอันใหญ่ข้างเตียงนี้ ได้เหมือนกันทุกห้องเลย
ภายในตกแต่งด้วยไม้โทนสีเข้ม ทั้งผนังและพื้น ตัดกับเตียงสีขาวนุ่มฟูอยู่กลางห้อง
หันไปดูอุปกรณ์ต่างๆ ก็ครบครัน ไดร์เป่าผม ไฟฉาย รองเท้าแตะ และตู้เซฟ
ภายในห้องน้ำก็มีการจัดเรียงอุปกรณ์ ไว้อย่างเรียบง่าย ทั้งสบู่ ยาสระผม
และที่ชอบมากๆเลย คือมีโลชั่นให้ด้วย เพราะมันเอาขึ้นเครื่องไม่ได้ ห๊าาาหห้าาาหาาา
รวมไปถึงผ้าขนาดต่างๆ
ภายในห้องมีเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ สำหรับ ดื่มกาแฟ หรือชาตอนเช้าๆ
ลองคิดภาพดูสิ !! คุณแค่ล้มตัวลงนอน คุณก็สามารถมองเห็นทะเลได้เลย

.
.
.
.
.
ไปดูวิวตรงระเบียงกันบ้างดีกว่า ห้องที่เราพัก เป็นห้องพักชั้นบนสุดเลยแหละ
วิวที่เราจะเห็นนั้น ต้องไม่กระจอกแน่นอน ว่าแล้วก็เปิดม่านกันเลย
มองไปด้านล่างจะเป็นสระว่ายน้ำของโรงแรมครับ แบ่งเป็นสระเด็ก สระผู้ใหญ่
ขนาดของสระน้ำ ยาวเท่ากับของตึกที่เรายืนอยู่เลย
พอมองออกไปด้านหน้า จะเห็นวิวทะเล ไกลสุดลูกหูลูกตา ตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้ากับเมฆคล้ำๆนิดหน่อย
พอดีช่วงที่เราไปเจอพายุเข้าพอดี

.
.
.
.
.
แอบสั่งข้าวขึ้นมากินกันช่วงบ่ายๆ อาหารอร่อยใช้ได้เลยฮะ
แต่ราคาก็แอบแพงแหละ ตามมาตรฐานดาวของโรงแรม

.
.
.
.
.
หลังจากที่พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ก็ได้เวลาไปสำรวจสระว่ายน้ำกันแล้ว
อย่างที่เราบอกเลย สระว่ายน้ำที่นี่ใหญ่เท่ากับตึกที่เรายืนอยู่ เป็นไงละ ไม่ผิดหวัง
น้ำสีฟ้าคลามสดใส ตัดกับสีเขียวของต้นไม้รอบๆสระ
มันช่างเป็นวันพักผ่อนที่แสนจะสดชื่นดีจริงๆเลย
แอบมองขึ้นไปเห็นหลังคาของโรงแรม เป็นลักษณะรูปโค้ง
เราเดาว่า น่าจะดีไซด์ให้เสมือนเรานอนอยู่ในทะเล มีเกลียวคลื่นม้วนอยู่ด้านบน


.
.
.
.
.
เดี๋ยวไปเดินดู ชายหาดรอบๆโรงแรมบ้างแล้วกัน
พนักงานเตือนไว้ตอนเข้าพักว่า ที่นี่มีก้อนหินค่อนข้างเยอะ บวกกับเรือที่แล่นไปมา
ถ้าจะเล่นน้ำทะเล ให้เล่นในกรอบที่มีถุ้นล้อมไว้ให้ จะปลอดภัยกว่ามากๆ
ที่นี่ก้อนหินเยอะจริงๆแหละครับ แต่ธรรมชาติก็ยังสมบูรณ์อยู่มาก
มีสัตว์เล็กๆวิ่งอยู่บนชายหาด ทั้งปู ทั้งหอย

.
.
.
.
.
เดินถัดมาทางขวาสัก 400 - 500 เมตร คุณจะเจอทะเลแหวกเล็กแอบซ่อนอยู่
จริงๆแอบเดาเอาเองแหละว่า เกาะเล็กๆที่เ็นอยู่นี้ น่าจะเป็นที่หลบลม เวลาวิ่งเรือ
สังเกตได้จาก เรือที่จอดเทียบกันอยู่หลายสิบลำ
มีโขดหินสวยๆน่าถ่ายรูปอยู่ด้วยแหละ อย่าลืมเอานางแบบไปถ่ายรูปกันด้วยละ

