หลังจาก ทริปตามหาน้องโลมากับเกาะ Unseen แห่งอันดามันเมื่อปีที่แล้วผมก็ยังติดอกติดใจอยากกลับไปนั่งกินลมแบบชิลๆ บนเรือใบอีกครั้ง … พอได้ข่าวว่าทาง Discover Catamaran ได้นำเรืออีกลำมาให้บริการและอยากเชิญให้ไปลองสัมผัสดู … แบบนี้มีหรือที่จะปฏิเสธ อิอิ
ก่อนไปออกทริปกัน ขอฝากช่องทางติดตามผลงานหน่อยครับ
blog :
www.9mot.com
facebook page : 9Mot-Photography
youtube channel : 9Mot-Photography
IG : @9mot
หากชอบก็ช่วยโหวต มีประโยชน์ช่วยแชร์นะครับสำหรับเรือ Catamaran ที่นำเข้ามาประจำการใหม่นี้จะให้บริการลูกค้าไม่เกิน 20 คนต่อทริป มี 2 รอบคือช่วงกลางวันนั้นเรือจะแล่นกินลมชมวิวไปที่เกาะไม้ท่อนและมีอีกรอบที่จะออกช่วงเย็นไป BBQ dinnerกันกลางทะเลภายใต้บรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็นโรแมนติกไปอีกแบบ
การเดินทาง
ครั้งนี้เราต้องไปขึ้นเรือที่ท่า Dolphin pier ในบริเวณของท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขาวซึ่งทริปนี้ยังคง concept เดิมคือไม่ต้องตื่นเช้าเกินไปมีเวลาทานอาหารเช้าก่อนที่จะไปถึงท่าเรือทันตามนัด 9:30 สบายๆ
และเนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางมาที่ท่าเรือ Dolphin ทำให้หลงทางนิดหน่อยเพราะตรงเข้าไปสุดท่าตรงที่เคยเป็น office เก่าของเกาะไม้ท่อนรีสอร์ทเมื่อสมัยก่อนแต่อันที่จริงต้องเลี้ยวที่แยกแรกด้านซ้ายเมือหลังจากเข้าประตูท่าเรือน้ำลึกมาเล็กน้อยซึ่งเมื่อเลี้ยวเข้าไปแล้วขับไปอีกหน่อยก็จะเห็นตัวอักษร Dolphin ติดตรงประตูทางเข้าชัดเจน
เข้าท่าเรือน้ำลึกที่อ่าวมะขามแล้วให้เลี้ยวซ้ายที่แยกนี้
จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายอีกครั้งเมื่อเจอป้าย Dolphin สีน้ำเงิน
ถึงแล้วครับท่าเรือ … เข้าประตูทางด้านขวานะครับสำหรับ Discover catamaran
ท่าเรือนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ถือว่าดูดีทีเดียว ตรงกับ concept ของ discover catamaran ซึ่งต้องการโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่เป็นแบบพรีเมียม สำหรับเรือลำใหม่นี้ .. อย่างไรก็ตามมีบริษัทอื่นๆมาใช้บริการที่ท่าเรือแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นอาจต้องสอบถามให้ดีอย่านั่งรอเฉย ๆ เพราะอาจตกเรือได้ ส่วนคนที่ใช้บริการรถรับ-ส่งโรงแรมที่รวมอยู่ในราคาทัวร์แล้ว ก็ไม่ต้องห่วงในจุดนี้ครับ ส่วนผมขับมาเองก็จอดรถไว้ที่ลานจอดรถใกล้ๆ เท่าเรือนั่นเอง … สำหรับจุดต้อนรับลูกค้าของdiscover catamaran จะอยู่ฝั่งขวามือของท่าเทียบเรือหากหันหน้าออกทะเลครับ
เมื่อได้เวลาออกเดินทางผมกับนักท่องเที่ยวท่านอื่น ๆ ก็ทยอยเดินกันขึ้นเรือซึ่ง catamaran ลำนี้มีพื้นที่พักผ่อนหลักๆ 3 จุดด้วยกันคือบริเวณหัวเรือ, ท้ายเรือและห้องรับรองด้านในซึ่งพื้นที่ขนาดนี้กับปริมาณนักท่องเที่ยวแค่ 20 คนถือว่าเหลือเฟือมากๆและนี่คือข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการท่องเที่ยวด้วย speed boat แบบทัวร์ปกติ เพราะเราสามารถเดินไป เดินมาเพื่อเปลี่ยนวิว หรือเดินถ่ายภาพได้รอบๆ ตัวเรือเลยทีเดียวอีกอย่างการที่เรือมีสองกาบทำให้สามารถลดแรงกระแทกจากท้องเรือได้เยอะเรือจริงแล่นแบบนิ่มๆ ไม่กระเทือน เหมาะมากหากต้องมีผู้สูงอายุหรือเด็กร่วมเดินทางไปในทริปด้วย
