ใครกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างจากเดิม และอยากสัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตาที่งดงามในทุกฤดู นอร์เวย์ คือจุดหมายที่ไม่ควรมองข้าม! โดยเฉพาะเส้นทางสายฟยอร์ดที่เรากำลังจะพาไปสำรวจกัน รับรองว่าจะได้เห็นนอร์เวย์ในมุมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความอลังการของธรรมชาติ ความน่ารักของบ้านเรือนท้องถิ่น และประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน
HIGHLIGHTS
เส้นทางสายนี้จะพาลัดเลาะผ่านฟยอร์ดที่ยิ่งใหญ่อลังการทางฝั่งตะวันตก ได้สัมผัสทั้งหมู่บ้านเงียบสงบที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและเมืองท่องเที่ยวสวยคลาสสิคแบบฉบับนอร์เวย์ เราเลือกเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งดอกไม้ป่ากำลังบานต้อนรับตลอดสองข้างทาง ในขณะที่ยังมีหิมะให้ตื่นตาตื่นใจในโซนภูเขา ... หากพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางไปผจญภัยด้วยกันเลย




บินตรงสู่แดนเหนือ สะดวกสบายกับการบินไทย
เริ่มต้นการเดินทางสู่ดินแดนแห่งฟยอร์ดอย่างไร้กังวลและสะดวกสบายที่สุดกับการบินไทย! สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาต่อเครื่องหลายต่อ การบินไทย มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (BKK) สู่กรุงออสโล (OSL) เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ เวลาบินดี เดินทางสะดวก นอนหลับยาว ๆ สบายตลอดคืน เดินทางไปถึงออสโลในตอนเช้าตรู่และพร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อได้ทันที ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง
สัมผัสประสบการณ์การบริการแบบ Full Service ลูกเรือที่พร้อมดูแลด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่นตลอดการเดินทาง สามารถเลือกที่นั่งและอาหารได้ล่วงหน้า พร้อมบริการเช็คอินสัมภาระที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ สมาชิก Royal Orchid ยังสามารถเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ รอยัลออร์คิด เพื่อพักผ่อนและเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทาง
สามารถเข้าเช็คราคาและเที่ยวบินได้ที่เว็บไซต์การบินไทย คลิก https://bit.ly/TG-Oslo-Norway
เตรียมออกเดินทางกัน

เมื่อเดินทางถึงกรุงออสโลจะพบกับสนามบิน Oslo Airport (Gardermoen) ที่สวยงามทันสมัย และเป็นสนามบินหลักของประเทศนอร์เวย์ ที่นี่มีการคมนาคมที่สะดวกสบายและรวดเร็ว มีระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกับเมืองและจุดท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง ทำให้การเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองหรือไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ เป็นเรื่องง่ายดาย และสำหรับคนที่ขับรถเที่ยวเองแบบเราก็สามารถเลือกเช่ารถจากบริษัทชั้นนำที่สนามบิน Oslo เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายได้เลย

เราชอบดีไซน์ที่ใช้ไม้สนของนอร์เวย์เป็นพิเศษ เรียบหรูดูดีและอบอุ่น

จากสนามบินสามารถต่อรถไฟเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบาย (แต่เราเช่ารถขับจากที่นี่เลย)

