ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย ถ้าจะไปเทรคหลายคนก็คงมุ่งมาที่เนปาล พวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ที่อยากจะมาเดินเขาบนเทือกเขาหิมาลัยที่ได้ชื่อว่าเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดในโลก เอาจริงๆถ้าประเทศนี้ไม่มีเทือกเขาหิมาลัย อาจจะไม่อยู่ในสารระบบของผมก็ว่าได้ เพราะไม่รู้ว่าจะมาทำอะไรที่นี่เหมือนกัน จากที่ผ่านเขาในประเทศไทยมาหลายเขา ต่างประเทศก็มีบ้างนิดหน่อย เลยคิดว่าการไปเดินเขาหลายๆวัน น่าจะไหวไม่น่ายากเกินไป เลยอยากจะเริ่มต้นด้วยการพิชิต Base Camp เส้นทางที่ฮิตที่สุดเลยคือ “Annapurna Base Camp” ที่ประเทศเนปาล หรือรู้จักกันในชื่อ ABC
พวกเราเตรียมตัวมาตั้งแต่ปี 2559 ครับหาข้อมูล หารีวิว หารายการทีวี ตกลงเรื่องวัน กี่วันถึงจะพอ ก็ได้ข้อสรุปมาว่า เส้นทาง poon hill + ABC จะต้องใช้เวลา 12-13 วัน เลยลงเอยที่ 6-17 เมษายน 2561 จะจองตั๋วตั้งนานแล้ว ตังค์ไม่พร้อมซะที เมื่อกันยายน 2560 มีโปรตั๋วเครื่องบินไป กาฐมาณฑุ(ต่อเครื่องที่เดลี) ช้าไม่ได้ จัดเดี๋ยวนั้นเลย
ต่อมาเรื่องสำคัญเลยก็คือไกด์ ผมได้ติดต่อไว้แล้วตั้งแต่ปี 2559 แต่ก็ปฏิเสธเขาไปตลอดว่ายังไม่ไป จนมาเริ่มหาไกด์จริงจัง หลังจองตั๋ว เมลไปถามก็ได้มาหลายที่อยู่ จนอยู่วันนึงไกด์ที่ติดต่อตั้งแต่ปี 2559 ทัก ib มาเสนอราคาแล้วก็ขายของเต็มที่ จนผมเออออ ก็น่าจะโอเคนะ ทั้งๆที่เจ้าอื่นถูกกว่าก็มี แต่ผมเลือกไปกับเจ้านี้คือ Krishna …..ลืมบอกผมไป 3 คนครับ
ตั๋วเครื่องบิน
บินตรง Thai Airways, Nepal Airlines, Lion Air(เพิ่งให้บริการปี 2561)
ต่อเครื่อง Jet Airways, Air India, Malaysia Airline
Visa
แนะนำให้ทำที่ไทยไปเลย จะได้ไม่เสียเวลาทำที่โน่น ทำที่ไทยจ่ายเงิน Bath ทำที่เนปาลจ่ายเงิน USD ไม่นาน 2 วันได้เลย เบื้องต้นไม่เกิน 15 วัน 900 บาท รายละเอียดตามกระทู้นี้เลยครับ https://pantip.com/topic/36341557 ขอบคุณเจ้ากระทู้ด้วยครับ
Package
จากที่ได้คุยกับ Krishna ก็ตกลงรายละเอียดต่างๆ สรุปราคา 645 USD ต่อคน
Includes
- KTM to Pokhara and Pokhara to KTM private jeep
- All necessary ground transport by private mini coaster
- All accommodation in Pokhara, KTM and Mountain(pokhara 2 night)
- All necessary trek permits
- Guide with my salary, food, accommodation and insurance
- Porters, as need ;3 trekkers 2 porter with salary, food, accommodation and insurance
- Your meals during trek, i.e. Lunch, Breakfast and Dinner with each cup of tea or coffee
- All necessary government tax and service charge
- Pokhara nayapul and nayapul to Pokhara by tourist van
- airport pick up and droup
Excludes
- Meals in except one welcome dinner in pokhara
- Additional tea, coffee, mineral water and bar bill during the trek
- Tips for guide and poter.
