ถ้ำน้ำเขาศิวะ ที่ไหนนะ? คือสระแก้วก็เคยเที่ยวหลายรอบ อำเภอคลองหาดก็เคยเห็นป้ายบอกทาง แต่ถ้ำน้ำเขาศิวะนี่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นตอนเพื่อนชวนก็ตอบง่ายๆ ว่าโอเคไปด้วย ตามประสาใครชวนไปไหนไปหมดแหละนะ (ฮา...)
มารู้เอาจากที่เพื่อนบอกภายหลังว่าถ้ำน้ำเขาศิวะเป็นถ้ำภายในภูเขาหินปูนลูกใหญ่ อยู่ที่ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ห่างจากตัวเมืองสระแก้วสัก 80 กิโลเมตร และห่างจากตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ 70 กิโลเมตร
เป็นถ้ำซึ่งมีธารน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี การเที่ยวชมจึงต้องว่ายน้ำเข้าไป
และแน่นอนว่าถ้ำธารน้ำแบบนี้จะหนีพ้นเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคได้อย่างไร บางคนเลยเรียกที่นี่ว่าถ้ำพญานาคสระแก้ว หรือเมืองบาดาลสระแก้ว ก็ว่ากันไปครับ
ได้ยินแบบนี้แล้วทำให้สถานที่ซึ่งไม่รู้จักกลายเป็นอะไรที่น่าไปเที่ยวขึ้นมาหลายเท่าตัวเลยใช่ไหมล่ะ
การเที่ยวถ้ำน้ำเขาศิวะอยู่ในความดูแลของ อบต.คลองไก่เถื่อน ปกติสามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่หากช่วงฝนตกหนักก็ต้องดูสถานการณ์นิดหน่อย สอบถามข้อมูลกันก่อนไปเที่ยวได้เลยครับ 0611084986 คุณอำนวย ไกด์ท้องถิ่น หรือ 037543031 อบต.คลองไก่เถื่อน
ทริปนี้เราแยกย้ายกระจายเดินทางหลากหลายทิศทาง เหมารถตู้จาก กทม. หนึ่งคัน ขับรถส่วนตัวอีกสามคัน รวมแล้วยี่สิบกว่าคนเชียวล่ะ จุดนัดพบคือตรงถ้ำน้ำเขาศิวะเลยเพราะถนนคอนกรีตใหม่เอี่ยม เข้าถึงได้ด้วยรถทุกประเภท
ลานจอดรถกว้างขวางครับ มีจุดบริการนักท่องเที่ยว ห้องน้ำใหม่สะอาด ทั้งหมดเพิ่งปรับปรุงกันเสร็จแค่ราวหนึ่งปีที่ผ่านมา บวกกับร้านขายข้าวขายน้ำอีกนิดหน่อยพอหากินแก้หิวได้ ค่าเที่ยวถ้ำ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
เนื่องจากเราจะค้างแรมที่นี่ด้วยจึงไม่ต้องรีบร้อน
เพราะการเที่ยวถ้ำน้ำเขาศิวะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ผมเผาเวลาด้วยการเดินเล่นถ่ายรูปรอบพื้นที่ซึ่งร่มรื่นดีทีเดียว
ป้ายโชว์ภาพถ่ายที่สื่อช่องต่างๆ เคยมาทำรายการประชาสัมพันธ์ให้ครับ
