Summer นี้ หลายคนก็อยากไปเที่ยวทะเลกันทั้งนั้นใช่ไม๊ล่ะ สายทะเลอย่างเราก็ไม่พลาดเช่นกัน ทริปนี้ทะเลพม่าคือจุดหมายปลายทางของเราค่ะ เกาะที่เราไปในทริปนี้ คือ เกาะนาวโอพี(Nyaung Oo Phee Island)หลายคนคงคิดว่า จะเดินทางยังไง ยุ่งยากไม๊ ซึ่งจริงๆมันไม่ยากเลย ไม่ต้องทำวีซ่า ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ใช้แค่บัตรประชาชนแค่ 1 ใบ ก็สามารถเดินทางข้ามไปเกาะพม่าได้แล้ว ซึ่งเราต้องเดินทางไปขึ้นเรือ ที่ จังหวัดระนองค่ะ การเดินทางไปเที่ยวที่ เกาะนาวโอพี จะมีทั้งแบบ One day trip คือไปเช้า กลับช่วงเย็น และแบบ Overnight คือ พักค้างคืนบนเกาะ ซึ่งทริปนี้ เราเลือกค้างบนเกาะ เป็นแบบวิลล่าโซนใหม่ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จไม่นานค่ะ ตามเราไปดูกันเลยจ้า ว่าบนเกาะนาวโอพี จะสวยงามและน่าเที่ยวขนาดไหน

เที่ยวเกาะนาวโอพี หรือเกาะอื่นๆในทะเลพม่า นั้นไม่ยุ่งยากเลย
“ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว “ จากนั้นทางทัวร์จะจัดทำเอกสารให้เราเรียบร้อย
การเดินทาง
จากกรุงเทพเราต้องไปขึ้นเรือ ที่ท่าเรือแกรนอันดามัน จ.ระนอง
โดย มีสายการบิน ให้บริการ อยู่ 2 เจ้า คือ NokAir และ Air Asia ซึ่งทริปนี้เราเลือกเดินทางกับ NokAir เนื่องจากมีไฟท์เช้าตรู่ เครื่องออกจากสนามบินดอนเมืองราวๆตี 5 ถึงระนอง 7 โมงเช้า รถตู้ที่เราดิวไว้ กับ Mamy booking ก็มารับไปส่งที่ท่าเรือเวลาพอดีกัน
หรือถ้าใครไม่สะดวกนั่งเครื่องบิน เค้าก็มีรถทัวร์ให้บริการอยู่หลายเจ้า
ทั้ง ทั้งโชคอนันต์ , นิมิตรทัวร, สมบัติทัวร์ อันนี้มีคนรู้จักเคยนั่งเค้าว่ามีรถแบบ Vip เบาะปรับเอนนอนสบายๆ และมีผ้าห่มให้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 627 บาท

ทริปนี้เราจอง ผ่าน เอเจนท์ ชื่อ Mamy Booking ซึ่งนอกจากจะมีทัวร์เกาะพม่าแล้ว ทะเลของไทย หรือรถเช่า เค้าก็มีนะคะ บริการดีรวดเร็ว จองง่าย ไม่ยุ่งยาก เราใช้บริการกับเค้าเป็นรอบที่ 2 แล้วค่ะ ซึ่งวิธีการจองเดี๋ยวเรามีอธิบายช่วงท้ายนะคะ ไปดูโปรแกรมกันค่ะ

โปรแกรมจะเริ่มที่ช่วงเช้า ประมาณ 8:30 ทุกคนจะต้องมาเจอกันที่ ท่าเรือ แกรนอันดามัน ซึ่งจะอยู่ฝั่งไทย โดยไปติดต่อที่ เจ้าหน้าที่ของ Victoria Cliff ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกับที่ยื่นเอกสารผ่าน ตม. เลยค่ะ

หลังจากรับเอกสารจากเจ้าหน้าที่ Victoria Cliff แล้วก็ไปยื่นเอกสารผ่าน ตม. ได้เลยค่ะ ไม่ยุ่งยาก ใช้แค่บัตรประชาชน กับเอกสารที่ทางทัวร์เตรียมให้ แต่ถ้าไปช่วงวันหยุดอาจจะต้องรอคิวนานนิดนึงเพราะคนจะเยอะหน่อยค่ะ