เรือลำนี้เป็นแบบ Hybrid เพราะนอกจากสามารถแล่นได้โดยใช้ลมแล้วยังมีเครื่องยนต์ด้วยดังนั้นวันไหนที่ลมสงบ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเล อิอิ
จากท่าเรือน้ำลึกอ่าวมะขามใช้เวลาแล่นแบบกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ราว 1 ชั่วโมงเราก็ถึงเกาะไม้ท่อนซึ่งเรือจะนำเราไปจอดลอยลำเพื่อลงเล่นน้ำชมปะการังที่อ่าวเล็กๆ ฝั่งทิศใต้ของเกาะ …
แล้วระหว่างทางเราก็ได้เจอกับโลมาอีกครั้ง มีหลายตัวเลยทีเดียวแถมมีเจ้าตัวเล็กด้วยเสียดายที่รอบนี้มันไม่ได้มาว่ายน้ำเล่นด้านหน้าเรืออย่างใกล้ชิดเหมือนคราวที่แล้ว แต่แค่นี้ก็ทำให้ผมได้อมยิ้มกดชัตเตอร์แบบรัวๆ แล้ว
เรือวนให้ชมและถ่ายภาพโลมาอยู่พักนึงก็มาหยุดทอดสมอให้เราลงเล่นน้ำซึ่งมีเจ้าเต่าเขียวกับฟลามิงโก้สีชมพูไว้เอาใจเด็กๆ ด้วย(ผู้ใหญ่ก็แอบชอบเหมือนกัน)ส่วนใครจะดำน้ำชมปลาและปะการังก็ตามอัทธยาศัย
เล่นน้ำทะเลเหนื่อยได้ที่ก็ได้เวลาอาหารเที่ยง ซึ่งนอกจากอาหารไทยรสอร่อยแล้ว ยังมี BBQ ที่ปิ้งกันสดๆ อีกด้วยเรียกว่าได้บรรยากาศทะเลแบบสุดๆ
หลังจากมื้อเที่ยงกับวิวงามๆ ของทะเลอันดามันแล้วเรือก็มุ่งไปยังท่าเรือของเกาะไม้ท่อนโดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะลงไปเล่นน้ำทะเลที่บนชายหาด/เดินสำรวจเกาะไม้ท่อน หรือจะนั่งเรือต่อเพื่อชมวิวรอบเกาะทั้งนี้คนที่ขึ้นฝั่งจะมีเวลาราว 1 ชม. ก่อนที่เรือจะวนมารับอีกครั้ง
สำหรับผมแน่นอนว่าขอขึ้นเกาะเพราะไม่ได้มาหลายปีแล้วต้องขอ update หน่อย….เกาะไม้ท่อนวันนี้ต้องบอกว่าชายหาดยังขาว น้ำทะเลยังสวยใสเหมือนเดิม (นี่ขนาดอยู่ในช่วงมรสุมนะ)แต่เนื่องจากทางเจ้าของพื้นที่ยังไม่ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารสถานที่มากเท่าที่ควรทำให้อยู่ในสภาพที่ไม่น่าดูนักมีพื้นที่เพียงบางส่วนเท่านั้นที่ทางบริษัททัวร์ซึ่งได้สัมปทานพาลูกค้าขึ้นเกาะได้ทำการตกแต่งและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกไว้สำหรับบริการลูกค้า
ผมเริ่มจากการสำรวจหาดเล็กๆ ด้านทิศเหนือของเกาะ (หากเดินลงจากเรือ จะอยู่ทางขวาของท่าเรือ) ตรงนี้มีโขดหินใหญ่กับหาดสั้นๆ ให้ลงไปเล่นน้ำได้สำหรับลูกค้ากลุ่มเล็กๆ
ถัดไปอีกด้านของท่าเรือจะเป็นหาดทรายขาวทอดยาวไปหลายร้อยเมตรช่วงต้นจะเป็นอาคารเก่าของรีสอร์ทที่สภาพปัจจุบันไม่เรียบร้อยนักอย่างที่บอกไปแล้ว แต่ส่วนของชายหาดก็มีการนำร่มมาบริการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ... ผมเดินเลียบหาดไปเรื่อยๆ เห็นคนงานกำลังปรับปรุงอาคารห้องพักเก่าที่ผมเคยมาพักเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว อันที่จริงอยากเรียกว่าซ่อมแซมมากกว่าเพราะเหมือนจะยังคงใช้โครงสร้างเดิมๆ มากกว่าที่จะปรับโฉบแบบยกเครื่องอาจเป็นเพราะยังไม่อยากลงทุนกับตรงนี้มากก็เป็นไปได้ ...