เปิดประสบการณ์ฟยอร์ดในทุกฤดู
ฟยอร์ดนอร์เวย์เปรียบดั่งผืนผ้าใบธรรมชาติที่แต่งแต้มความงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาล ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่ว่าจะมาเยือนเมื่อไหร่
ในฤดูหนาว ฟยอร์ดจะถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนราวกับภาพวาด ขับเน้นบ้านเรือนสไตล์สแกนดิเนเวียสีสันสดใสให้โดดเด่นตัดกับความขาวบริสุทธิ์ของหิมะ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงามจับใจ
เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ท้องฟ้าจะสดใส อากาศแจ่มใส เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลาย สามารถสำรวจจุดท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ และสัมผัสความมีชีวิตชีวาของฟยอร์ดได้อย่างเต็มอิ่มเพราะช่วงนี้กลางวันจะยาวนานมาก
ส่วนฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มอบบรรยากาศที่โรแมนติกเป็นพิเศษ ด้วยเฉดสีของใบไม้ที่ไล่เรียงกันอย่างงดงาม อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวก็ไม่หนาแน่นจนเกินไป ทำให้ได้ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความลงตัวแบบเราขอเลือกฤดูใบไม้ผลิ โดยทริปเริ่มช่วงกลางเดือนพฤษภาคม อากาศจะเย็นสบายกำลังดี การเดินทางสะดวกสบายกว่าฤดูหนาวเพราะถนนไม่มีหิมะและเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งเปิดให้บริการอย่างทั่วถึง ดอกไม้ป่านานาชนิดเริ่มผลิบานอวดโฉม และบนยอดเขายังคงมีหิมะให้เห็นเป็นภาพที่งดงาม อีกทั้งราคาที่พักก็ยังคงเป็นมิตร ไม่สูงเท่าช่วงฤดูร้อน
เส้นทางที่เราจะแนะนำนี้จะพาไปสัมผัสเสน่ห์ของฟยอร์ดในเมืองต่างๆ ทางฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์ได้แก่ Aurland, Flåm, Reed, Olden, Geiranger, Hjelle และถนนสาย Trollstigen ซึ่งแต่ละแห่งล้วนมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ และพร้อมเปิดมุมมองใหม่ๆ ของนอร์เวย์ให้ได้ประทับใจตลอดทั้งปี
สำหรับการเดินทางจากสนามบินออสโลสู่เมืองเหล่านี้มีเส้นทางให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบที่เป็นทางด่วนสะดวกสบายหรือจะใช้เส้นทางสายรองที่ธรรมชาติสองข้างทางสวยงามตระการตา ทั้งนี้เราแนะนำให้ทำแผนการเดินทางแบบสัมผัสทั้งสองประสบการณ์ คือขาไปใช้เส้นทางหนึ่งและกลับอีกทาง อย่างกรณีของเราจะใช้ถนนสายรองมุ่งไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่ทิศใต้ก่อน (ถนนสาย 7 และ 52) จากนั้นจึงค่อยๆ ขับเลาะขึ้นไปทางเหนือและกลับสู่ออสโลด้วยทางด่วน (tollway สาย E136 และ E6)
ถนนสายรองที่ผ่านธรรมชาติอันสวยงาม



เมื่อเริ่มเข้าสู่เขตฟยอร์ดวิวก็จะเป็นแบบนี้ หุบเขาด้านล่างคือที่พักของเราในหมู่บ้าน Aurland

และนี่คือเมืองและหมู่บ้านในดินแดนฟยอร์ดของนอร์เวย์ที่เราไปเยือน
Aurland (ออร์ลันด์) เป็นหมู่บ้านแห่งความสงบงามริมฟยอร์ดที่แท้จริง หิมะบนยอดเขาที่ยังคงปกคลุมอยู่บางส่วนค่อยๆ ละลาย เผยให้เห็นผืนดินที่เขียวขจี อากาศยามเช้าที่สดชื่นและเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่นเลียบฟยอร์ด สูดอากาศบริสุทธิ์ หรือขับรถขึ้นเขาชมวิวอันกว้างใหญ่ไพศาลของ Aurlandsfjord ที่ยังคงความเงียบสงบและบริสุทธิ์ การได้เห็นบ้านเรือนสไตล์นอร์เวย์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม พร้อมดอกไม้เล็กๆ เริ่มผลิบานตามริมทาง สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าประทับใจไม่รู้ลืม
ทริปของเราพักใกล้หมู่บ้านแห่งนี้ 2 คืนเพื่อใช้เป็นฐานในการท่องเที่ยวเมืองข้างเคียง



Flåm (ฟลอม) เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวซึ่งใช้รถสาธารณะในการเที่ยวแถบนี้ภายใต้เส้นทางที่ชื่อ Norway in a nutshell ส่วนคนที่ขับรถเที่ยวเองแบบเราก็ไม่มีข้อยกเว้น ต้องแวะมาเยือนที่นี่เช่นกัน ฤดูใบไม้ผลิของที่นี่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาหลังจากฤดูหนาวอันยาวนาน ดอกไม้ป่านานาชนิดเริ่มอวดโฉมตามริมทางเดิน เพิ่มสีสันสดใสให้กับทิวทัศน์โดยรอบ การเดินทางด้วยรถไฟสาย Flåm Railway ในช่วงนี้จะเผยให้เห็นทัศนียภาพอันตระการตาของหุบเขาที่เขียวขจีตัดกับยอดเขาที่ยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่ และสายน้ำที่กำลังไหลเอ่อล้น ทำให้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับธรรมชาติที่กำลังฟื้นคืนชีพอย่างเต็มที่
ศูนย์รวมนักท่องเที่ยวจะอยู่บริเวณท่าเรือซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางด้วยรถไฟ, บัสและเรือ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆ มากมายรวมไปถึง museum ที่รอนักท่องเที่ยวไปเยือน ... หากใครต้องการชมวิวมุมสูง สามารถเดินลัดเลาะขึ้นไปบนเนินหลังเมือง ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็จะได้ชมทัศนียภาพตระการตาของเมือง Flåm คู่กับความยิ่งใหญ่ของฟยอร์ดแล้ว
วิวมุมสูงของฟลอม ต้องออกแรงกันนิดหน่อย