แผนการเดินทาง
สำหรับแผนของพวกเราคือ Annapurna Sanctuary อาจจะปรับเปลี่ยนจากเส้นทางปกติบ้าง เนื่องจากเวลาไม่พอครับ (ขึ้น 6 ลง 2)
1st day KTM stay overnight KTM
2nd day Drive to Pokhara
3rd day Drive to Nayapul trek to Tekhedhunga
4th day Trek to Ghorepani
5th day Trek to Chuile
6th day Trek to Sinwa
7th day Trek to Deurali
8th day Trek to ABC
9th day Trek to Sinuwa
10th day Trek to Siwai drive to Pokhara
11th day Drive to KTM
12th day Flight to Thailand
การแลกเงิน
เนื่องจากในประเทศไทยไม่มีให้แลกเป็นรูปี(NPR) เนปาล จำเป็นต้องแลกเป็น USD ไปก่อนแล้วไปแลกรูปีที่เนปาล
**แนะนำให้แลกที่กาฐมาณฑุได้เรทดีกว่า
สภาพอากาศแต่ละวัน (เฉพาะในช่วงเวลาที่ผมไป จาก Nayapul ถึง ABC)
Nayapul - Tekhedhunga ร้อนมากวันนี้ หาอะไรปกปิดผิวหนังให้ดี
Tekhedhunga - Ghorepani ไม่ร้อน แต่หลังกินข้าวเที่ยง เตรียมชุดกันฝนให้พร้อม ทั้งฝน ทั้งลูกเห็บ
Ghorepani - Chuile อากาศเย็นสบายๆ หลังเที่ยงไม่ค่อยเจอแดด แต่เจอฝน มีลูกเห็บปะปาย
Chuile - Sinuwa อากาศดี เจอแดดแรกๆ หลังเที่ยงก็เจอฝนเช่นเดิม
Sinuwa - Deurali อากาศเย็น มีแดดอ่อนๆ หลังเที่ยงเจอฝน + มีหมอกก่อนจะถึง Deurali
Deurali - MBC เจอแดดตลอดทาง ไม่มีต้นไม้มาบังเลย และหยุดถ่ายรูปบ่อยเพราะวิวอลังกาล
MBC - ABC จะเจอหิมะแทน โชคดีก็จะเห็นหิมะตกสวยๆ โชคร้ายก็เจอเป็นพายุหิมะ
กระเป๋าสัมภาระ
แบกเอง : daypack ไม่ต้องใหญ่มากใส่ของใช้จำเป็นในแต่ละวัน
ลูกหาบแบก : กันน้ำหรือไม่กันก็ได้ ลูกหาบจะมีพลาสติกคลุมให้อยู่แล้วถ้าฝนตก
เสื้อผ้าและอุปกรณ์ในการเดิน
- เสื้อกันฝน กันลม (Outer Layer/Hard Shell)
- เสื้อ Down jacket (Mid Layer/Soft Shell)
- เสื้อ fleece (Mid Layer/Soft Shell)
- เสื้อและกางเกง Heattech (ฺBase Layer)
- กางเกงเดินป่าแห้งไว
- กางเกงกันน้ำ
- กางเกงกันลม
- เสื้อยืดใส่สบายๆ เน้นผ้ากีฬา
- เสื้อแขนยาว
- รองเท้า hiking
- รองเท้าแตะ
- ถุงมือ
- ถุงเท้า wool
- ถุงเท้าทั่วไป
- หมวกกันแดด
- หมวกไหมพรหม
- ปลอกแขน
- ผ้าบัพ
- แว่นตากันแดด
- ไฟฉายคาดหัว
- ชุดกันฝน
- กระติกน้ำ
- ไม้เท้า
อาหาร
ไม่ต้องเอาไปเยอะเพราะอาหารที่นั้นกินได้อร่อยด้วย ในรูปนี่เยอะไปนะ 55
- แม็กกี้ เอาไปเพิ่มรสชาติ
- มาม่าเป็นซองหรือแบบคัพก็ได้
