รวมเรื่องก้าว@ระนอง

ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ใดจะใกล้หรือไกล แต่เมื่อคุณได้มาเยือนภาคใต้ตอนบนของประเทศไทยแล้ว เรายินดีต้อนรับทุกๆคน เข้าสู่เมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของผู้คนและธรรมชาติที่ร่มเย็น แน่นอนว่าคุณจะหาจากที่ใดไม่ได้อีก มาทำความรู้จักระนองให้มากกว่าที่คุณเคยรู้จักกันเถอะ แล้วคุณจะหลงรัก กลิ่นอายธรรมชาติจนอยากอยู่ต่อไม่อยากกลับเลยทีเดียว

คำขวัญประจำจังหวัด
：คอคอดกระ ภูเข้าหญ้า กาหยูหวาน ทานน้ำแร่ มุกแท้ เมืองระนอง
ระนองเป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบนของประเทศไทย อยู่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านคือพม่า อยู่ติดฝั่งทะเลอันดามัน มีลักษณะพื้นที่เรียวและแคบ
จังหวัดระนองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง ฝนแปด แดดสี่
นั้นคือ มีฝนตก 8 เดือนและฝนแล้ง เพียง4 เดือน



7 สถานที่ ที่พวกเราจะพาคุณไปสัมผัส ความเป็นอยู่ของคนระนอง แน่นอนว่าถ้าพูดถึงระนอง เชื่อว่าคุณจะต้องนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวตามเกาะ ทะเลหรือน้ำตก. แต่เชื่อหรือไม่ สถานที่ ที่สวยงาม ไม่ว่าจะท่องเที่ยว ศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมา หรือสถานที่ ที่บรรเทาทุกข์ทางจิตใจ ยังมีหลายๆสิ่งมากกว่าที่คุณคิดและมองข้ามไป
1.จวนเจ้าเมืองระนอง
Residence of the Governor if Ranong
สถานที่ตั้ง: ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
เวลาทำการ: 8.00-17.00น (จ-อ)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:+668 1956 0008 หรือเทศบาลเมืองระนองโทร. +66 7781 1422, +66 7781 1161
จวนเจ้าเมืองระนอง หรือ บ้านค่ายเจ้าเมืองระนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2420 บนเนื้อที่ประมาณ 33 ไร่เศษ เป็นบ้านเจ้าเมืองคนแรกของระนอง พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง ณ ระนอง) ท่านเป็นคนจีนที่สมรสกับคนไทยชาวพังงาและได้เข้ารับราชการ
จวนเจ้าเมืองระนองมีการก่อสร้างในลักษณะค่าย ประกอบไปด้วย บ้านหลังเล็กๆ ของตระกูล ณ ระนอง, ศาลบรรพบุรุษ

ส่วนตัวอาคารเก่าที่เจ้าเมืองระนองได้พักอาศัย, เรือนรับรองแขก โรงเก็บสินค้า หน่วยงานราชการ ฯลฯ แต่ในปัจจุบันได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เหลือเพียงเสาและกำแพงอิฐ

อาคารเก่าที่เจ้าเมืองระนองเคยพักอาศัย
เมื่อครั้งอดีต - จนถึงปัจจุบัน

เสาที่สร้างด้วยอิฐแดงและปูน ที่ยังคงหลงเหลืออยู่

กำแพงที่สร้างด้วยอิฐแดง ภายนอกฝั่งทางเข้าไปภายในจวนเจ้าเมือง และรอบๆที่ครอบคลุมไปด้วยกำแพงอิฐแดง

กำแพงดิฐแดง ที่อยู่ภายในจวนเจ้าเมือ

ภายในตัวบ้านจวนเจ้าเมือง ที่แสดงหลักฐานความเป็นมา

2.บ้านร้อยปีเทียนสือ
一百年家天地
สถานที่ตั้ง:เลขที่ 7 ถนนดับคดี ตำบลเขานิเวศน์ อ.เมือง จ.ระนอง
เวลาทำการ: 9.00 น.- 21.00 น. (จ-อ)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: +668-1088 2629
สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ความหมายของคำว่า "บ้านเทียนสือ" ภาษาจีน เทียนแปลว่า สวรรค์ "สือ" แปลว่าของขวัญ บ้านของขวัญจากสวรรค์
โดยมีโกศุภ ( นายศุภพรพงศ์ชัย พรพงษ์) เป็นเจ้าของบ้าน พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต เรื่องราวในอดีตของคนจีนในจังหวัดระนองรุ่นแรกๆที่มาตั้งถิ่นฐาน แหล่งเรียนรู้สำคัญอันดับหนึ่งของเมืองระนอง บ้านโบราณเก็บประวัติต้นตระกูล ณ.ระนอง

