#ขี่ช้างชมธรรมชาติ

#พักผ่อนในบรรยากาศป่าเขา

ฤดูฝนนี้ ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ตามพวกเรามา...เดี๋ยวจะพาไปพักผ่อนกันที่เขาใหญ่ บอกเลยว่าได้ชาร์ตแบตหายเหนื่อยแน่นอน มาครั้งนี้พวกเราเลือกพักที่ The Jungle House เขาใหญ่ เป็นรีสอร์ทที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ เดินทางไม่ยากเลย แถมยังใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย

เมื่อได้ก้าวขาเข้ามาสัมผัสภายในรีสอร์ท ต้องบอกเลย..โครตธรรมชาติ เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกเลย ที่นี่สงบมาก มีต้นไม้ป่าเขาลำธารล้อมรอบ เรียกได้ว่า ใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ เฮ้ย..มันดีมากจริงๆ ไม่เชื่อลองมาสัมผัส

บ้านพักที่พวกเราเลือกพักกันคือ #บ้านริมธาร2 เป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังของรีสอร์ท ติดกับลำธาร เรียกได้ว่านอนกลางธรรมชาติจริงๆ เพียงแค่ 1 คืน ก็ทำให้เราหายเหนื่อยกายและใจแล้ว

10 เหตุผล ที่เลือกเข้าพัก The Jungle House Khaoyai

เหตุผลที่ 1 >> บ้านพักของเราอยู่ติดกับลำธารน้ำธรรมชาติ เพียงแค่เปิดประตูหลังบ้านออกมา ก็จะเจอกับลำธารน้ำแล้ว


บ้านริมธารที่เราพัก อยู่ติดกับชายเขาเลย
ด้านหลังของบ้านจะมีลำธารเล็กๆ และเป็นเส้นทางที่น้องช้างพาเราเดินผ่านอีกด้วยนะ


บ้านริมธาร คือบ้านที่เราเลือกพักในทริปเขาใหญ่ของเราครั้งนี้


ด้านหลังของบ้านจะติดกับลำธาร และเป็นเส้นทางที่น้องช้างผ่านเวลาพาเราเดินชมป่า


ด้านบนชั้น 2 ของบ้าน จะนอนได้ 4 ท่าน


ตื่นเช้ามา วิวนอกตัวบ้านก็จะประมาณนี้เลย


ด้านล่างของบ้าน จะนอนได้ 2 ท่าน


ภายในบริเวณบ้าน

ภายในบริเวณบ้าน


บ้านริมธาร 2


อาหารเช้าของทางรีสอร์ท
จะมีบริการ 2 แบบ คือแบบอาหารไทย (ข้าวต้มหมู) และแบบ Breakfast นอกจากนั้นยังมีขนมปังปิ้ง และน้ำส้มบริการอีกด้วย


บริเวณที่เราทานข้าวกันในตอนเช้า

เหตุผลที่ 2 >> ภายในที่พักมีกิจกรรมขี่ช้างภายในรีสอร์ทด้วย ระยะทางประมาณ 800 เมตร แต่!! อย่าคิดว่า เฮ้ย ทางแค่นี้ สั้นนิดเดียวเอง จะทันสัมผัสกับบรรยากาศดีๆ ได้หรอ ฮ่าๆ เปลี่ยนความคิดนั้นไปเลย เพราะคุณจะได้เข้าป่า ลุยลำธาร ชมธรรมชาติเต็มอิ่มกับตลอดระยะเวลาประมาณ 25 นาทีที่อยู่บนหลังช้าง คุณจะเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติของ 2 ข้างทางที่ช้างเดินผ่าน และเมื่อใกล้หมดเวลาคุณจะไม่อยากลงจากหลังช้างเลย... สำหรับคนที่ไม่ได้พักก็ไม่ต้องเสียใจไปเราก็สามารถเข้ามาทำกิจกรรมขี่ช้างได้เหมือนกัน



เดินเข้าป่าไหม ลองดูจากรูปสิ ฮ่าๆ

เส้นทางที่ช้างพาเราเดินทัวร์จะมีผ่านลำธารด้วย


ลำธารน้ำที่เราเดินนั่งช้างผ่านมา

ลุยๆ ลุยเข้าไป.... พวกเรามาแล้ว เย้!!!


