ผมตัดสินใจออกจากงานและมาทำตามสิ่งที่ใจบ้าๆเรียกร้อง

Part 1: Eleventh day

หลังจากจบจากทริปเชียงใหม่ ผมก็มีแพลนที่จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาต่อ ผมออกจากเชียงใหม่ 18.00 น. ของวันที่ 16 feb 2023 และมาถึงรังสิต 7.00 น. ในตอนเช้า ผมนั่งรถเมล์จากรังสิตมาหัวลำโพง ในช่วงเวลาที่อยู่บนรถก็หลับอย่างเดียวเพราะเหนื่อยกับการเดินทาง วันนี้พักใจกลางกรุงเทพ เมืองแห่งความ civilization อยู่ดีๆมันรู้สึกคิดถึงเชียงใหม่ขึ้นมาแบบงงๆ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป สิ่งรอบข้างดูวุ่นวายผู้คนต่างเร่งรีบ มันทำให้ผมต้องรีบหา hostel สักแห่งเพื่อพักผ่อน นั่งหาอยู่นานจนสุดท้ายก็ได้พักกับ HOFT Hostel Bangkok (ขอภัยผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยเพราะว่าตอนนั้นเหนื่อยบรมเลย) ที่นี่ห้องโถงกว้างขวาง ห้องน้ำสะอาด ที่สำคัญราคาถูก ผมยังแบบตกใจนี้มันใจกลางเมืองนะ 

check in เสร็จ ผมอาบน้ำจัดของและออกธุดงค์ทันที จุดหมายผมคือบริเวณหมาวิทยาลัยจุฬา ผมออกธุดงค์ไปเรื่อยๆสักพักก็เกิดความล้าเพราะด้วยทริปก่อนหน้านี้ผมใช้ร่างกายไปหนักมาก ระหว่างทางผมเหลือบไปเห็นจักรยานคันสีเขียวจอดเรียงกันเป็นตับ นึกในใจสบายแล้วกูไม่ต้องเหนื่อย ปั่นไอ้นี้ไปละกัน ผมรีบเข้าไปหาทางจัดแจ้งจะปลดล็อคทำตามทุกขั้นตอนทุกอย่าง สุดท้ายต้องจ่ายเงิน ผมเลยล้มเลิกความตั้งใจและจากไปทันที haha (เหมือนคนบ้า) 

คนเดียวกินสองอะครับกินชาตินี้อิ่มอีกทีชาติหน้า

ตอนนี้เริ่มหิวแล้ว ผมจึงเริ่มเร่งฝีเท้าและพยามหาร้านอาหารที่ราคาไม่เกิน 50 บาท ช่างโชคร้ายมันไม่มี จึงคิดว่างั้นวันนี้ซัดชาบูเท่ๆหน่อยแล้วกัน ค้นหาร้านชาบูใกล้ฉันจนได้พิกัด มันอยู่แถวย่านที่ผมจะไปพอดี ผมรีบจ่ำด้วยความเร็วสูงสุด จนมาถึง แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้กินอยู่ดีเพราะสู้ราคาไม่ไหว Haha ไม่ใช่ผมไม่มีเงินแต่ผมคิดถึงมื้อถัดไปด้วย สุดท้ายจึงจากมันไปด้วยความเศร้าใจ จริงๆร้านน่านั่งและอาหารดูน่ากินมาก (ไม่เป็นไรเดี่ยวครั้งหน้าผมเป็นceoแล้วมาใหม่) ผมวนเวียนหาร้านอาหารแถวนั่นอยู่พักใหญ่ จนมาลงเอยด้วยพัดกระเพรา ที่เลือกร้านนี้ไม่ใช่อะไรนะแต่เพราะมีโปรโมชั่น 1 free 1 haha