.
.
.
.
.
ตัดมาที่ช่วงเย็นเลยแล้วกันฮะ หลังจากที่อาบน้ำเตรียมตัวกันเสร็จสับ
ก็ได้เวลาอาหารค่ำขอวันนี้ เราจองโต๊ะกันไว้เวลาประมาณ 1 ทุ่ม
เป็นร้านอาหารของโรงแรมนี่แหละฮะ ชื่อ @Beach Bar & Restaurant
มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ใครที่อยากรับลมทะเลก็เลือกโต๊ะริมหาด
เลือกกันได้ตามถนัดเลยฮะ (แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่กันริมหาดเนี่ยแหละ555555)
พอลงมาก็เห็นสภาพโต๊ะเป็นแบบแล้ว นี่เราเป็นเจ้าใหญ่นายโตมาจากไหนเนี่ย
อารมณ์แบบ Dinner ใต้แสงเทียนแบบจริงจัง 555555
" รายการอาหารแบบสุดพิเศษ 4 รายการ "
- Avocado & crab meat salad -
- Asparagus Cream soup -
- Grilled Salmon -
- Tiramisu -
เดี๋ยวไปอธิบายต่อด้านล่างนะฮะว่าแต่ละอย่างพิเศษยังไงบ้าง


.
.
.
.
.
มาเริ่มเมนูแรกกันเลย เมนูนี้ชื่อว่า Avocado & crab meat salad
เป็นอโวคาโดคลุกเคล้าผสมกับครีมซอส รองก้นและท๊อปปิ้งด้วยเนื้อปูสดๆแน่นๆ
โรยด้วยคาเวียร์ 2 สีตัดกัน สีส้มกับสีแดง แซมด้วยซอสอโวคาโด
เมล็ดทับทิม เพื่อตัดเลี่ยนนี่เป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ที่อิ่มเอาเรื่องเลยแหละ 55555555555555

.
.
.
.
.
ถัดมา รายการที่ 2 Asparagus Cream soup
เป็นซุ๊ปที่ใช้หน่อไม้ฝรั่งปั่นรวมกับครีมซอส และวิปปิ้งครีมตัดด้วยขนมปังกระเทียมแก้เลี่ยน
รสชาดจะออกเค็มๆนิดๆ พอให้เรียกน้ำย่อยได้ดี

.
.
.
.
.
ถัดมารายการที่ 3 Grilled Salmon (เมนูที่รอคอย55555)
อย่างชื่อเลยฮะ เนื้อปลาแซลม่อนชิ้นใหญ่ ย่างสุก
เคียงด้วยหน่อไม้ฝรั่งท๊อปปิ้งด้วย แครอท ถั่วแดง ถั่วลันเตา ผัดรวมกัน
มีเครื่องเคียงเป็นมันบดและผักโขม (อร่อยมากอันนี้ต้องมาลอง)

.
.
.
.
.
สุดท้ายเป็นของหวานแล้วแหละ จริงๆกินแทบไม่ไหวแล้วอะ55555555
จานนี้ชื่อ Tiramisu เดาว่าหลายคนคงเคยกินกันมาแล้วครีมรสกาแฟนุ่มมากเลย
ตัดกับสตอเบอรี่รสเปรี่ยวเป็นอาหารจานสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลย

.
.
.
.
.
หลังจากพักผ่อนกันเต็มอิ่ม นอนฟังเสียงคลื่นอย่างเพลิดเพลิน ก็ได้เวลากินอีกแล้ว
ทริปนี้ มันทริปกินชัดๆ อาหารเช้ามาวางอยู่ตรงหน้าแล้ววววววว
นี่มันสวรรค์กลางทะเล 555555555
อาหารเช้าของที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์นะครับ เริ่มตั้งแต่ 06.30 - 10.30 น.
ห้องอาหารจะอยู่ที่ชั้น 1 ข้างๆกับร้านอาหารที่ทานเมื่อคืนแหละครับ
ที่นี่มีอาหารให้เลือกมากมายเลยแหละ เดี๋ยวจะโชว์สิ่งที่เรากินไปก่อนเลยแล้วกัน