บรรยากาศบริเวณท่าเรือคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและร้านค้าต่างๆ


ลึกเข้าไปด้านหลังเนินเขาคือเขตที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่นที่เงียบสงบ และรายล้อมด้วยธรรมชาติสุดอลังการ


Bergen (เบอร์เกน) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่คึกคักของนอร์เวย์ อาคารไม้หลากสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของย่าน Bryggen ตัดกับท้องฟ้าสีครามสลับเทา สร้างบรรยากาศที่คลาสสิกแต่ก็สดใส ดอกไม้ในสวนสาธารณะและตามระเบียงบ้านเริ่มเบ่งบานอวดความงาม ทำให้เมืองมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น แม้จะมีฝนโปรยปรายลงมาบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเบอร์เกน แต่ก็ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกให้กับการเดินสำรวจตรอกซอกซอยเล็กๆ หรือการนั่งเรือชมวิวฟยอร์ดรอบๆ เมือง
บรรยากาศดอกไม้บานที่สวนสาธารณะในเมืองเบอร์เกน

บ้านเรือนที่ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยบนเชิงเขา

ไฮไลต์คือบ้านไสตล์แสกนดิเนเวียสีสันสดใสริมท่าเรือ


บรรยากาศของเมือง


มาที่นี่แล้วหลายคนไม่พลาดที่จะเที่ยวชมและลิ้มลองซีฟู้ดสดๆ ที่ตลาดปลาซึ่งตั้งอยู่บริเวณท่าเรือกลางเมือง ทั้งนี้มีร้านทั้งแบบที่เป็นเต้นท์เรียงรายเหมือนเดินในตลาดนัดบ้านเรา หรือแบบหรูหน่อยที่อยู่ในอาคารเหมือนร้านอาหาร โดยเมนูมีให้เลือกสั่งได้อย่างหลากหลาย ถึงแม้ราคาจะแรงหน่อยแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าทีเดียว


Reed (รีด) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ และในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะเผยความงามที่เงียบสงบอย่างแท้จริง หิมะบนภูเขาสูงเริ่มละลายลงช้าๆ เผยให้เห็นผืนป่าที่เขียวชอุ่มและทุ่งหญ้าที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง อากาศที่เย็นสบายและบริสุทธิ์ชวนให้เดินเล่นตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติรอบๆ หรือเพียงแค่นั่งพักผ่อนริมทะเลสาบ Breimsvatn ที่สะท้อนภาพภูเขาและท้องฟ้าได้อย่างงดงาม ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ และดื่มด่ำกับความสงบเงียบของธรรมชาติอย่างแท้จริง
เราพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ 2 คืนเพื่อเที่ยวเมืองใกล้ๆ ซึ่งจาก Aurland ที่พักก่อนหน้ามายัง Reed ก็มีจุดสวยระหว่างทางให้ถ่ายภาพตลอดทาง
วิวระหว่างทาง






Reed หมู่บ้านที่เงียบสงบริมทะเลสาบ

วิวจากเนินหลังหมู่บ้าน

Olden (โอลเดน) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของ Nordfjord และเป็นประตูสู่ธารน้ำแข็ง Briksdalbreen หนึ่งในแขนงของธารน้ำแข็ง Jostedalsbreen ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หากมีเวลาแนะนำให้ไปสำรวจธารน้ำแข็ง Briksdal ที่อยู่ไม่ไกล ที่นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวของความเงียบสงบ ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
ที่นี่เป็นจุดที่มีท่าเรือสำหรับรองรับเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ จึงไม่แปลกที่ในหมู่บ้านจะมีทั้งร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก รวมถึง outlet ที่จำหน่ายสินค้าในกลุ่ม outdoor ที่สร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับคนที่เริ่มโหยหาการจับจ่ายเพราะเที่ยวแต่ธรรมชาติมาหลายวัน
เส้นทางจากที่พักในเมือง Reed มา Olden วิวสวยตลอดทาง


บรรยากาศมุมสูงของ Olden

เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขา มีลำธารไหลผ่าน บ้านเรือนวางตัวอย่างเป็นระเบียบสวยงาม


ลึกเข้าเป็นในหุบเขามีทะเลสาบที่รองรับน้ำจากหิมะซึ่งละลายจากภูเขาก่อนจะเอ่อล้นเป็นลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน


Hjelle (ฮเยลเล) หมู่บ้านที่เงียบสงบริมทะเลสาบ Oppstrynsvatn โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะกลายเป็นภาพสะท้อนของความงามอันบริสุทธิ์ ทะเลสาบสีฟ้าอมเขียมใสสะท้อนภาพภูเขาที่ยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดและป่าไม้สนที่เขียวชอุ่มอย่างงดงามลงบนผิวน้ำนิ่งสงบ อากาศที่เย็นสบายและเงียบสงบเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินเล่นริมทะเลสาบ หรือพายเรือคายัคออกไปสัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด



Geiranger (ไกแรงเกอร์) หนึ่งในไฮไลต์บนเส้นทางสายฟยอร์ดของนอร์เวย์ แม้ว่าการเดินทางมาที่นี่ต้องขับรถผ่านโค้งแล้วโค้งเล่าที่พาดผ่านภูเขาสูงก่อนจะนำลงสู่เมืองที่ซ่อนตัวอยู่ริมฟยอร์ด แต่วิวสองข้างทางตลอดจนจุดชมวิวต่างๆ บนเส้นทางสายนี้สวยแบบต้องหยุดหายใจเลยทีเดียว (คือสวยด้วยเสียวด้วย) ช่วงฤดูใบไม้ผลิน้ำตกที่มีชื่อเสียงอย่าง Seven Sisters และ Bridal Veil ที่เคยเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาวจะกลับมาไหลเชี่ยวและส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วฟยอร์ด การล่องเรือชมฟยอร์ดในช่วงนี้จะเผยให้เห็นทัศนียภาพอันน่าทึ่งของธรรมชาติที่กำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ ได้สัมผัสกับมนต์ขลังของฟยอร์ดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งนี้
ภาพนี้เผยให้เห็นเส้นทางสู่เมืองและธรรมชาติสุดอลังการ





เลยเมืองขึ้นไปบนเขา หิมะยังปกคลุมหนาแน่นพอสมควรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ


Trollstigen (โทรลล์สติเกน)
ที่นี่ไม่ใช่เมืองหรือหมู่บ้าน แต่เป็นเส้นทางพาดผ่านภูเขาสูงระหว่างเมือง Sylte และ Åndalsnes ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของดินแดนแถบนี้ ถนนสายนี้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นและทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง ถนนคดเคี้ยวเลี้ยวลดที่ท้าทายนี้จะนำเราผ่านทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขาที่ยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่บนยอดเขา และธารน้ำแข็งที่เริ่มละลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งไหลลงมาอย่างยิ่งใหญ่
ณ จุดสูงสุดของถนนมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและ platform ชมวิวที่เรียบหรูดูดีสไตล์นอร์เวย์ เผยให้เห็นความคดเคี้ยวของถนนขนาดด้วยหน้าผาสูงชันและสายน้ำตกสูงใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อว่าเราจะขับผ่านมาได้ อย่างไรก็ตามถนนบางช่วงอาจปิดในบางฤดูกาลขอให้เช็คทุกครั้งก่อนเดินทาง
วิวริมทางก่อนขึ้นสู่ถนนสายนี้

บรรยากาศบริเวณจุดสูงสุดของถนนซึ่งเป็นจุดบริการนักท่องเที่ยว


ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและถนนที่ขึ้นมา แทบไม่เชื่อตัวเองว่าสามารถผ่านมาได้



สรุปส่งท้าย
นอร์เวย์ในเส้นทางสายฟยอร์ดนี้ไม่ใช่แค่เพียงจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยว แต่เป็นสถานที่ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นความเขียวขจีของฤดูร้อน สีสันของฤดูใบไม้ร่วง ความขาวบริสุทธิ์ของหิมะในฤดูหนาว หรือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฤดูใบไม้ผลิแบบที่เรานำมาฝาก แต่ละฤดูล้วนมีมนต์เสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้สามารถเที่ยวได้ทั้งปีและค้นพบมุมใหม่ๆ ของนอร์เวย์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!
สำหรับใครที่กำลังแพลนทริปไปเที่ยวในแถบสแกนดิเนเวีย ทางการบินไทยเขามีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยัง 3 เมืองหลักยอดฮิต คือ เมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์, เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน และเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก สามารถเข้าเช็คราคาและเที่ยวบินได้ที่เว็บไซต์การบินไทย คลิก xxx
ติดตามการเดินทางของ "นายมด" ได้ที่ https://www.facebook.com/9MotPhotography
📷 นายมด
มุมมอง △ ความสุข △ การเดินทาง
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~

นายมด
วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 11.19 น.