- อาหารที่เป็นซองๆ ปรุงสำเร็จ (ก่อนไปคิดว่าอาหารที่นั่นกินไม่ได้แน่ เอาไปเยอะเลย สุดท้ายเหลือ)
- ขนมกินเล่น (หมากฝรั่ง ช็อคโกแล็ต ลูกอม)
ยารักษาเบื้องต้น ของใช้น่าจะจำเป็น
- พลาสเตอร์ปิดแผล
- เค้าเตอร์เพน
- พาราเซตามอล
- Diamox
- ยาคลายกล้ามเนื้อ
- ยาแก้เมารถ
- ยาลดน้ำมูก
- ยาแก้ท้องเสีย
- ผงเกลือแร่
- กรรไกรตัดเล็บ อาจจะได้ใช้จริงๆนะ
- ที่รัดเข่า
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิค
- โทรศัพท์
- กล้อง
- พาวเวอร์แบงค์
- สายชาร์จ
- ขาตั้งกล้อง
ตามจริงตั้งใจนะเอา drone ไปด้วย แต่ไกด์บอกว่าที่ ABC ไม่อนุญาติให้บินต้อง ถ้าจะบินต้องทำเรื่องยุ่งยาก ก็เลยไม่ได้เอาไป น่าเสียดาย
ประกันเดินทาง
ก่อนจะซื้อประกันต้องเช็คให้ดีๆก่อนนะครับ ว่าครอบคลุมประเทศที่เราไปหรือเปล่า ผมใช้ AIG สามารถใช้ที่เนปาลได้รวมถึงเคลื่อนย้ายด้วยเฮลิคอร์ปเตอร์เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ส่วนเลือก plan ไหนนั้นแล้วแต่เลย ต้องอ่านเงื่อนไขด้วยนะครับ **ประกันมีไว้อุ่นใจก็พอครับ**
+++++++ สรุปค่าใช้จ่าย +++++++
- ตั๋วเครื่องบิน Jet Airway ไป-กลับ(ต่อเครื่องที่เดลี) 9788 บาท
- ไกด์ 645 USD หรือประมาณ 20111 บาท (คิดเรท 31.18 บาท)
- วีซ่า 15 วัน 900 บาท
- ประกันการเดินทาง AIG Plan B 1320 บาท
- เงินติดตัว 355 USD แต่แลกเป็นรูปีจริงๆ 255 USD หรือประมาณ 7950 บาท (มีเงินเหลือกลับ 100 USD)
รวมแล้วประมาณ 40070 ไม่รวมค่าเสื้อผ้าและอุปกรณ์ (ของผมหมดค่าอุปกรณ์ทั้งหมด แพงกว่าค่าไกด์อีก 55+ แต่แนะนำหากใครงบน้อยหรือต้องการประหยัดไป Decathlon เลยครับอยู่ตามห้างโลตัส http://www.decathlon.co.th/th/ )
แนะนำ App
โหลดเลย Maps.me แล้วเข้าไปกดโหลด map ของเนปาลอีกที ใช้ออฟไลน์ระหว่างเดิน GPS จับเร็วมาก ไว้เช็คว่าวันนี้เดินไกลเท่าไหร่ สูงแค่ไหนหรือเดินขึ้นๆลงๆ ผมเปิดใช้ตลอด ไกด์ยังมาขอดูเลย 55+
***ข้อควรระวัง***
ระวังคนเนียนมาช่วยเข็นรถเข็น ยกกระเป๋า หลังจากออกจากตัวอาคารที่สนามบิน พวกนี้ไม่ได้ช่วยฟรีนะครับ ช่วยเสร็จขอ tips และต้องแบงค์ 100 ด้วย (ณ ตอนนั้นทุกคนส่วนใหญ่จะมีเงินไทย และ USD ยังไม่มีเงินรูปี)
วันที่ 1 : 6 เมษายน 2561 - KTM stay overnight KTM
ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ - นิวเดลี เพื่อเปลี่ยนเครื่อง
อาหารบนเครื่องนั้นไม่อยากพูดถึงเท่าไหร่เลยจริง 55+ คนข้างๆก็ส่ายหน้า