ระหว่างรอเรือออก เราก็มานั่งทานอาหารเช้ากันที่ร้านกาแฟ ตรงท่าเรือค่ะ อาหารเช้าที่ทางทัวร์เตรียมไว้ให้ จะเป็นพวก เบอร์เกอร์ ขนมและน้ำค่ะ

พร้อมแล้วก็ลงเรือกันเลยค่ะ บนเรือจะมีเสื้อชูชีพไว้ให้ ทางไกด์แนะนำว่าให้ใส่ทุกคน เพื่อความปลอดภัย และ ทางเจ้าหน้าที่ตรงเกาะสอง ของพม่าจะมีมาตรวจด้วยค่ะ

สำหรับทริป เกาะนาวโอพี เราต้องไปแวะที่เกาะสอง เพื่อรับไกด์ชาวพม่า และประทับตราขาเข้าเมืองพม่ากันก่อนค่ะ แต่ไม่ต้องลงจากเรือนะคะ ทางไกด์จะไปดำเนินการให้เราเองค่ะ โดยใช้เวลาไม่นาน

ใช้เวลาเดินทางจากเกาะสอง ประมาณ 50 นาที ถึง 1 ชั่วโมง แล้วแต่คลื่นลมของแต่ละวัน ระหว่างทางมีปลาโลมา ว่ายอยู่ไม่ไกลจากเรือมากนัก แต่เราเก็บภาพมาได้ไม่ชัด เพราะเรือไม่ได้จอดให้ถ่ายค่ะ เนื่องจากใกล้กับเกาะที่เป็นเขตของทหารพม่า

นั่งเพลินๆไม่นานก็ถึงเกาะนาวโอพี แล้วค่ะ วันนี้แดดไม่ถึงกับจัด แต่น้ำก็ใสมากๆ

มีสะพานทุ่นลอยน้ำ เป็นทางเดินยาวจากที่เรือจอดไปถึงชายหาดเลยค่ะ ไม่ต้องลุยน้ำให้เปียก

Welcome drink ต้อนรับด้วย น้ำแตงโม หวานเย็นสดชื่น

ไกด์แจ้งว่าช่วงนี้น้ำขึ้น เลยจะขอรวบยอดไปดำน้ำช่วงบ่ายเลยทีเดียว เลยให้ทานอาหารกลางวันกันก่อน อาหารกลางวัน มีเป็นอาหารไทย อย่างพวก ผัดกระเพรา ยำรวมมิตร ปลาทอด รสชาติอร่อยใช้ได้เลยค่ะ และปิดท้ายด้วยกล้วยบวชชี ซึ่งเราชอบนะ รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานเกินไป

หลังจากทานมื้อกลางวันอิ่ม สำหรับคนที่พักค้างคืนบนเกาะ พนักงานจะมาพาไปยังที่พัก ที่พักบนเกาะชื่อ Victoria Cliff Resort โดยมีหลายแบบ โซนที่เราพัก เป็นโซนวิลล่าที่เพิ่งสร้างใหม่ จะมีรถกอล์ฟบริการ เพราะจะอยู่ไกลจากโซนห้องอาหารพอสมควร

มาดูห้องพักที่เราพักในทริปนี้กันค่ะ โซนเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ไม่ถึงเดือนเลย ห้องที่เราพักเป็นวิลล่าห้อง 301 เราว่าวิวจากห้องนี้เห็นทะเลเยอะสุดแล้ว เพราะต้นไม้ด้านหน้าไม่เยอะเท่าหลังอื่นๆ เลยสามารถเห็นชายหาดได้ชัดกว่า

ต้นไม้เยอะร่มรื่นมากๆ

ภายห้องพัก กว้างมาก มีกระจกใสขนาดใหญ่ มองเห็นวิวด้านนอกชัดเจน เตียงนอนเป็นเตียง Twin ตกแต่งภายในได้สวยงาม สะอาด น่านอนมากๆ สิ่งอำนวยความสะดวก มีครบครัน และแอร์เปิดได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

วิวจากหน้าห้องพัก บอกได้คำเดียวฟินมาก

ภายในห้องน้ำกว้างมาก แยกส่วนเปียก ส่วนแห้งไว้ชัดเจน อุปกรณ์อาบน้ำมีเตรียมไว้ให้ครบค่ะ

หลังจากเก็บของเสร็จ ก็มาเดินเล่น ถ่ายรูปบรรยากาศบนเกาะกันหน่อย ที่นี่นอกจากชายหาดสวย น้ำทะเลใสมากๆ แล้ว บนเกาะยังมีกิจกรรมให้ทำทั้งพายเรือคายัค หรือจะเอาแพลม ห่วงยางมาเล่นก็ได้ค่ะ เค้ามีไว้บริการด้วย