สิ่งของสะสม ชิ้นเล็ก-น้อย ที่มองย้อนให้เห็นเรื่องราวเก่าๆ

จุดถ่ายรูป จุดหนึ่ง ที่ไม่ควรพลาด ที่ถ่ายออกมาในภาพ 3D

มุมห้องทำงาน ในยุคนั้นๆ กับข้าวของเครื่องใช้ ที่ไม่ต้องบอกอายุก็รู้ว่านานโข นับ100ปี

มุมห้องนอน ที่มีความย้อนยุคและมองเห็นภาพความเป็นอยู่ในยุคนั้นๆได้อย่างชัดเจน เป็นอีกมุมหนึ่งที่ไม่ควรพลาด

มุมประตู ที่มีความย้อนยุคและคลาสสิคอยู่ในตัว

เก้าอี้นั่งและโต๊ะเล็กๆ นั่งถ่ายรูป ชิลๆไปอีก

ข้าวของเครื่องใช้อีกสิ่งหนึ่ง แน่นอนว่าปัจจุบันยังคงมีอยู่บ้าง ตามบ้านเรือนต่างๆแต่นับว่าน้อยมาก

3.พระที่นั่งรัตนรังสรรค์
Rattanarangsan Palace
เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การ เสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของพระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎ เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง สิ่งที่จัดแสดงภายในพระราชวังฯ ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ชั้น 3)ห้องพระราชินี (ชั้น 2) มีจำนวน 6ห้อง อาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง สะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม
สถานที่ตั้ง: บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ (ใกล้ศาลากลางจังหวัดระนอง) ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 85000
เวลาทำการ: 8.30-17.30 (จ-ศ)
ค่าเข้าชม: เด็ก 20 บาท
ผู้ใหญ่ 50 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท

ภาพภายนอก รอบๆพระที่นั่งรัตนรังสรรค์

เรือนศาลา8 เหลี่ยม

รูปปั้นการทำเหมืองแร่ดีบุก

พระที่นั่งรัตนรังสรรค์ ยินดีต้อนรับทุกๆคนอย่างยิ่ง เพื่อเข้าชมภายในอาคารรองรับจำลอง เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าจดจำและเรียนรู้อย่างยิ่ง

อาคารพระราชวังรัตนรังสรรค์

ธรรมชาติความร่มเย็น มักอยู่คู่กับสถานที่ ที่น่าเลื่อมใสและศรัทธา^~^

4.วัดสุวรรณคีรี
Wat Suwankhiri

วัดพุทธสุวรรณเจดีย์ ปากจั่น (หรือชื่อที่ชาวระนองรู้จักกันทั่วคือวัดหลวงพ่อทันใจ)
เป็นวัดที่เก่าแก่ที่มี “เจดีย์ชเวดากอง” ที่จำลองแบบมาจาก“มหาเจดีย์ชเวดากอง” เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพุทธสถานอันเลื่องชื่อระดับโลก ตั้งอยู่ที่บ้านทับหลี อำเภอกระบุรี
สถานที่ตั้ง: บ้านทับหลี อำเภอกระบุรี
เวลาทำการ: 8.00 เป็นต้นไป (จ-อ)

พุทธสุวรรณคีรีเจดีย์ เป็นงานศิลปะพม่า (ชเวดากอง) ฐานกว้าง 29 เมตร ยอดสูง 108 ฟุต

วางศิลาฤกษ์ วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2554 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ปีเถาะ เวลา 09.00 น. และต่อมาเมื่อวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2555 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6) ปีมะเส็ง ได้บรรจุพระพุทธรูปหินหยก จำนวน 2,999 องค์ ยอดเจดีย์บุทองคำหนัก 19 บาท ใช้งบประมาณก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน เป็นเงิน 12,599,999 บาท (สิบสองล้านห้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) พุทธสุวรรณคีรีเจดีย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สงฆบูชา