สนามบินเดลีดูดีนะฮะ เกือบจะตกเครื่องเพราะวิ่งไปผิด gate สุดท้ายไฟท์ดีเลย์ เลยรอดตาย 55+
ได้เวลาขึ้นเครื่องอีกครั้ง มุ่งสู่กาฐมาณฑุ
ถึงกาฐมาณฑุอย่างปลอดภัย ดูยังไงก็ไม่เหมือนสนามบินเลยแฮะ
รับกระเป๋าเสร็จก็เดินออกมา ณ ตอนนี้นึกว่าพวกเราเป็นดาราดัง 55+
ออกมาก็มองหาไกด์ Krishna ............ โน่นไงเจอแล้ว!!! เห็นใน Facebook บ่อยเลยจำได้ 55+
ทำเป็นช่วยเข็น ช่วยยกแล้วก็หลอกเอาทิป(2คนข้างล่าง) โธ่เว้ยยยย!!!! ระวังกันนะครับ
จากนั้นก็นั่งรถไปที่พัก Mountain Gateway ย่านทาเมล นั่งรถชมบ้านเมืองไปเรื่อย
ขาดเหลืออะไร เลือกซื้อได้เลย ทาเมลสวรรค์นักเทรคจริงๆ เรียกได้ว่ามาตัวเปล่าแล้วมาช้อปที่นี่ยังได้
สิ่งที่เห็นตลอดเลยคือธงมนต์ หลากสีเนี่ยแหละ
สำหรับมื้อแรกที่เนปาล ร้าน Yak Restaurant - ข้าวผัดกับพิซซ่า
วันที่ 2 : 7 เมษายน 2561 - Drive to Pokhara
ตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไป Pokhara ด้วยรถยนต์ ฮะ!!! ทำไมไม่นั่งเครื่องบิน พวกเรางบน้อยครับ ไปรถยนต์ก็นั่งชมวิวไปเรื่อยชิลๆ
Krishna พาไกด์ที่จะไป ABC กับพวกเรามาแนะนำให้รู้จักชื่อ ราม เหมือนเคยอ่านรีวิวเหมือนกันว่าไกด์ชื่อราม คนเดียวกับที่อ่านหรือเปล่าไม่แน่ใจ 55+
จาก maps ระยะทางประมาณ 200 km ใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง กว่าจะออกจากกาฐมาณฑุได้ เฮ้ออออ
ตลอดเส้นทางไม่มีใครหลับเลยสักคน เพราะถนนแย่ ขับตามไหล่เขา ร้อนด้วยมีแอร์แต่เขาไม่เปิดกัน ที่บอกว่านั่งชิลๆ ไม่ชิลแล้วโว้ยยยยยเซง
ระหว่างทางไกด์จะจอดให้กินข้าวเที่ยง ไม่รู้จะสั่งอะไรแต่เน้นไก่ไว้ก่อน พวกเราก็จัดเลยสเต๊กไก่ อร่อยจริงๆ
ช่วงใกล้จะถึง Pokhara สังเกตดีๆ ถ้าฟ้าเปิดจะเห็นวิวเทือกเขาหิมาลัยด้วย
ไม่นานก็ถึง Pokhara พวกเราพักกันที่ Pokhara Eco Resort
ขึ้นไปดาดฟ้าของโรงแรม วิวเทือกเขาหิมาลัย ก็ปรากฎตรงหน้า จริงๆ ไม่ต้องขึ้นมาก็เห็น 55+
รีบเก็บของแล้วออกไปเดินชมเมืองสักหน่อย และหากใครยังได้ของไม่ครบสถานีสุดท้ายก็คือที่นี่นะครับ ยังมีขายอยู่เพียบ พวกเราก็ได้ไม้เทรคที่นี่แหละ เรื่องราคาต่อรองเอาเลย
มาต่างประเทศบางคนจะชอบลองของแปลกก็คือพวกอาหารท้องถิ่น แต่พวกเราหา KFC ก่อนเลย
เมนูที่เมืองไทยไม่มีคือ Smoky grilled อ้าว KFC มันไก่ทอดนิ แล้วทำไมมี grill ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้เช่นกันครับ แต่มันอร่อยมากๆ ห้ามพลาดเลย!!!