นอกจากห้องพักโซนวิลล่าแบบที่เราพักแล้ว ที่นี่ยังมีห้องพักเป็นแบบห้องแอร์ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นห้องแถวติดๆกัน

และยังมีโซนของที่พักแบบเต้นท์ ซึ่งจะอยู่ฝั่งซ้ายของห้องอาหาร ภายในโซนเต้นท์จะค่อนข้างร่มรื่น เพราะจะมีต้นไม้เยอะมาก ภายในเต้นท์กว้าง และมีห้องน้ำในตัวทุกเต้นท์

ก่อนไปดำน้ำช่วงบ่าย ยังพอมีเวลาเลยเก็บภาพบรรยากาศ หน้าหาด และภาพมุมสูงกันนิดหน่อย

ช่วงบ่ายไกด์นัดเจอกันตรงห้องอาหาร เพื่อจะเตรียมตัวไปดำน้ำกันค่ะ โปรแกรมดำน้ำ จะมี 3 จุด ด้วยกัน จุดแรก เกาะ Letter จุดที่สอง อ่าวผักกาด จุดที่สาม คือ อ่าวดอกไม้ หรือทุ่งดอกไม้ทะเล และแวะไปที่หาดมาดาม ด้วย

จุดดำน้ำจุดนี้เรียกว่า เกาะ The letter (เล็ทเทอร์ ) เป็นเกาะเล็กๆอยู่หน้าเกาะนาวโอพี ที่นี่เราสามารถดำน้ำดูประการังอ่อน กัลปังหา และดอกไม้ทะเล

จุดดำน้ำที่สองเรียกว่าอ่าวผักกาด จะสามารถพบปะการังผักกาดที่นี่เยอะแยะมากมาย

ปะการังชนิดนี้จะอยู่กันเป็นกลุ่มรูปร่างลักษณะคล้ายกับช่อผักกาด เลยเป็นที่มาของชื่อปะการังนี้

เรามาแวะกันที่หาดมาดาม หรือเรียกว่าหาดคุณนาย หาดนี้ทรายจะขาวละเอียดกว่าหน้าหาดที่เราพักกัน ตรงจุดนี้เค้าจะแวะให้เล่นน้ำหรือใครจะดำน้ำก็ได้ แต่เราว่าหน้าหาดมาดาม ใต้น้ำไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่ เน้นแค่นั่งเล่นชิลๆ ถ่ายรูปริมหาด และมีผลไม้มาเสริฟด้วย

เจ้าปลาหมึกที่หาดมาดาม

จุดนี้เรียกว่า อ่าวดอกไม้ ( flower bay )จะเป็นทุ่งดอกไม้ทะเลขนาดใหญ่ ไฮไลท์คือจะต้องไปตอนที่ไม่มีแดดส่อง เพราะดอกไม้ทะเลจะหุบเป็นลูกกลมสีม่วง สวยงามมาก

กลับจากดำน้ำก็จะช่วงเย็นๆพอดี อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ทางห้องอาหารก็จัดเตรียมมื้อค่ำไว้รอเรียบร้อย อาหารค่ำก็จะเป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ และปิ้งย่างซีฟู๊ด

ระหว่างมื้ออาหารค่ำก็จะมีการแสดงพื้นเมืองของชาวพม่าให้ดูด้วย การแสดงจะมีหลายชุด สลับสับเปลี่ยนกันไป เพลินๆดีค่ะ

ปิดท้ายด้วยการแสดงโชว์กระบองไฟ สวยงามและประทับใจมาก

มื้อเช้าของที่นี่จะเป็นพวกข้าวต้ม และ American breakfast คล้ายๆโรงแรมหรือรีสอร์ทของไทยค่ะ

หลังทานมื้อเช้าเสร็จ เราก็มานั่งเล่นริมหาด รอเวลาที่จะไปดำน้ำช่วงเช้า ซึ่งไกด์นัดไว้ประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ

จุดดำน้ำช่วงเช้า ก็อยู่ไม่ไกลจากหน้าหาดที่พักมาก จุดนี้เรียกว่า บ้านทองสุก ( Home thongsuk ) ตรงนี้จะมีปลาไหลมอเรย์ ชื่อเจ้าทองสุก อาศัยอยู่ ตัวใหญ่มากๆ นอกจากนี้ยังมี ปลานีโม่ อยู่รวมกันเป็นครอบครัวน่ารักๆ ไม่ไกลกัน ก็มีกุ้งมังกร ปลาสิงโต เรียกว่าใต้น้ำมีสัตว์น้ำ เยอะมากๆ ดำดูเพลินเลยทีเดียว