ราคาเป็นมิตร รสชาติอาหารก็อร่อยอิ่มแบบสะใจแถมสบายกระเป๋า อิ่มปุ๊ปก็กลับปั๊ป ระหว่างเดินกลับก็ครุ่นคิดหลายๆอย่างกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ว่าจริงๆแล้วคนเราต้องการอะไรกันแน่ ความสะดวกสบาย,เงินทอง หรือชื่อเสียง เพื่อมาเติมเต็มจิตใจที่ว่างหรือเปล่านะ มันก็ใช่แต่สำหรับผมรู้สึกว่าเราแค่ต้องการอะไรก็ได้ที่มาทำให้เรามีความสุข ผมจึงคิดว่าความสุขที่แท้จริงนั้นต้องเกิดจากความอิ่มเอมจากข้างในตัวเราก่อน ตอนนั้นเราจะเป็นสุขและอิสระจากสิ่งภายนอกได้ (ต้องมีเงินด้วยนิดหนึ่งนะ haha) สุดท้ายสำหรับผมธรรมชาติและความเรียบงายเป็นสิ่งที่ผมชอบ จนถึงวันนี้แม้จะเหนื่อยหน่อยแต่ก็โอเคเพราะหัวใจยังเต้นอยู่

Part 2: Tweleth day

พักที่ กรุงเทพ อยู่ 1 คืน ตื่นเช้าก็ไปซื้อตั๋วรถ เพื่อจะเดินทางไปสระแก้วและข้ามไปกัมพูชา ในใจตอนนั้นตื่นเต้นมาก อยากพบอยากเจอกับสิ่งใหม่ๆที่รออยู่ข้างหน้าเหมือนกับเด็กที่พ่อแม่จะพาไปสวนสนุก ผมออกเดินทางจาก hostel ตอน 11.00 น. และไปถึง สถานีหมอชิต 2 ตอน เที่ยงพอดี จากนั้นก็ต่อรถตู้ไป สระแก้วเลยยาวๆ 

.....................และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ด้วยความประมาทที่ไม่ได้เช็คให้ดีก่อนว่า passport ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ต้องมีระยะเวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ผมไม่สามารถเข้ากัมพูชาได้ ผมโทรหาเพื่อนที่อยู่กัมพูชาทันทีและขอโทษพวกเขาจากใจ I can't cross the border, it's my bad. I'm so sorry for this. วันนี้รู้สึกเสียใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ผมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนที่เคยเป็นอาสาสมัคด้วยกันที่ต่างประเทศ " After finishing Volunteer life, we will meet again somewhere, so do not forget each other okay " นี้เป็นค่ำมั่นที่ผมและเพื่อนๆได้ให้กันไว้

ย้อนกลับไป 4 เดือน ก่อน ผมโทรหาเพื่อกัมพูชาคนนี้ "มันถึงเวลาแล้วที่ผมจะไปพบคุณแต่น่าจะหลังจากปีใหม่นะถ้าคุณว่างยังไงเจอกันครับ" เพื่อนผมตอบตกลงและหาวันว่างที่จะได้เจอกับผม แต่แล้ว boom แผนที่เตรียมมาพังหมดเลย ผม down ไปพักใหญ่ แต่แล้วเธอก็โทรกลับมาและบอกว่าไม่เป็นไรครั้งหน้ามาใหม่ เธอเข้าใจสถาณการณ์ดี กัมพูชายินดีต้อนรับเสมอ ผมรู้สึกขอบคุณเธอมากๆ


ความวังเวงเข้าโจมตีอย่างหนัก จนไม่รู้จะทำไงรูสึกเซ็งมากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมตัดสินใจ เปลี่ยนแผนเดินทางขึ้นอีสาน แต่ตอนนั้นเป็นเวลา 16.00 น. แล้ว มันเริ่มมืดและอันตรายเพราะไม่คุ้นกับสถานที่ โรงแรมหรือห้องพักแถวนั้นก็แพงมาก จึงโทรหาเพื่อนเก่า Chumnan Saetung ที่เคยเรียน camp ด้วยกันที่มอบูรพา มันแนะนำที่พักนราคาถูกให้ รู้สึกขอบคุณมึงสุดๆเลยเพื่อน เมื่อเหตุการณร้ายๆผ่านไปสิ่งดีๆก็เข้ามาแถวๆนั้นมีร้านไก่ทอดชื่อดังของผู้พันก็เลยกินมันปลอบใจสะเลย 555