เดินถ่ายรูปริมทะเลสาบเฟวา บรรยากาศชิลมาก น่านั่งดริ๊ง
กลางคืนวันเสาร์ถนนริมทะเลสาบจะปิด กลายเป็นถนนคนเดินของนักท่องเที่ยว
และปิดท้ายวันนี้ด้วย Momo
วันที่ 3 : 8 เมษายน 2561 - Drive to Nayapul trek to Tekhedhunga
พร้อมแล้วที่จะไปพิชิต basecamp ก่อนอื่นต้องนั่งรถไปประมาณ 1 ชั่วโมง ไปจุดเริ่มเดิน เสื้อธีมก็มาฮะ Thailand ปู๊น ปู๊น !!!!
โยกไปโยกมา จนถึง เบื่อถนนที่นี่จริงๆ พอถึงลูกหาบก็เข้ามาจัดการสัมภาระพวกเรา
สัมภาระเรียบร้อย ใครยังไม่มีน้ำเปล่าไว้ดื่มระหว่างทางก็ซื้อได้จากร้านค้าตรงนี้เลยครับ พร้อมแล้วไป!!!
ยังไม่ทันไรลูกหาบพักซะแล้ว หรือของพวกเราเยอะไป 55+
ระหว่างเดินไกด์ก็ถามโน่นนี่นั่น ก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้บ้าง ง่อยเลยภาษาตรู
ถึงจุดตรวจ permit ถ้ามากับเอเจนซี่ เขาจะจัดการให้เราเรียบร้อย แค่ยืนรอหรือเดินไปก่อนก็ได้
เรียบร้อยแล้วก็เดินกันต่อ แดดเริ่มมา ฝุ่นก็มี อุปกรณ์ต่างๆที่เราเตรียมมาได้เวลาหยิบออกมาใช้
ข้ามสะพานตรงนี้ ถือว่าเราได้เริ่มเดินอย่างเป็นทางการเรียบร้อย
เดินลัดเลาะตามหมู่บ้านไปเรื่อยๆ ค่อยๆซึมซับบรรยากาศ
มื้อเที่ยงวันนี้ ข้าวผัดไก่ + อาหารสำเร็จรูปที่เตรียมมา
คณะลูกหาบของเรา เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ แข็งแรงมาก
เดินกันต่อยามบ่าย ข้าวยังไม่ทันย่อยเลย
หลบหน่อยครับ
บางช่วงก็ต่อเป็นรถไฟ ช่วงสงกรานต์นักท่องเที่ยวมากันเยอะเกิน
วันแรกๆก็จะสบายหน่อยถึงหมู่บ้านที่พักเร็ว ไม่มีรูปในห้องเลยมีแต่นอกห้อง ลืมถ่ายครับ- -
ห้องอาหารและมื้อเย็นวันนี้
ไกด์จะนำของหวานมาให้พวกเรากินทุกคืนส่วนใหญ่จะเป็นทับทิม กล้วยกับแอปเปิ้ลบ้างบางวัน จากนั้นไกด์จะมานั่งคุยกับพวกเราให้ได้รู้จักกันมากขึ้น เป็นโอกาสดีที่จะได้ฝึกภาษาด้วยเลย 55+ หลังจากนั้นรามจะบอกแพลนพรุ่งนี้ให้พวกเรา ว่าเดินไปไหนบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่
Wifi ต้องเสียตังค์ มีทุกหมู่บ้าน ใช้ได้ไม่ได้ก็ลุ้นเอาวันต่อวัน ส่วนไฟฟ้ามีให้ชาร์จทุกที่และฟรี เอาปลั๊กสามตามาเสียบเพิ่มก็จะดี
วันที่ 4 : 9 เมษายน 2561 - Trek to Ghorepani
วันนี้ต้องเจอกับบันไดนรก 55+
ต่างชาติยังไหว ทำไมคนไทยจะไม่ไหว จริงไหมพวกกกก!!!