.
.
.
.
.
เดี๋ยวจะไปเดินเล่นในโซนอาหารเช้ากันนะฮะ
ที่นั่งทานอาหารจัดไว้พร้อมสรรพ สไตล์บูทิค ประมาณ 40 - 50 โต๊ะ
โซนของคาว มีทั้งหารไทย พวกแกงเขียวหวาน ผัดผักบุ้ง ข้าวผัด รวมถึงพวกข้าวต้ม
อาหารฝนชรั่งก็คงอย่างเราที่รู้กัน ก็พวก แฮม ไข่ดาว เบคอน
พวกอาหารเช้าแบบเด็กๆซีเรียลใส่นมแบบต่างๆ มีเติมกันแบบไม่อั้น

.
.
.
.
.
ข้ามไปทางของหวานและผลไม้กันบ้างดีกว่า
ของหวานที่นี่จัดไว้เป็นโซนอย่างเป็นระเบียบ มีทั้งพวกผลไม้
ขนมปังแบบต่างๆ แยมทั้งแบบผลไม้ และเนยทาขนมปัง เลือกกินกันให้ท้องแตกตายไปเลย

.
.
.
.
.
วันนี้เรามีทริปพิเศษนิดหน่อย เราจองทริปทัวร์พายคายักไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
แต่อากาศก็แอบไม่เป็นใจนิดหน่อย มีฝนตกตลอดตั้งแต่เราออกจากโรงแรม
จนใกล้จะลงน้ำแล้วฝนก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดตก แต่ฝนตกคราวนี้ก็อาจจะเป็นข้อดีก็ได้
เพราะคนที่ไปกับเราในรอบนี้มีไม่ถึง 10 คนเลย เรียกว่า Privat แบบสุดๆ
แอบถามว่าตอนคนเยอะๆนี่ เกือบ 50 คนเลยแหละในแต่ละรอบ
เรามาถึงท่าเทียบเรือประมาณบ่าย 2 ไกด์ใจดีมากครับ พูดคุยเป็นกันเอง
หลังจากแนะนำอุปกรณ์ บวกกับวิธีพายเรือต่างๆเสร็จสับ ก็ได้เวลาลงน้ำกันแล้ว
ลุยกันไปแบบฝนตกๆเนี่ยแหละ ในใจคิดว่ามันก็คงให้อารมณ์อีกแบบ
เปียกๆ เย็นๆ แทนที่จะร้อนเหมือนทุกครั้งที่เคยพาย

.
.
.
.
.
ไกด์พาเราพายเรือ ไปหาภูเขาฝั่งตรงข้าม ช่วงแรกๆเราจ้ำอย่างหนักหน่วง
แต่ได้แค่แป๊บเดียวแหละ สัก 10 นาทีก็หมดแรงแล้ว
แต่ต้องบอกเลยฮะ ว่าวิวสวยมากก คือถ้ามาตอนฝนไม่ตก ก็คงไม่ได้วิวแบบนี้แน่ๆ
คิดไม่ผิดเลยแหละที่ยอดมาตอนนี้ ไม่ต้องกลัวว่า ของที่เตรียมมาจะเปียกกันนะ
ที่นี่จะมีถุงกันน้ำให้เรา 2 ต่อ 1 ถุงแต่สำหรับของใหญ่ๆ ก็ฝากไว้ที่ฝั่งได้นะครับ
จะมีห้องเก็บของไว้อยู่แต่แนะนำว่า ของมีค่าทั้งหมด เอาติดตัวไปแหละฮะ ปลอดภัยที่สุด

.
.
.
.
.
ไกด์จะพาเราพายเรียบภูเขาไปเรื่อยๆ และคอยหยุด Check point ตามจุดต่างๆ
เรานี่รั้งท้ายตลอดเลย แปลกแฮะ ทั้งๆที่เราเหมือนจะออกแรงเยอะกว่าด้วยแท้ๆ5555555
แต่มันได้อารมณ์แบบ ป่าเขียวๆ ชื้นๆ ดีมากๆเลยแหละ บางคนเตรียมเสื้อกันฝนมาเองนะครับ
ที่นี่ไม่มีให้แต่เราว่า ใส่ไปก็ไม่รอดหรอก ยังไงก็เปียก ลุยๆไปเหอะ แป๊บเดียว