โชคชะตามักเล่นตลกกับคนเสมอ "ไอ้ห้องพักที่เพื่อนผมแนะนำมาแมร่งก็ดันเต็ม" ผมจึงอุทานออกมาอย่างดังว่าวันนั้มันวัน..........อะไรวะเนี่ย!!!!  เอาให้สุด ผมกัดฟันและออกเดินธุดงค์เพื่อนตามหาที่พักอีกครั้ง ผมร่อนเร่อยู่หลายกิโล หิวก็หิว (ไก่ผู้พันไม่ได้ช่วยอะไรเลย) กระเป๋าที่แบกมาก็โคตรหนัก แบตเจ้ากรรมก็มาหมด อะไรอีกวะเนี่ย ผมพูดได้เลยว่าช่วงเวลานั้น moment นั้น ใช้คำว่าโคตะระเหนื่อยได้โคตรคุ้ม 

ผมธุดงค์ไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย เดินขอความช่วยเหลือกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมา จนถ้อ แต่ทันใดนั้นพระเจ้าก็เห็นใจให้ผมได้พบกับฮีโร่ พี่คนนี้เป็นใครไม่รู้ชื่อแซ่ก็ไม่บอก ใส่หมวกใส่ผ้าปิดหน้าปิดตาแบบชนิดที่ระบุตัวตนไม่ได้ว่าเป็นใคร พี่แกถามผมคำแรกว่าจะไปไหน ผมจึงตอบกลับไปด้วยเสียงที่หมดแรงว่า ผมกำลังมองหาห้องพักสักแห่งที่ราคาไม่แพงครับ พี่พอจะทราบไหม แบตโทรศัพท์ผมก็หมด ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีตอนนี้ขอความอนุเคราะห์ช่วยผมด้วยครับ

พอฟังจบ พี่แกบอกว่าขึ้นมาเดี่ยวไปส่ง แกขี่มอไซต์มาส่งผมยันที่พัก ซึ่งไกลมากจากที่ๆผมเจอตอนแรก แถมพี่แกยังแนะสถานที่ซื้ออาหารและ บขส. ให้อีกด้วย ผมล่ำลาพี่แกและกล่าวขอบคุณจากหัวใจ 

ความเหงาเข้ามาจับใจอีกครั้งผมจึงโทรหาเพื่อน Teerapat Note เพื่อแบ่งปั่นเรื่องราวและสิ่งต่างๆที่พบเจอ เราแลกเปลี่ยนความฮาเหมือนอย่างเคย หลังจากคุยกับเพื่อนเสร็จมผมกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง ตอนนั้นเป็นช่วงที่มนั่งทบทวนตัวเอง ว่าวันนี้ได้มีโอกาสเรียนรู้อะไรบ้าง

นี้แหล่ะชีวิตการเดินทาง มันไม่สามารถรู้ได้ว่าข้างหน้าจะเจออะไร จนเมื่อเราได้เอาตัวเราไปสัมผัสกับมัน ผ่านทางเรื่องนี้ ผมคิดว่าการแบกกระเป๋าที่มันเต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย มันก็เหมือนกับเราแบกภาระความเครียดหรือสิ่งต่างๆที่กวนใจเรา แต่เมื่อมันได้วางลงเราก็รู้สึกโล่งเบาสบาย ได้มีโอกาสทบทวนกับเรื่องที่อาจารย์เคยสอน ว่าการมีภาระที่หนักมันทำให้เราเป็นทุกข์และเศร้าหมอง แต่ถ้ามันสามารถเอาภาระที่หนักนั้นมอบไว้กับพระเยซูได้มันก็เป็นสุข ชีวิตของเราสุดท้ายแล้วมันก็ต้องการสถานที่สักแห่งที่สามารถพักผ่อนและเป็นสุขได้ วันบ้านี้ล่อผมหมดพลังเลย