วันนี้วิวข้างทางจะเห็นเขาเป็นขั้นบันได
เด็กพวกนี้จะชอบให้ถ่ายรูปและขอช็อคโกแลต ถ้ามีก็แบ่งให้เด็กหน่อยนะครับ
อยากถามพี่ลูกหาบ แบกไปได้ยังไงเนี่ย
สีบ้านแต่ละหลังโดดเด่นทุกหลัง
จุดหมายของเราวันนี้ ตามป้ายไปเลย
เดินมาพักนึงจะเห็นแท่นหินแบบนี้ ไม่รู้ว่าคืออะไรเหมือนกัน
ที่กินมื้อเที่ยงวันนี้ วิวดีแต่เมฆเยอะ
สมาคมลูกหาบและชาวบ้าน
ถ้าลองไปนั่งกับเขาจะเนียนไหม 55+
ต่อไปพวกเราจะเดินในดงกุหลาบพันปี
เดินหลบม้ากับล่อด้วย ทางเดินแคบๆอย่าหลบฝั่งที่เป็นเหวนะ
ทางเดินตอนนี้ร่มรื่นกว่าเมื่อเช้า
พี่คนไทยมากับเอเจนซี่เดียวกับพวกเราแต่คนละไกด์ คุยกันเหมือนมาด้วยกันเลย 55+ (ภาพจากกล้องพี่)
หลังจากนี้ฝนกระหน่ำ ลูกเห็บถาโถมใส่ ไม่ได้หยิบกล้องออกมาเลย จนมาถึงที่พัก ตอนนี้เพื่อนเราคนนึงเริ่มปวดหัว ทีแรกนึกว่าจะเป็น AMS แต่นั่งพัก เคลื่อนไหวช้าๆก็ค่อยๆหาย
ในห้องอาหารจะมีเตาผิง สามารถนำผ้ามาตากได้ พวกเรารองเท้าแฉะกันหมดเลยเนื่องจากไม่ได้เตรียมกางเกงกันน้ำมา ตกแรงมากรองเท้าที่กันน้ำก็เอาไม่อยู่เพราะมันไหลจากกางเกงเดินป่าลงไปในรองเท้า
ไกด์มาบอกแพลนของพรุ่งนี้ ตื่นเช้าทุกวันเลย ยิ่งกว่าไปทำงานอีก และพรุ่งนี้พวกเราต้องเดินไป Poon hill ตอน 4.30 ส่วนรองเท้าก็ตากทิ้งไว้ทั้งคืน
วันที่ 5 : 10 เมษายน 2561 - Trek to Chuile
ยังไม่อยากตื่นเลย ไกด์มาเรียกแล้ว อากาศหนาวสุดๆ เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม แล้วเดินขึ้น Poon hill ตอนนี้ต้องเคลื่อนไหวร่างกายช้าๆครับ ป้องกันอาการ AMS
เห็นหอคอยสูงๆ ก็ใจชื้นล่ะครับ ถึงแล้วแน่ๆ
พบกับมวลมหาประชาชน!!!
ฟ้าปิดซะงั้น ไม่ได้เห็นยอด มัจฉะปูชะเรเลย แย่จัง
แทบทุกคนต้องมาถ่ายจุดนี้
กลับมาที่พัก กินมื้อเช้า เตรียมตัวเดินต่อ แต่กางเกงที่ตากไว้เมื่อคืนก็ยังไม่แห้ง เลยใช้ราวตากพิเศษแบบนี้
แมวอ้วนและเด็กน้อยขนมเลอะปากหมดแล้ว
วันนี้ก็จะเป็นบันไดและผ่านดงกุหลายเหมือนเดิม
เหมือนทางเดินขึ้นสวรรค์ แต่ไม่ใช่!!!
