ผืนป่า #ฮาลา-บาลา หรืออาจเรียกสลับ “บาลา-ฮาลา” ก็ได้เช่นกันเพราะเป็นผืนป่า 2 แห่งของจังหวัดยะลาและนราธิวาสที่รวมเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าร่วมกัน ...

การเดินทางเที่ยวป่าฮาลาบาลาจากตัวเมืองเบตงใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงไปยังท่าเรือตาพะเยาว์ อ.ธารโต แล้วนั่งเรือไปอีกราวชั่วโมงครึ่งก็จะถึงปลายทางที่ศูนย์พิทักษ์ป่าซึ่งเป็นจุดพักทานข้าวเที่ยงวิวรอบทะเลสาบช่วงต้นเป็นป่ายางของชาวบ้านจากนั้นจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นผืนป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์มาก ต้นไม้ขนาดใหญ่เหมือนที่เราเคยเห็นแต่ในหนังมีให้ดูเต็มไปหมด หากสังเกตดีๆ จะมีสัตว์ป่าอาทิลิง หมูป่าหรือสัตว์ขนาดใหญ่อย่างกระทิงออกมาให้เห็นด้วย นอกจากนี้ยังมีนกสารพัดสายพันธุ์รับรองว่าถูกใจคนชอบดูนกแน่ๆแต่รูปแบบการเดินทางอาจต้องเปลี่ยนเป็นการเดินป่าแทนเพื่อให้สัมผัสกับสัตว์เหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด ...

ส่วนผู้ที่มาชมป่าแบบไปเช้าเย็นกลับแบบผมจุดที่น่าสนใจก็คือต้นสมพงขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์พิทักษ์ป่า เดินลัดเลาะไปตามทางเดินป่าแบบไม่สมบุกสมบันนักราว 300 เมตรก็จะเจอต้นไม้ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านดูยิ่งใหญ่มากๆ แต่เสียดายที่มีคนไปขีดเขียนชื่อตัวเองไว้บนต้นไม้ ก็หวังว่านักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ๆ ที่จะเข้าไปคงไม่ไปซ้ำเติมให้ต้นไม้ช้ำมากกว่านี้ ...


อีกจุดที่น่าสนใจคือบริเวณทุ่งกระทิงเดิมซึ่งปัจจุบันเหลือต้นใม้ใหญ่ชูกิ่งก้านอยู่เหนือทะเลสาบโดดเด่นเพียงต้นเดียว ในช่วงที่ผมไปต้นไม้บางชนิดกำลังแทงยอดอ่อนเป็นสีเหลืองหรือแดงอมชมพู สลับกับดอกเข็มป่าและไม้ดอกอื่นๆ ทำให้ป่าแห่งนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสวยงามไม่แพ้จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีทางภาคเหนือเลย ...

ขากลับอาจแวะเที่ยวเกาะทวด ที่ว่ากันว่าใบ้หวยแม่นมากจนคนมาเลย์หลายคนถูกหวยร่ำรวยและต้องมาแก้บนกันอยู่เนืองๆ ...


จะว่าไปการเดินทางมาเที่ยวที่นี่ใช้เวลาค่อนข้างเยอะและกิจกรรมระหว่างทางยังมีไม่มากนัก หลายคนอาจรู้สึกเบื่อ แต่สำหรับผมการได้ไปเห็นความยิ่งใหญ่ของป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยเป็นอะไรที่คุ้มค่าจริงๆ ...

ติดต่อเที่ยวป่าฮาลาบาลาได้ที่ ป. ทรัพย์เจริญ โทร: 0872954736 ค่าเรือคนละ 500 บาท

ส่วนคนที่ชอบท่องเที่ยวถ่ายภาพก็ไปเม้าท์กันต่อได้ที่เพจ "นายมด" ได้นะ

ทางไป -> https://facebook.com/9MotPhotography แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะครับ


ความคิดเห็น