นั่งบนหลังช้างเบื่อแล้ว อยากจะลองมานั่งบนคอช้างเอง และขี่ช้างเองก็ทำได้นะ พี่ควาญช้างเขาใจดี สอนวิธีนั่งให้เราด้วย


ขี่ช้างเองครั้งแรก บอกเลย ทั้งตื่นเต้น เกร็ง และกลัวไปในเวลาเดียวกัน พี่ควาญช้างจะอยู่ด้านหน้าคอยสั่งการให้น้องช้างเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง... และพี่เขาก็คอยถ่ายรูปให้พวกเราอีกด้วยนะ ใครอยากได้รูปสวยๆ ก็ยื่นกล้องให้พี่เขาเลย ถ่ายแบบไม่จำกัด กดชัตเตอร์รัวๆ
เราแอบคิดในใจ หากไม่มีพี่ควาญช้างคอยสั่งการควบคุมน้องช้างให้เรา น้องเชอร์รี่ (ช้าง) คงจะพาเราเข้าป่าใช่ไหมเนี่ย ฮ่าฮ่า

เหตุผลที่ 3 >> ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติภายในรีสอร์ทสุดๆ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในป่า... คุณพระ แทบไม่อยากเชื่อว่าริสอร์ทจะอยู่ติดกับถนนใหญ่อย่างถนนธนรัตน์ เหมือนแค่เดินเข้ามาในรีสอร์ทก็หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว...



นอกจากน้องช้างแล้วที่รีสอร์ทยังมีฟาร์มบ้านกระต่ายเล็กๆ อีกด้วย


นั่นไงน้องกระต่ายขนปุกปุยเพียบเลย




เหตุผลที่ 4 >> มีสะพานไม้ให้ชมธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 400 เมตร ต้องบอกเลยว่าสายรักธรรมชาติป่าเขา หรือสายเซลฟี้ต้องชอบแน่ๆ ฮ่าๆ เพราะเราจะได้เดินชมธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอด ฟินฟิน




สะพานไม้ทอดยาวไปจนถึงตรงโซนต้อนรับของทางรีสอร์ท

เหตุผลที่ 5 >> มีห้องอาหารไว้บริการ ใครที่ไม่ได้มาพักก็สามารถแวะเข้ามารับประทานได้เช่นกัน
เมนูเด็ดที่แนะนำ คือปลานิลราดพริก ผัดผักลุยป่า และต้มยำไก่ รสชาติแบบต้นตำรับความเป็นไทย สำหรับแขกที่มาพักสามารถสั่งจากห้องอาหารไปรับประทานที่หน้าห้องพักของตนเองก็ได้เช่นกันนะ

อาหารเย็นของเรา
เมนูเด็ดที่แนะนำ คือปลานิลราดพริก ผัดผักลุยป่า และต้มยำไก่ รสชาติแบบต้นตำรับความเป็นไทย
**สำหรับแขกที่มาพักสามารถสั่งจากห้องอาหารไปรับประทานที่หน้าห้องพักของตนเองก็ได

เมนูเด็ดที่แนะนำ คือปลานิลราดพริก ผัดผักลุยป่า และต้มยำไก่ รสชาติแบบต้นตำรับความเป็นไทย

**สำหรับแขกที่มาพักสามารถสั่งจากห้องอาหารไปรับประทานที่หน้าห้องพักของตนเองก็ได้เลย

สำหรับชุดบาบีคิว (ปิ้งย่าง)

เราสามารถโทรมาสั่งล่วงหน้ากับรีสอร์ทได้เลย โดยแจ้งความประสงค์ว่าจะเอาแค่เตาปิ้งย่าง และเตรียมของมาเองหรือจะสั่งชุดปิ้งย่างจากทางรีสอร์ทก็ได้นะ

เหตุผลที่ 6 >> มีร้านกาแฟไว้บริการ เรียกได้ว่าจิบกาแฟไป ก็ได้ทั้งชมช้าง และชมธรรมชาติไปในตัว ดีไปอีก...