กลับหรือไปต่อดี left or right
ได้เวลาพักกันอีกรอบ แดดแบบนี้เพลียสิครับ
ผ้าบัพนอกจากกันแดดกันฝุ่นแล้วยังทำให้รูปถ่ายดีขึ้นอีกด้วย 55+
ฝนกำลังจะมาเลยต้องทำเวลา ให้ถึงที่พักกินข้าวเที่ยงก่อนฝนตก ถึงปุ๊บก็ตกปั๊บ ลูกเห็บก็มาอีก สลบ!
กะว่าจะลองอาหารเนปาล แต่ก็ไม่กล้าสักที
เดินตากฝนกันต่อจุดหมายวันนี้คือ Chuile
ถามไกด์ตลอดว่าอีกไกลไหม อีกไหม คำตอบที่ได้ทุกครั้งไม่ต่ำกว่าชั่วโมง 555+ และก็ถึงจนได้
เหนื่อยก็เหนื่อย น้ำก็เย็นเหยือก แต่ไม่อาบก็ไม่ได้ ต้องอาบอยู่ดี หึหึ อาบเสร็จมานั่งเล่น Wifi ที่ห้องอาหารเพราะในห้องนอนสัญญาณเน็ตไม่มี เศร้า
วันที่ 6 : 11 เมษายน 2561 - Trek to Sinuwa
วิวที่สวยงามและมื้อเช้าที่สดใส
เจอพี่น้องอีกแล้วครับท่าน
วิววันนี้ค่อนข้างสวยงาม
ตลอดทางก็จะทักทายกัน นมัสเต นมัสเต
คุยไรกันก็ไม่รู้ อยากคุยด้วยบ้าง 55+
คุยไม่ได้งั้นขอถ่ายเก็บไว้ละกัน
ดูจากที่ผ่านมาทุกวันหลังเที่ยงเราต้องเจอฝนแน่นอน ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ทุกวัน
ตอนนี้ได้เวลามื้อเที่ยงพอดี
ระหว่างรออาหารก็เหลือบไปเห็นอีกา มุมดีซะด้วย
คณะอื่นๆก็มาพักกินมื้อเที่ยงกันที่นี่
เดินกันต่อไปคนส่วนใหญ่จะพักกันที่ Chomrong เพราะมีกาแฟสด ร้านคาเฟ่คือร้านค้าเยอะมากและก็วิวสวยงามด้วย แต่ไกด์ให้เราเดินต่อ เสียใจ- - เดินต่อก็ได้
ผ่านจุด Checkpoint
ฝ่าฝนมาอีกเช่นเคย เนื่องจากที่พักที่นี่เต็มเหลือห้องใหญ่ห้องเดียว ทำให้พวกเรา 3 คน ต้องนอนรวมกับพี่อีก 2 คน ที่มากับเอเจนซี่เดียวกัน พวกเราก็ไม่มีปัญหาครับ คนไทยด้วยกัน (การจองที่พักไกด์จะโทรจองวันต่อวันครับ)
วันที่ 7 : 12 เมษายน 2561 - Trek to Deurali
ตื่นมาก็เห็นเขาหางปลาเลย(fish tail)
เส้นทางวันนี้เรียกได้ว่าโหดสุดๆ โหดจนต้องร้องขอชีวิต 55+
และตั้งแต่วันนี้ไปจะไม่มีเนื้อสัตว์(ไก่ วัว ควาย)แล้วครับเพราะเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์
เดินขึ้นๆ ลงๆแบบนี้แหละกินแรงพวกเรามากมาย
พักกินมื้อเที่ยงที่ Dovan ไกด์บอกลูกหาบหิวข้าว ตามแพลนจริงๆจะไปกินที่ Himalaya
จากนั้นก็ลุยฝนไปถึง Himalaya เปียกแฉะ
รู้สึกกล้องเป็นภาระในการเดินสุดๆ เลยเก็บใส่กระเป๋าแล้วมุ่งไปที่จุดหมาย รูปจากนี้เลยไม่มี- -
มื้อเย็นของพวกเราจัดหนักหน่อยนะ