ชเวดากองจำลอง และ องเจ้าแม่กวนอิมอยู่ระหว่างทางขึ้นไปยังพุทธสุวรรณคีรีเจดีย์

ยังมีจุดชมวิวที่รับรองได้ว่าหากคุณไปถึงที่แห่งนี้ จากที่เมาโค้ง วิวที่นี่อาจเป็นยารักษาอาการเมาโค้งได้ดีทีเดียว ทั้งยังมีจุดถ่ายภาพให้คุณสามารถเก็บภาพความประทับใจได้อย่างเต็มอิ่มเลยคะ

❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌❌

ช่วงระหว่างเดินทางกลับ มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองอีกครั้ง เราขอแนะนำให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ของทานเล่นขึ้นชื่อประจำจังหวัด ถ้าไม่ได้ทานถือว่าพลาดอย่างยิ่ง นั้นคือ*ซาลาเปาทับหลี* ของขึ้นชื่ออีกสิ่งกนึ่งที่พลาดไม่ได้ ลองซื้อมาลิ้มลองกันดูนะจ๊ะ ทุกๆคนนนน

ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากญาติๆก็ไม่ว่ากันน้าาา👩‍❤️‍👩ของเค้าดีจริงๆๆ ได้ชิมแล้วจะติดใจ อร่อยบอกต่อด้ว

🌤5.บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน
Raksawarin Hot Spring
เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาตินี้มีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส น้ำพุร้อนแห่งนี้ได้รับการวิเคราะห์จากกรมวิทยา ศาสตร์บริการว่าประกอบด้วยแร่ธาตุ ที่สำคัญ และเป็นแหล่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงทำให้ไม่มีกลิ่นของกำมะถันและมีความบริสุทธิ์ สามารถดื่มได้จากแหล่งกำเนิด

บ่อพ่อ

บ่อแม่

บ่อลูกสาว

สะพานข้ามฝั่งแม่น้ำ มีด้วยกัน2 สะพานใช้ข้ามระหว่างฝั่ง หรือถ่ายรูปได้เช่นกัน วิวธรรมชาติ ด้านล่างแม่น้ำไหลผ่าน

เมื่อผู้คนมีอาการแวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ จะมาแช่น้ำร้อนเพื่อผ่อนคลายเส้นเลือด หรือคนที่มีน้ำหนักตัวมากสามารถมาแช่เพื่อสลายไขมันได้

6.วัดหงาว
Wat Ngao
เป็นวัดดังของ จ.ระนอง วัดนี้มีชื่อเสียงอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง 1. วังมัจฉา มีปลาจำนวนมากและขนาดก็ใหญ่แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มีตั้งแต่ปลาบึก ปลาจาระเม็ดน้ำจืด ปลาดุกยักษ์
2. อุโบสถหลังใหม่ มีรายละเอียดการตกแต่งที่สวยงามมาก
3. พระพุทธรูปดีบุก เป็นพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งของวัดบ้านหงาวจะอยู่ใกล้กับภูเขาหญ้า และ อยู่ตรงข้ามกับน้ำตกหงาว
สถานที่ตั้ง: 63/2 หมู่ที่ 1 ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง 85000
เวลาทำการ: ตั้งแต่เช้าตรู่-ค่ำ (เปิดทุกวัน)

ประวัติวัดหงาว

วังมัจฉา ในวัดหงาว เป็นสถานที่ ที่คนจะมาให้อาหารปลาหรือปล่อยปลา
สามารถซื้ออาหารปลาได้ในราคาแก้วละ10(แก้วเล็ก)
20(แก้วใหญ่) ส่วนปลาที่ซื้อปล่อยจะมีด้วยกันหลายราคา

หลัก กิโลเมตรที่0 วัดบ้านหงาว

สามารถเดินขึ้นไปสั่นกระดิ่งหรือชมวิวด้านบนได้ จะมองเห็นต้นไม้ ภูเขา บ้านเรือน หรือน้ำตกที่ไหลจากภูเขา ได้ทั้งหมด จำนวนขั้นก็เบาๆ 343 ขั้น เท่านั้นเอง