.
.
.
.
.
พายมาได้สักพัก ไม่รู้เหมือนกันว่าไกลเท่าไหร่แล้ว ก็มาเจอกับภูเขาสูงตระหง่านตรงหน้า
เราต้องภายเข้าไปตรงนั้น อารมณ์เหมือนดูหนังเรื่อง Pirates of Caribbean
แต่ถึงยังไง ฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกเลยสักนิ๊ด
แต่ช่างมัน เรารู้สึกว่า ตอนนี้มันส์มากเลย ใครมาตอนฝนไม่ตกแหละ พลาดมากๆ

.
.
.
.
.
พายมาได้ไกลพอสมควร เราก็พบกับป่าโกงกาง เราพายขยับเข้าไปเรื่อยๆ
เสียงเงียบๆ สลับกับเสียงพายกระทบน้ำ ไปดูรูปเหอะ อธิบายไม่ค่อยถูก 5555555555

.
.
.
.
.
แต่เรามาครั้งนี้โชคไม่ดีนิดหน่อย เพราะว่าน้ำลด ทำให้เราไม่สามารถพายเรือไปรอบเกาะได้
เราเลยต้องพายกลับไปทางเดิม 555555 แค่คิดก็เมื่อยแขนซะแล้ว
แต่ขากลับโชคเข้าข้างเราแล้ววว ฝนหยุดตก ฟ้าเริ่มเปิด ได้เห็นธรรมชาติชัดเจน

.
.
.
.
.
ขากลับก็ออกมาทางเดิมแหละครับแต่ดีหน่อย ที่ฝนหยุดแล้ว
เราเลยเอากล้องใหญ่ขึ้นมาถ่ายได้แต่จะถ่ายตลอดก็ไม่ได้ เพราะไม่มีคนพายสรุป
เราก็รั้งท้ายเหมือนเดิม 5555555555555
พี่ไกด์พาเราแวะพักที่ริมหาดในเกาะๆหนึ่ง ลักษณะเป็นหาดเล็กๆ
มีลิงคอยมองนักท่องเที่ยวอย่างเราอยู่ แถมไม่กลัวคนด้วย

.

.

.

.

.

.
.
.
.
.
ขากลับพี่ไกด์มากระซิบว่า " ขากลับพี่จะพายไวนะ พายไหวไหม "
ตอบตรงๆ ไม่ไหวแล้วพี่ 555555555555
พี่ไกด์เลยใหเราไปนั่งด้วยกัน แล้วเอาเรือเราไปพ่วงท้าย (เหมือนในภาพ)
แต่เรายังมีหน้าที่ช่วยพายอยู่นะ แต่ไม่เยอะหรอก แอบอู้ถ่ายรูปซะเยอะ
ากลับ พายไวมาก แดดก็เริ่มออก วิวสองฝั่งนี่แบบแจ่มโครตๆ
ต้องขอบคุณพี่ไกด์นะครับ ที่ช่วยชีวิตเรา 5555555

เป็นยังไงบ้าง กับกระบี่หน้าฝนแบบนี้
แปลกๆนะ สถานที่เราไป ไม่ว่าบ่อยแค่ไหน แต่เราก็ยังไปหามันอยู่
และก็ยังแปลกอยู่เสมอที่เวลาเรามาเที่ยวทีไร เวลามักจะผ่านไปเร็วทุกที
ยังไม่อยากกับไปทำงานเบยยยยยย555555555
ขอบคุณวันฝนตกที่ทำให้เราได้เจอบรรยากาศใหม่ๆ
ขอบคุณที่พักสุดพิเศษ ที่มอบการพักผ่อนที่แสนสบายให้
ขอบคุณพี่ไกด์ ที่ช่วยเราพายเรือกลับถึงฝั่งมาได้
และขอขอบคุณ กล้องถ่ายรูปของผมทุกตัว ที่รอดฝนกลับบ้านมาได้
.
..
.


ถ้าอ่านแล้วถูกใจ กดLikeเพจให้ด้วยนะครับ :- )))
PageFacebook : https://www.facebook.com/Workingdaysareover
.
.

ปล.ติชมได้นะครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ


.........................................................




ความคิดเห็น