ร้านกาแฟของทางรีสอร์ท

โปสการ์ดสวยๆ ของทางรีสอร์ท

เหตุผลที่ 7 >> รีสอร์ทอยู่ใกล้กับสถานที่เที่ยว ร้านอาหาร และคาเฟ่ ยอดนิยม เช่น สวนน้ำ Scenical World, Palio เขาใหญ่, ร้านครัวเขาใหญ่, ร้านอาหารเป็นลาว , Khaoyai Art Museum , บ่อน้ำผุดเขาใหญ่หรือน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง และ
The Birder's Lodge

เหตุผลที่ 8 >> มีบ้านพักให้เลือกหลายแบบ ทั้งบ้านต้นไม้ บ้านดิน บ้านริมธาร และอื่นๆอีกมากมาย เหมาะแก่การมาพักผ่อนทั้งกับครอบครัว คู่รัก หรือมากับชาวแก๊งค์






เหตุผลที่ 9 >> สามารถมาพักได้ทุกช่วงฤดูกาล เพราะในรีอสร์ทมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งมาพักช่วงฤดูฝนก็จะได้สัมผัสความเขียวขจีของธรรมชาติไปสุดๆเลย





เหตุผลที่ 10>> ที่พักสะอาดสะอ้าน พนักงานน่ารัก และบริการดี ราคาที่พักก็สมเหตุสมผล คุ้มค่าคุ้มราคา...


เป็นทริป 2 วัน 1 คืน ที่มีความสุขสุดๆ การได้มาพักผ่อนกับธรรมชาติมันดีแบบนี้นี่เอง

พวกเราขอจบการรีวิวสำหรับทริปเขาใหญ่เพียงเท่านี้ ายบาย... ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้า

📌 ข้อมูล The Jungle House Khaoyai
- ที่ตั้ง : 215 ถ.ธนะรัชต์ กม.19.5 หมูสี ปากช่อง นครราชสีมา
- เบอร์โทร : 044-297-307 มือถือ 089-845-4215
- Line ID : 044297183
- Facebook : Jungle House Khaoyai
- Instagram : thejunglehouse
- Website : http://www.junglehousehotel.com


📌 #วิธีการเดินทาง
1.เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ปักหมุดตามแผนที่มายัง The Jungle House Khaoyai ขับมาตามถนนธนะรัชต์เลย Palio มาเพียง 2.5 กิโลเมตรจะสังเกตเห็นป้ายของรีสอร์ททางซ้ายมือเด่นชัด

2.เดินทางด้วยรถไฟมาลงยังสถานีปากช่อง รถโดยสารธารณะ หรือรถตู้มาลงตรงแยกปากช่อง จากนั้นให้มาต่อรถสองแถว โดยท่ารถจะอยู่บริเวณใกล้กับตลาดไนท์ ปากช่อง ด้านหน้าของ Top Supermarket ปากช่อง รถสองแถวจะผ่านบริเวณด้านหน้ารีสอร์ทเลย

📍พิกัดจุดจอดรถสองแถว https://goo.gl/maps/LBdfTw2QzNM2
ข้อควรรู้ รถสองแถวรอบแรก 06.00 น. รอบสุดท้ายจากปากช่องไปเขาใหญ่ 17.00 น. และรอบสุดท้ายจากเขาใหญ่ไปปากช่องประมาณ 15.00 น.


หากคิดถึงเราก็ไปติดตามเรื่องราวของเที่ยวให้ยับได้ที่ช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมตามด้านล่างนี้เลยน๊า...

FB page : https://www.facebook.com/TeawHaiYab/
website : https://th.readme.me/id/TeawHaiYab
IG : https://www.instagram.com/teawhaiyab/
Twitter : https://twitter.com/teawhaiyab



ความคิดเห็น