Part 3: Thirteenth day

ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่อแจ่มใสเพราะเมื่อวานเหนื่อยแถบขาดใจ จุดหมายถัดไปคือ "นคราชสีมา" (โคราช) โรงแรมที่ผมพักเมื่อคืนนี้ ค่าเสียหายแค่ 350 บาท คุ้มค่า ขอบคุณที่ให้ผมได้นอนหลับสบายครับ ผมนั่งวินไป บขส. ซึ่งก็ไกลพอสมควร ผมเดินเข้าไปที่ บขส. และบอกกับคนขายว่าไปโคราชครับ เป็นที่น่าเสียใจนะน้องรถไปโคราชมีแค่สองวันคือ พุธ กับ ศุกร์ น้องต้องนั่งรถจากนี้ไป กบิน แล้วก็ต่อรถทัวร์ไป โคราช 

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอาอีกแล้วล่อกกูอีกแล้วเอาไงเอากันไปก็ไปวะ!!!!!!!!!!!

เอาจริงๆผมเบื่อกับการเดือนทางในที่แคบสุดๆ อุปสรรคและรสชาติของการเดินทางคืออยากไปในที่อยากไปแบบใจนึกแต่มันไปไม่ได้ ตลอดการเดินทางผมก็ซ้อมตายครับ(หลับแบบ no care)

ในที่สุดผมก็มาถึงดินแดนแห่งความกว้างใหญ่ โคราช (นครราชสีมา) ผมหาที่เช่ามอไซต์ทันทีแบบไม่รอช้าเพราะคิดในใจแล้วว่าถ้าจะให้กูธุดงค์อีกแบบตอนสระแก้วกูไม่เอาแล้วจ้าๆๆๆ!!!

เมื่อได้มอไซต์แล้วก็หาที่พักผ่าน Agoda ได้ที่พักจ่ายเงินเสร็จขี่รถไปทันที ความซวยมาเยือนอีกครับครั้งโรงแรมเจ้ากรรมพวกยกเลิกระบบของ Agoda ไปแล้ว แต่พวกไม่ยกเลิกใน applicationไปด้วย ความบ้าคือหวยออกที่ผมไง 

"น้องพี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ น้องไม่สามารถพักที่นี้ได้ เรายกเลิกไปนานแล้ว" เจ้าของที่พักพูด เอาอีกแล้วความมันบังเกิดอีกแล้ว แล้วผมจะไปนอนไหนวะเนี่ยตอนนี้ 18.30 แล้ว รู้สึกอ้างว่างแบบสุดๆเพราะมืดแล้วไปไหนก็ไม่ถูกจนผมต้องโทรไปคุยกับ Agoda ให้คืนเงิน ระยะทางที่ขี่รถมาจากเมืองโคราชก็ไม่ใช่ใกล้ๆ 13 กิโล เห็นจะได้ มันจึงทำให้ผมเซ็งคูณสองเลยทีเดียว ผมต้องบิดกลับเข้าเมืองอีกตอนนั้นวังเวงไม่รู้จะไปไหน

ผมจึงทักไปถามเพื่อนที่เรียนกฎหมายด้วยกัน Thansuda Sanluecha ว่ามึงมีที่พักแถวไหนถูกๆบ้างวะ โคราชแมร่งก็โคตรใหญ่แล้วคืนนี้กูจะเอาไงต่อดี เพื่อนผมบอกว่ามึงใจเย็นๆมีที่หนึ่งลองไปดู ผมจำชื่อไม่ได้ว่าที่ไหนแต่ก็ไม่ไกลมาก วันนี้หิวแบบสุดๆอะครับเพราะยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยง เมื่อได้ที่พักแล้วก็ตะเวณหาร้านข้าวจนได้ได้ร้านนี้ครับจำชื่อไม่ได้แต่กระเพราเนื้ออร่อย พี่เจ้าของร้านใจดีสุดแนะนำห้องพักราคาถูกให้ โชคยังเข้าข้างผมบ้าง และแล้วผมก็ได้ห้องพักราคาถูก มาไว้ซุกหัวนอนในคืนนี้ครับ


ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนและติดตามการเดินทางของผมครับวันนี้จบแค่นี้ผมหลังจากนี้มันกว่านี้แน่นอน

Mr.Electric

 วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 19.26 น.

ความคิดเห็น