ตรงนี้คือปากทางเข้าถ้ำ มาเที่ยวที่นี่ยังไงก็ต้องเปียกล้านเปอร์เซ็นต์
สักบ่ายโมงครึ่งเราถึงเตรียมตัวเที่ยวถ้ำกัน
อบต.มีเสื้อชูชีพกับรองเท้ายางหรือสตั๊ดดอยให้ยืมใส่
ที่นี่ไม่แนะนำให้ใส่รองเท้าแตะนะเพราะหลุดแน่นอน
ถ้าจะใส่รองเท้าตัวเองควรเป็นอะไรที่รัดส้นและแห้งง่าย
สำหรับอุปกรณ์อีเล็กโทรนิกส์ทุกอย่าง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ต้องเอาเข้าไปหรอกครับ แม้ว่าไกด์จะมีกล่องพลาสติกใส่วางบนห่วงยางหรือเราใช้กระเป๋ากันน้ำอย่างดีแค่ไหนก็เถอะ เพราะอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ อุทาหรณ์มีให้เห็นประจำอยู่แล้ว เพื่อนเราคนหนึ่งต้องสังเวยมือถือไปหนึ่งเครื่องในครั้งนี้
กล้องถ่ายรูปแนะนำเอาเข้าไปเฉพาะกล้องกันน้ำเท่านั้น ผมเองก็ไม่เสี่ยงเอา DSLR เข้าไป ขาตั้งกล้องไม่ต้องใช้เพราะไม่มีที่ให้กาง
เอาล่ะพร้อมแล้ว ยี่สิบกว่าชีวิตลุยถ้ำน้ำเขาศิวะกันครับ มีนักท่องเที่ยวอีกสองสามกลุ่มเข้ามาพร้อมกันด้วย ระยะทางประมาณ 300 เมตร น้ำลึกตั้งแต่หัวเข่าจนถึงมิดหัว ใช้เวลาไปกลับราวชั่วโมงครึ่ง
เปิดไฟฉายเข้าถ้ำฉุนกลิ่นมูลค้างคาวนิดหน่อย
ช่วงไม่กี่สิบเมตรแรกน้ำอยู่ที่ระดับหัวเข่า แต่เข้ามาสักพักเดียวก็ลึกเป็นระดับเอวแล้ว
จากเอวก็เริ่มถึงระดับหน้าอก
และบางช่วงลึกจนเท้าแตะพื้นไม่ถึงต้องลอยคอว่ายกันไปครับ
บางจุดต้องระวังหัวสักหน่อย
โขกเข้าไปมีสิทธิ์เลือดอาบ (ฮา...)
ตรงนี้หากมองจากด้านข้างจะดูคล้ายใบหน้ามนุษย์หรือตามความเชื่อคือพระศิวะ
อันเป็นที่มาของชื่อถ้ำ
มาถึงบริเวณนี้ม่านหินย้อยสวยเชียว ผมว่าเป็นจุดสวยที่สุดในถ้ำแล้วครับ
ขยับมาอีกหน่อย เรียกกันว่าน้ำตกงวงช้าง ให้ค่าความอะเมซซิ่งระดับสิบ
น้ำใต้ดินไหลวนเป็นเกลียวลงมาทางหินย้อยก้อนนี้ แถมปริมาณน้ำถือว่าเยอะมากเหมือนเปิดน้ำก๊อกเลย
ไม่ใช่แค่หยดน้ำติ๋งๆ เท่านั้น
ต่อมาเป็นจุดซึ่งพื้นต่างระดับทำให้เกิดเป็นน้ำตกหินปูนชั้นเตี้ยๆ
ต้องปีนป่ายออกแรงนิดหน่อย ช่วยฉุดกันไปครับ
แล้วตอนบ่ายสองสี่สิบห้า
เราก็มาถึงจุดสุดท้ายของถ้ำที่เป็นทางตัน มีความเชื่อว่าถ้ามาถึงตรงนี้แล้วไปแตะผนังถ้ำขอพรก็จะประสบผล
คงไม่ต้องบอกครับว่าส่วนใหญ่ขอเรื่องอะไรกัน มีอยู่สองเรื่อง ไม่หว... ก็แฟ...
(ฮา...)
