ใครที่นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากพาคู่รัก หรือครอบครัวไปชิลๆ บรรยากาศธรรมชาติ ริมแม่น้ำบางปะกง ไปศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ในระยะทางประมาณ 50 กม. จาก กรุงเทพฯ ขับรถส่วนตัวไปใกล้ อึดใจเดียวถึงเลย แต่ระหว่างทางมุ่งหน้าจากถนนสุขุมวิทสายเก่า หรือผ่านบางนา มุ่งหน้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา จะเห็นมีโรงงานมากมายหลากหลายตั้งอยู่เรียงราย 2 ข้างทาง ดูแล้วไม่น่าจะมีที่น่าอภิรมย์ หรือแหล่งธรรมชาติให้ไปแอบอิงได้เลย น่าจะมีแต่มลภาวะเป็นพิษนะ แต่วิ่งไปเรื่อยๆ เปิด google map หาคำว่า "รตะธารารีสอร์ท" จะเห็นตำแหน่งรีสอร์ทในแผนที่ว่าอยู่ตรงตำแหน่งริมแม่น้ำ ใกล้ทางออกสู่ปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ขับรถส่วนตัวไปจะสะดวกที่สุด แวะตำบลท่าข้ามซึ่งจะมีสัญลักษณ์รูปปลาโลมาเริงร่าอยู่ตรงแยกถนน local road ถือเป็น land mark อย่างหนึ่งของที่นี่


รีสอร์ทอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่มากนัก ถ้าไปตาม google map ก็จะหาง่ายมาก เพราะแถวๆนั้น มีรีสอร์ทไม่มาก ถ้าเห็นป้ายระตะธารารีสอร์ท หรือครัวระเบียงน้ำ ก็เลี้ยงเข้าซอยไปเลย แต่บอกก่อนว่า ถ้าเข้าไปแล้ว ไม่ได้มี 7-eleven หรือร้านอาหารอะไรให้ทานอะไรมากมาย เรียกว่า ถ้าจะเข้าพัก check in ก็เตรียมนั่งๆ นอนๆ ชิลๆ และทานอาหารได้ที่ห้องอาหารครัวระเบียงน้ำ ซึ่งเป็นร้านอาหารประจำรีสอร์ท เรียกว่า อร่อยสุดในย่านนั้นแล้ว เมนูแนะนำที่นี่ก็จะมี ปูหลน ปลากระพงทอดน้ำปลา ต้มยำปลากระบอก ข้าวผัดทะเล รสชาติอาหารถือว่าโอเค ไม่ได้โดดเด่น ราคาก็อยู่ระหว่าง 150-400 บาทต่อจาน ที่รีสอร์ทมีบริการขายอาหาร ขายเครื่องดื่มทั้งเหล้า ไวน์ เบียร์ ขนมขบเคี้ยวก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ แต่ถ้าให้ดี ซื้อเตรียมไว้ก่อนเข้าที่พักจะดีกว่า เพราะมีให้เลือกไม่มาก และราคาสูงกว่ามินิมาร์ทแน่นอนจ้า

ปิงปิงเอง ศึกษาข้อมูลใน agoda ก็จะเห็นภาพห้องพักที่หลากหลายให้เลือก แต่ที่เตะตาต้องใจเราคือ ที่พักที่เป็นเรือ ซึ่งอยู่ตำแหน่งริมน้ำเลย จากการดูราคาใน agoda แล้ว ราคาค่าเช่าที่นี่ มีตั้งแต่ 1000 ต้นๆ สำหรับห้องพักแบบธรรมดา ที่ไม่ได้ติดริมน้ำ ไปจนถึง 3,000 บาท ตามขนาดของบ้านพัก ยิ่งเป็นห้องพักแบบเรือจะมีราคาสูงกว่า 2,000 บาท เขามีบ้านพักที่เป็นแบบเรือให้เลือกประมาณ 6 ลำ ขนาดจะไม่เท่ากัน ราคาก็ต่างกันตามขนาดและการตกแต่ง ปิงปิงเกือบจองผ่านทาง agoda ไปแล้ว ราคาที่เห็นใน agoda รวมค่าธรรมเนียมแล้ว ก็ประมาณ 2,800 บาท ด้วยความที่ระบบมันแจ้งว่าห้องพักแบบที่เราต้องการยังเหลืออีก 4 ห้อง ก็เลยชิลๆ ไม่จองผ่านระบบ agoda ลอง walk in เข้าไปชมก่อนตัดสินใจดีกว่า

พอไปถึง บรรยากาศก็จะลมเย็นโชยๆ มีฝนตกเป็นพักๆ ก็จะอารมณ์ชื้นๆ ป่าชายเลน เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ในร้านอาหารครัวระเบียงน้ำได้เลย ถามหาห้องพักแบบเรือ ปรากฎว่าจากที่เราเข้าใจว่าเหลือในระบบ agoda 4 ห้อง ตอนไปถึง เจ้าหน้าที่บอกเหลืออยู่แค่หลังเดียว ที่เหลือโดนจอง หรือวางมัดจำมาก่อนแล้ว เลยจะเตือนนักเที่ยวทุกท่านนิดว่า บางทีรีสอร์ทเล็กๆ ที่ใช้บริการผ่านระบบ agoda ก็มีหลงๆ ลืมๆ เปิดขายห้องในระบบไปทั้งๆ ที่เต็มแล้ว ต้องระวังนะจ๊ะ แถมราคาบางทีเราต่อรองได้ถูกกว่าราคาที่โชว์ในเวบอีก ต้องโทรไปเช็คล่วงหน้าจะชัวร์สุด ก็ถือว่ายังมีโชคดีบ้างที่เขายังเหลือ บ้านพักแบบเรือให้เรา 1 ห้อง บรรยากาศก็สวย สงบ เหมาะพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวาย เสียงดังเดียวที่จะได้ยินเป็นพักๆ คือเสียงเรือยนต์ของชาวประมงที่วิ่งผ่านไปมา แต่มันก็น่าอภิรมย์กว่าเสียงการจราจร เสียงรถเยอะ เชื่อเหอะ!

บรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทค่อนข้างสงบ อีกฝั่งเป็นวิวป่าชายเลน ตอนเราไปถึงน้ำยังลดอยู่ เจ้าหน้าที่รีสอร์ทบอกว่าน้ำจะเริ่มขึ้นประมาณ 15:00 น. เป็นต้นไป ตอนกลางคืนก็น้ำขึ้นเกือบเต็มกาบเรือเลย ได้บรรยากาศเหมือนออกทะเลดี

การตกแต่งห้องพักของที่นี่ก็จะแตกต่างกันไปเล็กน้อย แต่ก็เป็นห้องกระจก ทำให้เห็นบรรยากาศโดยรอบอย่างชัดเจน แต่ไม่ต้องห่วง เขามีม่านปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวจ้า ชานนั่งเล่นหน้าเรือก็สามารถสั่งอาหารมารับประทานพร้อมชมบรรยากาศริมน้ำไปได้ด้วย ห้องน้ำก็ตกแต่งได้ดี น่าใช้ โดยรวมที่นี่เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อน ดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำบางปะกง เทียบระยะทางการเดินทางจาก กทม และค่าที่พักแล้ว เรียกว่าคุ้มค่า ใครที่เป็นภูมิแพ้กรุงเทพ แค่มาสูดอากาศตรงนี้ก็หายจาม หายฝึดฟัดทันที


การชำระเงินค่าห้อง เราใช้วิธีการโอนผ่านบัญชีแม่มณี ของไทยพาณิชย์ ซึ่งราคาที่พักที่ 2,000 บาท ได้ห้องเรือเบอร์ 16 ซึ่งเป็นลำแรกที่อยู่ใกล้ร้านอาหารมากที่สุด ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้ว แต่อาหารเช้าจะค่อนข้างไม่หนักท้อง เพราะมีให้เลือกแค่ ข้าวต้ม หมู ไก่ กุ้ง ขนมปังปิ้ง กาแฟ โอวันติน ใครไม่ได้สายกินก็พออยู่ท้อง แต่ถ้าคาดหวังว่าจะได้ทานแบบอเมริกัน เบรคฟัส ไส้กรอก ไข่ดาว หมูแฮม ไม่มีนะคะ แต่ถ้าใครอยากจะสั่งอาหารจากเมนูที่ร้านก็ย่อมได้ จ่ายตามราคาหน้าเมนูจ้า พื้นที่รับประทานอาหารเช้าก็ริมระเบียงน้ำสมชื่อ บรรยากาศดีงาม มีแสดงแดดรำไร รับลมโชยจากแม่น้ำเต็มๆ เป็นอะไรที่สบาย ชิลๆ

ช่วงที่เราเข้ามาพัก ก็จะมีฝนตกในตอนกลางคืนเป็นระยะๆ โชคดีที่เช้ามาฝนหายตกแล้ว ก็มานั่งรับประทานอาหาร out door ได้ ตามสะดวก

เสร็จจากรับประทานอาหารเช้า เราก็ขอเข้าไปพักผ่อนต่อในห้อง เรียกว่าขอกินกับนอนให้เปรมปรีย์ก่อนเช็คเอ๊าท์ตอนเที่ยง สังเกตว่าน้ำลดเรียบร้อย เมื่อชะโงกหน้าไปดูตามพื้นดินป่าชายเลน จะพบเห็นสิ่งมีชีวิตหลายต่อหลายอย่างเดินมาทักทายเรา ไม่ว่าจะเป็นตัวเงินตัวทอง ซึ่งมีค่อนข้างเยอะมาก ตัวโตด้วย มีปูก้ามดาบ ปูเล็กปูน้อยสีสดใส เดินไปมาบนดินป่าชายเลน ดูแล้วก็เพลินตาดี และไม่ได้หาดูกันง่ายๆนะจ๊ะ

ว่าแล้ว เราก็เช็คเอ๊าท์ ออกจากที่พักเวลาเที่ยงพอดี อย่าลืมเอากุญแจไปคืนเจ้าหน้าที่เค้านะ ไม่งั้นจะสูญเงิน 300 ค่ามัดจำกุญแจห้อง ถึงเวลาก็ออกไปหามื้อเที่ยงเด็ดๆ รับประทาน ขอแนะนำว่า ให้ลอง search หาร้านอาหารทะเลใกล้ๆ จะเจอร้าน "อู๊ดโภชนา" ซึ่งเป็นร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากแยกอนุสาวรีย์ปลาโลมาเทศบาลท่าข้าม ลองมาทานแล้ว อร่อยไม่หยอก ราคาค่าไม่ได้แพงมากมายอะไร ว่างๆ ก็แวะไปกันนะจ๊ะ



ความคิดเห็น