หลวงพ่อดีบุก ซึ่งหลอมด้วยแร่ดีบุกทั้งรูป 100%

รอบๆบริเวณโบสถ์ จะมีภาพเล่าเรื่องการล่อนแร่ทั้งหมด

⛰7.เขาหัวล้าน หรือ ภูเข้าหญ้า
Bald Mountain
หากเป็นคนในระนองหรือคนในพื้นที่เขาจะเรียที่แห่งนี่ว่า “เขาหัวล้าน” เป็นเพราะที่แห่งนี้เป็นลักษณะภูเขาหัวโล้นที่ไม่มีต้นไม้ ขนาดไม่สูงสามารถเดินขึ้นไปได้ เนินเขาแต่ละลูกมีทางเดินเชื่อมถึงกัน เมื่อขึ้นไปอยู่ด้านบนจะชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ ในหน้าฝนภูเขาหญ้าจะเป็นสีเขียวดูสวยงาม ส่วนในหน้าแล้งภูเขาหญ้าก็จะเป็นหญ้าแห้งสีน้ำตาล ก่อนที่จะเข้าหน้าฝนในฤดูกาลใหม่จะมีคนมาเผาหญ้าที่บริเวณนี้ เมื่อฝนตกลงมาหญ้าใหม่จะแทงยอดออกมา เขียวไปทั่วทั้งภูเขา เป็นจุดถ่ายรูปที่สวยงาม
สถานที่ตั้ง: ตำบลหงาว ริมถนนเพชรเกษม ตรงข้ามกับน้ำตกหงาว ห่างจากตัวเมืองระนองประมาณ 11-12 กิโลเมตร
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ทุกเวลา(แต่ถ้าหากคุณต้องการแสงที่สวยๆ เราแนะนำให้ไปช่วงห้าโมงครึ่งจนถึงหกโมง）

เขาหัวล้าน มีด้วยกัน2สี (สีน้ำตาล/สีเขียว)

และในช่วงเทศกาลไม่ว่าจะปีใหม่ หรือจะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ชาวระนองนิยมที่จะนำอาหารต่างๆ ไปปิกนิกกันที่นี่ เมื่อคุณไปเขาหัวล้านในหน้าฝนอีกหนึ่งสิ่งความสวยงามที่คุณจะพบเจอคือ หากคุณมองออกไปทางถนน บนยอดเขาคุณจะเห็นสายน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา ที่นั่นคือ”น้ำตกหงาว”

ภูเขาหญ้าสีน้ำตาล จะมีในช่วงเดือน พฤศจิกายน-เมษายน

ภูเขาหญ้าสีเขียวจะมีในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม

หากเดินขึ้นมาบนจุดสูงสุดของภูเขา สามารถมองเห็นวิวและความร่มเย็นของภูเขา ต้นไม้ ได้โดยทั่ว จะมีน้ำตกไหลลงมาจากภูเขา

ครอบครัวจะมีความสุขได้ สุขกายไม่พอ ต้องสบายตาสบายใจด้วย ถึงจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุข

และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้อย่างยิ่งคือยานพาหนะ ที่จะนำพาเราไปทุกหนแห่ง ผู้คนในระนองถ้าไม่มีรถส่วนตัวในการใช้ขับเคลื่อนการเดินทาง ก็จะมีรถไม้หรือที่เราเรียกว่ารถสองแถว แน่นอนว่ามันเป็นเอกลักษณ์ย่างหนึ่ง ที่ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
⚙️ค่าโดยสาร 15 บาท (ผู้ใหญ่)
ค่าโดยสาร 8 บาท (นักเรียน)
#ราคานี้เฉพาะการเดินภายในอำเภอเมืองเท่านั้น

ขอขอบคุณสำหรับการเข้ามาเยี่ยมชมการรีวิวสถานที่เที่ยวในระนองกับเราผู้ร่วมออกทริปในนามรวมเรื่องก้าว @ระนอง

ในนามนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต สุราษฎร์ธานี
คณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ สาขาการจัดการ การท่องเที่ยวและนันทนาการ
ชั้นปีที่1 ปีการศึกษา2560

ข อ บ คุ ณ ค ะ ที่ เ ข้ า ม า เ ยี่ ย ม ช ม