แต่เมื่อเดินไปจนเกือบสุดหาด ซึ่งเป็นจุดที่เคยเป็นสระว่ายน้ำอีกแห่งของรีสอร์ทตรงนี้ห้องพักเหมือนจะเป็นแบบที่หรูหราขึ้น และมีการใช้วัสดุตกแต่งที่สวยงามลงตัวเหมาะกับรีสอร์ทริมทะเลมากขึ้นส่วนตัวผมคิดว่าถ้าทางรีสอร์ทลงทุนทำแบบนี้ทั้งหมด ที่นี่จะเป็นหนึ่งในรีสอร์ทริมทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทยเลยทีเดียว
แอบชมบริเวณอยู่ไม่นานนักก็เดินกลับไปขึ้นเรือตามเวลานัดจากจุดนี้ไปก็เป็นการนั่งกลับไปยังท่าเรือซึ่งผมถือโอกาสงีบหลับรับสายลมเย็น ๆ ท้ายเรือให้สมกับเป็นวันพักผ่อนสุดพิเศษ … ทริปนี้ต้องขอบคุณ Discover catamaran อย่างที่สุดที่ชวนมากินลมชมโลมาที่เกาะไม้ท่อนอีกครั้ง … หากเพื่อนๆ กำลังมองหาทัวร์แบบพรีเมียม เดินทางแบบสบาย ๆ ไม่เหนื่อยมาก ได้ชมทะเลสวย ๆ แถมมีโอกาสได้เจอปลามา ก็ต้องบอกว่า Discover Catamaran นี่ใช่เลยครับ …
ปิดท้ายด้วยหาดทรายสวย ๆ ของไม้ท่อนระหว่างที่เดินกลับไปท่าเรือ
สุดท้ายขอสรุปจุดเด่นและข้อสังเกตอีกครั้งของการเดินทัวร์ไม้ท่อนกับ Discover catamaran อีกครั้งนะครับ
จุดเด่น
- เรือมีพื้นที่เยอะเมื่อเทียบกับ speed boatทำให้ไม่อึดอัด และผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เนื่องจากสามารถเดินไปมาเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถได้
- ทานอาหารแบบชิลๆ บนเรือ ได้บรรยากาศมาก และอาหารก็อร่อยด้วย
- เรือ Catamaran จะสามารถซับแรงกระแทกของคลื่นได้ดีกว่าเรือ speed boat ทำให้ไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกของท้องเรือกับคลื่นมากนัก เหมาะกับการพาเด็กและผู้ใหญ่เดินทางร่วมไปด้วยกัน
ข้อสังเกต
- ราคาของทัวร์จะสูงกว่าทัวร์แบบทั่วไปเนื่องด้วยระดับการให้บริการและปริมาณคนต่อกรุ๊ป
- ความเร็วของเรือไม่มากนัก ทำให้ใช้เวลาเดินทางไปยังจุดหมายมากกว่าเรือ speed boat
- ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะพบปลาโลมา ขึ้นกับสภาพอากาศและโชคด้วยนะครับ
ชอบงานภาพถ่ายธรรมชาติก็ follow facebook page ของ 9Mot ได้เลยครับ
นายมด
วันพฤหัสที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10.31 น.