สวัสดีค่ะ กลับมาพบกับ Stop me หลังจากห่างหายกันไปนานเลย!! ช่วงนั้นแลปทอปพังค่ะ แต่ตอนนี้มีแลปทอปใช้แล้ว เย่!!! ดังนั้น...กลับมาคราวนี้ Stop me มีที่พักแนะนำย่าน BTSอารีย์ นั่นก็คือ The Yard Hostel นั่นเอง!!!! ต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่พัก Hostel บ่อยมาก ด้วยความที่เราขี้เบื่อ อยากได้บรรยากาศนั่งทำงานใหม่ ๆ ก็จะไปพักตาม Hostel ต่าง ๆ ในเขตกรุงเทพ ซึ่งเรามาเจอที่เดอะยาร์ดแล้วเรารู้สึกชอบ เลยกลับมาพักซ้ำ
อันนี้จะเป็นภาพบรรยากาศโดยรอบนะคะ จะเห็นได้ว่าที่นี่ค่อนข้างที่จะร่มรื่นย์มาก ๆ เลย ไม่คิดเวลว่าจะมีธรรมชาติมาอยู่ใจกลางเมืองหลวงขนาดนี้ เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกนึงเลยล่ะค่ะ
Type ของห้องนอนที่นี่จะมีหลายแบบค่ะ แบบที่เราเลือกมี 2 แบบคือ คืนแรกเรานอนห้อง Private ค่ะ อันนี้จะเป็นเตียงที่นอนได้ 2 คน แต่แชร์ห้องน้ำค่ะ ส่วนอีกหนึ่งคืนเรานอนห้องรวมหญิง 4 เตียงค่ะ ความรู้สึกจะคนละแบบกันเลย อีกอย่างที่นี่มีชื่อเรียกห้องนอนแบบชิค ๆ เช่น ป้า, ลุง, ยาย, เป็นต้นค่ะ
ตามรูปนี้คือแบบ Private ค่ะ เตียงนุ่ม ๆ นอนสบาย มีที่แขวนเสื้อผ้าให้ มองออกไปเป็นพื้นที่โล่ง ๆ สามารถนั่งเล่นที่หน้าห้องได้ ราคาในดีลจะอยู่ที่ 1000 ต้น ๆ ค่ะ ส่วนตัวชอบห้องนี้เพราะรู้สึกมีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
ส่วนห้องนี้คือห้องรวมหญิง จำนวน 4 เตียงค่ะ เค้าจะให้เชือกผูกเตียงมาด้วย ส่วนเราเลือกเตียงที่ 2 ค่ะ เพราะจะได้จัดเก็บของเข้าล็อคเกอร์ง่าย ๆ และก็ไม่ต้องปีนขึ้นลงด้วย วันที่มาพักผู้หญิงที่ร่วมห้องมาจากเนปาลค่ะ ได้คุยกันนิดหน่อย ดูท่าทางน่ารักและเป็นมิตรค่ะ ข้อดีของห้องรวมคือเราจะได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ใครขี้เหงาห้องรวมตอบโจทย์เลยค่ะ สำหรับใครที่มาเป็นคู่แต่ต้องการห้องรวม ก็สามารถเลือกห้องรวมชายหญิงได้เหมือนกันนะคะ
ส่วนคีย์การ์ดเข้าห้องนอนที่นี่ ด้านหน้าจะเป็นชื่อโรงแรมและรหัสไวไฟค่ะ ส่วนด้านหลังจะเป็นแผนที่ เผื่อออกไปข้างนอกจะได้กลับมาถูกไง และไม่ต้องห่วงว่าเอ๋? ถ้ามีคนก่อนแอบไม่คืนคีย์การ์ด แล้วอ้างคีย์การ์ดหายจะมาขโมยของได้ไหม ตอบเลยว่าไม่ได้ค่ะ เพราะคีย์การ์ดจะสามารถใช้ได้แค่วันที่เช็คเอ้าท์ ถ้าเลยเวลาเช็คเอ้าท์คีย์การ์ดจะไม่สามารถใช้งานได้ค่ะ
ในส่วนของฟร้อนท์ที่นี่จะชิค ๆ มาก สำหรับใครที่มาเช็คอินจะต้องกรอกข้อมูล และชำระเงินสำหรับเงินค่าที่พัก จากนั้นก็จะได้คีย์การ์ดมาค่ะ ระหว่างนั้นถ้ายังไม่ถึงเวลาเข้าพักได้ ทางโรงแรมก็มีพื้นที่สำหรับฝากกระเป๋าสำภาระด้วยนะคะ อีกทั้งมุมด้านหนึ่งยังมีแผนที่ประเทศด้วย รวมทั้งนักท่องเที่ยวคนไหนอยากได้ทริปไปเที่ยวต่อละก็ ที่นี่ก็มีข้อมูลเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ
มาถึงมุมที่เราแฮปปี้ที่สุดกันบ้าง ตรงนี้ตอนกลางวันก็สามารถมานั่งเล่น ทำงานชิว ๆ ได้นะคะ แต่อากาศจะร้อนนิดหน่อย แต่ถ้ามาตอนกลางคืนตรงนี้จะเป็นบาร์ ให้เรานั่งจิบเบียร์ เม้นท์มอยชิว ๆ หรือจะเอางานมานั่งทำด้วยก็ได้เหมือนกันนะเออ แอบกระซิบว่าถ้าเป็นช่วงกลางคืนจะมีฝรั่งที่มาพักมานั่งชิวกัน เราก็จะได้เฮฮาไปกับเค้าด้วย
ท้าดาาา ขอแนะนำอีกมุมหนึ่งที่โปรดมากก็คือห้องด้านบนนั่นเอง ห้องนี้เอาไว้มานั่งเม้าท์กัน ตากแอร์เย็น ๆ หรือจะเอาอาหารมาทาน มานั่งเล่นเกมส์ ดูหนังก็ได้เช่นกัน อีกทั้งถ้ามองจากห้องนี้ออกไป ก็จะเห็นวิวสวนด้วยนะเออ ชิวไหมล่ะ
ปิดท้ายด้วยอาหารเช้าสุดแสนอร่อย ที่มานั่งทานชิวๆ ก็ตรงหน้าบาร์นี่แหละจ้า อาหารเช้าที่นี่จะประกอบไปด้วยโยเกิร์ต ผลไม้ และซีเรียล ทานคู่กับขนมปังปิ้งทาแยม มีกาแฟและชาให้เลือกด้วยจ้า ส่วนถ้าใครไม่ชอบพวกซีเรียลหรือโยเกิร์ตจะสั่งอย่างอื่นทานก็ได้เหมือนกันนะ
สำหรับใครที่รู้สึกสนใจ อยากเข้าไปพัก สามารถรับชมห้องพักและราคาได้ทาง http://www.theyardhostel.com/ ค่ะ
สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ และครั้งหน้า Stop me จะมารีวิวอะไรอีกนั้น อย่าลืมติดตามกันนะคะ
Joojee'n Nature
วันพฤหัสที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 15.21 น.