มื้อเย็นหลายวันที่ผ่านมาบรรดาไกด์กับลูกหาบจะกินข้าวหลังนักท่องเที่ยวกินเสร็จแล้ว แต่จะกินในครัว วันนี้ครัวเต็มหรือเปล่าไม่แน่ใจไกด์ออกมากินที่ห้องอาหาร พวกเราได้เห็นการใช้มือกินข้าวของไกด์ ชำนาญสุดๆ
คืนนี้พวกเราก็นอนรวมกับพี่เขาเช่นเคยห้องก็แคบลงวัน อบอุ่น สนิทสนมกันเร็วดี 55+
วันที่ 8 : 13 เมษายน 2561 - Trek to ABC
ออกมาจากห้องโอ้โหเลย
เตรียมเดินทางกันต่อ วันนี้ต้องไปถึง basecamp
ช่วงเช้าเดินช้าหน่อยเพราะมัวแต่ถ่ายรูปกับวิวที่อลังการ
แดดแรงแค่ไหนก็สู้ตาย
พักกินข้าวเที่ยงที่ MBC จริงอยากถ่ายรูปมากกว่าเพราะวิวมันสวยมากกกกก ก ล้านตัว
วิวข้างบ้านเราเอง 55+
เห็น H มาพอดี คนแห่กันไปถ่ายรูป
กรุ๊ปก่อนหน้าเขาบอกเมื่อวานเจอพายุหิมะตอนไป ABC แต่พอวันของเราหิมะตกเบาๆ มุ้งมิ้งๆ 55+
เริ่มห่างไกลที่เห็นสีน้ำเงินๆคือ ที่ที่พักกินมื้อเที่ยง MBC นั่นเอง
อย่ามัวแต่เดินไปข้างหน้า ลองหันหลังมาดูดิ โครตสวยยย
อ้าวมีแอ่งน้ำด้วยหรือ
คนในภาพคือพี่ที่พักกับพวกเรานั่นเอง
เดินมาไกล ความฝันก็สำเร็จสักที
ถ่ายกับไกด์บ้างเดะ
ถ่ายกับพี่ๆที่พักกับพวกเราครับ
วันที่ 9 : 14 เมษายน 2561 - ABC
บรรยากาศยามเช้า
H มารับพวกเราแล้วใช่ไหม
แห่มาดู H กันใหญ่
ในห้องอาหาร นักท่องเที่ยวต่างเอารูปตัวเองมาแปะ พวกเราก็เป็นหนึ่งในนั้น 55+
สำหรับการเดินกลับพวกเราใช้เวลา 2 วัน ถือว่าหนักพอควร แต่ไม่ขอพูดถึงละกันครับ
ไม่เคยคิดว่าจะมาถึงจุดนี้ มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ อลังกาลมาก การเห็นในรูปกับของจริงมันต่างกันเหลือเกิน
"จุดหมายทำให้เกิดการเดินทาง ระหว่างทางทำให้เกิดเรื่องราว"
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและสนุกไปกับการเดินทางของพวกเราครับ ฝากไลค์ฝากแชร์ฝากแคร์กันด้วยนะครับ
ติดตามเรื่องราวของผมได้ที่เพจ "เที่ยวออกเดิน" by Fun_O
Facebook : https://www.facebook.com/TiewOkDern/
Readme : https://th.readme.me/id/funotravel
Pantip : http://pantip.com/profile/2443477
TheTripPacker : https://www.thetrippacker.com/th/timeline/index/28...
ChillPainai : http://blog.chillpainai.com/blog/Chanon%20Wattanak...
Fun_O
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 22.42 น.