จริงๆ ไกด์บอกว่าหากดำน้ำลงไปอีกเป็นสิบเมตรจะมีทางลอดไปโผล่อีกฝั่งของผนัง ด้านในมีชั้นน้ำตกเล็กๆ เหมือนที่เราเคยผ่านมาแล้วแต่จำนวนหลายชั้นกว่ามาก แต่จะไปถึงตรงนั้นได้มีเพียงแค่นักดำน้ำระดับอาชีพติดถังอ็อกซิเจนเท่านั้น สำหรับเราแค่นี้ก็ถือว่าสุดอัศจรรย์เพียงพอแล้ว
เราใช้เวลาใกล้เคียงกันทั้งขาเข้าและขาออก กลับออกมาถึงปากถ้ำตอนบ่ายสามยี่สิบห้า รวมเบ็ดเสร็จอยู่ในถ้ำราวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เป็นช่วงเวลาไม่มากไม่น้อย และถึงหินงอกหินย้อยในถ้ำจะไม่ได้สวยมากนักเมื่อเทียบกับถ้ำท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง
แต่ประทับใจทุกนาทีที่อยู่ข้างใน เพราะไฮไลท์ไม่ได้อยู่ที่หินงอกหินย้อย
มันอยู่ที่เราต้องลุยน้ำเข้าไปต่างหากล่ะ
เราออกมาไม่นานก็มีอีกกลุ่มสี่ห้าคนสวนทางเข้าไป เป็นหนุ่มนักศึกษาชาวสระแก้วนี่แหละ เรียกว่าถึงนักท่องที่ยวจะยังไม่เยอะมากแต่ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ ก็พอมีคนมาเรื่อยๆ ให้ชาวบ้านมีรายได้จากการท่องเที่ยว
หลังจากอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายกันแล้วก็ได้เวลาตั้งแคมป์ พื้นที่กว้างขวางครับ จะเลือกลานปูนหรือลานดินก็ตามสะดวก ต้นไม้สำหรับผูกเปลมีอยู่พอประมาณ ห้องน้ำอย่างดีอาบน้ำสบาย นำน้ำมาใช้ก็ง่าย ไฟฟ้าก็สามารถต่อมาจากป้อมยามได้ สะดวกสบายไปครับ
ถึงทริปนี้จะชิลๆ ไม่ต้องออกแรงเดินป่า
แต่พวกเราก็ไม่ทิ้งลายต้องเตรียมเสบียงมาทำกินกันเอง ถ้าซื้อสำเร็จรูปมากินนี่ไม่ค่อยได้อารมณ์แคมปิ้งเท่าไหร่
(ฮา...)
ค่ำๆ ผมเดินเล่นหามุมถ่ายดาวสักหน่อย
แต่เพราะเราอยู่ที่ต่ำ มีภูเขาต้นไม้ล้อมรอบวิวดูดาวโดยรวมเลยไม่ค่อยแจ่มเท่าไหร่
ตอนเช้าเราตื่นมาช่วยกันทำอาหารอีกรอบ
เก็บเต็นท์เคลียร์ที่ทางเสร็จค่อยแยกย้ายกลับทางใครทางมัน
สรุปค่าเสียหาย ค่าเข้า ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท ค่าพักแรมกางเต็นท์ไม่มีครับ อยู่ที่จะให้เป็นค่าบำรุงสถานที่ตามสะดวก เช่นเดียวกับค่าไกด์ซึ่งเราให้เป็นสินน้ำใจตามที่เห็นเหมาะสม
เป็นทริปง่ายๆ แต่สนุกมากครับ ได้เห็นสถานที่สวยแปลกตาและน่าอัศจรรย์ รวมทั้งเห็นถึงความพยายามของชุมชนในการผลักดันของดีบ้านตัวเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และความกระตือรือร้นอยากให้บริการคนที่มาเที่ยวของชาวบ้าน
ถ้ำน้ำเขาศิวะ สายชอบลุย สายชอบสนุก สายรักธรรมชาติต้องมาครับ ส่วนจะค้างแรมแบบพวกผม หรือมาเที่ยวแล้วเข้าไปนอนตัวเมืองสระแก้วก็แล้วแต่สะดวก
อันซีนสระแก้ว ไม่มาไม่รู้ครับ สนุกมากขอบอก
ติดต่อเที่ยวถ้ำน้ำเขาศิวะ
0611084986 คุณอำนวย ไกด์ท้องถิ่น
037543031 อบต.คลองไก่เถื่อน
ค่าเข้าผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ค่าพักแรมไม่มีกำหนด ให้บำรุงสถานที่ตามสะดวก
ค่าไกด์ไม่มีกำหนด ให้สินน้ำใจตามเหมาะสม
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller
นายสองสามก้าว / A Life, A Traveller
วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.04 น.