ปิดท้ายจุดดำน้ำรอบเช้า ที่ Sea Fan จุดนี้จะมีกัลปังหา สีแดงสวยงาม

มาดูบรรยากาศแบบเป็นคลิปกันบ้างค่ะ

หลังจากดำน้ำเสร็จ ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ ก่อนกลับก็ทานมื้อกลางวันกันบนเกาะ และ ถ่ายรูปเล่น ตามมุมชิงช้า และเก็บบรรยากาศโดยรอบอีกนิดหน่อย เรือจะออกจากเกาะประมาณ บ่าย 2 โมง

ขากลับต้องแวะมาประทับตราขาเข้า ตรงเกาะสอง เช่นเดิมเหมือนกับขาไปค่ะ ช่วงรอเวลาไกด์พาเราขึ้นไปเดินเล่นชมบนเกาะสองกันด้วยค่ะ บนเกาะก็จะมีของขาย เป็นตลาดคล้ายๆกับไทยค่ะ ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศบ้านเมืองเค้าไว้นิดหน่อย ของที่นี่ใช้เงินไทยซื้อได้นะคะ

กลับถึงท่าเรือฝั่งระนอง ประมาณ 4 โมงเย็น รถตู้จะมารอรับเราไปยังที่พัก ซึ่งเราให้ทาง Mamy bookning จองให้เราคือโรงแรม Tinidee ซึ่งเป็นโรงแรมในตัวเมืองระนอง ที่โรงแรมมี บ่อน้ำร้อน ให้แขกที่มาพัก ได้แช่น้ำร้อน ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า หลังจากกลับจากดำน้ำกันด้วย

ทริปนี้เราจองกับ เอเจนท์ ชื่อ Mamy Booking ซึ่งจองง่ายและสามารถจ่ายเงินแบบตัดบัตรเครดิตได้เลย สะดวกมาก เดี๋ยวเราจะบอกวิธีการจองออนไลน์ แบบง่ายทีละขั้นตอนกันค่ะ

1. เข้าเว็บไซด์ https://www.mamybooking.com

2.เลือกทริปที่ต้องการจอง และเช็ควันที่ ที่ต้องการจอง ซึ่งเค้าจะมีราคา และรายละเอียดของทริปนั้นๆบอกไว้ชัดเจน

3.หลังจากกดจองแล้วเค้าจะมีให้กรอกรายละเอียดส่วนตัว และสรุปราคาให้เราอีกรอบ กรอกเสร็จแล้ว ถัดไปจะมีหน้าให้เลือกชำระเงิน สามารถตัดผ่านบัตรเครดิต หรือ จ่ายทาง Paypal ก็ได้ หลังจากชำระเงินเรียบร้อย ทาง Mamy booking จะส่งคอนเฟริมมาที่อีเมล์ที่เราแจ้งไว้ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สามารถนำใบคอนเฟริมทางอีเมล์ไปแสดงในวันที่เดินทางไปทริปได้เลยค่ะ

สำหรับคนที่ไม่สะดวกจองทาง เว็บไซด์ ก็สามารถโทรไปจองโดยตรงได้ที่ inbox

เพจ https://www.facebook.com/mamybooking/ หรือโทร 085 305 8888

จบรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ สรุปโดยรวม เราชอบเกาะนาวโอพีมาก เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนและดำน้ำ โลกใต้น้ำยังสมบูรณ์และสวยงาม ถ้ามาเที่ยวเกาะนี้ แนะนำว่าให้มาแบบค้างคืนซักคืน จะฟินมากๆ

ภาพใต้น้ำเราใช้กล้อง Olympus TG 5 แนะนำที่นี่เลยจ้า https://www.facebook.com/Prodiveimaging/ อุปกรณ์กล้องใต้น้ำเยอะ แถมแนะนำการใช้งานดีมาก

ทริปหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหนอีก รอติดตามน๊า

https://www.facebook.com/somewheresomeone/

หากรีวิวถูกใจเพื่อนๆอย่าลืมแวะเข้าไปกดติดตามเพจเป็นกำลังใจให้เราบ้างนะคะ